กริ่งงงง
เสียงกระดิ่งแจ้งเตือนเมื่อถึงคาบวิชาเรียนต่อไป บทสนทนาจบลงเพียงเท่านี้ แม้ท่าทางของเสือไม่พอใจ แต่ขนมจีนก็ยังเรียบเฉยตามสไตล์ ซึ่งเธอไม่ชอบความวุ่นวายอยู่แล้ว จากนั้นแยกย้ายกันกลับเข้าห้องเรียน
เลิกเรียน
"ไม่ให้เราแวะไปส่งแน่เหรอ" อายเดินออกมาเคียงข้างกับเพื่อนสนิทอย่างขนมจีน เธอกำลังรอคนขับรถที่บ้านมารับ "ที่จริงเราให้คนขับรถแวะไปส่งขนมจีนก่อนก็ได้นะ"
"ไม่เป็นไรหรอก พอดีว่าแม่เรานัดที่อาหารแถวนี้เอง นั่งแท็กซี่ไปแป๊บเดียวก็คงถึง"
"ช่วงนี้ขนมจีนเจอแม่บ่อยจังเลย"
"นั่นสิ ช่วงนี้เหมือนแม่มีเรื่องไม่ค่อยสบายใจ"
ฉันได้แต่ส่งยิ้ม ก่อนจะยืนรอเพื่อนสนิทขึ้นรถ พร้อมกับโบกไม้โบกมือให้
สักพักก็ดูข้อความแจ้งเตือนที่แม่ส่งเอาไว้ จากนั้นก็เดินไปยังป้ายโดยสารขึ้นแท็กซี่ไปยังร้านอาหารที่ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัย
"สวัสดีค่ะคุณแม่ มานานหรือยัง" ฉันยกมือไหว้
"เพิ่งมาถึงก่อนหน้าไม่เท่าไหร่ นั่งสิลูก"
"วันนี้คุณแม่ออกมากินข้าวกับหนู คุณลุงเขาไม่ว่าหรือคะ? ช่วงนี้แม่ออกมาบ่อยจะตาย"
"เขายุ่งเรื่องงานนิดหน่อย แม่ก็พอมีเวลา อยากเจอขนมจีนบ้าง เข้ามหาวิทยาลัยปีแรกเป็นยังไง สนุกไหม"
"ก็สนุกดีค่ะ ยังดีที่มีเพื่อนสนิทอย่างอายคอยอยู่เป็นเพื่อน ส่วนคนอื่นก็ไม่ได้สนิทมาก"
คงเพราะฉันมีโลกส่วนตัวสูง ตอนที่เจออายก็เป็นเพราะเราได้อยู่กลุ่มเดียวกันตั้งแต่ย่างก้าวเข้ามามหาวิทยาลัย อายอัธยาศัยดี ชวนพูดคุยจนเราสนิทสนมกันได้อย่างรวดเร็ว
แม่ยิ้มเชิงแสดงออกอย่างดีใจ แต่ใบหน้ากลับมีบางอย่างที่ทำให้ฉันต้องเพ่งเล็ง แววตาของแม่เศร้าโศก คงไม่พ้นเรื่องของคุณลุง..คุณลุงซึ่งเป็นผู้ชายที่คอยดูแลอุปถัมภ์แม่ แต่จะเรียกว่าเป็นสามีภรรยาก็คงไม่ใช่
"แม่มีอะไรไม่สบายใจพูดกับหนูได้นะคะ" ฉันพูดออกไปแบบนั้น จนทำให้แม่ต้องรีบวางแก้วน้ำชา
"ก็ไม่มีอะไรมากหรอก แม่แค่รู้สึกเบื่อๆ"
"คงเป็นเรื่องผู้หญิงคนนั้นอีกแล้วสินะคะ"
"มันก็ไม่ใช่ความผิดของใครหรอก ถ้าใครจะเป็นคนผิด ก็คงเป็นแม่เองนั่นแหละ"
"หนูเข้าใจในสิ่งที่คุณแม่ทำนะคะ"
"ขอบใจลูกมากนะขนมจีน"
มืออุ่นเงื้อมจับแก้มลูกสาวที่นั่งฝั่งตรงข้าม ทั้งคู่รับประทานอาหารมื้อค่ำด้วยกันอย่างสุขสำราญ
จนกระทั่งขนมจีนเดินออกมาส่งแม่ยังหน้าร้าน
ปรากฏว่าพบเจอใครบางคนที่มีบอดี้การ์ดเดินตามหลังตรงดิ่งเข้ามา
ผู้หญิงอายุวัยกลางคนที่ยังงดงามพร้อมเนื้อตัวประดับประดาด้วยเครื่องเพชรราคาแพง
"เธอกับฉันใจตรงกันจังเลยนะ" ผู้หญิงที่ดูราศีจับเอ่ยทักแม่ของขนมจีน "เธอก็ชอบอาหารร้านนี้เหมือนกันเหรอ?"
"เปล่าหรอกค่ะ ดิฉันแค่นัดลูกสาวเอาไว้"
"ไม่เจอกันนาน..ลูกสาวเธอโตขึ้นตั้งเยอะแน่ะ"
"ขนมจีนเข้ามหาวิทยาลัยแล้วค่ะ"
"หวังว่าลูกสาวเธอจะตั้งใจเรียน เพื่อภายภาคหน้าจะดูแลตัวเองได้ ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาผู้ชายหน้าไหน"
"ขอบคุณที่ห่วงใยนะคะคุณหญิง"
"ฉันไม่ได้ห่วงใย ก็แค่กลัวว่าลูกสาวของเธอจะเจริญตามรอย..เป็นเมียน้อย เพื่อฉุดตัวเองออกมาจากที่ต่ำ"
พูดจบท่าทางของผู้หญิงวัยกลางคนที่ดูรวยล้ำย่างก้าวเดินออกไป เชิดหน้าโดยที่ไม่เฉลียวตามองขนมจีนที่จ้องมองด้วยความไม่พอใจ เธอไม่สบอารมณ์อย่างมากทุกครั้งที่เจอกับคุณหญิง ซึ่งเป็นภรรยาของนักการเมืองชื่อดัง แถมต้นตระกูลยังรวยเรียกว่าใช้เงินทั้งชาติก็คงไม่หมด
"เรากลับกันเถอะเดี๋ยวแม่ไปส่ง" เพราะผู้เป็นแม่ออกเดินทางบ่อย วันนี้ก็มาส่งลูกสาวถึงบ้าน ก่อนจะหอบหิ้วกระเป๋าเดินทางไปยังต่างประเทศเพื่อทำงานตามปกติ
หลายวันผ่านไป
"ทำไมวันนี้ขนมจีนถึงมาหาพี่ได้" เสือเปิดประตู เมื่อขนมจีนส่งข้อความหลังจากมาถึงที่คอนโด "เราไม่ได้นัดกันวันนี้ไม่ใช่หรือไง..หรือว่าคิดถึงพี่จนทนไม่ไหว"
"หนูแค่รู้สึกเบื่อไม่มีอะไรทำ แต่ถ้าพี่เสือมีนัดแล้วหนูกลับก็ได้นะคะ"
"เปล่าหรอกพี่ไม่ได้นัดใคร พี่แค่ข้องใจ"
"หนูรู้สึกเบื่อจริงๆ นะคะ พี่เสือทำให้หนูหายเซ็งได้ไหม"
"ขอร้องขนาดนี้ มีเหรอที่พี่จะปฏิเสธ หืมมม ไม่ต้องคิดมากนะ เอาความทุกข์มาลงที่พี่ได้เลย"
ผมใช้มือลูบแก้มสีชมพูแดงคล้ายลูกตำลึงสุก แววตาน่ารักน่าชังออดอ้อนพร้อมกับวาจาอ่อนหวาน หลายครั้งที่ขนมจีนรู้สึกเบื่อเซ็งหรือว่าเหงา เธอจะมาขอให้ผมทำเรื่องอย่างว่า..แล้วเสืออย่างผมจะปฏิเสธได้ไงล่ะ
จะจัดให้ไม่ยั้งเลย