เช้าวัดถัดมา…
“เมื่อคืนคุณแม่แอบกลับมานอนที่ห้องหรอคะ”
“เปล่าค่ะ พอดีวันนี้แม่ตื่นเช้าแล้วเห็นว่าน้องปิ่นหลับอยู่เลยกลับมาอาบน้ำที่ห้อง”
“คุณแม่คะ น้องปิ่นยังไม่อยากกลับไปเรียนหนังสือ”
“ถ้าไม่ไปเรียนเดี๋ยวจะไม่ทันเพื่อนนะ”
“ค่อยเรียนพิเศษก็ได้ น้องปิ่นยังไม่หายดี”
“เดี๋ยวนี้ต่อรองเก่งนะ”
“คุณพ่อบอกว่าถ้าน้องปิ่นหายดีแล้วเราจะได้ไปเที่ยวด้วยกัน คุณพ่อจะพาน้องปิ่นไปเที่ยวทุกที่ที่อยากไป”
“น้องปิ่นไปล้างหน้าแปรงฟันก่อนนะเดี๋ยวแม่มา”
“ค่ะ”
เมื่อลูกสาวเดินเข้าไปในห้องน้ำแล้ว ผู้เป็นแม่ก็ออกจากห้องแล้วเดินตรงไปยังห้องนอนของชายหนุ่ม
“ก๊อกๆๆออกมาเปิดประตูให้ฉันหน่อย”
“คุณมีเรื่องอะไรถึงได้มาหาผมถึงห้อง”
“ขอฉันเข้าไปในห้องหน่อย”
“เชิญ”
“คุณไปรับปากลูกทั้งๆที่รู้ว่าทำไมได้”
“คุณพูดเรื่องอะไร”
“คุณรับปากเรื่องที่ว่าถ้าลูกหายดีแล้วเราจะไปเที่ยวด้วยกัน”
“ใครบอกว่าผมทำไม่ได้ คนอย่างผมพูดคำไหนคำนั้น”
“แล้วคุณถามฉันหรือยังว่าฉันอยากไปเที่ยวมั้ย”
“ถ้าไม่อยากไปเดี๋ยวผมไปกับลูกสองคนก็ได้”
“ฉันไม่มีวันปล่อยให้คุณอยู่กับลูกเพียงหรอกนะ”
“นี่คุณยังเข้าใจว่าผมมีเจตนาทำร้ายลูกอยู่อีกหรอ”
“ก็สิ่งที่ฉันเห็นมันทำให้เข้าใจแบบนั้น และอย่าคิดว่าฉันไม่รู้ว่าการที่คุณแกล้งทำดีกับลูกนั้นคุณทำด้วยจุดประสงค์อะไร”
“ถ้าคิดว่าตัวเองฉลาดมากผมก็ไม่มีอะไรที่ต้องอธิบาย เชิญออกไปจากห้องผมได้แล้ว”
“ฉันยังพูดไม่จบ ที่ลูกไม่อยากไปโรงเรียนตอนนี้ก็เพราะคุณ”
“ถ้าลูกยังไม่พร้อมไปโรงเรียนก็ปล่อยให้แกพร้อมก่อนสิ”
“ไม่ได้ ลูกขาดเรียนสองอาทิตย์แล้ว ยังไงคุณต้องไปคุยให้แกยอมไปโรงเรียน”
“ผมไม่แปลกใจว่าทำไมลูกดูไม่ติดคุณทั้งที่คุณเป็นคนเลี้ยงเองกับมือ”
“การที่ลูกไม่ได้โหยหาฉันเท่าคุณนั่นเป็นเพราะว่าฉันอยู่กับแกได้ทุกเมื่อตามที่แกต้องการต่างหาก ส่วนที่ลูกโหยหาคุณก็เพราะว่าคุณคือสิ่งที่แกรู้สึกขาดหาย คนเรามักจะมองหาแต่ที่สิ่งรู้สึกขาดหายเสมอ คุณจะหาว่าฉันเลี้ยงลูกไม่ดีก็ได้นะ แต่อย่างน้อยๆฉันก็ได้เลี้ยงในฐานะแม่”
“ก็คุณเป็นคนอยากได้ลูกเองนี่ มันถูกแล้วที่คุณต้องเป็นคนเลี้ยง ส่วนผมไม่ได้อยากมีแกตั้งแต่แรก คุณรู้แก่ใจดีว่าลูกไม่ได้เกิดจากความรักของเราสองคน อันที่จริงเด็กควรเกิดจากความรักของพ่อกับแม่ไม่ใช่หรอ”
“ฉันมีเหตุผลของฉัน”
“เหตุผลของคุณคืออยากมีลูกเพื่อแลกกับสินสอดอีกครึ่งที่เหลือตามที่ครอบครัวคุณและครอบครัวผมตกลงกันไว้ คุณทำทุกอย่างเพื่อเงินแล้วคนที่ต้องมารับผลของการกระทำคือลูก”
“ในเมื่อไม่เคยจะรับฟังเหตุผลของฉัน ดังนั้นแล้วแต่จะคิด”พูดจบเธอก็เดินออกไปเปิดประตูห้องด้วยความโมโห
“คุณพ่อกับคุณแม่ทะเลาะกันเพราะน้องปิ่นอีกแล้ว”
“พ่อกับแม่แค่ปรับความเข้าใจกันเฉยๆค่ะ”
“ใช่ๆพ่อกับแค่ปรับความเข้าใจกัน และตอนนี้พ่อกับแม่ก็เข้าใจกันแล้ว”พูดจบชายหนุ่มก็เดินเข้าไปโอบกอดหญิงสาวพร้อมกับหอมแก้มนวลฟอดใหญ่
“แสดงว่าต่อไปนี้คุณพ่อกับคุณแม่จะไม่ทำหน้าบึ้งใส่กันแล้วใช่มั้ยคะ”
“แน่นอน ต่อไปนี้พ่อกับแม่จะไม่ทำหน้าบึ้งใส่กัน”
“เมื่อทั้งสองเห็นแววตาที่ดูผิดหวังของลูกสาวจึงพากันแก้ตัว และเด็กหญิงที่ใสซื่อบริสุทธิ์ก็เชื่อคำโกหกอย่างไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ”
“งั้นเราไปเที่ยวกันมั้ยคะ น้องปิ่นเบื่อโรงพยาบาล เบื่อที่บ้าน เบื่อโรงเรียนด้วย”
“ได้สิคะ ว่าแต่น้องปิ่นอยากไปเที่ยวที่ไหนบ้าง เดี๋ยวพ่อจัดให้”
“น้องปิ่นอยากไปตกหมึกค่ะ”เด็กหญิงบอกความต้องการด้วยใบหน้าที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความหวัง ในขณะที่ผู้เป็นพ่อและแม่ต่างพากันอึ้งอยู่ชั่วครู่
“พ่อว่าไว้น้องปิ่นโตกว่านี้แล้วเราค่อยไปตกหมึกกันดีมั้ย”
“ไหนคุณพ่อบอกว่าจะตามใจน้องปิ่นไงคะ”
“แต่มันอันตรายนะ”
“ถ้าอันตรายคุณพ่อก็ดูแลน้องปิ่นอยู่ใกล้ๆสิคะ”
“โอเคๆ ไปก็ไป”
“เย้ๆคุณพ่อใจดีที่สุดในโลก”
“ว่าแต่เราจะไปวันไหนดี”
“วันนี้เลยมั้ยคะ”
“ไม่ได้หรอกค่ะ แม่ยังไม่ได้เตรียมอะไรเลย”ผู้เป็นแม่คัดค้านเมื่อลูกสาวจะไปเที่ยวอย่างกระทันหัน
“ก็ไปเตรียมตอนนี้เลยสิคะ”
“ไหนบอกยังไม่หายเจ็บไง”
“ถ้าได้ออกไปเที่ยวเดี๋ยวก็หายเจ็บเองค่ะ เรารีบไปเที่ยวกัน เที่ยวเสร็จจะได้กลับไปเรียนไงคะคุณแม่”
“ผมเห็นด้วยกับลูกนะ”
“โอเค ก็ได้งั้นเราไปเตรียมข้าวของกัน”