“ตะวันอยู่ในครัวนะ อย่าออกไปเพ่นพ่านข้างนอกล่ะ” ดาริกาหรือป้าดาหัวหน้าแม่บ้านเอ่ยกับหญิงสาวหน้าสวยหมดจดที่กำลังจัดเรียงผลไม้ให้สวยงามพร้อมยกไปเสิร์ฟ
“รับทราบค่ะป้าดา” หญิงสาวหันไปตอบรับพลางส่งยิ้มให้อย่างอ่อนโยน
“งั้นเดี๋ยวป้าขึ้นไปดูความเรียบร้อยข้างบนก่อน ยัยดวงจะให้ตะวันช่วยอะไรก็บอกเลยนะ”
“จ้ะ ป้าดา” แม่บ้านอีกคนขานรับ
ป้าดาอดเป็นห่วงหญิงสาวที่เป็นเหมือนลูกหลานไม่ได้ กลัวจะไปทำอะไรให้เจ้านายหนุ่มไม่พอใจขึ้นมาเพราะเจ้านายของเธอนั้นแม้จะไม่ใช่คนใจร้ายแต่ก็ไม่ได้เป็นมิตร ด้วยความที่อยากช่วยให้ตะวันมีรายได้เสริมป้าดาจึงชวนเธอมาช่วยงานทุกครั้งเมื่อคฤหาสน์หลังนี้มีงานเลี้ยงซึ่งนับครั้งได้
“พี่ดวง ช่วยเอาไวน์ไปเติมอีกสามขวดจ้ะพี่” เด็กสาวแม่บ้านตะโกนบอกก่อนจะรีบจากไปอย่างรีบร้อน
“จะไปได้ไงเนี่ย พี่ก็เคี่ยวซอสอยู่เดี๋ยวก็ไหม้กันพอดี” ดวงบ่น
“เดี๋ยวตะวันไปหยิบให้เองค่ะ” หญิงสาวอาสา
“จะดีเหรอตะวัน พี่กลัวป้าดาดุ ป้าเค้าสั่งนักสั่งหนาว่าไม่ให้ตะวันเข้าไปในบ้านใหญ่”
“ตะวันเคยเข้าไปกับป้าดาแล้วค่ะ เข้าทางประตูหลัง ลงไปที่ห้องเก็บไวน์ใต้ดิน รับรองว่าไม่มีใครเห็น”
ดวงเดือนชั่งใจก่อนจะเอ่ยออกไป
“งั้นพี่รบกวนหน่อยนะ รีบไปรีบมาล่ะ” เธอพูดพร้อมส่งสายตาเป็นห่วง
“ค่ะพี่ดวง” ตะวันเช็ดมือกับผ้าขนหนูก่อนจะถอดผ้ากันเปื้อนออกแล้วเดินไปยังห้องเก็บไวน์ หญิงสาวเดินลงไปยังห้องใต้ดินอย่างเงียบเชียบแต่ทว่าสิ่งหนึ่งที่เธอไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นเมื่อข้างล่างนั่นได้รับการตกแต่งใหม่ จนทำให้เธอสับสนว่าห้องเก็บไวน์อยู่หลังประตูทางด้านซ้ายหรือขวามือกันแน่
ตะวันปลอบใจตัวเองว่าก็แค่แง้มเข้าไปดูถ้าไม่ใช่ก็ไปเปิดดูอีกห้อง หญิงสาวตัดสินใจเริ่มจากห้องทางขวามือ เธอค่อยๆ แง้มประตูออก ก่อนจะเห็นชั้นไวน์อยู่ทางขวามือแต่ทว่ามันไม่ได้มีแค่ไวน์ที่อยู่ตรงนั้น
ตะวันมองไปยังซ้ายมือก็เห็นกลุ่มชายฉกรรจ์ห้าคนยืนจ้องหน้าเธออยู่ ตะวันตกใจรีบปิดประตูเตรียมวิ่งหนีออกมาแต่ทว่าไม่ทัน ชายหนุ่มร่างสูงกำยำตามมาทัน เขารวบตัวเธอแล้วลากเข้ามาในห้องก่อนจะเหวี่ยงร่างอันบอบบางลงไปบนพื้นแทบเท้าของใครบางคนที่กำลังนั่งไหว้ข้างอยู่บนโซฟานั่น ข้างๆ ของเธอนั้นมีผู้ชายถูกซ้อมปางตายนอนหายใจรวยรินอยู่ใกล้ๆ
เพียงตะวันกลั้นใจเงยหน้าขึ้นมองคนตรงหน้า เธอสบตาเข้ากับดวงตาสีดำขวับแสนเย็นชาไร้ความรู้สึกใดๆ ราวกับดวงตามัจจุราช
“ชั้น ชั้นเป็นคนงานที่นี่ค่ะ” ตะวันเอ่ยเสียงสั่นด้วยความกลัวแต่ก็พยายามทำใจดีสู้เสือสบตาแสดงถึงความจริงใจ
“คนงานเหรอ ทำไมชั้นไม่เคยเห็นเธอมาก่อน” ชายหนุ่มไม่ได้พูดเฉยๆ เขายื่นหน้าอันหล่อเหลาไร้ที่ติลงมาใกล้ๆ พร้อมทั้งจ้องตาเธอไม่กะพริบอยากรู้เหมือนกันว่าเธอจะทนความเย็นชานี้ได้แค่ไหน
“ชั้นมากับป้าดาค่ะ ชั้นแค่ลงมาขนไวน์ขึ้นไปข้างบน”
“ไปตามป้าดามา” มาเฟียหนุ่มสั่งลูกน้องเสียงเย็น
“ดูไว้ซะนะ ถ้าเธอโกหก สภาพก็คงไม่ต่าง” เขาพูดขณะเอนหลังลงบนโซฟาอย่างผ่อนคลายตรงข้ามกับหญิงสาวที่ตัวเกร็งเพราะความกลัว
เพียงแค่ไม่กี่อึดใจหญิงวัยกลางคนก็วิ่งถลาเข้ามาในห้องก่อนจะรีบรุดไปนั่งบนพื้นข้างๆ ตะวัน
“คุณจางคะ นี่เพียงตะวันค่ะ คนงานที่ป้าขอให้มาช่วยงานค่ะ ป้าต้องขอโทษด้วยนะคะ ป้าจะดูแลให้ดีกว่านี้ค่ะ”
ป้าดาพูดทั้งยกมือไหว้ไปด้วย เสียงของเธอสั่นเครือคงเพราะเห็นสภาพของชายที่กองอยู่บนพื้น
“ถ้างั้นก็รีบไสหัวออกไปได้แล้วเพียงตะวัน ก่อนที่เธอจะไม่มีเงาหัว” มาเฟียหนุ่มจงใจขู่ร่างบางตรงหน้า เพราะท่าทีที่เหมือนอวดดีของเธอมันทำให้เขาอยากเห็นตอนที่เธอยอมสยบ
“ไป ตะวัน” ป้าดาพยุงตะวันลุกขึ้นเพื่อเดินออกไปจากห้อง เพียงตะวันชำเลืองกลับไปมองชายหนุ่ม ก่อนจะเห็นว่าเขายังคงจ้องเธอตาไม่กะพริบเหมือนจะเอาเรื่องให้ได้ ตะวันหันกลับมาก่อนจะรีบเดินออกไปจากห้องนั้นให้เร็วที่สุด
‘คนอะไรก็ไม่รู้น่ากลัวชะมัด’