บทที่ 6 ซวยซ้ำซวยซ้อน

1608 คำ
ฉันเดินกลับมาที่โต๊ะทำงานของตัวเองที่อยู่หน้าห้องรองประธาน ซึ่งแน่นอนว่าเป็นห้องของสุธา ฉันไม่ได้อยากอยู่ใกล้เขาหรอก แต่ดูเหมือนเขาจะตั้งใจให้ฉันมาอยู่ตรงนี้มากกว่าไปทำงานที่แผนกอื่น คงเพราะต้องการจับตาดูว่าฉันจะทำพลาดตรงไหน แต่ทันทีที่ฉันเดินมาถึงโต๊ะ กลับเห็นใครบางคนนั่งไขว่ห้างอยู่บนเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม สายตาของเธอทอดมองฉันด้วยรอยยิ้มบางๆ ที่ไม่ได้ทำให้ฉันรู้สึกดีเลยสักนิด ไอรีน นี่มันซวยซ้ำซวยซ้อนอะไรของฉันกันเนี่ย!? “อ้าว คุณลินนา กลับมาแล้วเหรอคะ?” ไอรีนพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงหวานหยดย้อย แต่แววตาของเธอไม่ได้เป็นมิตรเลยสักนิด ฉันยืนกอดอกมองเธออย่างระแวดระวัง “เธอมานั่งอยู่ตรงนี้ทำไม?” “ก็แค่มารอพี่สุธา” เธอยิ้ม ก่อนจะเอนตัวพิงพนักเก้าอี้ราวกับว่านี่เป็นที่ของเธอเอง “แต่ไหนๆ ก็เจอคุณแล้ว ฉันก็เลยอยากทักทายหน่อย” “ทักทาย? ฉันไม่คิดว่าเราจะสนิทกันขนาดนั้นนะ” ฉันเลิกคิ้ว รู้สึกระคายหูทุกครั้งที่เธอเรียกสุธาว่า ‘พี่’ ด้วยน้ำเสียงออดอ้อนแบบนั้น ไอรีนหัวเราะเบาๆ พลางเสยผมอย่างจงใจ “แหม คุณลินนา อย่าพูดแบบนั้นสิคะ เราก็รู้จักกันดีนี่นา” “รู้จัก? ฉันว่ามันไม่ใช่คำที่ถูกต้องนะ” ฉันแค่นหัวเราะ “ฉันจะใช้คำว่า ‘ซวย’ มากกว่า ที่ต้องมาเจอเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่า” รอยยิ้มของไอรีนกระตุกเล็กน้อย ก่อนที่เธอจะกลับมาทำหน้าใสซื่อเหมือนเดิม “พูดแบบนี้หมายความว่ายังไงกันคะ?” “หมายความว่า ถ้าเธอไม่มีธุระอะไรที่สำคัญ ก็ช่วยไสหัวไปจากโต๊ะฉันด้วย” ฉันพูดตรงๆ ไม่คิดจะอ้อมค้อมให้เสียเวลา ไอรีนเบิกตากว้างเล็กน้อย ราวกับไม่อยากเชื่อว่าฉันจะกล้าพูดกับเธอแบบนี้ “คุณลินนาเปลี่ยนไปนะคะ” เธอพูดขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยม “เมื่อก่อนคุณไม่เคยพูดจาหยาบคายแบบนี้เลย” “หึ” ฉันยิ้มเยาะ “เธอคงชินกับลินนาคนเก่าที่ปล่อยให้เธอใส่ร้ายสารพัดสินะ?” สีหน้าของไอรีนแข็งค้างไปชั่ววินาที ก่อนที่เธอจะกลับมายิ้มอีกครั้ง “ฉันไม่เข้าใจที่คุณพูดเลยค่ะ” “ไม่เข้าใจ? เอาเถอะ ฉันก็ไม่ได้หวังว่าเธอจะยอมรับง่ายๆ อยู่แล้ว” ฉันยักไหล่ “แต่จำไว้เถอะนะไอรีน… ฉันไม่ใช่ลินนาคนเดิมอีกต่อไปแล้ว ถ้าเธอคิดจะเล่นตุกติกอะไรล่ะก็ ระวังจะโดนสวนกลับจนตั้งตัวไม่ทัน” ไอรีนกัดริมฝีปากแน่น ฉันเห็นได้ชัดว่าเธอพยายามระงับความไม่พอใจเอาไว้ “งั้นฉันขอตัวก่อนนะคะ” เธอลุกขึ้นยืน จัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อย ก่อนจะปรายตามองฉันด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจ “แล้วเจอกันค่ะ คุณลินนา” ฉันไม่ได้ตอบอะไร เพียงแค่ยิ้มบางๆ มองเธอเดินออกไปอย่างถือดี ก็ให้มันรู้กันไปสิ ว่าใครกันแน่ที่ควรระวังตัว! ฉันมองตามแผ่นหลังของไอรีนที่เดินตรงไปยังห้องทำงานของสุธา ท่าทางมั่นอกมั่นใจของเธอทำให้ฉันอดไม่ได้ที่จะเบ้ปากใส่ “เชิญเลยจ้ะ ไปออดอ้อนกันให้เต็มที่เลย ฉันไม่สนหรอก” ฉันพึมพำเบาๆ กับตัวเอง ก่อนจะหันกลับไปสนใจของตรงหน้าต่อ ทว่า… เสียงเปิดประตูห้องรองประธานดังขึ้น ตามด้วยเสียงหวานของไอรีน “พี่สุธาคะ~ พี่เพิ่งประชุมเสร็จเหนื่อยๆ แบบนี้ ไอรีนเอากาแฟมาให้ค่ะ” ฉันกลอกตาแทบจะทันทีที่ได้ยิน คำพูดเสียงอ่อนเสียงหวานแบบนั้น ใครได้ยินก็คงนึกว่าเธอเป็นนางเอกที่แสนดี แต่ฉันรู้ดีว่าความจริงมันตรงกันข้าม แต่ช่างเถอะ… ตอนนี้ฉันไม่ได้มีอารมณ์มาสนใจเรื่องน้ำเน่าอะไรพวกนี้แล้ว ฉันหิว! ฉันรีบกวาดของบนโต๊ะยัดใส่กระเป๋าอย่างลวกๆ แล้วเดินออกจากโต๊ะโดยไม่สนใจว่าใครจะมองยังไง พักเที่ยงมันมีค่าเกินกว่าที่ฉันจะมานั่งฟังอะไรไร้สาระ ให้ตายสิ ฉันหิวข้าวจนโมโหไปหมดแล้ว! ฉันเดินดุ่มๆ ตรงไปยังโรงอาหารของบริษัท แต่ไม่รู้ทางได้แต่ถามคนแถวนี้เอา ก็โลกเดิมฉันไม่ได้มาทำงานที่บริษัทคู่หมั้นนี่นา และ ตอนนี้ในหัวฉันไม่มีอะไรเลยนอกจากข้าว ข้าว และข้าว! แต่ยังไม่ทันจะถึงโรงอาหารดี โทรศัพท์ฉันก็ดังขึ้น [สุธา โทรเข้า] “จะเอาอะไรอีกล่ะ?” ฉันพึมพำ พลางมองชื่อบนหน้าจออย่างลังเล แต่สุดท้ายก็กดรับสาย “ลินนา อยู่ไหน?” เสียงเข้มของสุธาดังขึ้นจากปลายสาย “กำลังไปหาอะไรกิน” ฉันตอบห้วนๆ “กลับมาที่ห้อง ผมมีเรื่องจะคุยด้วย” ฉันขมวดคิ้ว “แต่ฉันกำลังจะกินข้าว” “เรื่องของคุณ” สุธาตัดบทเสียงเย็นชา “ผมให้เวลาคุณห้านาที ถ้าไม่มาผมจะให้คนไปลากคุณมาเอง” อะไรของหมอนี่อีกล่ะ!? “ให้ตายสิ!” ฉันสบถกับตัวเอง หิวก็หิว ยังต้องกลับไปเจอสุธาอีก วันนี้มันวันซวยอะไรของฉันกันเนี่ย! ฉันถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะหันหลังกลับไปที่โรงอาหารเหมือนเดิม แต่ในเมื่อฉันต้องไปเจอสุธาอยู่แล้ว ฉันจะไม่ยอมอดข้าวหรอก! ฉันรีบต่อแถว ตักข้าวใส่จาน พร้อมกับกับข้าวที่ดูน่ากินที่สุดเท่าที่พอจะเลือกได้ในเวลาจำกัด จากนั้นก็ถือจานข้าวเดินออกจากโรงอาหารมุ่งตรงไปที่ห้องของสุธาทันที กินที่นั่นมันซะเลยแล้วกัน! ฉันเดินไปถึงหน้าห้องรองประธานก่อนจะใช้มือดันประตูเข้าไป โดยไม่คิดจะเคาะประตูให้เสียเวลา เพราะในเมื่อเขาเป็นคนเรียกฉันมาเอง ฉันก็ไม่เห็นต้องมีมารยาทให้มากความ แต่ทันทีที่ฉันก้าวเข้าไปในห้อง บรรยากาศเย็นยะเยือกก็พุ่งเข้าใส่ฉันเต็มๆ สุธานั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน ดวงตาคมกริบของเขาตวัดมามองฉันทันทีที่ฉันเดินเข้าไป พร้อมกับสีหน้าที่ดูไม่สบอารมณ์เอาเสียเลย แล้วไอรีนล่ะ? ฉันกวาดตามองไปรอบๆ ห้อง แต่ก็ไม่เห็นเธออยู่ที่นี่ คงออกไปแล้วสินะ ฉันไม่พูดอะไร เดินดุ่มๆ ไปนั่งที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้ามกับเขา วางจานข้าวลงบนโต๊ะ แล้วเริ่มลงมือกินทันที หิวกว่าความโกรธของหมอนี่อีก! แต่ยังไม่ทันที่ฉันจะตักคำแรกเข้าปาก เสียงเข้มของสุธาก็ดังขึ้น “คุณนี่มันเหลือเกินจริงๆ” ฉันชะงักมือก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองเขาอย่างไม่เข้าใจ “อะไรของคุณ?” “คุณกลั่นแกล้งไอรีนอีกแล้วใช่ไหม?” ฉันชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะเบ้ปากใส่เขา “หืม? ฉันไปทำอะไรเธออีกล่ะ?” สุธาวางปากกาลงกับโต๊ะเสียงดัง ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความกดดัน “ไอรีนเพิ่งออกไปจากห้องฉันเมื่อกี้ เธอบอกว่าคุณพูดจาไม่ดีใส่เธอ ไล่เธอออกจากโต๊ะทำงาน แถมยังข่มขู่เธออีก” ฉันกลืนข้าวลงคอ แล้ววางช้อนลงอย่างใจเย็น ก่อนจะพิงพนักเก้าอี้ “เธอพูดแบบนั้นเหรอ?” “ใช่!” สุธาตอบทันที “แล้วมันไม่จริงเหรอ?” ฉันถอนหายใจ ก่อนจะยิ้มเยาะ “ฟังจากที่คุณพูดมา ฉันว่าเธอคงเล่าเรื่องแบบแต่งเติมเกินจริงไปเยอะเลยล่ะ” “คุณหมายความว่ายังไง?” “ก็หมายความว่า” ฉันเอนตัวไปข้างหน้า วางแขนพาดบนโต๊ะ พลางจ้องตาเขาตรงๆ “ฉันไม่ได้ข่มขู่หรือกลั่นแกล้งเธอเลย ฉันแค่บอกให้เธอไปจากโต๊ะฉัน เพราะฉันไม่อยากเห็นหน้าเธอก็เท่านั้นเอง” สุธาขมวดคิ้ว “นี่คุณไม่คิดว่าตัวเองทำเกินไปหน่อยเหรอ?” ฉันเลิกคิ้ว “แล้วไอรีนมีสิทธิ์มานั่งที่โต๊ะฉันเหรอ?” “เธอแค่มาหาฉัน—” “แต่มาหาฉันก่อน” ฉันสวนกลับทันที “แล้วก็มาพูดจาหาเรื่องฉันก่อนด้วย” สุธาชะงักไปเล็กน้อย ราวกับกำลังพิจารณาคำพูดของฉัน ฉันเห็นแบบนั้นก็ยิ่งได้ใจ จึงพูดต่อ “สุธา ฉันรู้ว่าเธอออดอ้อนคุณยังไงบ้าง และฉันก็รู้ว่าคุณคงเชื่อเธอโดยไม่คิดจะถามฉันด้วยซ้ำ แต่คราวหน้าก็ช่วยฟังให้รอบด้านก่อนจะมาตัดสินฉันได้ไหม?” สุธาเงียบไปสักพัก ก่อนจะถอนหายใจยาว แล้วเอนตัวพิงพนักเก้าอี้ “คุณเปลี่ยนไปจริงๆ” เขาพูดขึ้นมาเบาๆ ฉันยิ้มบางๆ ก่อนจะยกช้อนขึ้นมาตักข้าวกินต่อ “ดีแล้วล่ะ” “ดี?” ฉันเคี้ยวข้าวเสร็จแล้วกลืน ก่อนจะมองสบตาเขาอีกครั้ง “ก็ดีกว่าเป็นคนที่ให้ใครมาหลอกใช้แล้วเชื่อไปหมดทุกอย่างไง” แววตาของสุธาวูบไหวไปเล็กน้อย แต่เขาไม่ได้พูดอะไรอีก ฉันจึงถือโอกาสนั้น ก้มหน้าก้มตากินข้าวต่อ จะด่าฉันก็เชิญเลย แต่ฉันจะไม่ยอมอดข้าวเพราะเรื่องไร้สาระพวกนี้แน่!
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม