Ep.2
พอเรียนเสร็จพวกเราทั้งสี่คนก็ไปหาอะไรกินหลังม. อาหารที่ตกลงกันได้ก็คืออาหารญี่ปุ่น นั่งกินไปเม้าท์มอยกันไปเป็นอะไรที่เลิศสุดๆ และที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับชะนีอย่างพวกเรา นั่นก็คืออาหารตา555 ของมันต้องมีอยู่แล้วปะ? อิอิ แต่ตอนนี้นะฉันยังไม่เห็นผู้ชายที่พอจะเป็นอาหารตาให้ฉันได้เลยสักคน…
“นี่ชะนี! พรุ่งนี้เรียนบ่าย คืนนี้ออกมะ?” อีตุ๊ดถามขึ้นพร้อมกัดปากทำหน้าเซ็กซี่ยั่วๆ
“ไปดิๆ ไปๆ >/////<” มะเหมี่ยวที่นั่งข้างอีกัสก็อีกคน ฉันเลยหันหลังไปมองตามสายตาพวกมัน แล้วก็เจอกับผู้ชายคนหนึ่งที่…
หล่อ! หล่อมากก หล่อวัวตายควายล้มเลยค่ะ สูง ขาว หน้าออกหวานนิดๆ แต่แววตาดูร้ายไม่เบา เขาเดินเข้ามาในร้านคนเดียว แล้วก็เดินผ่านโต๊ะของพวกเรา โดยที่พวกเราทุกคนมองตามตาไม่กระพริบเลยค่ะ ยกเว้นใบเตยรายนั้นไม่สนใจผู้ชายคนไหนอยู่แล้ว
ผู้ชายคนนั้นเดินเข้าไปนั่งโต๊ะข้างในสุด ถัดจากโต๊ะพวกเราไปสามโต๊ะ ดูจากหน้าแล้วน่าจะหยิ่งพอตัวเลยแฮะ...เขาเป็นใครนะ?
“ใครวะมึง?” ฉันรีบเปิดประเด็นถามขึ้นมาทันทีหลังจากที่เขานั่งลงไปแล้ว
“อีเนยย! มึงไปหลบอยู่ในซอกหลืบไหนมา เขาออกจะฮอต! เขารู้จักกันทั้งมหา’ ลัย” มะเหมี่ยวพูดพร้อมทำหน้าเหมือนอึ้งๆ ที่ฉันไม่รู้จักหมอนั่น
“เอ๊า! ก็กูไม่รู้จักจริงๆ นี่ แล้วสรุปเขาเป็นใคร?” ฉันถามต่อ ก็ฉันไม่รู้จักจริงๆ นี่นา
“เขาชื่อคิง เรียนคณะบริหารปีเดียวกันกับเรา เป็นอดีตเดือนมหาลัยที่ฮอตมาจนถึงปัจจุบันเลยแหละ เพราะเขาทั้งหล่อ บ้านรวย รวยมากเลยแหละ แถมยังเป็นเจ้าของกิจการตั้งแต่อายุสิบแปดปี เพอร์เฟคมากๆ กูบอกเลย นี่! อีเนย ถ้ามึงคิดจะจีบนะ กูบอกไว้เลยนะว่ายาก! และไม่มีทางติดแน่ๆ เพราะคนเข้าหาเขาเยอะมาก กูไม่เห็นเขาจริงจังกับใครสักคน มีแต่เล่นๆ ไม่กี่วันแล้วก็เลิกรากันไป” กัสนำเสนอสตอรี่ผู้ชายคนนั้นให้ฉันฟัง แต่รู้มั้ย ว่าพอได้ฟังที่อีกัสมันพูดมา มันยิ่งทำให้ฉัน...อยากได้!
“และถ้ามึงคิดจะจีบนะ กูพนันได้เลยว่า...นก!!”
“งั้นมาพนันกันมั้ยล่ะ?” ฉันก็ไม่รู้หรอกนะว่าอะไรที่ทำให้ฉันมั่นใจที่จะพนันกับมัน รู้แค่ว่ามันท้าทายดี ก็แค่นั้น
“ของเดิมพันคืออะไรล่ะ” มันถามฉัน
“อืม...เอาเป็น จิวเวลรี่คอลเลคชั่นใหม่ล่าสุดที่กำลังจะเปิดตัวมั้ยล่ะ? แล้วถ้าเกิดกูชนะ มึงก็จ่ายกูแค่ครึ่งราคาตกลงมั้ย?”
“ของเดิมพันสูงใช่เล่นแฮะ แสดงว่ามั่นใจมาก” ฉันไม่ตอบแต่ยิ้มกลับไปให้มัน พร้อมกับมองไปยังเป้าหมายที่กำลังนั่งเล่นสมาร์ทโฟนอยู่
“งั้นตกลงตามนี้นะ เดี๋ยวกูมา” ฉันบอกมันไปก่อนจะพูดต่อ
จากนั้นฉันก็ลุกจากที่นั่งแล้วเดินเข้าไปหาผู้ชายคนนั้นที่โต๊ะทันที ฉันก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าจะยากสักแค่ไหน
“ขอโทษนะคะ ถ้าไม่รังเกียจขอนั่งด้วยสักครู่ได้มั้ยคะ?” ฉันทักเขาด้วยเสียงที่ดูเรียบร้อยและอ่อนหวานสุดๆ
“…” เขาเงยหน้าจากสมาร์ทโฟนขึ้นมามองฉันนิดนึง ไม่พูดอะไร แต่กลับพยักหน้าให้ฉันแทน แล้วก้มลงไปสนใจสมาร์ทโฟนในมือต่อ
“คุณ...มาคนเดียวหรอคะ?” ฉันเอ่ยถามขึ้นหลังจากที่นั่งลงตรงข้ามเขาแล้ว
“เปล่า มากับเพื่อน” เขาตอบแบบไม่มองหน้าฉันเลย ดูเหมือนเขาจะไม่สนใจฉันด้วยนะ แต่เอาเถอะ! มาถึงขนาดนี้แล้ว ฉันไม่ยอมกินแห้วหรอกนะ อีกอย่างนี่มันแค่เริ่มต้นเท่านั้นเอง
“อ๋อ...งั้นให้ฉันนั่งเป็นเพื่อนนะ”
“หึ จะจีบฉันหรอ?” เขาถามพร้อมกับยิ้มที่มุมปากและเงยหน้ามาจ้องตาฉัน
“แล้ว...ถ้าบอกว่าใช่ จะให้จีบมั้ยล่ะ?” ฉันถามเขากลับพร้อมกับจ้องหน้าเขาอย่างไม่ยอมแพ้ โอ๊ยย! พอได้มองใกล้ๆ แบบนี้แล้วคนอะไรจะหล่อเบอร์นี้ แบบนี้ยิ่งปล่อยไปไม่ได้เลยค่ะ
“เสียเวลาเปล่า” เขาตอบฉันพร้อมกับแค่นหัวเราะแล้วยิ้มมุมปากให้ฉันแทน
“ฉันน่ะ...สนใจนายนะ” ฉันพูดกับเขาด้วยสีหน้าที่แสดงออกสุดๆ ว่ากำลังอ่อย ก่อนจะยื่นมือออกไปจับมือเขา เขาก็มองมือฉันที่จับมือเขาแป๊ปนึง แล้วก็กลับมามองหน้าฉันเหมือนเดิม
“...” แต่เขาก็ยังเฉย นี่อ่อยขนาดนี้แล้วยังเฉยอีกหรอวะ หรือว่าจะมีคนใช่มุกนี้เยอะแล้ว? ขนาดฉันที่เป็นคนใช้เอง ฉันยังมองว่ามันเชยและเก่ามากๆ แต่ในหัวตอนนี้ฉันคิดอะไรไม่ออกจริงๆ ...ฉันว่าฉันควรกลับไปตั้งหลักมาใหม่ดีกว่า
“นี่เบอร์โทรศัพท์ของฉันนะ” พอคิดได้ว่าต้องไปตั้งหลักมาใหม่ ฉันก็ยัดกระดาษทิชชู่ที่เขียนเบอร์โทรของตัวเองเข้าไปที่มือของเขาทันที
“…” พร้อมกับเขาที่ยังคงมองฉันด้วยสายตานิ่ง แต่ฉันก็ไม่สน รีบพูดพร้อมกับขยิบตาให้เขาไปหนึ่งที
“แล้วโทรมานะ คิง :) ”