อยากให้เป็นอะไรก็จะเป็น

1759 คำ
ห้าปีต่อมา.... "ตะวัน" "หื้มมม" ฉันขานรับแต่ไม่ได้หันไปเพราะกำลังหั่นผักอยู่ "กูมีเรื่องจะคุยกับมึง เรื่องสำคัญ" น้ำเสียงจริงจังเอ่ยขึ้นมาทำให้ฉันต้องหันไปมองไม่ต้องเดาพอจะรู้ใช่ไหมว่าใคร มันคือไอ้ซันคนที่มันบอกว่าเราเป็นผัวเมียมันหรือเรียกแบบสุภาพๆเพราะๆหน่อยก็คือเราเป็นแฟนนั่นเอง ก็อย่างที่รู้ว่ามันขอฉันคบเป็นแฟนตั้งแต่ครั้งแรกที่เรามีอะไรกันตอนอยู่มอสี่ จนตอนนี้ฉันกับมันเรียนอยู่ปีสี่กันแล้วไม่น่าเชื่อเหมือนกันว่าฉันกับมันจะคบกันมายาวนานขนาดนี้ ส่วนใครที่ถามถึงพอส...ตอนนี้พอสมันไปเรียนต่อที่ฝรั่งเศสตามที่พ่อมันต้องการแต่มันไม่ได้ไปตอนจบมอหกหรอกนะมันไปก่อนกำหนดคือไปตั้งแต่จบมอสี่ ที่มันรีบไปเร็วแบบนั้นเป็นเพราะฉันเองทุกวันนี้ฉันยังรู้สึกผิดกับมันอยู่เลย ในวันนั้นฉันจำได้ดี...วันนั้นมันเป็นวันเกิดครบสิบแปดปีของฉัน มันคือหลังจากที่ฉันกับไอ้ซันมีอะไรกันครั้งแรกนั่นแล่ะ ไอ้พอสมันมาสารภาพรักกับฉันมันบอกว่ามันชอบฉัน ฉันก็ทั้งอึ้งทั้งตกใจไปเหมือนกันตอนที่มันสารภาพรักเพราะไม่รู้มาก่อนเลยว่ามันรู้สึกแบบนี้กับฉันมานานแล้ว มันถามฉันว่าฉันรู้สึกแบบเดียวกับที่มันรู้สึกหรือเปล่า ฉันก็บอกมันไปตามความจริงว่าฉันรู้สึกกับมันแค่เพื่อนเท่านั้นไม่เคยคิดอะไรกินเลย พอฉันบอกมันไปแบบนั้นมันก็ยิ้มให้ฉันแบบเศร้าๆพร้อมกับว่าไม่เป็นไรมันเข้าใจ แต่เรื่องมันไม่จบแค่นั้นเพราะในวันนั้นไอ้ซันมันบอกกับไอ้พอสว่าฉันกับมันคบกันเป็นแฟนแล้ว ไม่ต้องบอกว่าไอ้พอสมันจะรู้สึกยังไงพอมันรู้ความจริงเรื่องนี้ ตอนแรกฉันคิดว่าจะค่อยๆบอกกับมันแต่ไม่ทันแล้ว "กูขอโทษนะพอส" "มึงตกลงเป็นแฟนกับมันนานหรือยัง" "เอ่อ ก็หลังสอบเสร็จน่ะ" "แล้วมึงชอบไอ้ซันจริงๆเหรอ" มันถามฉันด้วยน้ำเสียงเศร้าและผิดหวัง "อื้มมมมกูชอบมันมานานแล้ว" ฉันพยักหน้าแล้วตอบ "แล้วมันชอบมึงจริงๆหรือเปล่า หรือแค่หวงก้าง" "หื้มมม มึงหมายความว่าไงกูไม่เข้าใจ" "ก่อนหน้านี้กูเคยปรึกษามันเรื่องที่กูจะสารภาพรักกับมึง" "อะไรนะ มึงเคยพูดเรื่องนี้กับมันเหรอ" "อืมใช่ แล้วมันก็แนะนำกูให้ตัดใจจากมึง หึ กูไม่คิดเลยว่าคนที่บอกให้กูตัดใจจากมึงตอนนี้มันได้มึงเป็นแฟนไปแล้วเรียบร้อย" "พอสกูขอโทษนะที่ทำให้มึงเสียใจ" "กูไม่เสียใจหรอกนะที่ได้แอบรักมึงเพราะมึงคือคนที่ดีที่สุดสำหรับกู" "พอส" "มึงจำไว้นะว่ากูคือเพื่อนที่ดีที่สุดของมึงถึงมึงจะปฏิเสธความรักจากกูแต่กูก็จะเป็นคนที่หวังดีกับมึงตลอดไป" และนั่นคือคำพูดสุดท้ายของมันก่อนที่มันจะบินไปเรียนต่อฝรั่งเศสโดยไม่บอกลาฉันกับไอ้ซันสักคำ ฉันไม่รู้ว่ามันโกรธไอ้ซันหรือเปล่า แต่เรื่องที่ไอ้พอสมันพูดฉันก็เอามาถามไอ้ซันมันนะ มันก็ยอมรับว่าไอ้พอสมาปรึกษามันจริงๆแต่ที่มันบอกให้ไอ้พอสตัดใจจากฉันซะเพราะมันรู้ว่าฉันไม่ได้คิดอะไรกับไอ้พอสซึ่งฉันก็เถียงไม่ออกเพราะมันคือเรื่องจริง นี่ก็ผ่านมาห้าปีแล้วที่ไอ้พอสมันไปเรียนต่อและไม่ติดต่ออะไรกลับมาเลย ฉันเคยไปถามหามันกับพ่อกับแม่มันท่านก็บอกว่าไอ้พอสมันเรียนหนักขนาดที่บ้านมันแทบจะไม่ติดต่อมาเลย ฉันก็หวังว่ามันจะเรียนหนักจริงๆไม่ใช่เพราะโกรธฉันกับไอ้ซันเพราะถึงยังไงมันก็คือเพื่อนที่สนิทที่สุดและดีที่สุดของฉันกลับมาที่ ปัจจุบัน "มึงได้ยินที่กูพูดไหม" "อืมได้ยินว่าแต่มึงมีเรื่องอะไรจะคุยกับกู" ฉันถามมันทั้งๆที่รู้อยู่แล้วว่ามันจะมาคุยเรื่องอะไรแต่ฉันแสร้งทำเป็นไม่รู้ "กูว่ากูกับมึงกลับมาเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิมเหอะว่ะ กูว่ากูกับมึงคงไปด้วยไม่รอด" หึไปไม่รอดแต่คบกันมาเอากันมาตั้งห้าปี อะไรคือไปกันไม่รอด ฉันคิดในใจแต่ไม่พูดออกมา "แล้ว???" "เราเลิกกันเหอะ" หึสุดท้ายมันก็พูดคำนี้ออกมา คำพูดที่ฉันกลัวที่จะได้ยินมากที่สุด "อืม" ฉันตอบได้แค่นั้นจริงๆ "หมายความว่ามึง..." "เลิกก็เลิก" "ทำไมมึงพูดง่ายขนาดนี้วะมึงไม่โวยวายสักหน่อยเหรอ" "จะให้กูโวยวายเพื่อ??กูรู้ว่าสักวันมึงต้องพูดคำนี้" "แล้ว...มึงเสียใจมั้ยที่กูขอเลิก" น้ำเสียงมันเบาลงเหมือนรู้สึกผิดแต่มันจะมารู้สึกผิดทำไมในเมื่อทุกสิ่งที่มันทำคือมันตั้งใจ "หึ ไม่อ่ะกูทำใจไว้นานละ" ฉันทำใจไว้นานแล้วจริงๆตั้งแต่...วันนั้นที่ฉันเจอมันออกมาจากคอนโดของรุ่นน้องปีหนึ่ง "แล้วพ่อแม่มึงกับพ่อแม่กู..." มันยังคิดถึงพ่อกับแม่อยู่อีกเหรอ จิตสำนึกด้านดีมันก็ยังพอมีเหมือนกันนะ "มึงไม่ต้องห่วงเดี๋ยวกูเคลียร์เอง" "มึงแน่ใจว่าเคลียร์ได้โดยเฉพาะพ่อกำนันของมึง" "หรือมึงจะไปเคลียร์กับพ่อกูเองเอาไหมล่ะ" "ไม่เอากูยอมรับว่ากูขี้ขลาดว่ะ กูยังไม่อยากตายตอนนี้เพราะโดนพ่อมึงเอาปืนมาไล่ยิงกบาลกู" "เหอะมึงกลัวตายด้วยเหรอได้ซัน" "ลูกชายกูยังใช้งานไม่คุ้มเลยจะให้กูรีบตายไปไหนวะ" "หึ มึงก็คิดได้แค่นี้อ่ะเนอะ" "มึงจำวันที่กูไปสารภาพกับพ่อมึงได้ไหม" ทำไมฉันจะจำไม่ได้วันนั้นคือวันที่เราจบมอหกกันแล้ว มันไปสารภาพกับพ่อฉันว่ามันกับฉันมีอะไรกันแล้วมันโดนพ่อฉันเอาปืนไล่ยิงดีที่มันหลบหลังแม่ของฉันทันมันเลยรอด เรื่องของเรื่องก็คือที่มันไปสารภาพเพราะมันต้องการให้ฉันมาเรียนต่อกับมันที่มหาลัยในกรุงเทพ มันกลัวว่าพ่อฉันจะไม่ยอมให้มาด้วยมันก็เลยไปบอกความจริงแบบนั้น หลังจากวันนั้นแม่กับพ่อของมันก็มาพูดคุยกับพ่อแม่ของฉันว่าจะรับผิดชอบทุกอย่างและท่านจะส่งเสียให้ฉันเรียนจนกว่าจะจบมหาลัยถ้าถึงตอนนั้นท่านจะให้ฉันกับมันแต่งงานกัน พ่อกับแม่หันมาถามฉันว่าจะเอายังไงจะตกลงหรือปฏิเสธในตอนนั้นคือเรารักกันมากแทบไม่เคยแยกจากกันเลยไปไหนตัวติดกันตลอดฉันคิดว่ามันกับฉันคงไม่มีทางเลิกกันฉันก็เลยตอบตกลง หลายวันต่อมาเราได้ทำพิธีหมั้นกัน และหลังจากนั้นมันก็พาฉันมาเรียนมหาลัยในกรุงเทพ พ่อแม่มันซื้อคอนโดหรูซึ่งอยู่ใกล้มหาลัยให้เราสองคนอยู่ด้วยกันบอกเลยว่าช่วงปีแรกๆที่เราได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันตามลำพังสองคนอะไรมันก็ดีไปหมดทุกอย่างไปเรียนพร้อมกันกลับพร้อมกันแม้จะเรียนคนละคณะก็เถอะ จนกระทั่งนานวันเข้าอะไรๆก็เริ่มเปลี่ยนไป "วันนี้มึงกลับเองนะกูจะไปทำรายงานกลุ่ม" "วันนี้กูจะไปกินเหล้าที่หอเพื่อนกูนะ" "วันนี้กูจะไปดูบอลที่หอเพื่อนนะกลับดึกหน่อย" "วันนี้กูไม่กลับนะ" จากที่เคยกลับไม่ตรงเวลาเปลี่ยนมาเป็นกลับดึกจนมาช่วงหลังๆมันไม่กลับเลยก็มี บางครั้งหายไปสองสามวันแล้วกลับมาในสภาพที่ฉันพอจะเดาออกมามันไปทำอะไรมา แต่ถามว่าทำไมฉันไม่ถามไม่โวยวาย เพราะฉันรู้ว่าคนอย่างมันไม่มีทางยอมรับถ้าจับไมไ่ด้คาหนังคาเขามันเลยทำให้ฉันเริ่มทำใจจนกระทั่งมาถึงวันนี้วันที่มันมาขอเลิกกับฉัน นั่นก็แปลว่ามันคิดมาดีแล้ว " ตกลงกูกับมึงเลิกกันแล้วนะ" "เออ" ฉันตอบสั้นๆเพราะตอบยาวกว่านี้กลัวมันจะจับได้ถึงน้ำเสียงที่กำลังสั่นของฉัน "แต่กูกับมึงเรายังเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิมใช่ไหม" หึมันยังห่วงความเป็นเพื่อนอยู่อีกเหรอ ก็ได้ในเมื่อมันอยากจะเป็นฉันก็จะเป็นให้มัน "อืมมึงอยากเป็นอะไรก็เป็น" ฉันพยายามปรับเสียงให้ปกติที่สุดแม้ว่าตอนนี้ฉันกำลังจะไม่ไหว "ขอบใจว่ะมึงนี่โคตรเข้าใจกูเลย" มันดึงฉันเข้าไปกอดอย่างดีใจก่อนจะเดินเอามือล้วงกระเป๋าผิวปากกลับเข้าห้องนอนไปอย่างอารมณ์ดี โดยที่มันไม่มีทางรู้เลยว่าหลังจากมันเดินหันหลังไปน้ำตาของฉันมันก็ไหลออกมา มันคือน้ำตาหยดแรกและมันจะเป็นหยดสุดท้ายที่ฉันจะร้องไห้เพราะคนอย่างมัน ห้าปีที่คบกันมามันคงไม่มีความหมายอะไรกับมันเลยสินะ ที่ผ่านมาฉันทำทุกอย่างเพื่อมันมาตลอดแต่มันไม่เคยเห็นค่าอะไร ฉันมีแค่มันคนเดียวรักมันแค่คนเดียวแต่สำหรับมัน..............ช่างมันเถอะ เพราะตอนนี้ฉันกับมันได้กลับไปยังจุดเริ่มต้นนั่นก็คือความเป็นเพื่อน ฉันเอามือปาดน้ำตาแล้วหันหลังเพื่อลงมือทำกับข้าวต่อ เข้มแข็งเข้าไปลูกสาว ฮึบ ฮึบ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม