หลายวันต่อมา เขาเปิดประตูเข้าไปข้างในห้องพักผู้ป่วย พร้อมกับขนมของโปรดของมิวนิค ริมฝีปากคลี่ยิ้มบางๆ อีกคนนั่งเก็บโทรศัพท์ลงแล้วมองมาที่เขา พอเดินเข้ามาใกล้จึงเห็นอาหารที่วางเอาไว้ในสภาพเหมือนยังไม่ได้กินสักคำ “ทำไมไม่กินข้าว” เขาถามมิวนิค “มือไม่มีแรง” “เมื่อกี้ยังเห็นเล่นโทรศัพท์อยู่เลย” “ตอนนี้หมดแรงแล้ว พี่วาคีล…” “เดี๋ยวพี่ป้อน” คนป่วยยิ้มแฉ่ง ยังไม่ทันอ้อนขอให้ป้อนข้าว อีกคนก็อาสาเองราวกับอ่านใจได้ สายตาที่วาคีลมองมิวนิคดูเอ็นดูไม่ใช่น้อย เมื่อวางถุงขนมไว้ตรงโต๊ะข้างเตียงผู้ป่วย จึงขยับเข้าไปหาคนตัวเล็ก เลื่อนถ้วยข้าวต้มมาไว้ใกล้ๆ หยิบช้อนมาตักข้าวต้มแล้วยกขึ้นมาเป่า ก่อนจะเลื่อนไปป้อนคนป่วย “ไม่อร่อยเลย สู้พี่วาคีลทำก็ไม่ได้” “หึ กินไปก่อน อย่าเพิ่งบ่น” “คิดถึงอาหารฝีมือพี่วาคีล เบื่อข้าวโรงบาลแล้ว” “ทนเอาหน่อย เดี๋ยวก็ออกแล้ว” “เมื่อไหร่อะ มิวเบื่อที่นี่แล้ว” “มีพี่อย