บทที่ 2 ว่าที่คู่หมั้นผู้เกลียดชัง

1310 คำ
บทที่ 2 ว่าที่คู่หมั้นผู้เกลียดชัง ฉันนั่งนิ่งอยู่บนเตียง พยายามทำใจยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นให้ได้ ไม่สิ…มันไม่ควรเกิดขึ้นด้วยซ้ำ! ฉันแค่ข้ามถนนอยู่ดี ๆ ทำไมถึงต้องมาติดอยู่ในร่างของ “ลินนา” คนนี้ด้วย! แต่เอาเถอะ…ตอนนี้สิ่งสำคัญกว่าคือการหาทางเอาตัวรอด “คุณหนูคะ?” เสียงของกอหญ้าเรียกให้ฉันหลุดออกจากภวังค์ ฉันหันไปมองสาวใช้วัยรุ่นที่ยังคงยืนอยู่ข้างเตียงด้วยสีหน้าลังเลราวกับมีอะไรจะพูดแต่ไม่กล้าพูดออกมา “อะไร?” ฉันถามกลับด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ “คือ…คุณหนูไม่สบายหรือเปล่าคะ? ปกติคุณหนูไม่เคยถามแบบนี้…” ฉันชะงักไปเล็กน้อย ก็ใช่สิ ลินนาตัวจริงคงไม่ได้มานั่งทำหน้าสับสนเหมือนฉันตอนนี้หรอก “ฉันแค่…ยังมึน ๆ อยู่” ฉันตอบส่ง ๆ ไปก่อน “เธอบอกว่าต้องไปบ้านตระกูลของสุธาใช่ไหม?” “ค่ะ คุณหญิงโทรมาย้ำตั้งแต่เช้าเลยนะคะ บอกให้คุณหนูไปให้ตรงเวลา ไม่อย่างนั้น…” กอหญ้าหยุดพูด แต่ฉันพอจะเดาออกจากสีหน้ากังวลของเธอได้ ว่าที่แม่สามีของลินนา คงไม่ใช่คนใจดีนักสินะ ฉันถอนหายใจอย่างปลงตก แล้วลุกขึ้นยืน “ก็ได้ ๆ ฉันไปก็ได้ ว่าแต่…มีชุดอื่นให้เปลี่ยนไหม? ฉันไม่ชอบสีแดง” “เอ๊ะ?” กอหญ้าทำหน้าตกใจ “แต่คุณหนูชอบสีแดงที่สุดเลยนะคะ…” “ตอนนี้ฉันเปลี่ยนใจแล้ว” ฉันตอบเสียงหนักแน่น “ไปหาอะไรที่มันเรียบ ๆ กว่านี้มาให้ฉันเถอะ” กอหญ้าดูแปลกใจแต่ก็ไม่กล้าถามอะไรอีก เธอรีบไปเตรียมชุดให้ฉันเปลี่ยน ส่วนฉันก็เดินไปส่องกระจกอีกครั้ง ใบหน้าที่สะท้อนอยู่ในกระจกยังคงเป็นของลินนา หญิงสาวที่มีดวงตากลมโต จมูกโด่งได้รูป และริมฝีปากสีแดงสด แม้จะสวยก็เถอะ…แต่ฉันไม่ใช่เธอ “เฮ้อ…” ฉันถอนหายใจ นี่ฉันต้องใช้ชีวิตเป็นลินนาไปถึงเมื่อไหร่กัน? รถยนต์คันหรูแล่นเข้ามาจอดที่หน้าคฤหาสน์ตระกูลของสุธา ฉันมองผ่านกระจกรถ เห็นตัวคฤหาสน์ใหญ่โตโอ่อ่าเหมือนหลุดออกมาจากละครหลังข่าว “ถึงแล้วค่ะคุณหนู” กอหญ้ากระซิบบอกเบา ๆ ฉันสูดหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะเปิดประตูลงจากรถ พร้อมปรับสีหน้าให้ดูสงบที่สุด พอเดินเข้าไปในตัวบ้าน ฉันก็สัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่เย็นยะเยือก ทุกสายตาของคนรับใช้ในบ้านต่างจับจ้องมาที่ฉัน ราวกับกำลังมอง ‘ตัวปัญหา’ ไม่นานนัก หญิงวัยกลางคนในชุดหรูหรา ก็เดินออกมาพร้อมกับสีหน้าที่ไม่ได้เป็นมิตรนัก “มาถึงช้ากว่าที่นัดไว้นะลินนา” น้ำเสียงของเธอเย็นชา ฉันจำได้ทันที…นี่คงเป็น “คุณหญิงศรีสุดา” แม่ของสุธา คนที่คงจะเป็นแม่สามีของลินนาในอนาคต “ขอโทษค่ะ ฉัน…” ฉันพยายามจะพูดอะไรบางอย่างแต่กลับถูกสายตาเย็นชาของเธอตัดบท “ช่างเถอะ เข้าไปได้แล้ว สุธารออยู่” ฉันกลืนน้ำลายลงคอ แล้วเดินตามคุณหญิงเข้าไปในห้องรับแขก ที่นั่น… ร่างสูงในชุดสูทสีดำกำลังนั่งอยู่บนโซฟาหรู ใบหน้าหล่อเหลาแต่กลับไร้รอยยิ้ม เมื่อเห็นฉันเข้ามา เขาเพียงแค่เหลือบตามอง ก่อนจะขยับริมฝีปากเอ่ยคำพูดแรกที่มีต่อฉัน “เธอยังกล้ามาที่นี่อีกเหรอ?” น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความเย็นชา และแฝงไปด้วยความเกลียดชัง ฉันนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะค่อย ๆ ยิ้มออกมา แล้วเอ่ยตอบกลับไป “ทำไมฉันจะมาไม่ได้ ในเมื่อฉันคือคู่หมั้นของนาย…ว่าที่สามีของฉัน” คำพูดของฉันทำให้ดวงตาของสุธาวาววับขึ้นมาอย่างอันตราย เกมนี้เพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้นเอง… สุธามองฉันด้วยสายตาเย็นชาและแฝงไปด้วยความดูถูกอย่างไม่คิดปิดบัง ฉันรับรู้ได้ทันทีว่า ‘ลินนา’ ตัวจริงคงไม่ได้เป็นที่รักของเขาสักเท่าไหร่ “คู่หมั้นงั้นเหรอ?” เขาหัวเราะเยาะในลำคอ ก่อนจะเอนตัวพิงพนักโซฟา ท่าทางเหมือนไม่แม้แต่จะอยากมองหน้าฉัน “เธอแน่ใจเหรอว่าตัวเองยังคู่ควรกับตำแหน่งนั้น?” ฉันเลิกคิ้ว “ทำไมฉันจะไม่แน่ใจ ในเมื่อพ่อแม่ของเราสองคนตกลงกันไว้แล้ว” “หึ…” สุธากระตุกยิ้มเย็น ก่อนจะวางแก้วน้ำในมือลงกับโต๊ะเสียงดัง กึก “เธอไม่มีสิทธิ์มาพูดเรื่องนี้ด้วยซ้ำ หลังจากสิ่งที่เธอทำกับไอรีน” ฉันเม้มปากแน่น นี่มันเรื่องยุ่งยากกว่าที่คิดแฮะ “ฉันไม่คิดจะเสียเวลาทำตัวเป็นคู่หมั้นกับเธอหรอกลินนา” สุธาโน้มตัวเข้ามาเล็กน้อย ดวงตาคมกริบของเขาส่งแรงกดดันมหาศาล “ฉันจะไม่ยอมแต่งงานกับผู้หญิงที่พยายามกำจัดคนอื่นเพราะความอิจฉา” โอ้โห นี่ฉันโดนกล่าวหาขนาดนี้เลยเหรอ!? ฉันกะพริบตาปริบ ๆ พยายามประมวลผลสิ่งที่เกิดขึ้น เท่าที่ฟังจากกอหญ้ามา ลินนาน่าจะถูกกล่าวหาว่าผลัก ‘ไอรีน’ ผู้หญิงอีกคนตกบันได และจากที่สุธาพูด…ดูเหมือนว่าเธอคนนั้นจะสำคัญกับเขามากพอสมควร ฉันค่อย ๆ สูดลมหายใจเข้า นี่ไม่ใช่โลกของฉัน และฉันก็ไม่ได้เป็นลินนาตัวจริง ดังนั้นสิ่งเดียวที่ทำได้ตอนนี้คือ ‘เอาตัวรอด’ “นายเกลียดฉันขนาดนั้นเลยเหรอ?” ฉันถามออกไปตรง ๆ สุธาขมวดคิ้วเล็กน้อย เหมือนไม่คิดว่าฉันจะถามอะไรแบบนี้ออกมา “ตั้งแต่แรกแล้วลินนา ฉันไม่เคยรักเธอ และไม่มีวันรักได้” เขาตอบเสียงเรียบ โอเค เจ็บแฮะ ถึงฉันจะไม่ได้เป็นลินนาตัวจริงแต่การโดนพูดใส่หน้าแบบนี้ก็ไม่ใช่เรื่องที่น่ายินดีนัก “งั้นนายอยากให้ฉันทำยังไง? ยกเลิกงานหมั้นงั้นเหรอ?” ฉันถามกลับ สุธามองฉันนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนที่มุมปากเขาจะยกขึ้นเป็นรอยยิ้มเย็นชา “เธอพูดเองนะ” เดี๋ยวนะ… ฉันแค่โยนหินถามทางเฉย ๆ ไม่ได้ตั้งใจจะเดินไปถึงจุดนั้นจริง ๆ สักหน่อย!? ฉันรีบปรับสีหน้าให้สงบนิ่งก่อนจะตอบกลับไป “ก็แค่ถามดู แต่ถ้าจะให้ยกเลิกง่าย ๆ ฉันก็ต้องได้อะไรตอบแทนบ้าง ไม่ใช่อยู่ดี ๆ จะปล่อยให้ตัวเองเสียเปรียบ” สุธาดูเหมือนจะไม่คาดคิดกับคำตอบของฉัน ดวงตาของเขาหรี่ลงเล็กน้อยราวกับกำลังพิจารณาว่าฉันกำลังเล่นตลกอะไรอยู่ “เธอเปลี่ยนไป…” เขาพูดช้า ๆ ฉันยักไหล่ “คนเราก็ต้องเปลี่ยนกันบ้างล่ะ” บรรยากาศในห้องเงียบลงชั่วครู่ ก่อนที่เสียงกระแอมเบา ๆ ของคุณหญิงศรีสุดาจะดังขึ้น “เอาล่ะ ๆ พอได้แล้ว พวกเธอจะทะเลาะกันไปถึงไหน นี่แค่ทานข้าวร่วมกันนะ ไม่ใช่ศึกประลองยุทธ์” ฉันหันไปยิ้มแหย ๆ ให้คุณหญิงก่อนจะหันกลับมามองสุธา “ยังไงซะ วันนี้เรามาทานข้าวกัน ฉันไม่อยากทำให้คุณหญิงไม่พอใจ” สุธายังคงมองฉันอย่างจับผิด แต่ในที่สุดเขาก็ถอนหายใจและหันหน้าหนีไปอีกทาง “ทำตามที่เธออยากก็แล้วกัน” ถึงแม้สถานการณ์จะยังตึงเครียดอยู่ แต่ฉันก็แอบถอนหายใจโล่งอกในใจ นี่ขนาดเพิ่งเริ่มต้นนะ ฉันยังต้องรับมือกับว่าที่คู่หมั้นผู้เกลียดขี้หน้าฉันขนาดนี้ ให้ตายเถอะ… นี่มันชีวิตนางร้ายชัด ๆ!
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม