Chapter 2
@โต๊ะกลมโซนกลาง
“ดาว”
“...”
“อีอิงดาว!!”
“ห้ะ ๆ อะไร” อิงเดือนสะดุ้งตกใจที่เดียร์น่าตะโกนใส่หูทำเอาหูของเธอแทบแตก
“กูเรียกตั้งนาน มึงเหม่ออะไรอยู่เนี่ย”
“เราไม่ได้ยิน” ความจริงแล้ว ไม่ใช่ว่าอิงเดือนไม่ได้ยินหรอก แต่เธอไม่คุ้นกับชื่อที่มันไม่ใช่ชื่อของตัวเองต่างหาก
เธอชื่ออิงเดือน ไม่ได้ชื่ออิงดาว และที่ต้องมาเป็นอิงดาว ก็เพราะทำตามคำสั่งของพ่อ
เคยได้ยินไหมที่เขาว่ากันว่า ‘พ่อรักลูกไม่เท่ากัน’ พ่อของเธอก็เป็นแบบนั้นแหละ
หลังจากพ่อแม่แยกทางกันตอนที่เธออายุ 5 ขวบ อิงเดือนเลือกที่จะไปอยู่กับแม่ ส่วนอิงดาวอยู่กับพ่อ
ซึ่งหลังจากพ่อกับแม่หย่ากันได้ไม่นาน แม่ก็มีสามีใหม่ ส่วนพ่อครองตัวเป็นพ่อหม้ายจนถึงปัจจุบัน
หลังจากแม่จากไปด้วยโรคร้ายตอนที่เธอเรียนจบมัธยมฯ ปลาย พ่อก็มารับเธอไปอยู่ด้วย เธอดีใจมาก เพราะไม่อยากอยู่กับพ่อเลี้ยง แต่อยากกลับไปอยู่กับพ่อแท้ ๆ และคิดว่าหากกลับไปอยู่กับพ่ออาจจะได้เรียนต่อมหาวิทยาลัย แต่ทว่ามันกลับไม่ใช่อย่างที่เธอคิดแม้แต่น้อย
การกลับมาอยู่กับพ่อครั้งนี้ อิงเดือนมีความรู้สึกว่าพ่อเฉยชากับเธอมากและมอบความรักให้แต่อิงดาวจนเธอรู้สึกได้ อีกทั้งความฝันที่หวังว่าจะได้เรียนต่อ ก็เป็นอันว่าฝันสลาย เพราะพ่อไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้เลย
ที่พ่อรับเธอมาอยู่ด้วย แท้จริงแล้วพ่อให้เธอมาช่วยขายข้าวแกงกิจการของที่บ้าน โดยที่พ่อเป็นคนทำอาหาร ส่วนเธอเป็นคนตักข้าวแกงขาย และหากลูกค้ามากินที่ร้าน ก็ต้องคอยยกเสิร์ฟบริการลูกค้าด้วย อีกทั้งยังมีหน้าที่ล้างจาน เก็บร้าน จนกระทั่งไปจ่ายตลาด อิงเดือนก็เป็นคนทำทั้งหมด
ถึงจะทำงานเกือบครบทุกตำแหน่งของร้านขายข้าวแกง แต่เธอไม่เคยได้รับค่าจ้างจากพ่อเลย นอกจากอาหารสามมื้อ
พ่อใช้เธออย่างกับทาส แต่กับอิงดาวพ่อกลับตามใจทุกอย่าง แม้กระทั่งอิงดาวไม่อยากเรียนต่อแล้ว พ่อก็สั่งให้เธอไปเรียนแทน
คำสั่งของพ่อทำให้อิงเดือนแทบล้มทั้งยืน เพราะไปเรียนแทนกันมันไม่ใช่เรื่องง่าย แถมยังผิดกฎระเบียบมหาวิทยาลัยอีกด้วย หากโดนจับได้ขึ้นมามันจะซวยไปทั้งครอบครัว ซึ่งคนที่ได้รับผลกระทบหนักก็น่าจะเป็นลูกรักของพ่อเองนั่นแหละ
แต่พ่อกลับไม่ได้คิดถึงผลกระทบที่ตามมา พ่อกำชับกับเธอว่าห้ามให้ใครรู้เด็ดขาดว่า เธอไม่ใช่อิงดาว และจะต้องเรียนให้จบ เพื่อให้อิงดาวได้รับปริญญาพร้อมเพื่อนรุ่นเดียวกัน
“พูดเหี้ยอะไรของมึง ระคายหูฉิบหาย มาพูดเรา ๆ อะไรของมึงเนี่ย จั๊กจี้หูชะมัด”
“เออ ๆ กูไม่ได้ยิน ว่าแต่มึงเหอะมีอะไรเหรอเดียร์” อิงเดือนรีบปรับการพูดใหม่ให้หยาบสุดตีน ทั้งที่เธอไม่ชอบเลยสักนิดที่ต้องพูด มึง กู เหี้ย สัด กับเพื่อนผู้หญิงด้วยกัน
“กูจะบอกมึงว่า ผู้ชายคนนั้นโคตรหล่อ มึงไปจีบเก็บแต้มสิดาว” เดียร์น่า นักศึกษาสาววิศวะคอมฯ ปีสองบุ้ยปากไปที่หนุ่มหล่อสไตล์แบดบอยที่เดินออกไปทางห้องน้ำ
“ไม่เอา ทำไมกูต้องไปจีบเขาเพื่อเก็บแต้มด้วย” อิงเดือนรีบส่ายหน้าปฏิเสธทันทีที่เดียร์น่าคิดพิเรนทร์จะให้เธอไปจีบใครก็ไม่รู้ เพื่อเก็บแต้มล่าเหยื่อ
“มึงกินยาลืมเขย่าขวดปะอีดาว ทำไมช่วงนี้ถึงได้ทำตัวแปลก ๆ” วีนัส หันมามองเพื่อนสาวด้วยแววตาประหลาดใจ ที่ช่วงนี้เวลาจะมาคลับทีไร อิงดาวก็มักจะบ่ายเบี่ยงไม่อยากมาทุกที จนเธอกับเดียร์น่าต้องบังคับและจับมันแต่งตัวให้มาคลับด้วยกัน
“อีอิงดาวมันคงกินยาลืมเขย่าขวดตามที่มึงพูดนั่นแหละอีวีนัส”
“เป็นบุญตากูมากที่เห็นอีอิงดาวไม่บ้าผู้ชายเหมือนแต่ก่อน กูอยากจะร้องไห้เลยว่ะ โคตรภูมิใจฉิบหายที่เพื่อนหายร่านได้”
“...” อิงเดือนไม่ได้ตอบโต้กับคำพูดประชดประชันของวีนัสและเดียร์น่า เพราะในใจของเธอโคตรเอือมระอากับสองคนนี้สุด ๆ นี่ก็สองเดือนแล้วที่เธอทนคบกับสองคนนี้เป็นเพื่อน แต่ยิ่งคบยิ่งรู้สึกแย่
“ทำหน้าเหมือนตูดไปได้ มาชนแก้วกับกูหน่อยดิ”
“ไม่เอา กูไม่ดื่มเหล้า” เหล้าคงไม่เหมาะกับคนคออ่อนอย่างเธอนัก
“ถ้าไม่แดกเหล้า มึงจะแดกน้ำส้มหรือไงอีห่า?” เดียร์น่าประชดประชันอิงเดือนทันที
“เออ...กูจะดื่มน้ำส้ม”
“ว้าวซ่ามาก ไม่อยากจะเชื่อ” เดียร์น่ากลอกตามองบนทันที จากนั้นเดียร์น่าก็กวักมือเรียกบริกรมาที่โต๊ะ ก่อนจะกระซิบกระซาบอะไรบางอย่างกับบริกร ซึ่งรอไม่นานบริกรก็นำน้ำส้มมาเสิร์ฟ
“แดกให้หมดแก้วเลยนะอีน้ำส้มเนี่ย” เดียร์น่ายื่นแก้วน้ำส้มให้อิงเดือน
“คนอย่างมึงไม่เหมาะกับน้ำนางเอกเลยสักนิดอีอิงดาว”
“ช่างแม่งมันเถอะอีวีนัส มันอยากเป็นนางเอกก็ปล่อยให้มันแดกน้ำส้มไปเถอะ”
“....” อิงเดือนไม่ได้โต้ตอบอะไรอีกเช่นเคย แต่เธอกลับยกน้ำส้มดื่มจนหมดแก้ว ก่อนที่จะลุกขึ้นจากเก้าอี้
“จะไปไหน”
“เข้าห้องน้ำ” ว่าจบ อิงเดือนก็เดินออกจากโต๊ะทันที เพราะรู้สึกรำคาญสองคนนี้จนทนนั่งร่วมโต๊ะไม่ไหวแล้ว
“มึงคิดเหมือนกูไหมอีเดียร์ ตั้งแต่เปิดเทอมมาอีดาวมันดูแปลก ๆ”
“เดี๋ยวมันก็เลิกแปลก มึงนับเวลาได้เลยอีวีนัส อีกสิบห้านาที”
“มึงใส่อะไรลงไปในน้ำส้ม”
“ยาปลุกเซ็กซ์ กูหมั่นไส้ที่ช่วงนี้มันแอ๊บแบ๊วซะเหลือเกิน กูก็เลยอยากให้มันกลับมาล่าเหยื่อเหมือนเดิม”
“ทำดีมาก กูก็ไม่ชอบที่มันดูเป็นคนดีแบบนี้เหมือนกัน” วีนัสยื่นแก้วเหล้าให้เดียร์น่า ก่อนที่จะทั้งสองสาวจะชนแก้วกันด้วยรอยยิ้มร้าย เมื่อเรื่องสนุก ๆ กำลังจะเกิดขึ้นในอีกสิบห้านาทีข้างหน้า
@หน้าห้องน้ำ
“อิงดาวคืนนี้ไปนอนด้วยกันไหม”
“อย่ามายุ่งกับฉัน” อิงเดือนสะบัดแขนออกจากผู้ชายคนนั้นอย่างแรง นี่เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่น่าเบื่อสุด ๆ เพราะมักจะมีผู้ชายแปลกหน้าชวนเธอไปนอนด้วยอย่างน่ากลัว
“ทำตัวสะดีดสะดิ้งจังวะ” ผู้ชายคนนั้นพอเห็นอิงเดือนปฏิเสธก็รู้สึกเสียหน้า ก็เข้ามากอดรัดหญิงสาวจากทางด้านหลัง ก่อนจะอุ้มไปที่ลับตาคน จากนั้นมันก็จับอิงเดือนเอาแผ่นหลังพิงกับกำแพง แล้วโน้มใบหน้าซุกไซ้ซอกคอทันที
“กรี๊ดดดด...ปล่อยนะไอ้บ้า!!” อิงเดือนดีดดิ้นสุดแรงด้วยอาการตื่นกลัวพร้อมกันนั้นก็ขยะแขยงสัมผัสของผู้ชายแปลกหน้าคนนี้สุด ๆ
“ปล่อยเธอซะ!”
“อย่ามายุ่งกับเรื่องของผัวเมียไอ้สัด”
“กูนี่แหละผัวของผู้หญิงที่มึงกำลังจะข่มขืนไอ้สัด” สายลมโยนบุหรี่ทิ้งลงพื้น แล้วเอารองเท้าบดขยี้ควันไฟที่ก้นบุหรี่ให้หมอดดับ จากนั้นก็ดึงกระชากไอ้ผู้ชายคนนั้นออกจากอิงเดือน แล้วดึงอิงเดือนมาอยู่ข้างกาย
“หึ...งั้นเราก็มีเมียคนเดียวกันดิ แซนด์วิชดีไหมวะพวก” ผู้ชายคนนั้นเสนอความคิดทุเรศ ๆ ออกมาทันที
“แซนด์วิชพ่อมึงสิไอ้สวะ”
“มึงด่ากูว่าสวะงั้นเหรอไอ้สัด!! ปากดีแบบนี้ ลองกินตีนกูหน่อยไหม” ว่าแล้วผู้ชายคนนั้นก็ยกเท้าจะเตะเสยคางสายลม
แต่ทว่าสายลมกลับจับข้อขาผู้ชายคนนั้นไว้แน่น ก่อนจะบิดขาผู้ชายคนนั้นเสียงดังแกร๊ก แล้วผลักผู้ชายคนนั้นล้มลงไปที่พื้นอย่างแรง
“โอ๊ยยยย...กูเจ็บ! ไอ้สัด! ขากูหักแล้วมั้ง”
“ถุย!! ไอ้สวะ!! มึงน่ะสิต้องกินตีนกู” สายลมถุยน้ำลายใส่หน้าผู้ชายคนนั้นอย่างป่าเถื่อน ก่อนที่เขาจะยกเท้ากระทืบจนผู้ชายคนนั้นสลบเหมือด และเมื่อเห็นมันหายใจรวยริน สายลมก็เอาเท้าเหยียบปากผู้ชายคนนั้นทันที “คนที่ต้องกินตีนก็คือมึงต่างหากเป็นไงล่ะตีนกูอร่อยไหม”
“พะ...พอแล้วค่ะพี่” อิงเดือนเข้าไปจับแขนแกร่งมือไม้สั่น เพื่อห้ามผู้ชายหล่อ ๆ ที่มาช่วยเธอ เพราะถึงแม้ผู้ชายคนที่ลวนลามเธอ จะแน่นิ่งไปแล้ว แต่เขากลับไม่เลิกซ้อมผู้ชายคนนั้นเสียที
“ที่นี่มันคลับ ไม่ใช่ห้าง จะเดินไปไหนก็ระวังตัวหน่อย”
“ขอบคุณมาก ๆ ค่ะพี่” อิงเดือนรีบยกมือไหว้สายลมด้วยความอ่อนน้อม ก่อนจะรีบหมุนตัวเดินเลี่ยงหนีไปทางหลังคลับ
“จะไปไหน ทางนั้นมันอันตรายหรือเธอชอบเป็นเหยื่อให้ผู้ชายฉุด พี่จะได้รู้ว่าพี่คิดผิดที่เสียเวลาช่วยเธอ” สายลมมองอิงเดือนด้วยแววตาที่ยากจะคาดเดา
“ไม่ใช่แบบนั้นนะคะพี่ แต่หนูจะกลับที่พักแล้ว”
“แล้วนี่จะกลับยังไง”
“แท็กซี่ค่ะ”
“ขึ้นรถแท็กซี่สภาพนี้เนี่ยนะ เดี๋ยวก็โดนแท็กซี่จับข่มขืนอีกหรอก” สายลมไล่สายตามองหญิงสาวหน้าสวย ผิวขาว หุ่นดีตรงหน้าตั้งแต่หัวจรดเท้า เธอใส่เสื้อสายเดี่ยวจนหน้าอกหน้าใจล้นทะลักออกมายั่วตายั่วใจของคนที่พบเห็น มิหนำซ้ำกางเกงยีนสั้นจู๋จนเห็นแก้มก้นขาวเนียน หากนั่งรถแท็กซี่ก็คงจะไม่รอด
“งั้นพี่ช่วยไปส่งหนูที่คอนโดได้ไหมคะ” อิงเดือนลองขอความช่วยเหลือจากคนแปลกหน้าที่เพิ่งเคยเจอกันครั้งแรก ที่กล้าขอให้เขาไปส่ง เหตุผลหลัก ๆ เลย ประหยัดตังค์ค่ารถ อีกทั้งคิดว่าเขาก็น่าจะเป็นคนดีอยู่หรอก ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่ช่วยเธอทั้งที่ไม่ใช่เรื่องตัวเอง
“อืม...บอกทางก็แล้วกัน” สายลมตอบรับง่าย ๆ เพราะถือว่าช่วยเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน จากนั้นเขาก็เดินนำไปที่รถบิ๊กไบค์
“ขึ้นรถเองได้ไหม ทำไมเกิดมาตัวเตี้ยจัง เคยกินนมโรงเรียนปะ”
“นี่พี่” อิงเดือนยู่ปากใส่คนตัวสูงด้วยสีหน้าไม่พอใจทันที เขาหล่อ เขาเท่ระเบิดระเบ้อ แต่เสียอย่างเดียวความปากหมาของเขา กลบความหล่อไปเสียหมด
“ก็เธอเตี้ยจริง ๆ สูงถึง 120 ปะ”
“หนูสูงตั้ง 160 พี่มองยังไงคะถึงเห็นหนูสูงไม่ถึง 120”
“ไม่รู้ดิ ดูรวม ๆ แล้วเหมือนหมากระเป๋า ไหนลองอุ้มดูหน่อยดิ” พูดจบ สายลมก็อุ้มอิงเดือนขึ้นซ้อนท้ายด้านหลัง จากนั้นเขาก็จะเอาหมวกกันน็อกมาใส่ให้อิงเดือน แต่ทว่าหญิงสาวเบี่ยงหัวหลบ
“พี่ใส่ไปเลย”
“เธอนั่นแหละต้องใส่ ผมยิ่งยาว ๆ อยู่ด้วย เดี๋ยวก็ปลิวมาพันคอพี่” ว่าแล้วเขาก็ใส่หมวกกันน็อกครอบหัวให้อิงเดือนทันที จากนั้นเขาก็ขึ้นคร่อมรถตำแหน่งคนขับ ก่อนจะเอานิ้วเคาะที่ขาอ่อนหญิงสาว “อนุญาตให้กอดได้นะ เดี๋ยวตก”
“ขอบคุณค่ะ” อิงเดือนตอบรับไปแค่นั้น แต่เลือกที่จะจับแค่ที่ชายเสื้อของเขา ถึงจะได้โอกาสกอดคนหล่อ ๆ เท่ ๆ แต่เธอกลับกอดไม่ลงหรอก ปากหมาเกินไป
“ตกรถตายห่าไม่รับประกันนะ” พูดจบ เขาก็ขี่รถออกจากคลับทันที
‘โอ๊ย...ไอ้พี่บ้า ปากเสียชะมัด’ อิงเดือนบ่นในใจ นอกจากจะโดนเขาบูลลีเรื่องส่วนสูง เขายังเป็นผู้ชายที่ปากกระโถนมาก ๆ อีกด้วย นี่ถ้าเขาไม่ช่วยเหลือเธอไว้จากผู้ชายคนนั้น เธออยากจะตบหัวโล้น ๆ สั่งสอนสักที
ในขณะที่อิงเดือนกำลังมีอารมณ์ขุ่นมัวอยู่ในอก แต่ในเวลาต่อมากลับมีความรู้สึกร้อนวูบวาบกระสับกระส่ายมาแทนที่ จากที่แค่จับชายเสื้อ อิงเดือนก็เลื่อนมือโอบกอดเอวสอบ แล้วเลื่อนมือไปกอบกุมตรงเป้ากางเกงของสายลม
มือเล็กใช้แรงบีบขยำกลางเป้าของเขา อีกทั้งยังขยับตัวเอาหน้าอกบดเบียดแผ่นหลังแกร่งพร้อมทั้งร้องครางด้วยน้ำเสียงกระเส่า
“อื้อ ~”