"ไอ้เฮงซวย..." ฉันทิ้งกล่องของที่หอบมาจากที่ทำงานเก่าพะรุงพะรังโยนทิ้งโคร่มบนพื้นไม่ไยดี ก่อนที่จะล้มตัวนอนบนเตียงกว้างด้วยความหมดอาลัยตายอยาก วันนี้ช่างเป็นวันที่เฮงซวยที่สุดในชีวิตตั้งแต่เกิดมา นอกจากจะโดนนอกใจจากแฟนที่คบกันมาถึงหนึ่งปีจนน่าสมเพชแล้ว ยังโดนแฟนใหม่ของมันที่เป็นถึงหัวหน้างานของฉันไล่ตะเพิดออกมาอย่างกับหมูกับหมา
เหอะ...ทิ้งฉันแล้วไปเอาหัวหน้าที่มีตำแหน่งสูงกว่า ทั้งที่เธอก็รู้อยู่แล้วว่าเราสองคนกำลังคบกัน เลวทั้งหญิงและชาย สมควรแล้วที่จะได้สมสู่กัน ถึงจะไม่ไล่ออก ฉันก็ตั้งใจจะออกจากบริษัทที่มีหัวงานไร้ศีลธรรมอยู่แล้ว ไม่อยากจะอยู่นักกับบริษัทที่เต็มไปด้วยเส้นสายที่พันกันมั่วซั่ว เลียแข้งเลียขาดีก็ได้ตำแหน่งมาง่าย ๆ ในขณะที่ฉันทำงานหนักแทบตาย สองปีที่อยู่มาไม่แม้แต่จะเลื่อนตำแหน่งให้ฉันสักขั้น เพิ่มเงินเดือนสักนิดก็ไม่มี
ครืดดดดดด...
ฉันชันตัวมองเสียงเรียกเข้าจากโทรศัพท์ที่ดังขึ้นมา ก่อนจะเห็นเป็นเพื่อนรักอย่างยัยทอฝันที่โทรเข้าจึงกดรับสายทันที
(เป็นเรื่องจริงเหรอแก ฉันได้ยินว่าไอ้ภามมันคบกับพี่นิล แล้วพี่นิลก็ไล่แกออก)
"อือ" ฉันเค้นเสียงตอบได้แค่นั้น ป่านนี้ที่บริษัทก็คงจะนินทาฉันไปทั่ว หากไม่โดนไล่ตะเพิดออกมาก่อนฉันคงจะได้ประจานพวกมันแทนที่จะถูกโดนกุเรื่องมาใส่ร้ายกันแบบนี้
"ยัยแตมแย่งแฟนหัวหน้าจนโดนเขาไล่ออก" พาดหัวข่าวที่ฉันโดนมาวันนี้ พูดออกมาได้หน้าด้าน ๆ เป็นมันต่างหากที่แย่งไป มันแอบเอากันลับหลังฉันเป็นเดือน ๆ นี่มันผีเน่ากับโรงผุชัดๆ
(เลวมาก หญิงก็เลวชายก็ชั่ว เหมาะกันมาก) ทอฝันก่นด่าดังจนทะลุออกมานอกโทรศัพท์ เพื่อนรักของฉันก็ทำงานบริษัทนั้นรวมไปถึงไอ้ภามที่เป็นแฟนเก่าแสนจะหวยแตก เราเจอกันที่ทำงานโดยที่มันเป็นฝ่ายจีบฉันก่อนกระทั่งตกลงคบกันจริงจังในเวลาสามเดือนต่อมา ไม่รู้ว่าทนคบมาได้ยังไงถึงหนึ่งปีทั้งที่มันแสดงออกมาตลอดว่าต้องการแค่ร่างกายของฉัน แต่ฉันก็ปฏิเสธมันมาตลอดด้วยเหตุผลว่ายังไม่พร้อม สุดท้ายมันก็คงจะไปหาที่ระบายหาทางเอาน้ำกามของมันออก นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มันแอบนอกกายนอกใจ แต่มันเป็นครั้งแรกที่ฉันจับได้ จับได้คาห้องหัวหน้าอย่างอีพี่นิลจนฉันโวยวายและโดนไล่ออกมาแบบนี้
(แกไม่ต้องเสียใจให้ผู้ชายแบบนั้นเลยนะ คนเห็นแก่ตัวรักแต่ตัวเอง หวังไต่เต้าด้วยวิธีสกปรก)
"..." ฉันนั่งฟังทอฝันก็พลอยน้ำตาไหลรินจากหางตาหักห้ามไว้ไม่อยู่ ฉันไม่ได้เสียใจเลยที่ตัวเองได้สลัดตัวเห็บหมัดไม่มีอะไรดีออกจากชีวิตได้สำเร็จ แต่ฉันเจ็บใจที่มันทำให้ทุกอย่างในชีวิตของฉันพังทลายลงทั้งที่สร้างมากับมือ ทั้งหน้าที่การงานที่ฉันอดทนถึงสองปีเพื่อเลื่อนตำแหน่งความไว้ใจและเวลาแห่งความสุขที่หายไปตลอดหนึ่งปีผ่านมา
มันพังทลายหมดแล้ว…
(แตมแกฟังอยู่ไหม แตม...เฌอแตม) ฉันชะงัก…หลุดจากความคิดแล้วปาดน้ำตาออกลวก ๆ
"อือ ฟังอยู่" ก่อนที่จะตอบเพื่อนที่ขานเรียกอยู่นานสองนาน
(หลังเลิกงานฉันไปหา อย่าคิดฟุ้งซ่านเข้าใจไหม)
"แกไม่ต้องมาหรอก"
(แล้วแกจะอยู่คนเดียวได้ยังไง)
"ใครบอกว่าฉันจะอยู่คนเดียว ถึงเวลาที่ฉันจะทำตามใจตัวเองบ้างแล้ว"
(ก่อนจะทำอะไรแกต้องคิดเยอะ ๆ นะแตม)
"ไม่ต้องห่วง ฉันไม่ฆ่าตัวตายหรอก แกสบายใจได้" ว่าจบฉันก็กดวางสายจากยัยทอฝันโดยไม่ได้ฟังอะไรอีกเลย อย่างไรเสียวันนี้ก็ไม่ต้องทำงานแล้ว จึงใช้เวลาว่างโดยการนอนชาร์จพลังให้เต็มที่ เพราะคืนนี้ฉันจะออกไปทำตามใจโดยการทำอะไรใหม่ ๆ ทำในสิ่งที่ไม่เคยทำ ในเมื่อเป็นคนดีแล้วมันไม่ได้ผลดีตอบแทนสักอย่าง ฉันก็คงต้องเปลี่ยนตัวเองไปอีกแบบเผื่อว่าจะมีอะไรดี ๆ เกิดขึ้นกับชีวิตบ้างเหมือนกัน
THE BEST BAR
"ขอเหล้าแรง ๆ หน่อยค่ะ" ฉันสั่งบาร์เทนเดอร์แล้วหย่อนตัวนั่งที่เคาน์เตอร์บาร์ในร้านเหล้าแห่งหนึ่งใจกลางเมือง ร้านที่ขึ้นชื่อว่ามีแต่ผู้ชายงานดีเป็นอันดับต้น ๆ คัดแต่ตัวท็อปเดินกันว่อน ที่นี่จึงเป็นเป้าหมายหลักที่ทำให้ฉันปักหมุดแล้วตรงดิ่งเพื่อมาดื่มย้อมใจ
"มาครั้งแรกเหรอครับ" บาร์เทนเดอร์วางเครื่องดื่มแล้วยกยิ้มหวานให้ฉัน แค่บาร์เทนเดอร์ก็กินขาดแล้ว…หล่อกว่าไอ้แฟนเก่าเฮงซวยนั้นเป็นกอง
"รู้ได้ยังไงเหรอคะ?" ฉันคลึงเครื่องดื่มวนเบา ๆ แล้วยิ้มโปรยเสน่ห์ให้เขา เห็นยัยทอฝันทำจึงจำมาทำบ้าง และดูเหมือนว่าผลคงออกมาดีเพราะบาร์เทนเดอร์หนุ่มจ้องมองฉันไม่กระพริบตา
"ผมไม่คุ้นหน้า แถมคุณยังไม่มีเครื่องดื่มประจำ"
"แล้วคุณคิดว่าแบบฉันควรดื่มอะไรล่ะคะ?" ฉันฉีกยิ้มหวานให้เขาอีกครั้ง มีเพื่อนคุยหน้าตาดีแบบนี้ค่อยคลายเหงาคนอกหักขึ้นมาหน่อย
"White lady ดีไหมครับ รสชาติออกเปรี้ยวและฝาดเบา ๆ จากเลมอน ผสมกับเหล้าจินและครองโทร์ รสชาติแรงแบบที่คุณต้องการ สำหรับคนสวยที่มีเรื่องทุกข์ใจผมว่าคุณน่าจะชอบ" เรื่องทุกข์ใจเหรอ…
"หน้าฉันมองออกง่ายขนาดนั้นเลยเหรอคะ?"
"เปล่าหรอกครับ ผมแค่เจอคนแบบคุณมาเยอะ เลยลองเดาใจดู"
"งั้นคุณก็คงเดาถูกแล้วล่ะค่ะ" ฉันควงแก้วเหล้า white lady ไปมาเพิ่มเสน่ห์ไปในตัว เขาว่ากันว่ามันทำให้ดูน่าดึงดูดกับเพศตรงข้ามขึ้นซึ่งฉันก็เห็นด้วย เพราะในตอนที่นั่งก็มีผู้ชายชายตามองไม่ขาด แต่ก็ไม่ได้แสดงทีท่าอะไรออกมา อยากเป็นผู้หญิงสวย แพง นั่งอยู่เฉย ๆ แล้วมีผู้ชายเข้ามาทักเอง
คิดแล้วก็ตื่นเต้น เป็นครั้งแรกที่ฉันได้ทำอะไรแบบนี้…
ระหว่างนั้นบาร์เทนเดอร์ก็หันไปทำเครื่องดื่มให้ลูกค้าคนอื่น ๆ แต่ไม่ลืมที่จะส่งยิ้มให้ฉันเป็นระยะ สายตาประกายความเจ้าชู้ ดูเป็นคนเจ้าเล่ห์ ไม่ใช่สเปกฉันเท่าไหร่ ราวกับกำลังลงเล่นกับไฟ เล่นไปก็มีแต่จะโดนไฟคลอก สุดท้ายก็สะบักสะบอมกลับมาเหมือนเคย สำหรับเขาฉันสนุกเพียงแค่นี้แหละปลอดภัยที่สุดแล้ว
ฉันค่อย ๆ จิบเหล้ารสชาติที่เขาเสนอมาให้ นับว่าเป็นครั้งแรกในรอบหนึ่งปีที่ฉันออกมาดื่มคนเดียว ปล่อยตัวปล่อยใจกับแอลกอฮอล์เพราะไม่อยากคิดอะไรมากมาย ปล่อยให้เรื่องงานเป็นเรื่องของอนาคต เรื่องซวย ๆ เป็นเรื่องในอดีต ส่วนปัจจุบันอยากอยู่เงียบ ๆ เสพบรรยากาศและเสียงดนตรีไปเรื่อย ๆ แบบนี้ก็พอใจแล้ว
"อ้าวเฮียมาแล้วเหรอ…" ฉันปรายมองคนที่บาร์เทนเดอร์กำลังคุยด้วย เขาหย่อนตัวนั่งลงข้าง ๆ ฉันแล้วพยักหน้าให้เขาเอาเครื่องดื่มมาให้
"เหมือนเดิมใช่ไหมครับ?"
"อืม" ร่างสูงในชุดสูทหันมามองที่ฉันกลับบ้าง ได้เจอคนหล่อก็พลอยใจสั่นขึ้นมาอีก นัยน์ตาเทาเข้มดูดุแต่ก็มีความใจดี เข้ากับใบหน้าลูกครึ่งอันหล่อเหลาที่แม่ให้มาเต็ม ผมดำปรกใบหน้าลงมาปิดตานิด ๆ ให้ตายเถอะ…ยังมีคนหล่อมากขนาดนี้อยู่บนโลกใบนี้อีกงั้นหรือ ราวกับหลุดออกมาจากเทพนิยายทั้งรูปร่างที่สมส่วนและรอยยิ้มเบา ๆ ที่กระชากวิญญาณฉันไป
"หน้าผมมีอะไรติดอยู่เหรอครับ" น้ำเสียงก็เพราะจนน่าฟัง คนอะไรดูดีแบบไม่มีที่ติ
แบบนี้แหละถึงเรียกว่า…สเปกของฉัน
"คุณครับ…"
"ค คะ…" คงเพราะฉันหลงอยู่ในภวังค์ความหล่อของเขาอยู่นานจึงไม่ได้ฟังว่าเขาคุยกับฉันก่อนหน้าแล้ว
"มาคนเดียวเหรอครับ?" เขาถามพร้อมรอยยิ้ม ไหนคนอกหักอยู่ตรงไหน ตอนนี้เห็นทีว่ามีแต่คนอยากจะลิ้มลองผู้ชายคนใหม่เท่านั้น
"ค่ะ…ฉันมาคนเดียว แต่ตอนนี้ฉันว่าฉันไม่อยากกลับคนเดียวแล้ว"