จะพยายามเปิดใจ

1374 คำ
ภาคินมายังร้านอาหารที่พลอยลลินณ์จองไว้ให้ เขามองหาผู้หญิงตามที่เห็นในรูปก่อนจะยิ้มเมื่อพบว่าเธอมานั่งรออยู่ก่อนแล้ว “สวัสดีครับคุณแก้วใช่ไหมครับ ผมภาคินครับ” เขาทักทายพร้อมทั้งส่งดอกไม้ที่เตรียมมาให้กับหญิงสาว “สวัสดีค่ะคุณภาคิน ขอบคุณนะคะ” หญิงสาวลุกขึ้นและยกมือไหว้ทักทายอย่างสวยงามก่อนจะรับดอกไม้มาถือไว้ “นั่งเถอะครับ คุณแก้วมาถึงนานหรือครับ” “แก้วมาถึงก่อนหน้านี้ 10 นาทีเองค่ะ” “หิวไหมครับ ผมขอโทษที่มาช้าพอมีดีงานเร่งนิดหน่อยครับ” “ยังไม่หิวเลยค่ะ ท่าทางงานคุณภาคินคงจะยุ่งนะคะ” “ก็ยุ่งนิดหน่อยครับมีโปรเจกต์ใหญ่ที่ต้องดูแลอยู่หลายโปรเจกต์” “คุณป้าบอกว่าช่วงนี้คุณภาคินทำงานหนักมาก” “มันก็แล้วแต่ช่วงครับ ถ้าโครงการเริ่มเปิดก็จะเหนื่อยหน่อยแต่สักพักก็จะเข้าที่” ภาคินหยุดคุยเมื่อเห็นว่าพนักงานกำลังเดินมารับออเดอร์ “คุณแก้วอยากทานอะไรเป็นพิเศษไหมครับ” “ไม่ค่ะแก้วทานอะไรก็ได้” “ที่นี่มีอาหารอะไรขึ้นชื่อบ้างครับ” เขาหันไปถามพนักงานเพราะปกติเวลามาทานกับพลอยลลินณ์หญิงสาวจะเป็นคนจัดการทุกอย่างให้โดยเขาไม่ต้องสั่ง “ที่ลูกค้านิยมสั่งกันก็มีแกงเผ็ดเป็ดย่าง ยำถั่วพู ต้มยำกุ้งแม่น้ำค่ะ ถ้าเป็นอาหารที่ไม่เผ็ดก็จะเป็นไข่เจียวปู ต้มจืดปลาหมึกยัดไส้แล้วก็กะหล่ำปลีทอดน้ำปลาค่ะ” “คุณแก้วทานเผ็ดได้ไหมครับ" “ได้ค่ะ แต่ขอแบบไม่เผ็ดมากนะคะ” “ผมเอาทุกอย่างที่พูดมาเลยครับ แต่ขอแบบเผ็ดไม่มาก” ภาคินบอกกับพนักงาน “ได้ค่ะ คุณลูกค้ารออาหารประมาณ 15 นาทีนะคะ” “ได้ครับ” ระหว่างนั่งรออาหารภาคินก็ชวนอัจจิมาคุยเพราะอยากจะทำความรู้จักกับผู้หญิงคนนี้ให้มากขึ้น “คุณแก้วกลับมาเมืองไทยนานหรือยังครับ” “กลับมาได้เดือนหนึ่งแล้วค่ะ ตอนนี้กำลังจะเริ่มหางานทำค่ะ" “ผมทราบมาว่าที่บ้านก็มีธุรกิจนี่ครับ ทำไมไม่ทำกับที่บ้าน” “ใช่ค่ะที่บ้านแก้วมีธุรกิจ พี่ๆ ของแก้วก็เข้าไปทำที่นั่นกันทุกคน แต่แก้วอยากลองหาประสบการณ์จากที่อื่นบ้าง ไม่ทราบว่าที่บริษัทของคุณพอจะมีงานให้แก้วทำบ้างไหม” “ผมไม่แน่ใจเหมือนกันนะครับเดี๋ยวจะถามฝ่ายบุคคลให้” “คุณเป็นถึงผู้บริหารและรับผิดชอบโปรเจกต์ใหญ่ๆ จะรับคนเข้าทำงานยังต้องถามฝ่ายบุคคลอีกเหรอคะ” “เพราะผมเป็นผู้บริหารไงครับ จะทำอะไรก็ต้องโปร่งใสเดี๋ยวคนอื่นรู้จะว่าเอาได้” “แก้วชอบความคิดของคุณจังค่ะ แล้วแบบนี้แก้วจะได้ไปทำงานกับคุณไหม คุณป้าบอกว่าคุณยังขาดผู้ช่วย แก้วอยากไปเป็นผู้ช่วยของคุณค่ะ” อัจจิมาคุยเรื่องนี้กับมารดาของชายหนุ่มแล้ว ท่านอยากให้เธอมาทำงานเป็นผู้ช่วยของลูกชาย “ผมมีผู้ช่วยอยู่แล้วนะครับ” “คุณป้าบอกแล้วล่ะค่ะ ว่าคุณภาคินมีเลขาอยู่แล้ว แต่แก้วไม่ได้จะไปทำหน้าที่เลขานี่คะ แก้วจะไปทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยของคุณคอยแบ่งเบาภาระของคุณ" “ผมจะลองคิดดูนะครับ” ภาคินไม่เคยคิดถึงตำแหน่งนี้เพราะพลอยลลินณ์ก็ทำหน้าที่ตามที่อัจจิมาพูดได้ดีจนเขานึกไม่ออกว่าจะต้องให้เธอมาทำงานด้วยทำไม “แก้วหวังว่าจะได้ยินคำตอบเร็วๆ นี้นะคะ” เธอยิ้มให้เขาอย่างมีความหวัง อัจจิมาไม่ได้อยากทำงานเท่าไหร่ แต่เธอก็ขัดคำสั่งของมารดาไม่ได้ตอนนี้ธุรกิจส่งออกของที่บ้านกำลังมีปัญหาและที่บ้านของเธอก็อยากได้เม็ดเงินจากครอบครัวของภาคินเพื่อช่วยพยุงให้ธุรกิจได้ไปต่อ แต่ส่วนตัวเธอนั้นไม่ได้คิดอะไรกับชายหนุ่มเพราะตนเองมีคนรักอยู่แล้ว แต่ครอบครัวก็บอกให้ปิดเรื่องนี้เป็นความลับไปก่อน “อาหารมาแล้วผมว่าเรารีบทานกันดีกว่านะครับ” ภาคินนั่งทานอาหารและคุยเรื่องทั่วไปกับอัจจิมา แต่เขารู้สึกว่าเธอคนนี้จะจู่โจมเขามากจนเกินไป เขาเป็นนักล่าจึงไม่ค่อยชอบผู้หญิงลักษณะนี้เท่าไหร่แต่ก็ไม่อยากด่วนตัดสินใจจนเกินไปชายหนุ่มอยากให้โอกาสเธออีกสักนิด เขานั่งทานอาหารกับอัจจิมาเสร็จแล้วก็พาเธอไปส่งที่บ้าน จากนั้นก็ขับรถกลับไปยังบ้านของตัวเอง ภาคินรู้ว่าถ้าหากคืนนี้ไม่กลับบ้านมารดาก็จะต้องโทรตามอย่างแน่นอน “แม่นึกว่าเราจะกลับดึกเสียอีก พาหนูแก้วไปกินข้าวแล้วไม่ได้พาไปไหนต่อเลยเหรอ” “แม่หมายถึงไปต่อที่ไหน” “ก็พาไปฟังเพลงหรือดูหนังอะไรทำนองนั้น คินว่าหนูแก้วเป็นยังไงบ้าง” “ก็ดีครับแม่” “อธิบายความหมายของคำว่าดีให้แม่ฟังหน่อยสิลูก หนูแก้วน่ารักไหมนิสัยเป็นยังไงบ้าง เข้ากับลูกของแม่ได้ดีใช่ไหม” “เราเพิ่งเจอกันไม่ถึงสองชั่วโมงนะครับแม่ ผมมองไม่ออกหรอกครับ” “แต่แม่ว่าเธอเหมาะสมกับลูกดีนะ หน้าตาสวย เรียนจบถึงปริญญาโท ครอบครัวเขาก็เป็นผู้ดีและทำธุรกิจมานาน” “ดูท่าแม่จะชอบเธอมากนะครับ” “ผู้หญิงที่มีคุณสมบัติดีๆ แบบนี้หายากนะ ถ้าคินมัวช้าแม่กลัวว่าคนอื่นจะมาคว้าเอาไปเสียก่อน” “เราเพิ่งเริ่มคุยกันผมยังไม่มองไกลขนาดนั้นหรอกครับแม่ ผมยังไม่รู้เลยว่านิสัยจะเข้ากันได้หรือเปล่า” “ถ้าคินยังไม่รู้นิสัยหนูแก้วว่าจะเข้ากับคินได้ไหม คินก็นัดน้องมาทานข้าวด้วยบ่อยๆ สิ ส่วนเรื่องนางแบบอะไรนั่นแม่ว่าเลิกได้ก็เลิกนะ เธอกับลูกไม่เหมาะสมกันหรอก” “ทำไมล่ะครับแม่ผมว่านก็สวยดีออก” “เธอมีรูปสมบัติที่ดีแต่คุณสมบัติที่จะมาเป็นสะใภ้แม่มันไม่มีเลย” เพราะไม่ชอบวาริสาเป็นทุนเดิมอยู่แล้วพอได้โอกาสคุณสายชลเลยยุให้ลูกชายเลิกกับเธอ “สะใภ้แม่ต้องเป็นยังไงเหรอครับ” ภาคินไม่เคยถามมารดาอย่างจริงจังแบบนี้มาก่อน แต่ในเมื่อมารดาเปิดประเด็นมาแบบนี้เขาก็อยากจะรู้ขึ้นมาบ้าง “สะใภ้แม่ก็ต้องเป็นคนน่ารัก เรียนจบสูงๆ ครอบครัวมีพื้นฐานที่ดี อยู่ในสังคมระดับเดียวกับเรา น่ารักอ่อนหวานไม่เปรี้ยวจี๊ดจ๊าดเหมือนแม่นางแบบนั่น” “ผู้หญิงแบบที่แม่พูดหายากนะครับ” “หายากที่ไหนล่ะก็หนูแก้วนั่นไง เธอตรงใจแม่ทุกอย่าง” “แม่จะไม่รอให้ผมศึกษานิสัยใจคอกับเธอหน่อยเหรอครับบางทีเราอาจจะเข้ากันไม่ได้” “แม่ก็ไม่ได้จะบังคับให้คินแต่งงานกับหนูแก้วตอนนี้สักหน่อย ก็แค่อยากให้ลองเปิดใจและคบหากันดู น้องน่ารักขนาดนั้นแม่เชื่อว่าไม่นานคินจะต้องรักน้องได้ง่ายๆ” “ผมจะลองดูครับ” “หยุดยาวตั้งสี่วันไม่ว่าคินพาหนูแก้วไปเที่ยวดีกว่าไหม จะได้เรียนรู้กันได้เร็วขึ้น” “ผมไม่ว่างครับแม่ เรื่องไปเที่ยวเอาไว้คราวหน้านะครับ” “อย่าให้หนูแก้วต้องรอนานนะลูก ผู้หญิงสวยๆ การศึกษาดีชาติตระกูลดีแบบนั้นเดี๋ยวคนอื่นจะคว้าไปเสียก่อน” เธอย้ำกับลูกชายอีกครั้ง “ครับแม่” ชายหนุ่มรับคำ ก่อนจะเดินขึ้นไปยังห้องนอนของตัวเอง เขาไม่รู้ว่าตนเองจะเรียนรู้อัจจิมาได้นานแค่ไหน เพราะเท่าที่ได้คุยมาสองชั่วโมงเขาก็ยังไม่รู้สึกอะไรกับเลยสักนิด
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม