เพื่อนใหม่

2386 คำ
ผมอาบน้ำแต่งตัวเร็วกว่าทุกวันเพราะนอนไม่หลับ เรียกได้ว่าไม่ได้นอนเลยก็ว่าได้ เมื่อคืนเอาแต่คิดเรื่องท่านคิงส์จนไม่เป็นอันนอน พอแต่งตัวเสร็จแม่บ้านก็มาตามผมลงไปกินข้าวด้านล่าง ผมไม่รอช้ารีบเดินตามแม่บ้านลงไปอย่างว่าง่าย โชคดีที่คฤหาสน์แห่งนี้มีแต่คนใจดีทั้งนั้น พวกเขาเอ็นดูและเมตตาผมเป็นอย่างมาก ผมเดินลงมาห้องอาหารก่อนที่จะเจอผู้ชายร่างสูงแต่งตัวดูดีหน้าตาหล่อตี๋นั่งจิบกาแฟอยู่ก่อนแล้ว ผู้ชายตรงหน้าเงยหน้าขึ้นมาจ้องหน้าผมนิ่งก่อนจะขมวดคิ้วแทบจะชนกันด้วยความสงสัย “สวัสดีครับ” ผมรีบยกมือไหว้สวัสดีตามมารยาท “สวัสดีครับ นี่ใช่น้องภีมรึเปล่า” เขาเอ่ยถาม “ใช่ครับ” เขารู้จักชื่อผมได้ยังไงกัน ทั้งที่เขาเป็นใครผมยังไม่รู้เลย “มานั่งกินข้าวด้วยกันมา” เขากวักมือเรียกเข้าไปนั่งข้าง ๆ ก่อนที่แม่บ้านจะวางข้าวต้มลงบนโต๊ะให้ผม ผมจึงเดินตามไปนั่งอย่างว่าง่าย “พี่ชื่อสายฟ้านะ เป็นเพื่อนไอ้คิงส์” ท่าทางน่าจะเป็นเพื่อนสนิทถึงสามารถเรียกท่านคิงส์ว่าไอ้ได้ แต่น่าแปลกที่เขาดูยิ้มแย้มและเป็นมิตร ต่างกับท่านคิงส์ที่ชอบทำหน้าดุตลอดเวลา “อยู่ที่นี่เป็นยังไงบ้าง พออยู่ได้มั้ย” “อยู่ได้ครับ” ผมคลี่ยิ้มบาง ๆ ก่อนจะตักข้าวต้มใส่ปาก “น่ารักจัง ตัวเล็กปุ๊กปิ๊กพูดจาก็น่าฟัง อยู่ม.ไหนแล้ว” “ม.6 แล้วครับ” “เท่ากันกับน้องพี่เลย มันก็อยู่ม.6 ทำไมมันไม่หัดทำตัวดี ๆ แบบนี้บ้างว้าา” เขาว่าพร้อมกับหัวเราะไม่จริงจัง “ว่าแต่…เราอยู่ได้แน่นะ โดนไอ้คิงส์มันแกล้งอะไรรึเปล่า อย่าไปยอมมันมากนะ มันด่ามาก็ด่ามันกลับเลย ไอ้นี่มันปากดี” “ใครปากดี” เสียงเยือกเย็นเอ่ยขึ้นจนช้อนผมหล่นจากมือ “มึงจะทำเสียงดุทำซากอะไรวะ น้องมันกลัวไม่เห็นรึไง” เขาว่าก่อนจะเลื่อนทิชชู่มาเช็ดน้ำต้มที่แขนออกให้ผม “มันไม่มีมือมีตีนรึไง มึงถึงต้องไปเช็ดให้” เขาว่าด้วยน้ำเสียงติดหงุดหงิด “หึ ทำไม หึงหรอ?” “กูไม่เคยหึงของเล่น” เขาว่าก่อนเดินมาหย่อนก้นลงข้าง ๆ ทันทีที่เขานั่งลงผมก็รีบเด้งตัวลุกจากเก้าอี้ทันที “จะไปไหน” “เอ่อ…คือผมกินอิ่มแล้วน่ะครับ มันสายมากแล้วด้วย” ผมบอกพร้อมผมคล้องกระเป๋าสะพายใส่หลังลวก ๆ “มึงจะตวาดทำไม น้องมันตกใจหมดแล้ว” พี่สายฟ้าพูดเสียงดุ “ไปขึ้นรถอยู่หน้าบ้านนั่นล่ะ ไอ้เฟยจะไปส่ง อยากได้อะไรก็บอกมันแล้วกัน” “ครับ งั้นผมไปโรงเรียนก่อนนะครับ สวัสดีครับ” ผมยกมือสวัสดีก่อนจะรีบจ้ำเท้าออกมาจากบ้าน เห็นผู้ชายใส่ชุดดำเมื่อวานมายืนรอที่รถอยู่ก่อนแล้ว เขาคงชื่อพี่เฟยตามที่ท่านคิงส์บอก ผมนั่งรถเข้ามาในโรงเรียนอย่างเกร็ง ๆ เพราะทุกสายตาล้วนจับจ้องมาที่ผมอย่างกับเป็นตัวประหลาด คนเหล่านั้นต่างซุบซิบนินทาจนผมวางตัวไม่ถูก รีบเดินขึ้นห้องเรียนไปแต่ก็ต้องงงงวยเพราะโต๊ะของผมมันหายไปผมพยายามเดินวนหาอยู่หลายรอบ แต่ก็ไม่เจอ “อ้อม เห็นโต๊ะเรามั้ย” เมื่อหายังไงก็หาไม่เจอผมจึงเดินไปถามกับเพื่อนที่อยู่โต๊ะข้าง ๆ “อ๋อ เห็นคนมายกออกไปตั้งแต่เช้าแล้ว” “ห้ะ!? ยกไปไหน” “เราก็ไม่รู้เหมือนกัน” อย่าบอกนะ ว่าพวกนั้นมันมาแกล้งผมอีกแล้ว “วรภพ” “ครับครู” ผมรีบตอบรับเมื่อครูประจำชั้นเดินเข้ามาเรียกผมถึงหน้าห้อง “ตามครูมาค่ะ” พูดเพียงเท่านั้นครูก็เดินนำผมไป ผมไปรอช้าสับขาเดินตามทันที ครูพาผมเดินแยกออกมาจากตัวโรงเรียนเข้าไปที่ตึกด้านในที่เป็นเขตหวงห้าม ผมเคยได้ยินมาว่าห้ามเข้าใกล้ตึกนี้เป็นอันขาด ไม่งั้นอาจจะซวยไม่รู้ตัว ผมไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมครูถึงพาผมมาที่นี่ ผมเดินตามครูเข้ามาเรื่อย ๆ ภายในตึกแทบจะไม่ใช่โรงเรียนด้วยซ้ำ ทุกอย่างตกแต่งหรูหราเกินกว่าจะเป็นตึกเรียนแถมยังมีสนามกีฬาด้านในตึกอีก เดินมาเรื่อย ๆ เริ่มเห็นห้องฟิตเนส และห้องอาหาร แถมมีลานจอดรถด้านใน “ถึงแล้วค่ะ” และแล้วครูก็พาผมมาหยุดอยู่ที่หน้าห้องห้องหนึ่ง มีป้ายเขียนไว้ด้านหน้าเด่นชัดว่า ‘ห้อง King’ “พาผมมาที่นี่ทำไมหรอครับ” “มีคำสั่งจากท่านผอ. ว่าให้ย้ายตัวนักเรียนมาเรียนที่ตึกคิงส์ค่ะ” “ห้ะ!? ทำไมหรอครับ” “เอ่อ… ครูก็ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ” จบประโยคครูนภาก็เดินออกไปทันทีไม่เว้นจังหวะให้ผมได้ถามอะไรต่อ ตึกคิงส์งั้นหรอ ไม่ต้องเดาก็น่าจะรู้ว่าผมมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง ผมยืนทำใจอยู่หน้าห้องนานสองนาน ห้องใหม่กับเพื่อนใหม่ ยิ่งเป็นตึก vip. โคตร ๆ แบบนี้ ผมเตรียมตัวโดนเหยียดจนจมดินได้เลย ผมเป็นคนพูดน้อย เข้ากับคนยาก การมีเพื่อนใหม่ซักคนถือว่ายากสำหรับคนอย่างผมพอสมควร ผมสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดพร้อมกับพ่นลมออกมาสุดแรง ก่อนจะตัดสินใจเอื้อมมือไปที่ลูกบิดประตู แกร๊ก!! ผมค่อย ๆ เปิดประตูออก เผยให้เห็นด้านในห้องที่ตกแต่งหรูหรา มีกระดานอิเล็กทรอนิกส์และอุปกรณ์การเรียนที่แปลกตา มันดูล้ำสมัยมากกว่าที่เคยเจอ ไหนจะโต๊ะเรียนแบบเก้าอี้นวม โต๊ะเกม โต๊ะอาหาร รวมไปถึงเตียงนอนก็ยังมีแถมยังมีห้องน้ำในตัวอีก ห้องกว้างใหญ่มาก แทบจะมีแค่ห้องเดียวกว้างทั้งชั้น แต่น่าแปลกที่มีนักเรียนเพียงสามคนเท่านั้น คนหนึ่งคาบขนมปังในปาก พร้อมกับยกขาขึ้นมาพาดบนโต๊ะอาหาร คนหนึ่งนอนเล่นมือถือที่เตียงนอน ส่วนอีกคนนั่งเลือกตัวละครเกมอยู่ที่หน้าจอคอม ทันทีที่ห้องเปิดออกทั้งสามคนก็ทันมาจ้องหน้าผมนิ่ง “สะ สวัสดีครับ” ผมยกมือไหว้ตามมารยาท “ใครวะ!?” คนที่นอนเล่นมือถืออยู่บนเตียงเอ่ยถาม “ชื่อภีม เด็กของพี่คิงส์” คนที่เลือกตัวละครเกมหันตอบแทน “เชี่ยย!! จริงปะเนี่ย” คนคาบขนมปังอ้าปากพูดจนขนมปังร่วงจากปาก ก่อนจะวางขาลงจากโต๊ะแล้วเดินดุ่ม ๆ เข้ามาสำรวจผมตั้งแต่หัวจรดเท้า “พี่คิงส์แม่ง เทสดีว่ะ!” เขาว่าพร้อมกับจับคางผมเชิดดูหน้าใกล้ ๆ เพราะเขาตัวสูงกว่าผมประมาณหนึ่ง “กูชื่อโอเล่นะยินดีที่ได้รู้จัก ส่วนไอ้ที่นอนอยู่บนเตียงน่ะชื่อเฟียสไอ้นี่มันเฟียสสมชื่อ ใครมาหาเรื่องบอกมันได้เดี๋ยวมันเคลียร์ให้” “มึงโง่เปล่าวะ ไอ้พายุมันก็บอกอยู่ว่าเป็นเด็กของพี่คิงส์ ใครมันจะกล้า ลองดี” “เออว่ะ” คนชื่อโอเล่พยักหน้าเห็นด้วย “ส่วนไอ้ที่เล่นเกมอยู่มันชื่อพายุ นิสัยไม่ค่อยดีหรอก เด็กเปรตดี ๆ นี่เอง ไม่ต้องไปสนใจมันหลอก” “เอ้า!! ไอ้สัส” คนชื่อพายุสบถด่าก่อนจะวางมือลงจากเมาส์แล้วหันมาทางผม “กูชื่อพายุนะ เป็นน้องพี่สายฟ้า เคยเจอพี่สายฟ้าแล้วใช่มั้ย” “ครับ เจอเมื่อเช้านี้เองครับ” ไม่น่าล่ะผมถึงคุ้น ๆ หน้าเขา พี่น้องคู่นี้หน้าคล้ายกันอย่างกับแกะ ติดที่พี่สายฟ้าดูเป็นผู้ใหญ่กว่าเท่านั้น “มาเหนื่อย ๆ กินข้าวกินปลาก่อนมา” พูดจบคนชื่อโอเล่ก็คล้องคอผมเดินมานั่งที่โต๊ะอาหารอย่างสนิทสนมทั้งที่เราเพิ่งเจอกันเมื่อกี้ “เห้ย ๆ ไอ้เหี้ยโอ มึงปล่อยแขนออกจากคอมันเลย เดี๋ยวพี่คิงส์เจอเข้ามึงได้ตายคาตีนกูช่วยไม่ได้นะเว้ย” พายุรีบร้องปราม “โทษทีว่ะ กูลืมไป” เขาหัวเราะกลบเกลื่อนก่อนจะยื่นแซนด์วิชให้ผมกิน “แล้วนี่…ครูยังไม่มาหรอครับ” “ตอนเช้าไม่มีเรียนหรอก ใครเขาเรียนตอนเช้ากัน เรียนแค่บ่ายโมงถึงบ่ายสามก็พอ เรียนทั้งวันปวดหัวตายห่า” พายุตอบกลับมาก่อนที่จะวางมือจากเกมแล้วมานั่งกินขนมปังที่โต๊ะด้วยคน ตามมาด้วยคนชื่อเฟียส “ว่าแต่มึงเถอะ เป็นเมียพี่คิงส์นานแล้วหรอ” พรวดดด!! ทันทีที่จบประโยคเศษขนมปังก็พุ่งออกใส่หน้าพายุจนเต็มหน้า “เชี่ยไรของมึงเนี่ย!!” “ขอโทษครับ ๆ” ผมรีบหยิบทิชชูไปเช็ดออกให้เขาลวก ๆ “ฮ่า ฮ่า โชคดีที่เป็นเด็กพี่คิงส์ ถ้าเกิดเป็นกูมีหวังโดนตบหัวทิ่ม” โอเล่หัวเราะออกมาอย่างสะใจ “ว่าไง เป็นผัวเมียกันนานแล้วหรอ” “เอ่อ… ไม่ได้เป็นผัวเมียครับ ผมเป็นแค่เด็กขายตัวของท่านคิงส์ เพิ่งมีอะไรกันวันก่อนนี้ครับ” ผมตอบอย่างอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ “หืออ!?” ทุกคนเบิกตากว้างพร้อมกับขยับเก้าอี้เข้ามาจ้องหน้าผมนิ่ง จนผมรู้สึกเกร็งไปหมด “อย่างพี่คิงส์เนี่ยนะ จะเอาเด็กขายตัวมาอยู่ถึงในบ้าน แถมเอามาเรียนอยู่ตึกคิงส์อีก ปกติพี่คิงส์นี่กินไม่ซ้ำไม่ใช่หรอวะ” คนชื่อเฟียสเอ่ยถามอย่างสงสัย “แล้วพี่คิงส์บอกนายว่ายังไงบ้าง” พายุเอ่ยถาม “ท่านบอกว่าให้ผมมาเป็นนายบำเรอ เขาเบื่อเมื่อไหร่ก็จะเอาไปส่งบ้านครับ” ทุกคนมองหน้ากันพร้อมกับพยักหน้าเหมือนกับรับรู้อะไรบางอย่างโดยไม่ต้องเอ่ยปาก “กูจะเล่าอะไรให้ฟัง เมื่อก่อนนะพี่คิงส์เขาเคยมีแฟน เขาโคตรรักแฟนเลยนะ ประเคนให้ทุกอย่าง แล้วมีอยู่ช่วงหนึ่งเว้ยแฟนพี่เขาแม่งนอกใจ จากนั้นพี่คิงส์ก็ไม่เคยไว้ใจใครอีกเลย” พายุว่าด้วยท่าทางกระตือรือร้น “แล้วแฟนพี่คิงส์เขาไปไหนแล้วหรอครับ” “โดนพี่คิงส์ยิงตายห่าไปละ กูจำได้เลยคืนนั้น กูน่าจะอยู่ ม.4 นี่ล่ะมั้ง ยิงเน้น ๆ ที่หัวหนึ่งนัด กูว่าโหดแล้ว นี่เล่นยิงซ้ำจนหมดแม็ก เลือดท่วมพื้นเลยมึงเอ้ย พอกลับมาบ้านกูแม่งแดกข้าวไม่ลงเลยว่ะ นี่ภาพยังติดตากูอยู่ เลยนะ พูดแล้วก็ขนลุก” พายุลูบแขนประกอบคำพูด เขาพูดซะเป็นภาพจนผมลอบกลืนน้ำลาย “ถึงกับต้องฆ่าต้องแกงกันเลยหรอครับ” “หึ คนอย่างพี่คิงส์เด็ดขาดเสมอแหละ มึงก็ระวังตัวให้ดี ขึ้นหลังเสือแล้วมันลงยาก” ผมไม่ได้คิดจะไปเอาใครอยู่แล้วล่ะครับ ท่านมีบุญคุณกับผมมาก ผมไม่มีทางทำอย่างนั้นกับท่านแน่นอน “กูถามมั่งดิ มึงเคยเห็นขนาดของพี่คิงส์แล้วใช่มั้ยวะ ใหญ่มั้ย?” คนชื่อเฟียสเอ่ยถามพร้อมกับใจจดใจจ่อฟังคำตอบจากปากผม “ขะ ขนาดของอะไรหรอครับ” “ขนาดของค*ยไง” ผมตลึงจนตาค้างเมื่อต้องฟังคำหยาบโลดโผนแบบนี้ ผมเลิ่กลั่กทำตัวไม่ถูกรู้สึกร้อนวูบวาบขึ้นมาที่ใบหน้า “ฮ่า ๆ เขินหรอ ไม่ต้องตอบก็ได้แต่ทำขนาดให้ดูก็พอ” พายุทำมือเป็นครึ่งวงกลมประกบเข้าหากัน “เท่านี้ป่ะ?” “เอ่อ…” ผมไม่รู้จะตอบยังไง ได้แต่ส่ายหน้าพัลวันก่อนจะจับมือพายุเลื่อนขยายออกให้วงกลมใหญ่ขึ้น “ไอ้เชี่ย!!! ไอ้ภีม มึงรอดมาได้ไงวะ โดนไปขนาดนี้ด้านหลังมึงไม่พรุนหมดแล้วหรอ” เฟียสกลืนน้ำลายลงคอเฮือกใหญ่ “มิน่าล่ะ เด็กพี่คิงส์แต่ละคนถึงมีสภาพสะบักสะบอมทุกครั้งที่ขึ้นสนามรบ” พายุตบเข่าฉาดใหญ่ แปะ! “โอ๊ยย!! ไอ้เหี้ยโอ มึงตบหัวกูทำไมวะ” “เด็กเดิกอะไรของมึง เมียเขาก็นั่งหัวโด่อยู่ตรงนี้ เกรงใจกันบ้างดิวะ” “เออว่ะ โทษทีมึง กูก็ปากพล่อยอย่างงี้ล่ะ” “ไม่เป็นไรครับ ผมก็เป็นเด็กอีกคนของท่าน ไม่ได้มีอะไรพิเศษกว่าคนอื่นหรอกครับ” ผมรู้สถานะตัวเองดีว่าอยู่ในตำแหน่งไหน ผมไม่มีสิทธิ์ไปหึงหวงท่านอยู่แล้ว “ได้ไงวะ มึงเข้ามาเป็นคนในแก๊งของพวกกูแล้ว จะมายอมอะไรง่าย ๆ ได้ยังไง” “เออ ใช่! มึงไม่ต้องห่วง พวกกูจะช่วยมึงเอง เอาให้พี่คิงส์ผู้ทรงอิทธิพลต้องลุ่มหลงจนโงหัวไม่ขึ้นเลย” เฟียสยืนขึ้นทำหน้ามุ่งมั่น อยู่ ๆ ผมก็กลายเป็นคนในแก๊งของคนกลุ่มนี้เสียแล้ว แต่ผมก็รู้สึกดีไม่น้อย รู้สึกสนุกทั้งวันพวกเราเล่นเกมด้วยกันจนถึงบ่าย ก่อนจะไปเรียนต่ออีกสามชั่วโมง ยอมรับเลยว่าที่นี่สอนเข้าใจกว่าห้องธรรมดาเยอะเลย แถมยังมีอะไรใหม่ๆ ให้เล่นทั้งวัน เกิดมาผมเพิ่งรู้สึกว่าตัวเองมีเพื่อนจริง ๆ ก็วันนี้ ทุกคนในแก๊งไม่ได้นึกรังเกียจผมสักนิด แถมยังเอ็นดูผมด้วยซ้ำ พวกเขาดูพูดจาหยาบคายก็จริง แต่ก็ดูจริงใจกันทุกคน ผมรู้สึกโชคดีมากที่ได้เป็นเพื่อนกับพวกเขา แต่ในทางกลับกันก็รู้สึกเศร้าขึ้นมาเมื่อนึกภาพที่ท่านเบื่อแล้วเฉดหัวผมทิ้ง ผมถึงพยายามย้ำเตือนกับตัวเองเสมอว่าอย่าหลงในแสงไฟ เพราะหากเชื้อเพลิงหมด เราก็ต้องกลับเข้าสู่ความมืดตามเดิม…
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม