กลับมาจวนตระกูลกงอีกครั้ง

1367 คำ
เยว่ชิงยกยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย เมื่อชาติที่แล้วก็เอ่ยกับนางเช่นนี้ เพื่อให้นางวุ่นวายอยู่กับการดูแลมารดาของเขา “เห็นทีจะไม่ได้ เจ้าไม่ได้ยินที่นางพูดรึ ให้พามารดาเจ้ามาที่โรงหมอ” เว่ยอ๋องเอ่ยเสียงเย็นออกมา “เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับท่านกระมังท่านอ๋อง มารดาของข้ามิอาจลุกขึ้นจากเตียงได้ จะพานางมาได้อย่างไรเล่า” เขาเอ่ยออกมาอย่างไม่พอใจ ที่เว่ยอ๋องมาขัดขวางเขาเช่นนี้ “ช่างเถิด ข้าจะไปดูนางเสียหน่อย” เยว่ชิงไม่อยากฟังพวกเขาทะเลาะกัน และนางก็เหนื่อยมากแล้วด้วยวันนี้ นางไม่อยากให้ตระกูลกงหาเรื่องปล่อยข่าวว่านางใจแคบไม่ยอมไปตรวจให้ตู้ซื่อที่จวน “เช่นนั้นเปิ่นหวางจะไปกับเจ้าด้วย” เยว่ชิงโบกมือแล้วแต่เขาเลย นางเดินกลับเข้าไปเตรียมของ ก่อนจะพาอาอิงไปที่รถม้าเพื่อไปที่จวนตระกูลกง นางก็อยากจะเห็นว่าตู้ซื่อล้มป่วยจริงหรือนางเพียงแต่แสดงงิ้วเช่นเมื่อชาติที่แล้ว เว่ยอ๋องกระโดดขึ้นมานั่งรถม้าของเยว่ชิง เขาหันไปยิ้มเยาะให้กงหลี่เฉียงที่ในตอนแรกเขาจะขึ้นมานั่งคันของนาง “คุณชายกง หากท่านจะนั่งคันนี้เห็นทีจะไม่ได้ เปิ่นหวางไม่ชอบนั่งเบียดกับผู้ใด” เยว่ชิงที่นั่งกุมขมับอยู่ในรถม้า ปรายตามองเว่ยอ๋องอย่างไม่สบอารมณ์ “ท่านไม่ชอบนั่งเบียดกับผู้ใด แล้วจะมานั่งรถม้าหม่อมฉันเพื่ออันใดเล่า” “นั่งเบียดกับเจ้าได้” เขานั่งลงข้างนางโดยไม่สนสายตาที่มองมาอย่างไม่พอใจของเยว่ชิง “ท่านชอบให้ถูกเนื้อต้องตัวสตรีเช่นนี้รึ” นางอดจะถากถางเขาไม่ได้ เมื่อเขามานั่งชิดกับนาง “เหอะ ชิงชิง นางคณิกาพวกนั้น เพียงต้องการแสดงให้ผู้อื่นเห็นว่าสนิทสนมกับเปิ่นหวาง แต่แท้จริงแล้วเปิ่นหวางไม่เคยเรียกพวกนางมานั่งข้างกายเลยสักครั้ง” เขาเอ่ยออกมาอย่างน่าสงสาร ราวกับว่าตนเองเป็นผู้ถูกกระทำ “ท่านจะแสดงให้ผู้ใดดู” นางผลักตัวเขาให้ออกห่างจากนาง “ชิงชิง เจ้าไปถามอาซีได้ เรื่องนี้เปิ่นหวางถูกใส่ร้าย” เว่ยอ๋องวางศีรษะของเขาที่ไหล่มนของนาง “ท่านอ๋อง มันจะมากไปแล้วเพคะ” นางเอ่ยเสียงลอดไรฟันออกมา “เจ้าคิดเช่นไร ถึงได้ยอมมาตรวจให้ตู้ซื่อ” เขารีบเปลี่ยนเรื่องทันที แต่ศีรษะก็ยังวางอยู่เช่นเดิม “หม่อมฉันอยากจะเห็นด้วยตาของตนเอง ว่านางล้มป่วยจริงหรือเพียงแค่เล่นงิ้ว” เยว่ชิงที่เริ่มจะเหนื่อยล้าก็พิงหัวกับผนังรถม้า พร้อมทั้งหลับตาลง เว่ยอ๋องที่เห็นเช่นนั้น ก็ประคองนางให้หลับอยู่ในอ้อมอกของเขาแทน “คุณหนูถึงแล้วเจ้าค่ะ” เสียงของอาอิงร้องบอกว่าถึงจวนตระกูลกงแล้ว “อืม” เยว่ชิงตอบรับ ก่อนจะลืมตาขึ้นช้าๆ นางจึงได้รู้ว่านางอยู่ในอ้อมกอดของเว่ยอ๋อง “ท่านอ๋อง” นางเอ่ยตำหนิเขา “ก็เจ้าหลับ จะให้เปิ่นหวางทำเช่นใด เปิ่นหวางรึอุตส่าห์หวังดีแต่กลับถูกเจ้าตำหนิได้” “เอาเถิดเจ้าค่ะ เป็นหม่อมฉันที่ผิด” นางขี้เกียจจะเถียงกับเขาแล้ว เมื่อลงมาจากรถม้าก็เห็นว่ากงหลี่เฉียงรอรับนางอยู่ที่ทางลงของรถม้า “ไม่รบกวนคุณชายกง นางมากับเปิ่นหวาง เปิ่นหวางดูแลนางได้” เว่ยอ๋องยื่นมือไปรับเยว่ชิงเพื่อพาลงจากรถม้า ครั้งนี้นางเอื้อมมือไปจับที่มือของเขา ก่อนจะเดินเข้าไปด้านในจวนกับอาอิง โดยไม่รู้ว่าบุรุษสองคนข้างหลังนางกำลังส่งสายตาสังหารกันอยู่ กงหลี่เฉียงมองเว่ยอ๋องอย่างโกรธแค้น ยิ่งเว่ยอ๋องกำลังยิ้มเยาะเขาอยู่ ก็ยิ่งทำให้เขาอยากจะพุ่งเข้าไปทำร้ายเสียให้สาสม แต่หากทำเช่นที่ใจคิด โทษทำร้ายเชื้อพระวงศ์เขาคงมิอาจรับไว้ได้ เยว่ชิง นางดินเข้าไปที่เรือนของตู้ซื่อ โดยไม่ต้องมีผู้ใดมานำทาง จนอาอิงก็อดที่จะแปลกใจไม่ได้ ว่าคุณหนูของนางรู้ได้อย่างไรว่าเรือนของตู้ซื่ออยู่ที่ใดในจวน “คุณหนู ท่านรู้หรือยังเจ้าคะ ว่าเรือนพักของฮูหยินกงอยู่ที่ใด” เยว่ชิงชะงักฝ่าเท้าทันที นางลืมไปได้อย่างไรว่า ในชาตินี้ตัวนางยังมิเคยมาเยือนที่เรือนหลังของตระกูลกง เมื่อก่อนที่เคยมาก็เพียงอยู่ที่ห้องโถงเรือนหลักเท่านั้น “จริงด้วย ข้าจะรู้ได้อย่างไร” นางยิ้มเยาะตนเองออกมา ที่ยังไม่ลืมทุกส่วนที่อยู่ในจวนตระกูลกง ระหว่างที่สองนายบ่าวกำลังสนทนาและหยุดรอให้กงหลี่เฉียงมานำทาง ด้านหน้าก็มีเสียงใสของสตรีเอ่ยขึ้น “เจ้าเข้ามาได้อย่างไร” ซิงเยียนเร่งฝีเท้าเดินเข้ามาอย่างไม่พอใจ เยว่ชิงเพียงปรายตามอง แล้วเก็บสายตากลับมาทันที นางไม่คิดอยากจะสนทนากับซิงเยียนให้มากความ “ข้าถามเจ้า เหตุใดไม่พูด” ซิงเยียนเดินเข้ามาใกล้ อาอิงจึงได้ไปขวางอยู่ตรงหน้าเยว่ชิงเพราะกลัวว่านางจะทำร้ายคุณหนูของตน “หึ ถามสามีเจ้าดีหรือไม่ ว่าเหตุใดถึงต้องไปตามข้ามาอย่างร้อนใจเช่นนี้” นางยิ้มเยาะซิงเยียน ในชาติที่แล้วเป็นนางที่ถูกทำให้ขาดสติ โวยวายกลายเป็นสตรีใจแคบ ส่วนซิงเยียนนางเป็นดั่งแม่ดอกบัวขาวที่ควรค่าแก่การทะนุถนอม นางก็อยากจะรู้ว่าชาติน้ำซิงเยียนยังจะรักษาหน้ากากของนางไว้ได้หรือไม่ “เจ้า ข้าไม่เชื่อ คงเป็นเจ้าที่วิ่งโร่เข้ามาที่จวนเช่นนี้” นางเดินเข้ามาผลักตัวอาอิงออกให้สาวใช้ของนางจับตัวไว้ ก่อนที่จะเข้ามาทำร้ายเยว่ชิง เยว่ชิงเบิกตากว้างอย่างตกใจ นางไม่คิดว่าซิงเยียนจะกล้าทำร้ายนาง แต่คนเช่นนางหรือจะยอมให้ผู้ใดมารังแกได้ ตำราการแพทย์ของท่านพ่อ มิได้มีเพียงความแค่ให้ศึกษาวิธีการรักษาและประโยชน์ของสมุนไพร ยังบอกจุดชีพจร ทั้งยังตำแหน่งที่ถูกทำร้ายแล้วจะเจ็บปวดที่สุดและยังไม่ทิ้งร่องรอยไว้ให้คนรู้อีกด้วย แต่นางไม่คิดจะทำร้ายซิงเยียนจนถึงเจ็บหนักเช่นนั้น เมื่อซิงเยียนกระชากตัวเยว่ชิงเข้ามาเพื่อตบตีนาง เยว่ชิงใช้สันมือกระแทกเข้าไปที่ลิ้นปี่ของนาง เป็นจังหวะเดียวกันที่ฝ่ามือของซิงเยียนตบลงมาที่ใบหน้าของเยว่ชิง แม้จะไม่เต็มแรงของนาง แต่ก็ทำให้ผิวหน้าที่ขาวผ่องของเยว่ชิงเกิดรอยแดงขึ้นมาทันที กงหลี่เฉียงและเว่ยอ๋องเดินเข้ามาเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดพอดี จากสายตาของทั้งคู่ทำให้เห็นว่าซิงเยียนกำลังทำร้ายเยว่ชิง โดยที่เยว่ชิงเพียงแค่ผลักตัวซิงเยียนออกไป “ชิงชิง/ชิงชิง” ทั้งสองร้องเรียกนางออกมาพร้อมกัน เว่ยอ๋องถึงตัวเยว่ชิงก่อน เมื่อเห็นรอยแดงบนใบหน้าของนาง เขาก็มองไปที่ซิงเยียนอย่างโกรธแค้น กงหลี่เฉียงทรุดตัวนั่งลงข้างเยว่ชิงเช่นกัน “คุณชายกง เจ้าควรจะไปดูภรรยาของเจ้า” เขามองกงหลี่เฉียงอย่างตำหนิ “โอ๊ยยย ท่านพี่ ข้าปวดท้องเจ้าค่ะ” ซิงเยียนร้องโอดครวญ นางจุกท้องไปหมด “ลุกขึ้นเสีย เหตุใดเจ้าถึงทำร้ายคุณหนูหลิวเช่นนี้!!!” กงหลี่เฉียงมองซิงเยียนอย่างไม่พอใจ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม