ตอนนี้นิลินกำลังเฝ้าโทษตัวเอง ที่เกือบจะเผลอใจให้กับคนตัวโต ทั้งที่มันไม่ควรจะเกิดขึ้น เพราะตลอดเวลาเธอพยายามพาตัวออกห่างเขา และทำตัวเฉยชาเพื่อปิดกั้นความรู้สึกที่มี ซึ่งมันเพิ่มมากขึ้นทุกวันโดยที่เธอเองก็ไม่รู้ตัว เมื่อตั้งสติได้เธอก็ลุกขึ้นไปจัดการตัวเองในห้องน้ำ ก่อนจะออกมาแต่งตัวแล้วนั่งทำงานต่อ
ราวกับว่าเรื่องที่เกิดขึ้นมันไม่มีผล แต่เปล่าหรอกตอนนี้เธอไม่สามารถจะกดแป้นพิมพ์สร้างผลงานอะไรได้เลย จนกระทั่งเอาหน้าฟุบลงกับโต๊ะ แล้วบ่นให้ตัวเองอยู่แบบนั้นจนกระทั่งพลบค่ำ ก็ไม่มีอะไรปรากฏบนหน้าจอ
“บ้าจริงหกโมงแล้วเหรอเนี่ยะ” เสียงบ่นอุบอิบให้ตัวเองดังขึ้น ก่อนจะลุกขึ้นบิดขี้เกียดสองสามที ร่างเล็กเดินลงมาจากด้านบนก็สอดส่องหาใครบางคนไปด้วย เพราะไม่อยากเจอหน้าเขาในตอนนี้
“นายไม่อยู่หรอกครับ ไปตรวจคาสิโนแล้ว” กันตะพูดขึ้นเมื่อเห็นท่าทีของนายหญิง นิลินหันมายิ้มแห้งใส่ ก่อนจะเดินลงมาตัวปลิวต่างจากทีแรก ทำเอากันตะถึงกับนึกขำขึ้นมา เพราะปกตินิลินไม่เคยจะกลัวเจ้านายเขาขนาดนี้ แต่พอเจออีกฝ่ายแอบเข้าห้อง ก็ถึงกับต้องระวังตัวราวกับหนีมือปืนซะอย่างนั้น
“ตั้งโต๊ะเลยนะคะ”
“จ๊ะป้า” นายหญิงของบ้านตอบพร้อมกับส่งยิ้มให้เช่นทุกวัน แต่ยังไม่ทันที่จะได้ลงมือทานอะไรก็มีเสียงดังขึ้น พร้อมกับร่างเพรียวของใครบางคนเดินเข้ามา
“แหม! น้องนิลขอพี่ทานด้วยสิจ๊ะ กำลังหิวพอดี”
“พี่นารามาได้ยังไงคะ” นิลินถามขึ้นอย่างสงสัย ถ้ามาแต่ตัวเธอคงไม่แปลกใจนัก แต่ดันมีกระเป๋ามาด้วยนี่สิ ซึ่งไม่ใช่แค่นิลินหรอกที่แปลกใจกับเรื่องนี้ เพราะกันตะก็ยืนจ้องเขม็งอยู่เหมือนกัน เพราะไม่นึกชอบสาวสวยคนนี้เลย
“แหม! พูดอะไรแบบนั้นจ๊ะ พี่ก็แค่จะมาขออาศัยพึ่งใบบุญของน้องสาวเท่านั้น ตอนนี้คุณพ่อคุณแม่ไปต่างประเทศแล้ว ไม่มีใครอยู่ที่บ้านเลยพี่กลัวก็เลยว่าจะมาขออาศัยอยู่ที่นี่สักระยะ นิลคงไม่ไล่พี่กลับไปใช่ไหม”
นิลินมองอีกฝ่ายที่จีบปากจีบคอพูดจนเธอรู้สึกอายคนสนิทของมาเฟียหนุ่ม เพราะที่นี่มันไม่ใช่บ้านของเธอ แม้จะเป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายก็เถอะ
“เอ่อ!เรื่องนี้ต้องถามคุณคิมหันต์นะคะ ระหว่างนิลกับเขาแต่งกันเพราะอะไรพี่ก็รู้ดี ที่นี่ไม่ใช่บ้านนิล”
“นายสั่งว่าคุณนิลมีสิทธิ์ในบ้านนี้ครึ่งหนึ่งครับ” กันตะตอบไปอย่างที่ได้รับคำสั่งมา ตั้งแต่คิมหันต์ออกจากโรงพยาบาล ทำเอานารากัดฟันทันที เพราะไม่คิดว่ามาเฟียหนุ่มจะหลงน้องสาวเธอมากขนาดนี้
“ถ้างั้นพี่กันย์ช่วยบอกเขาให้ด้วยนะคะ ว่าพี่นาราจะมาพักที่นี่สักระยะ วานใครสักคนจัดห้องให้ด้วยนะคะ”
นิลินเอ่ยบอกก่อนจะหันกลับมาลงมือทานอาหารต่อ ส่วนนาราก็ยกยิ้มชอบใจมองไปรอบบ้านที่ดูหรูหราโอ่อ่ามากกว่าบ้านเธอเสียอีก นี้สินะเศรษฐีหมื่นล้าน
“แล้วนี่สามีนิลไม่อยู่เหรอจ๊ะ”
“ไปทำงานมั้งคะ” นิลินตอบเสียงเรียบและดูท่าจะไม่ได้ใส่ใจเลยแม้แต่น้อย ทำเอากันตะถึงกับอึ้งในความใจเย็นของเธอ เพราะดูก็รู้ว่าพี่สาวนั้นตั้งใจจะมาจับเจ้านายเขาแน่ๆ เพราะก่อนนี้กันตะได้ยินที่สามสาวคุยกันที่โรงพยาบาล และเล่าให้เจ้านายฟังแล้วด้วย
“นี่ยัยนิลแกไม่คิดจะตามไปดูเขาหน่อยเหรอ ผู้ชายที่รวยขนาดนี้แถมยังหล่อหุ่นดีอีกต่างหาก เขาอาจจะนอกใจไปมีบ้านเล็กบ้านน้อยก็ได้นะ”
นาราพูดขึ้นเพื่อยุให้น้องสาวคิดตาม ทำเอากันตะอดที่จะหงุดหงิดไม่ได้ แต่ก็ต้องยืนนิ่งเพราะนายหญิงยังคงทานข้าวอยู่ก่อนเธอจะรวบช้อนวางคู่กัน
“แล้วแต่เขาเถอะค่ะ อีกไม่นานก็หย่ากันแล้ว พี่มาที่นี่ก็เพราะอยากเป็นบ้านเล็กไม่ใช่เหรอ ถึงหิ้วกระเป๋ามาแบบนี้ ยังไงก็ขอให้ทำได้สำเร็จแล้วกัน เพราะนิลไม่เอาผู้ชายมักมากมาเป็นพ่อของลูกแน่ ไม่ต้องกลัวว่านิลจะกั๊กนะคะ”
นารายิ้มออกมาทันที ก่อนจะมองตามร่างของน้องสาวที่เดินกลับขึ้นด้านบนไปแล้ว กันตะรีบเดินเลี่ยงออกมาพร้อมกับกดโทรหาเจ้านายในทันที เขาเล่าทุกอย่างให้คิมหันต์ฟังทุกถ้อยคำที่คนตัวเล็กเอ่ย
นัยน์ตาคมหรี่ลงเล็กน้อยในขณะที่กำลังจะเซ็นเอกสารตรงหน้า ก่อนจะผลักทุกอย่างออกไปกองไว้อีกมุมเสียดื้อๆ ทำเอาสินชัยถึงกับคิ้วขมวดเป็นปม เมื่อเห็นเจ้านายท่าทางแปลกไป ทั้งที่ตอนแรกอารมณ์ดีอยู่แท้ๆ
“มีอะไรหรือเปล่าครับนาย”
“ลูกสาวคนโตของเจ้าสัวหิ้วกระเป๋าเข้ามาขอค้างที่บ้านน่ะสิ แล้วนิลินก็ยอมให้พักด้วยนะ”
“แบบนี้ก็เข้าทางผู้หญิงคนนี้เลยสิครับ” สินชัยเอ่ยอย่างเป็นกังวล เพราะเขาเองก็รู้เรื่องที่นาราต้องการจะจับเจ้านายแล้ว แต่ไม่คิดว่านายหญิงจะเปิดโอกาสให้พี่สาวขนาดนี้ แสดงว่าเธอคงไม่สนใจเจ้านายเขาจริงๆ
“ดูเหมือนคุณนิลเธอจะไม่รู้สึกอะไรกับนายเลยนะครับ แบบนี้ยังคิดจะรั้งเธอไว้อีกเหรอ”
“แล้วมึงจะให้กูปล่อยเธอไปเผชิญกับไอ้เสี่ยโรคจิตนั้นเหรอ อย่างน้อยอยู่ในฐานะเมียกูก็น่าจะดีกว่าไหม” คิมหันต์พูดในสิ่งที่เขาวางแผนเอาไว้
“แล้วทางเจ้าสัวจะยอมเหรอครับ อีกอย่างหนี้ก็ไม่ใช่น้อยๆ ถึงคุณนิลจะพยายามหามาใช้ก็เถอะ”
พอได้ฟังถึงตรงนี้คิมหันต์ก็อดสงสารคนตัวเล็กไม่ได้ เขารับรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับเธอแล้ว มันไม่ใช่เรื่องยากที่คนมีอิทธิพลอย่างครอบครัวเขาจะสืบ
“ไม่ยอมแล้วจะทำอะไรได้ ในเมื่อฉันไม่คิดจะหย่า” เสียงหนักแน่นดังขึ้นก่อนจะคิดอะไรออก เขาอยากพิสูจน์บางอย่างให้รู้ก่อนที่จะเดินหน้าทำบางสิ่ง เพราะเวลามันกระชันชิดเข้ามาจนกลัวจะเสียภรรยาในนามไปจริงๆ ถึงแม้จะเสียงแข็งว่ายังไงก็ไม่หย่าก็เถอะ แต่ถ้านิลินไม่ยอมขึ้นมาจริงๆ เขาก็คงบังคับไม่ได้
สามทุ่มที่ควรจะเป็นช่วงของการสำรวจตรวจงานในคาสิโนของคิมหันต์ ตอนนี้เขากลับยืนอยู่ที่หน้าห้องของคนตัวเล็ก ก่อนจะเคาะประตูเรียกให้เธอเปิด ซึ่งไม่นานก็ปรากฏร่างของอีกฝ่าย ภายใต้เสื้อยืดเอวลอยตัวเล็ก และกางเกงขาสั้นที่เธอใส่นอนประจำ
นิลินตกใจในทันทีเพราะไม่คิดว่าจะเป็นคนตัวโตไปได้เพราะก่อนนี้นารามาขอยืมที่ชาร์จแบต เพราะลืมเอามาจากที่บ้านด้วย เธอคิดว่ามันอาจใช้ด้วยกันไม่ได้ พี่สาวเลยจะเอามาคืน ถึงได้เปิดออกโดยไม่ถามเสียก่อน ยิ้มร้ายผุดขึ้นบนหน้าหล่อก่อนจะดันประตูเข้าไป เขาเบียดตัวเข้ามาโดยไม่ลังเลสักนิด ทำเอานิลินต้องรีบวิ่งหนีไปที่เตียงแล้วดึงผ้ามาคลุมจนถึงคอ
“ออกไปนะ นิลแต่งตัวไม่เรียบร้อยคุณก็เห็น”
“เห็นครับ ก้นกลมๆ น่าตีมากด้วย” คิมหันต์พูดออกมาหน้าตาย ก่อนจะถอดถุงเท้าออกแล้วคลานขึ้นเตียง ทำเอาคนตัวเล็กตัวสั่นงันงก เพราะสายตาเขามันไม่ต่างจากเมื่อกลางวันเลย เธอจ้องเขานิ่งดูว่าอีกฝ่ายจะทำอะไร
“นิลจะนอนหรือยัง หรือต้องทำงานอีก” เขาถามเสียงอ่อนโยน ทำเอาคิ้วเรียวขมวดเข้าหากันทันที เพราะไม่รู้อีกฝ่ายจะมาไม้ไหนกันแน่
“คุณต้องการอะไร ทำไมถึงต้องมายุ่งวุ่นวายกับฉันขนาดนี้ ถ้าอยากมากก็ไปหาผู้หญิงของคุณสิ”
นิลินพูดเสียงจริงจัง พร้อมกับจ้องอีกฝ่ายเขม็ง ทำเอาคิมหันต์อดยิ้มเอ็นดูท่าทางที่เหมือนกับแมวขู่นี้ไม่ได้ เขาลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียงมองคนตัวเล็กก่อนจะพูดขึ้น
“เฮียอยากให้เราอยู่ด้วยกันต่อไป นิลพูดเองไม่ใช่เหรอว่าจะไม่เอาผู้ชายกินไม่เลือกมาเป็นพ่อของลูก แต่ถ้าเฮียไม่ยุ่งกับใครแล้วละ นิลจะยอมให้เฮียเป็นพ่อของลูกไหม”
นิลินมองหน้ามาเฟียหนุ่มนิ่งอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะเผยยิ้มที่มุมปากออกมาราวกับเยาะเขา
“หึ! ผู้ชายมักมากอย่างคุณน่ะเหรอที่จะหยุดได้ ทั้งที่คุณเอาไม่เลือกควงไม่ซ้ำ แต่บอกว่าจะหยุดเพราะฉันเนี่ยะนะ ถามจริงคุณชอบฉันเหรอ ถึงกล้าเอาชีวิตมาผูกติดด้วยแบบนี้ มาเฟียใหญ่ที่ปิดเรื่องตัวเองแต่งงานแล้ว แต่กลับบอกว่าอยากมีครอบครัว หึ! น่าเชื่อตายล่ะ”
เสียงหวานยังคงเอ่ยเย้ยหยันอีกฝ่ายซึ่งหน้า จนคิมหันต์ถึงกับหน้าชาไปพักหนึ่ง ก่อนจะพูดออกมาอีกครั้งจนคนฟังถึงกับนิ่งไป
“ตอนแรกก็ไม่ได้ชอบหรอก แต่ไม่รู้ตอนไหนเหมือนกันที่เฮียละสายตาจากนิลไม่ได้” คำสารภาพตรงๆ ของมาเฟียหนุ่มทำเอานิลินอายจนหน้าแดง ตอนนี้ใบหน้าเธอมันเห่อร้อนและลามไปยังหู จนคิมหันต์สัมผัสได้เพราะนั่งอยู่ใกล้กันมาก
“เฮียชอบนิลนะ ไม่ใช่บอกเพราะอยากจะจับกิน แต่เฮียอยากเป็นคนปกป้องนิลในทุกๆ เรื่อง อย่าคิดว่าเป็นเพราะนิลช่วยเฮียครั้งนั้น แล้วพูดแบบนี้มันคนละเวลากัน เฮียอาจจะชอบนิลตั้งแต่เราเจอกันในวันที่นิลเดินลงมาจากบันไดแล้ว เพราะทุกอย่างในร่างกายนี้จดจำแค่สัมผัสจากนิลคนเดียว เฮียไม่เคยยุ่งกับใครนานแล้วตั้งแต่พบนิล”
“ตะ แต่ข่าว” นิลินถามขึ้นอย่างลืมตัว
“เด็กโง่ เฮียเป็นนักธุรกิจก็ต้องมีบ้างที่ผู้หญิงจะเข้าหา แต่ก็แค่ควงกันเท่านั้น แล้วก็จ่ายค่าตอบแทนให้ แต่ไม่เคยไปต่อบนเตียงกับใครเลยนะครับ สาบานได้”
คิมหันต์พูดพร้อมกับยกนิ้วทำท่าทางไปด้วย ทำให้นิลินลืมตัวขำออกมากับสิ่งที่เขาทำ พอเห็นแบบนั้นคิมหันต์ก็เอื้อมมือมาสัมผัสแก้มเนียน ก่อนที่อีกฝ่ายจะพยายามหันหนี เพราะกลัวใจตัวเองขึ้นมา
“อย่าหลบตากันสิครับ ให้เฮียได้เห็นว่านิลไม่ได้รังเกียจที่จะมีผัวแก่แบบเฮียนะ”
“แก่อะไรกัน เอวดุขนาดนั้น อุ๊บ!” นิลินยกมือปิดปากทันที อุตส่าห์เก็บความลับมาตั้งสองปี ดูท่าอีกฝ่ายจะรู้ก็คราวนี้ มาเฟียหนุ่มยกยิ้มก่อนจะรั้งใบหน้าหวานหันมา
“จากวันนั้นก็ไม่เคยเอวดุใส่ใครเลยนะคะ เชื่อเฮียนะ” นิลินจ้องตาอีกฝ่ายนิ่งราวกับถูกมนตร์สะกด ก่อนที่ทุกอย่างมันจะพร่ามัวเมื่อริมฝีปากหนาของมาเฟียหนุ่มเริ่มแนบลงมา และละเลียดชิมความหอมหวานด้านใน ซึ่งใจแกร่งของคิมหันต์มันก็โลดแล่น ราวกับว่าเขาได้กลับไปสู่ช่วงของวัยรุ่นอีกครั้ง