ตอนที่ 10 อะไรจะเกิดก็ให้มันเกิด

1382 คำ
จันทร์ จันทร์หอม "ผมอยู่ภูเก็ตกับจันทร์ครับ ผมต้องขอบคุณพี่มากนะครับถ้าไม่ได้พี่ผมคงต้องเสียใจไปตลอดชีวิต" น้ำเสียงของดาราหนุ่มสั่นเครือคล้ายจะร้องไห้รู้สึกผิดหวังกับการกระทำของผู้เป็นมารดาอย่างอดไม่ได้ ทิชาเพิ่งรู้ความจริงเมื่อจวนจะถึงเวลาเข้าพิธีแต่งงานกับหญิงสาวที่ตัวเองไม่ได้รัก ส่งผลให้เขาตัดสินใจรีบเดินทางมาหาชายคนรักทันที ขณะที่ทุกคนกำลังวุ่นวายกับการต้อนรับแขกอยู่นั้นเขาถึงได้หลบหนีออกมาคนเดียวโดยที่ไม่มีใครรู้เห็น   เมื่อชายหนุ่มเดินทางมาถึงบ้านของจันทร์ จึงรีบบอกเรื่องราวทั้งหมดให้จันทร์ฟังแล้วพากันไปขึ้นเครื่องที่ดอนเมืองบินตรงมายังภูเก็ตทันที ถ้าไม่รีบมาอาจสายเกินไปหากใครตามตัวเขาไปร่วมพิธีตามเดิม พอแมคพี่ชายที่แสนดีได้ยินน้ำเสียงของน้องชายก็รู้สึกเสียใจไม่แพ้กัน แต่เขาก็ไม่เห็นด้วยกับการกระทำของคุณอานภาจึงออกอุบายเพื่อช่วยเหลือน้องชายที่เขารักด้วยความตั้งใจให้เกิดการหลบหนีขึ้น  "น้องทิชาไม่ต้องคิดมากนะครับ พี่ทำเพราะไม่อยากเห็นคนที่พี่รัก...เอ๊ย! เห็นน้องชายที่พี่รักต้องเจ็บปวดน่ะ...แฮ่ๆ อะไรที่พี่พอจะช่วยได้พี่ช่วยเต็มที่อยู่แล้วล่ะไม่ต้องกังวลเรื่องนี้นะ" แมคเผลอหลุดความในใจออกไปจึงยกมือเกาหัวแก้เขินขณะตอบปลายสายด้วยความรู้สึกเขินอายอย่างบอกไม่ถูก  "ขอบคุณพี่มากนะครับ ผมจะไม่ลืมบุญคุณครั้งนี้ของพี่เลยครับ" "น้องทิชาไม่ต้องพูดขนาดนี้ก็ได้ ถึงยังไงพี่ก็ยินดีช่วยเราอยู่แล้วไม่ถือว่าเป็นบุญคุณหรอกครับ ที่คุณอานภาทำไปเขาก็มีเหตุผลของเขา เหตุผลของผู้ใหญ่ถึงแม้ว่าเราจะไม่เห็นด้วยก็ตาม พี่เองก็ยอมรับว่าไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้เพราะมันเหมือนเป็นการฝืนใจและลดทอนสิทธิส่วนบุคคล พี่เลยให้เราหนีออกไปจากงาน หากมีอะไรให้พี่ช่วยก็บอกได้นะพี่ยินดี ส่วนทางนี้เดี๋ยวพี่จัดการเอง พี่กำลังทำทีขับรถออกไปตามหาเราอยู่ถ้ามีอะไรก็บอกพี่ได้นะทิชา" "ยังไงผมฝากคุณแม่ด้วยนะครับพี่แมคฝากดูแลท่านด้วยถ้าผมพร้อมจะกลับไปเมื่อไหร่จะรีบส่งข่าวให้พี่รู้เป็นคนแรกเลยครับ"  เมื่อแมคได้ยินเช่นนั้นก็เกิดรอยยิ้มขึ้นบนใบหน้าเพราะอย่างน้อยคนที่เขารักยังเห็นความสำคัญของเขาที่ให้ช่วยดูแลแม่ นับเป็นสิ่งที่เขาเต็มใจและยินดีที่จะช่วยน้องชายคนนี้อย่างสุดความสามารถ  "ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องนี้นะ ถึงน้องทิชาไม่บอกพี่พี่ก็พร้อมจะดูแลคุณอานภาอยู่แล้ว ยังไงขอให้เที่ยวให้สนุกนะ แล้วอย่าลืมดูแลตัวเองด้วย พี่ต้องวางสายแล้วนะครับ" "พี่แมคก็เหมือนกันนะครับ ดูแลตัวเองด้วยคุณแม่ว่ายังไงไลน์มาบอกผมแทน ถ้าไม่สะดวกจะโทรหาผม สวัสดีครับ" "ครับน้องทิชา" ชายหนุ่มตอบรับน้องชายจบลงจึงทำทีขับรถออกไปจากโรงแรมที่จัดงานแต่งเพื่อเดินทางตามหาดาราหนุ่มตามคำสั่งของคุณนภาต่อไป   ชายหาดเมืองภูเก็ต หลังจากที่ดาราหนุ่มวางสายพี่ชายอันเป็นที่รักเขาก็ถูกคนรักถามขึ้นอย่างรู้สึกห่วงใย  "พี่แมคเค้าว่ายังไงบ้างและคุณนภาอีกล่ะเขาว่ายังไง?" จันทร์มีสีหน้าไม่สบายใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันที่อยู่ๆ ก็ถูกคนรักพาตัวขึ้นเครื่องบินมาลงที่ภูเก็ต ระยะเวลากระชั้นชิดจนเขาแทบจะตั้งตัวไม่ทัน มันเกิดอะไรขึ้นกับดาราหนุ่มกันแน่ เมื่อได้คุยกับดาราหนุ่มจึงได้ความว่าเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาคุณนภาได้ขอร้องให้แต่งชุดที่คุณนภาเตรียมไว้ให้เพื่อที่จะออกงานการกุศลที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ซึ่งทางดาราหนุ่มก็ทำตามอย่างว่าง่าย จนกระทั่งเดินทางมาถึงโรงแรมที่หมายก็ต้องรู้สึกตกใจเมื่อไปถึงหน้างานกลับเป็นงานมงคลสมรสระหว่างตัวเองและว่าที่เจ้าสาวทายาทเจ้าของร้านจิวเวลรี่ชื่อดังของประเทศไปได้ ทางดาราหนุ่มไม่สามารถปฏิเสธคำร้องขอของคุณนภาได้ จึงทำตามขั้นตอนที่คุณนภาได้วางไว้ตั้งแต่ต้น กระทั่งจะถึงเวลาเข้าพิธีดาราหนุ่มกับรู้ถึงหัวใจตัวเองว่ากำลังจะตัดสินใจผิดครั้งใหญ่ในชีวิต เขาจึงปรึกษากับพี่ชายซึ่งลงความเห็นเดียวกันว่าต้องหนีอย่างเดียวไม่อย่างนั้นคงต้องเข้าพิธีแต่งงานตามที่คุณนภาต้องการเป็นแน่ จากเรื่องที่เกิดขึ้นจึงเป็นเหตุให้ดาราหนุ่มนำตัวเขามาถึงเมืองภูเก็ตแห่งนี้  "นายไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องนี้นะจันทร์ ขอให้รู้ว่าสิ่งที่เราทำทั้งหมดเราทำไปเพราะความรู้สึกและหัวใจของเรา มันอาจจะไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องแต่เป็นหนทางเดียวที่จะทำให้เราสองคนได้อยู่ด้วยกัน เข้าใจใช่ไหม..." จันทร์คอยใช้นิ้วเกลี่ยเส้นผมออกจากหน้าผากให้กับแฟนหนุ่มที่ถูกกระแสลมจากคลื่นทะเลพัดกระทบให้ปอยผมปิดบังใบหน้าหวานของคนรัก ขณะที่ทิชากำลังบอกถึงความรู้สึกของตัวเองให้ฟัง ทำให้เขาเข้าใจในเจตนาของอีกฝ่ายอย่างชัดเจนโดยไม่ต้องหาเหตุผลอื่นใดมาหักล้าง  หากสิ่งนี้จะเป็นหนทางเดียวที่จะทำให้เขาและดาราหนุ่มได้อยู่ด้วยกันแล้วถึงจะผิดมากกว่านี้เขาก็พร้อมที่จะฟันฝ่าอุปสรรคร่วมกับดาราหนุ่มอย่างแน่นอน ก่อนที่เขาจะดึงดาราหนุ่มเข้ามาสวมกอดเหมือนเป็นการตอบกลับความหวังดีและพร้อมรับกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นตามมาภายในอ้อมกอดอันอบอุ่นเนิ่นนานใต้เงาของต้นมะพร้าวใหญ่    สถานการณ์ที่โรงแรมจัดงานแต่งงานของดาราหนุ่มและทายาทเจ้าของบริษัทจิวเวลรี่ชื่อดังเริ่มตึงเครียดมากขึ้น เมื่อถึงเวลาเข้าพิธีแต่งงานทุกคนยังไม่สามารถตามตัวเจ้าบ่าวมาร่วมพิธีได้ ส่งผลให้ว่าที่เจ้าสาวอารมณ์เสียเดินขึ้นบนเวทีก่อนจะแย่งไมค์จากพิธีกรขึ้นมาป่าวประกาศทั่วงานด้วยอารมณ์ขุ่นเคืองและอับอาย  "คุณอานภาคะจนถึงตอนนี้คุณอาไม่ต้องปิดทุกคนหรอกค่ะว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับลูกชายของคุณอา เมื่อเขาไม่ต้องการจะแต่งงานกับหนูคุณอาก็ไม่ควรที่จะไปบังคับเขา ถ้าวันหนึ่งหนูรู้ความจริงว่าเขาไม่ต้องการจะแต่งกับหนู หนูก็คงต้องเลิกกับเขาอยู่ดีค่ะ เหตุผลสำคัญที่ลูกคุณอาไม่ยอมแต่งงานกับหนูเพราะเขามีแฟนเป็นผู้ชายใช่ไหมคะ ตอนนี้คงจะมีความสุขกันอยู่ที่ภูเก็ตใช่ไหมคะ แต่คุณอาไม่ต้องกลัวหรอกนะคะว่าหนูจะไปขัดขวางความสุขแล้วแย่งเขาให้มาแต่งงานกับหนู ไม่มีทางเกิดขึ้นแน่นอนค่ะ หนูจะไม่มีวันใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับคนรักร่วมเพศแบบนั้นแน่นอนค่ะ แขกผู้มีเกียรติทุกท่านคะงานแต่งวันนี้ฉันขอยกเลิกค่ะ ขอเชิญทุกท่านเดินทางกลับบ้านโดยสวัสดิภาพ หากเป็นไปได้ไม่ต้องมาร่วมพิธีมงคลสมรสของคนตระกูลนี้อีกนะคะ เพราะทุกท่านจะต้องผิดหวังเหมือนกับหนูวันนี้ ขอบคุณค่ะ" น้ำเสียงขุ่นเคืองที่แฝงด้วยอารมณ์ดุร้ายดังกังวานไปทั่วบริเวณห้องบอลรูมใหญ่ของโรงแรม สร้างความตื่นตระหนกตกใจกับบรรดาแขกเหรื่อที่มาร่วมงานนับพันคนไม่น้อย หลังจากที่อดีตว่าที่เจ้าสาวพูดถึงความในใจกับทุกคนจบ คุณนภาถึงกับเป็นลมล้มพับไปกลางงานด้วยอาการช็อค โดยมีชายหนุ่มผู้เป็นหลานชายประคองร่างเอาไว้ได้ทันเสียงก่อน จากนั้นทางครอบครัวของคุณนภารีบนำตัวหล่อนไปโรงพยาบาลในทันที จึงทำให้พิธีงานมงคลสมรสต้องเป็นอันล้มเลิกลงจริงๆ...
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม