บทที่ 4 ต่อปากต่อคำกับนางร้าย

1833 คำ
บทที่ 4 ต่อปากต่อคำกับนางร้าย หลังจากมื้ออาหารจบลง ความตึงเครียดในห้องยังคงไม่คลายไปไหน ความเงียบกดทับทุกคนอยู่จนแทบหายใจไม่ออก ฉันลุกขึ้นจากโต๊ะอาหารแล้วเดินไปทางห้องนั่งเล่น มองออกไปนอกหน้าต่างเพื่อสงบจิตใจ แต่ความคิดในหัวกลับปั่นป่วนไม่หยุด “คุณหนูลินนา…” เสียงของไอรีนดังขึ้นจากด้านหลังฉัน ฉันหันไปมองเธอ พยายามไม่แสดงอารมณ์มากนัก “มีอะไรเหรอคะคุณไอรีน?” ไอรีนยิ้มแบบไม่ค่อยเต็มใจนัก ก่อนจะเดินเข้ามาหาฉัน “ฉันรู้ว่าคุณคงรู้สึกไม่ดีที่ถูกใส่ร้ายแบบนี้…” น้ำเสียงของเธอแฝงไปด้วยความหวาน แต่ก็แอบเจือด้วยการยั่วยุเล็กน้อย “แต่นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีคนทำแบบนี้กับคุณนะคะ” ฉันนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะยิ้มให้เธอ “แล้วคุณคิดว่าฉันควรจะทำยังไงคะ?” “อย่าทำให้มันยิ่งแย่ไปกว่าเดิมค่ะ” เธอพูดต่อด้วยความคิดที่ดูเหมือนจะเป็นห่วง “คุณรู้อยู่แล้วว่าคุณเป็นใครในสังคมนี้ คุณไม่อยากให้เรื่องมันบานปลายไปกว่านี้หรอกใช่ไหม?” “เรื่องนี้จะบานปลายหรือไม่ ขึ้นอยู่กับว่าใครจะเป็นคนตัดสินค่ะ” ฉันตอบอย่างมั่นใจ “และถ้าคุณคิดว่าเรื่องนี้จะทำให้ฉันยอมแพ้ แล้วก็… ฉันต้องขอโทษที่ทำให้คุณผิดหวังนะคะ” ไอรีนขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะยิ้มอีกครั้ง “ฉันไม่ได้ต้องการให้คุณยอมแพ้หรอกค่ะ” เธอก้าวเข้ามาใกล้ ๆ “แค่หวังว่าคุณจะคิดถึงผลลัพธ์ของมันให้ดี ถ้าคุณคิดว่าคุณจะเป็นผู้บริสุทธิ์ในเรื่องนี้จริง ๆ ก็ยินดีด้วยค่ะ แต่ถ้ามีอะไรบางอย่างที่คุณไม่รู้หรือไม่เห็น… คุณก็อาจจะเจ็บตัวไปด้วยก็ได้นะคะ” ฉันรู้ดีว่าเธอกำลังเล่นเกมจิตวิทยากับฉัน เธอพยายามจะบอกให้ฉันหวั่นไหว แต่ฉันก็ไม่ใช่คนที่จะยอมให้ใครมาหักคอได้ง่าย ๆ “คุณไอรีน…” ฉันพูดเสียงต่ำ “ถ้าคุณต้องการให้ฉันกลัว คุณคงคิดผิดแล้วล่ะค่ะ เพราะการทำตัวเป็นแพะรับบาปมันไม่ใช่ทางของฉัน” ไอรีนหยุดยิ้มทันที เธอจ้องฉันด้วยแววตาคม ๆ ก่อนจะเดินถอยหลังไปเล็กน้อย “ดีค่ะ… ถ้าคุณอยากจะเล่นเกมนี้ต่อไปก็เชิญเลย” ฉันไม่ได้ตอบอะไรกลับไป แต่ในใจฉันรู้ดีว่านี่เพิ่งจะเป็นแค่จุดเริ่มต้นของเกมที่ฉันไม่สามารถหลีกหนีได้ เมื่อไอรีนเดินออกไป ฉันหันมองไปทางห้องนั่งเล่นที่ดูเงียบเหงา และในขณะเดียวกัน ฉันก็รู้ว่าการต่อสู้ครั้งนี้ยังไม่จบลงง่าย ๆ และฉันจะต้องพร้อมที่จะรับมือกับทุกความท้าทายที่กำลังจะมาถึง “แพะรับบาปหรือไม่…” ฉันพึมพำกับตัวเองเบา ๆ “ให้มันเป็นเรื่องของเวลาละกัน” ฉันไม่สามารถปล่อยให้ใครมาทำให้ชีวิตฉันพังได้ง่าย ๆ หรอกนะ เวลาผ่านไปไม่นานนัก ฉันก็พบว่าเรื่องราวของฉันเริ่มถูกพูดถึงมากขึ้นในบ้านนี้ แม้จะพยายามหลีกเลี่ยงการพูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ก็เหมือนมีอะไรมันคอยตามมาไม่ห่าง หลังจากเหตุการณ์ในมื้ออาหาร ทุกคนกลับไปที่ห้องของตัวเอง ส่วนฉันกลับมานั่งที่ห้องนั่งเล่นที่เดิม เงียบสงบแต่ไม่ว่างเปล่า ฉันรู้ว่าคงต้องเจอกับการทดสอบครั้งใหญ่ในอีกไม่นานนี้ “คุณหนู” เสียงของกอหญ้าดังขึ้นจากประตู เมื่อเธอเดินเข้ามาพร้อมกับถาดเครื่องดื่ม “มีอะไรเหรอ?” ฉันเงยหน้าขึ้นมอง “คุณหนูคะ มีคนมาเยี่ยมค่ะ” กอหญ้าพูดพร้อมกับยิ้ม “คุณสุธาเองค่ะ เขาบอกว่าอยากคุยกับคุณหนู” คำว่า “คุย” ที่กอหญ้าพูดทำให้ฉันรู้สึกไม่สบายใจทันที ตอนนี้ฉันไม่มั่นใจเลยว่าเขาจะมาพูดอะไร “ให้เขาเข้ามาเถอะ” ฉันพูดเสียงเรียบ ไม่อยากให้เขารู้ว่าฉันกำลังกลัว เมื่อประตูห้องเปิดออก สุธาก็เดินเข้ามาในห้อง ท่าทางของเขายังคงเย็นชาและขึงขังเหมือนเดิม การที่เขาเข้ามาในห้องนี้เหมือนการทิ้งความรู้สึกที่ติดอยู่ในใจไว้อีกครั้ง “ลินนา” เขาพูดเสียงหนัก “ผมคิดว่าคุณน่าจะเข้าใจสถานการณ์ตอนนี้ดี” ฉันมองไปที่เขา ไม่พูดอะไรสักพัก ก่อนจะเอ่ยออกมาอย่างเยือกเย็น “ใช่ค่ะ ฉันเข้าใจดี” สุธาเดินเข้ามาใกล้ ๆ แล้วมองมาที่ฉันอย่างจริงจัง “คุณรู้ไหมว่าคุณกำลังทำอะไรอยู่?” น้ำเสียงของเขาทำให้รู้สึกเหมือนเขากำลังข่มขู่มากกว่าคำถาม “ฉันแค่พูดความจริง” ฉันตอบกลับไป “ถ้าคุณคิดว่าฉันทำผิด คุณก็คงต้องมีหลักฐานที่จะพิสูจน์มันออกมา” สุธาหยุดไปชั่วขณะ ก่อนจะยกมือขึ้นกุมขมับ เขาหมุนตัวกลับไปนั่งที่โซฟาด้านข้าง คิ้วของเขาขมวดแน่น “การพูดความจริงไม่ใช่สิ่งที่ทุกคนต้องการได้ยินเสมอไป” เขาพูดเบา ๆ “คุณรู้ไหมว่าไอรีนเสียใจแค่ไหนที่คุณผลักเธอลงบันได?” “ถ้าไอรีนคิดว่าฉันทำแบบนั้นจริง ๆ ก็ขอให้เธอไปหาหลักฐานมาพิสูจน์” ฉันพูดด้วยน้ำเสียงนิ่ง ๆ ที่แฝงไปด้วยความโกรธ เขาหันมามองฉันด้วยสายตาที่ไม่พอใจ “คุณจะตอบแบบนี้ไปจนถึงไหน?” ฉันไม่ตอบอะไร กลับยิ้มออกมาบาง ๆ แสดงให้เขารู้ว่าฉันไม่หวั่นไหวเลยสักนิด สุธามองมาที่ฉันสักพัก ก่อนที่จะถอนหายใจออกมา “มันไม่ใช่เรื่องที่คุณคิดนะลินนา เรื่องนี้มันใหญ่กว่าที่คุณคิด” “แล้วฉันต้องทำยังไงเหรอคะ?” ฉันถามกลับไปอีกครั้ง ไม่อยากให้เขามาทำให้ตัวเองกลายเป็นแพะรับบาป เขาหยิบมือถือขึ้นมาแล้วเลื่อนหน้าจอไปมาเหมือนหาข้อมูลอะไรบางอย่าง ก่อนจะยิ้มเย็น ๆ “ถ้าคุณไม่อยากให้เรื่องนี้บานปลายไปมากกว่านี้ ก็แค่ยอมรับความจริงเสียเถอะ” เขาบอกพร้อมกับส่งสายตาที่ดูเย็นชา ฉันสูดหายใจลึก ๆ พยายามรักษาความเยือกเย็นในใจ “คุณสุธา” ฉันพูดชื่อเขาเบา ๆ “ถ้าคุณคิดว่าจะกดดันฉันได้ คุณคงคิดผิดแล้วค่ะ” สุธาหยุดมองไปที่ฉันครู่หนึ่ง ก่อนจะพยักหน้าเล็กน้อย “เราคงต้องเดินทางคนละทางแล้วล่ะ” เขาพูดแผ่วเบา ก่อนจะลุกขึ้นจากโซฟาแล้วเดินออกไปจากห้อง หลังจากที่ประตูปิดลง ฉันยืนอยู่ในห้องที่เงียบสงบ ปล่อยให้คำพูดของเขาเข้าไปฝังในใจ “คนละทาง… ก็ได้” ฉันพึมพำกับตัวเอง “ถ้าเขาคิดว่าจะทำให้ฉันยอมแพ้ เขาก็คิดผิดแล้วล่ะ” ฉันรู้ดีว่า ถ้าฉันไม่สู้ตอนนี้ ทุกอย่างก็จะจบลงเหมือนที่เขาคาดไว้ แต่ถ้าฉันต่อสู้… ก็จะมีเส้นทางใหม่ที่รออยู่ และฉันจะเป็นคนเลือกมันเอง การเดินทางของฉันในโลกนี้ เพิ่งเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น เมื่อฉันกลับมาที่บ้าน ขึ้นมาที่ห้องนอนและนั่งลงบนเตียง ความคิดต่าง ๆ ก็วนเวียนในหัวไปหมด มันเหมือนกับทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันไม่ใช่ชีวิตของฉันเลย ไม่ว่าจะเป็นการที่ต้องไปทำงานที่บริษัทของสุธา หรือการที่ต้องทำตัวเป็นคนดีในสายตาคนอื่น แม้กระทั่งความสัมพันธ์ระหว่างฉันกับไอรีนที่ดูเหมือนจะเต็มไปด้วยความขัดแย้ง ทุกอย่างมันยุ่งเหยิงไปหมด ฉันมองไปที่กระจกบานใหญ่ที่อยู่ข้างเตียง เงาของตัวเองในกระจกนั้นเหมือนคนอื่นที่ฉันไม่เคยรู้จักนิสัยมาก่อน ร่างกายที่ฉันยืมมา ใบหน้าที่เหมือนกับฉัน จะต้องทำยังไงกับสิ่งนี้ดีล่ะ? ก็อก ๆ! เสียงเคาะประตูดังขึ้นทำให้ฉันต้องหันไปมอง “คุณหนูคะ” เสียงของกอหญ้าดังเข้ามา “คุณหนูพร้อมหรือยังคะ? พรุ่งนี้ต้องไปทำงานที่บริษัทของคุณสุธาวันแรกค่ะ” ฉันถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะตอบกลับไป “พรุ่งนี้เหรอ…” พูดแล้วฉันก็ลุกขึ้นจากเตียงแล้วเดินไปที่กระจกอีกครั้ง ก่อนจะมองตัวเองในเงาสะท้อน “ไม่อยากไปเลย แต่ก็ต้องไปใช่ไหม” กอหญ้าเดินเข้ามาในห้องพร้อมกับเครื่องแต่งตัวสำหรับวันพรุ่งนี้ “ชุดที่คุณหนูจะใส่พรุ่งนี้ค่ะ ชุดนี้จะดูเรียบร้อยและดูดีค่ะ” ฉันมองไปที่ชุดที่กอหญ้าถือมาให้ เป็นชุดที่ดูหรูหราและเป็นทางการมาก ชุดกระโปรงทรงตรงสีดำตัดกับเสื้อสูทสีขาว ทำให้ฉันรู้สึกเหมือนกำลังจะไปเข้าร่วมงานสำคัญหรือพบปะใครบางคนที่ไม่อยากพบ “ขอบคุณนะ” ฉันรับชุดจากมือของกอหญ้าแล้วเริ่มคิดในใจว่า จะต้องใส่ชุดนี้ไปที่ไหน แล้วจะต้องเจอกับใครอีกบ้าง “ถ้าคุณหนูพร้อมแล้ว เดี๋ยวฉันจะจัดการเตรียมตัวให้ค่ะ” กอหญ้าพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความตั้งใจ ฉันพยักหน้าเล็กน้อย “ขอบคุณนะ” แต่ในใจฉันคิดว่า มันจะไม่ง่ายอย่างที่คิดหรอก แม้ว่าฉันจะรู้สึกว่าไม่สามารถหลีกเลี่ยงมันได้ แต่มันก็ไม่หมายความว่า ฉันจะยอมให้ตัวเองกลายเป็นเครื่องมือของใครง่าย ๆ หลังจากที่กอหญ้าเตรียมตัวเสร็จ ฉันก็เดินไปที่ห้องน้ำเพื่ออาบน้ำและเตรียมตัวสำหรับวันพรุ่งนี้ โดยที่ใจของฉันยังคงรู้สึกไม่สบายใจอย่างมาก “ต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อควบคุมสถานการณ์นี้” ฉันพึมพำกับตัวเอง ขณะที่ยืนอยู่หน้ากระจกในห้องน้ำ ทุกอย่างมันดูเหมือนจะเป็นการทดสอบที่จะต้องผ่านไปให้ได้ ถ้าฉันยังคงมั่นคงในตัวเองและรู้จักใช้สมองในการตัดสินใจ ฉันคงจะสามารถควบคุมทุกอย่างได้ พออาบน้ำเสร็จ ฉันก็แต่งตัวตามที่กอหญ้าเตรียมไว้ และมองตัวเองในกระจกอีกครั้ง ชุดที่ดูเรียบร้อยทำให้ฉันรู้สึกเหมือนคนที่ถูกคาดหวังมากมาย “วันพรุ่งนี้คงจะเป็นอีกหนึ่งวันที่ท้าทาย” ฉันพูดกับตัวเองก่อนจะเดินออกจากห้องน้ำและไปนั่งที่โต๊ะ แม้ฉันจะอยากปฏิเสธทุกอย่าง แต่ดูเหมือนว่าฉันคงไม่มีทางเลือกอื่น ในเมื่อทุกสิ่งทุกอย่างได้ถูกกำหนดไว้แล้ว ก็ต้องทำตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายไปก่อน “พรุ่งนี้… ขอให้เป็นวันที่ดี”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม