“กูว่าแล้ววว!! ทำไมพี่คิงส์ถึงซื้อชุดเกมชุดใหม่ล่าสุดให้พวกเรา”
โอเล่พูดขึ้นขณะที่ผมก้าวขาเข้ามาในห้อง
“ทำไมวะ”
“มองดูที่คอไอ้ภีมดิ แล้วมึงจะเจอคำตอบ”
โอเล่พยักพเยิดหน้ามาทางผม จนผมรีบเอามือปิดรอยดูและรอยขบกัดที่ต้นคอไว้
“ฮั่นแน่! ระบมมาเชียวน้าา”
พายุพูดขึ้นอย่างล้อ ๆ จนผมน่าแดงแจ๋
“พอเลย ๆ พวกมึงอย่าไปแซวมัน มันเขินจนตัวบิดแล้วน่ะ แค่ผัวเมียเอากันมึงจะแซวทำไมนักหนา ไอ้ภีมมึงมานี่ เกมตัวใหม่ผัวมึงสั่งให้ลูกน้องเอามาลงเมื่อเช้าเนี่ย”
เฟียสกวักมือเรียกผมให้เข้าไปหา
ผมเดินเข้าไปสำรวจโต๊ะเกมอย่างทึ่ง ๆ จัดมาชุดใหญ่ขนาดนี้มันกี่บาทกันล่ะเนี่ย แค่เครื่องเดียวก็ครึ่งล้านแล้วนี่เล่นซื้อมาตั้งสี่เครื่อง
“พี่คิงส์แม่งโคตรป๋าเลยว่ะ!”
โอเล่พูดขึ้นขณะที่เดินมากดดูเกมอย่างสนใจ
“มึงไปทำอิท่าไหนวะไอ้ภีม ถึงได้มาชุดใหญ่ขนาดนี้”
“มึงก็ถามมาได้เนาะ กูว่าคงหลายท่าอยู่ ดูสภาพมันดิ แดงเป็นจ้ำ เดี๋ยวกูประคบร้อนให้ละกัน รอยแดงจะได้หาย”
พายุเดินไปกดส่งข้อความหาแม่บ้านด้านล่างให้เอาเครื่องประคบร้อนขึ้นมาให้ ก่อนที่พวกเราจะเริ่มเกมใหม่กันอย่างสนุกรู้ตัวอีกทีก็ปาไปเกือบ 4 โมงเย็นแล้ว
“ไอ้ภีมมึงกลับบ้านไงวะ”
“พี่เฟยมารับน่ะ”
“งั้นเดี๋ยววันนี้กลับพร้อมกูละกัน กูจะไปหาพี่สายฟ้าเหมือนกัน”
“อ๋อ โอเค ๆ”
เมื่อตกลงกันได้ผมจึงนั่งรถกลับบ้านพร้อมพายุ
“พายุ นี่มันไม่ใช่ทางกลับบ้านนี่”
“กูบอกหรอว่าจะพามึงกลับบ้าน”
“หือ?!”
ผมขมวดคิ้วจนแทบจะเป็นโบผูกกัน
“กูจะไปหาพี่สายฟ้าที่บริษัท เมื่อเช้ารถเขายางรั่ว เลยให้กูไปรับที่ทำงาน”
“แล้วเอาเรามาด้วยทำไม”
ผมงุนงง ไม่เข้าใจในการกระทำนี้
“ไปเปิดตัวไง”
“เปิดตัว?!”
ผมทวนคำถามอย่างไม่เข้าใจ
“หึ หึ กูพบคนปากแข็งหนึ่งอัตราว่ะ ว่าจะแกล้งหยอกเล่นซักหน่อย”
พายุพูดด้วยท่าทีสบาย ๆ ก่อนจะเหยียดยิ้มเจ้าเล่ห์ รู้ตัวอีกทีเราก็มาถึงลานจอดรถใต้ตึกของบริษัทพี่คิงส์แล้ว
“เดี๋ยว! อย่าเพิ่งไป”
พายุรั้งแขนผมไว้เมื่อผมกำลังจะเอื้อมมือไปเปิดประตูรถออก
เขาเริ่มมองผมอย่างสำรวจก่อนจะพิจารณาตั้งแต่หัวจรดเท้า แล้วเหยียดยิ้มออกมาเหมือนนึกอะไรบางอย่างขึ้นได้จึงโน้มตัวไปด้านหลังเพื่อหยิบกระเป๋าขึ้นมา เขาค้นหาของด้านในอยู่ซักพักก่อนจะค้นเจอกางเกงนักเรียนของเขา
“ถอดกางเกงออกแล้วใส่ตัวนี้ซะ”
“หือ?! ถอดตรงนี้เลยหรอพายุ”
“เออน่าา ถอดเปลี่ยนตรงนี้แหละ เป็นผู้ชายด้วยกันมึงจะอายอะไร”
“ทำไมต้องเปลี่ยนด้วยล่ะ”
ผมงงเข้าไปใหญ่เมื่ออยู่ ๆ พายุก็คะยั้นคะยอให้ผมใส่กางเกงขาสั้นของเขาที่มันสั้นกว่ากางเกงผมอยู่มาก แถมยังตัวเล็กรัดก้นอีก
“เถอะน่าา”
เขาคะยั้นคะยอจนผมต้องจำยอมเปลี่ยนกางเกงตามที่เขาบอก
“ดีมาก ไอ้เพื่อนรัก ต่อไปก็…”
เขามองผมอย่างสำรวจอีกครั้งก่อนจะขยับเข้ามาใกล้
“พะ พายุ จะทำอะไรน่ะ!”
ผมตาเบิกโพลงเมื่อพายุขยับเข้ามาปลดกระดุมเสื้อเม็ดบนผมออกเผยให้เห็นเนินอกเล็กน้อย
“มึงจะติดกระดุมทำไมทุกเม็ด ปลดออกให้เห็นคอขาว ๆ บ้าง”
เขาว่าพร้อมกับพรมฉีดน้ำหอมจนผมสำลัก
“ดูมึงตอนนี้ซี่ ทั้งน่ารักทั้งเซ็กซี่ ถ้าไม่ติดว่ากูจะเอาผัวกูคงจะเอามึงนี่ล่ะ ทำเมีย”
พายุพูดจบก็เดินไปเปิดประตูให้ผมเดินลงมา
“เดี๋ยวก่อน…กูว่ามันยังขาดอะไรซักอย่าง”
พายุมองสำรวจผมอีกรอบก่อนจะก้มลงถอดสร้อยข้อเท้าตัวเองมาใส่ให้ผม
“นี่แหละ ไอ้ภีมเวอร์ชันแซ่บซี๊ดปาก อ้าาา~”
พายุพูดด้วยความภาคภูมิใจ แต่ผมกลับไม่มั่นใจเอาซะเลย รู้สึกโล่ง ๆ ที่ต้นคอแถมหวิว ๆ ที่ต้นขา
ผมเดินตามพายุเข้าไปในบริษัท โดยมีสายตาของบรรดาพนักงานจ้องผมตลอดทาง พร้อมกับหันไปกระซิบกระซาบคุยกันยกใหญ่
ก๊อก ก๊อก!!
พายุเคาะไปที่ประตูที่มีป้ายเขียนติดด้านหน้าว่า ห้องประชุม
ประตูถูกเปิดออกเผยให้เห็นกลุ่มคนชายฉกรรจ์นับสิบคนกำลังนั่งประชุมกันอย่างเคร่งเครียด
ทันทีที่ประตูเปิดออกทุกสายตาก็จับจ้องมาที่ผมด้วยสายตาตกตะลึง
แต่ที่สะดุดตาจนผมต้องหลบหน้าคือพี่คิงส์ที่จ้องมาที่ผมพร้อมกับสำรวจแทบจะไม่กะพริบตา
“ขอโทษที่รบกวนนะครับ นึกว่าประชุมเสร็จแล้วว่าจะมารับพี่สายฟ้ากลับบ้าน แต่ไหน ๆ ก็มาแล้วขอนั่งฟังประชุมร่วมด้วยเลยละกัน พี่คิงส์คงไม่ว่าอะไรใช่มั้ยครับ”
พายุไม่รอให้เขาตอบ แต่ดันลากแขนผมเข้ามานั่งเก้าอี้ที่ยังว่าง
ผมรู้สึกใจเต้นแรงจนแทบจะทะลุออกมา เมื่อทุกสายตามองมาที่ผมด้วยสายตาหวานหยาดเยิ้ม
มีเพียงสายตาพี่คิงส์เท่านั้นที่บ่งบอกได้ชัดว่าเขาไม่พอใจ และกำลังจะระเบิดออกมาในเร็ว ๆ นี้
“ตามที่ผมบอกไปข้างต้น ปิดประชุม ทุกคนออกไปได้ละ”
พี่คิงส์พูดขึ้นพร้อมกับยกน้ำขึ้นดื่ม
“แต่คุณคิงส์ครับ เรายังไม่ได้ข้อสรุปเรื่อง…”
ปัง!!
พี่คิงส์วางปืนลงบนโต๊ะเสียงดังสนั่นจนคนในห้องอกสั่นขวัญหนีกันหมด
“ปิดประชุม ออกไปได้แล้ว”
เขากดเสียงต่ำเยือกเย็นจนน่าขนลุก บรรดาที่มาร่วมประชุมทั้งหลายต่างหอบเอกสารวิ่งออกจากห้องไม่คิดชีวิต
“เป็นเหี้ยไรของมึงวะไอ้คิงส์ ประชุมยังไม่เสร็จเลย”
พี่สายฟ้าเอ่ยถามอย่างงงงวย
“อารมณ์ไม่ดี”
เขาพูดไม่สบอารมณ์
“มึงมาทำอะไรที่นี่ มันมีแต่ผู้ชาย แล้วแต่งตัวขนาดนี้มึงจะมาอ่อยใคร”
เขาหันมาตะโกนถามจนผมใจหล่นวูบ
“ผมพามันมาเองแหละ อยากพามันออกมาเปิดหูเปิดตาบ้างอยู่แต่ในห้องเป็นเด็กเก็บกดตายห่ากันพอดีแล้วมันก็ไม่ได้มาอ่อยใคร กางเกงมันเปื้อน เลยให้ใส่กางเกงผมแทน”
พายุตอบแทนผมยาวเหยียด แม้มันจะไม่ใช่เรื่องจริงทั้งหมด
“มึงจ้องอะไรไอ้สายฟ้า เดี๋ยวกูก็ยิงลูกตาแตก”
เขาหันไปโวยวายใส่เพื่อนแทน
“เอ้า ก็กูรู้สึกแปลกตาไม่เคยเห็นน้องมันใส่ชุดแบบนี้ แล้วมึงจะมาหงุดหงิดใส่กูทำไมเนี่ย”
“ไอ้พายุ พาพี่มึงกลับไปเลยไป”
“ได้เลยค้าบบพี่คิงส์ แล้วให้ผมแวะไปส่งไอ้ภีมด้วยเลยปะ”
พายุว่าอย่างยิ้ม ๆ
“ไม่ต้องเสือก!! ไปให้พ้น ๆ หน้ากูเลยไปเดี๋ยวกูกระโดดถีบหน้าหงาย”
“หึ หึ โอเคค้าบบ ปะพี่สายฟ้า ปล่อยให้เขาคุยกันดีกว่า แต่ว่า… คุยกันเบา ๆ นะครับพี่คิงส์ พนักงานอยู่ด้านนอกเยอะแยะ”
พูดกับพี่คิงส์จบพายุก็เดินเข้ามาคล้องแขนกอดคอผมไว้หลวม ๆ
“สู้ ๆ นะไอ้เพื่อนรัก”
พายุเอามือขึ้นมายีหัวผมอย่างเอ็นดูเหมือนที่เขาชอบทำประจำ
“เยอะไปละ นั่นเด็กกู”
“หึ หึ แค่นี้ก็หึงแล้วหรอ นี้แค่นิดเดียวเอง ตอนอยู่ด้วยกันผมกับมันมากกว่านี้อีก แถมเมื่อกี้มันยังถอดเปลี่ยนกางเกงตรงหน้าผมด้วยนะ ไปละ”
พายุไม่รอให้ระเบิดลง รีบล็อกประตูแล้วปิดลงทันที
พายุเอ้ยย!! นายไปแต่ตัว แต่กลับทิ้งพายุก้อนใหญ่ให้ก่อตัวขึ้นในห้องนี้แล้ว
“หมายความว่าไง ทำไมได้ไปถอดกางเกงต่อหน้ามัน”
เขากัดฟันกรอดจนผมลอบกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก
“กางเกงมันเปื้อนบนรถน่ะครับ พายุเลยเอากางเกงมาให้เปลี่ยน เขาบอกว่าเปลี่ยนตรงนี้ได้ เป็นผู้ชายด้วยกันไม่ต้องอาย”
“เหอะ กูก็ผู้ชาย มึงก็ผู้ชาย เวลาเอากันทำไมมึงยังอายล่ะ!”
เขาพูดไม่สบอารมณ์
“ผมทำให้พี่คิงส์หงุดหงิดอีกแล้วใช่มั้ยครับ ผมขอโทษนะครับ”
ผมยกมือไหว้อย่างรู้สึกผิด
“เออ ๆ ช่างมันเถอะ แล้วต่อไปนี้ห้ามมึงมาที่ทำงานกูอีก”
“ครับพี่คิงส์”