ตอนที่ 2 ที่นี่ที่ไหน

1173 คำ
‘ที่นี่ที่ไหน’ เป็นไดอะล็อกยอดฮิตที่เธอมักจะได้ยินนางเอกละครพูดพึมพำกับตัวเองหลังจากฟื้นจากการเป็นลมหมดสติซึ่งมีสาเหตุมาจากถูกลักพาตัวหรือถูกประทุษร้ายจากพวกตัวอิจฉาหรือพวกตัวร้ายในละคร เธอไม่เคยคิดที่จะอุทานประโยคแสนเชยนี้ออกมาแต่ทว่ามันเป็นประโยคแรกและประโยคเดียวที่ผุดขึ้นมาในหัวเธอตอนนี้ ที่นี่ที่ไหน... มันไม่ใช่แค่คำอุทานแต่มันคือสิ่งที่เธออยากจะรู้จริงๆว่าตอนนี้เธออยู่ที่ไหน ความทรงจำสุดท้ายของเธอคือการนอนพักรักษาตัวอยู่ในห้องพักผู้ป่วยในของโรงพยาบาลเพื่อรอเวลาเข้าห้องผ่าตัด โอกาสรอดของเธอแทบไม่มีแต่เธอก็เลือกที่จะเสี่ยงถือเป็นการตัดสินใจสู้ครั้งสุดท้าย แม้ว่าการสู้ของเธอจะเป็นการตัดสินใจในวินาทีสุดท้ายก็ตามทว่าเธอก็อยากจะลองเสี่ยง สุดท้ายปาฏิหาริย์ก็ไม่เกิดขึ้น การผ่าตัดล้มเหลว เธอเสียชีวิตระหว่างการผ่าตัด สถานที่หลังความตายที่วิญญาณของเธอต้องไปอยู่ก็น่าจะเป็นสรวงสวรรค์หรือไม่ก็ขุมนรกซึ่งเป็นอีกภพภูมิที่คนธรรมดาไม่สามารถไปได้ นั่นคือสิ่งที่เธอเข้าใจ แล้วทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่ เธอเข้ามานั่งอยู่ในรถคันนี้ได้ยังไง เธอมั่นใจว่าสถานที่แห่งนี้ไม่ใช่สรวงสวรรค์เพราะเธอไม่เห็นก้อนเมฆสีขาวสะอาดตา และเธอก็มั่นใจว่าที่นี่ไม่ใช่ขุมนรกเพราะเธอไม่เห็นกระทะทองแดงหรือว่าต้นไม้ประจำสถานที่อย่างต้นงิ้ว แล้วที่นี่มันคือที่ไหน? แล้วเธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง? นั่นคือคำถามที่ลอยวนเวียนอยู่ในหัวของเธอตอนนี้ก่อนที่ความรู้สึกอื่นจะเข้ามาแทนที “ชู้ด... เจ็บจัง” ความรู้สึกเจ็บจี๊ดบริเวณหน้าผากทำให้ต้องชูดปากยาว เมื่อยกมือขึ้นแตะเบาๆก็สัมผัสได้ถึงความปูดโนจึงค่อยๆขยับใบหน้าไปที่กระจกส่องหลังก่อนจะสะดุ้งแรงเมื่อเห็นใบหน้าของตัวเองที่สะท้อนในกระจก “นี่มันอะไรกัน! ผู้หญิงคนนี้เป็นใคร แล้วเธอมาอยู่ในร่างของผู้หญิงคนนี้ได้ยังไง” ตอนที่ยังมีชีวิตอยู่เธอก็พอจะรู้ว่าตัวเองไม่ใช่คนขี้ริ้วขี้เหร่จัดอยู่ในประเภทผู้หญิงหน้าตาดีใช้ได้คนหนึ่ง แต่ทว่าก็ยังห่างไกลจากใบหน้าสวยจิ้มลิ้มในกระจกอยู่มาก ผู้หญิงคนนี้สวยกว่าเธอมาก อาจจะไม่ได้สวยหยาดฟ้ามาดินถึงขั้นมองตาค้างแต่ก็เป็นคนที่สวยน่ารักมากคนหนึ่ง โดยเฉพาะรอยบุ๋มตรงแก้มเวลาพูดแล้วโคตรมีเสน่ห์ เธอไม่รู้จักผู้หญิงคนนี้ มั่นใจว่าไม่เคยเห็นหน้าค่าตามาก่อน ผู้หญิงคนนี้เป็นใคร? แล้วเธอเข้ามาอยู่ในร่างของผู้หญิงคนนี้ได้ยังไง? ตุบๆ ตุบๆๆ เสียงทุบกระจกรถทำให้หญิงสาวที่กำลังนั่งนิ่งไม่ต่างจากคนที่ถูกไฟฟ้าแรงสูงช็อตอยู่ด้านหลังพวงมาลัยรถถึงกับสะดุ้งโหย่ง ก่อนจะสะดุ้งตกใจยิ่งกว่าเดิมเมื่อมองออกไปนอกรถแล้วทำให้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เธอขับรถชน! ไม่ใช่เธอสิ แต่เป็นผู้หญิงคนนี้ขับรถชน ดูจากสภาพรถและเหตุการณ์ความวุ่นวายตรงหน้าแล้วก็ไม่รู้ว่าเธอรอดชีวิตมาได้ยังไง แต่ทว่าเธอก็รอดชีวิตมาได้ราวกับปาฏิหาริย์ ใช่... มันคือปาฏิหาริย์ “นี่เธอ! เปิดประตูรถออกมาคุยกันเดี๋ยวนี้! ฉันบอกให้เธอเปิดประตูรถออกมาคุยกันไง” แม้จะยังสับสนมึนงงไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้นแต่เธอก็ไม่มีเวลาให้คิด รีบเปิดประตูรถก่อนที่คนด้านนอกจะทุบกระจกรถแตกซะก่อน ก่อนลงจากรถก็ไม่ลืมที่จะยื่นมือคว้าเอากระเป๋าสะพายใบเล็กที่วางอยู่เบาะที่นั่งด้านข้างติดมือลงไปด้วย “ขับรถบ้าอะไรของเธอถึงไม่เห็นว่ารถฉันเปิดไฟเลี้ยว วันดีๆแท้ๆกับต้องมาซวยเพราะพวกขับรถโง่ๆแบบเธอ พวกควายหลุดถนนเอ้ย” เพราะยังมึนงงจับต้นชนปลายไม่ถูกก็เลยได้แต่ยืนนิ่งฟังอีกฝ่ายโวยวายออกมาอย่างหัวเสีย คู่กรณีของเธอคือผู้ชายวัยกลางคนอายุประมาณสี่สิบถึงสี่สิบห้าปี ขับรถหรูแต่งตัวดีใส่สูทผูกเนกไทซึ่งขัดกับบุคลิกคำพูดคำจาลิบลับ ท่าทางเขาโกรธจัดมากใบหน้าทะมึนตึงน่ากลัว แววตาวาวโรจน์จนเธอไม่กล้าสบตาด้วย “โง่ไม่พอเสือกทำคนอื่นเขาเดือดร้อนไปด้วย โทรเรียกประกันมาเคลียร์เดี๋ยวนี้เลย รถเธอมีประกันใช่ไหม” หญิงสาวรีบเปิดกระเป๋าหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดค้นหาเบอร์โทรศัพท์ของบริษัทประกันรถโดยไม่ต้องรอให้คู่กรณีตะคอกซ้ำ แต่ทว่ายังไม่ทันที่เธอจะกดค้นหาเบอร์โทรศัพท์ที่ต้องการป๊อปอัปข้อความก็เด้งขึ้นมาซะก่อนอย่างได้จังหวะจะโคนราวกับนกรู้ ซึ่งข้อความที่เด้งขึ้นมาทำให้ความหวังอันน้อยนิดของเธอสลายหายไปทันที มือเรียวที่กำลังกดค้นหาเบอร์โทรถึงกับชะงักค้าง ซวยซ้ำซวยซ้อนมันเป็นอย่างนี้นี่เอง “ยืนบื้อทำอะไรไม่ทราบ โทรเรียกประกันรถมาเคลียร์สิ เธอรู้ไหมว่าเธอกำลังจะทำให้ฉันไปพรีเซนต์งานสำคัญสาย ถ้าฉันไปพรีเซนต์งานที่ Thewa Group ไม่ทันเธอตายแน่” “...” “ทำไมไม่โทรวะ! อย่าบอกนะว่ารถเธอไม่มีประกัน?” ไม่อยากจะบอกว่านอกจากรถคันนี้จะไม่มีประกันแล้ว รถคันนี้ยังไม่ใช่รถเธอด้วยไง อะไรจะซวยซ้ำซวยซ้อนขนาดนั้น เธอไม่รู้ว่าคนที่ส่งข้อความมาเป็นใคร แต่ทว่าที่แน่ๆคนที่ส่งข้อความมาเป็นเจ้าของรถคันนี้และเป็นเพื่อนกับเจ้าของร่างนี้อย่างแน่นอน Mew Monpreeya : ลืมบอก รถกูยังไม่ต่อประกันนะ ยังไงก็ขับดีๆล่ะอย่าซ่าไปจูบตูดรถใครเข้าล่ะ “รถไม่มีประกันจริงๆสินะ ในเมื่อรถเธอไม่มีประกันเธอก็ต้องเป็นคนรับผิดชอบค่าเสียหายทั้งหมด อย่าคิดว่าเป็นผู้หญิงแล้วฉันจะปล่อยไปง่ายๆ เอาบัตรประชาชนเธอมาสิเป็นคนต่างด้าวหรือเปล่า” ไม่ใช่แค่พูด แต่ผู้ชายคนนั้นยังยื่นมือมากระชากกระเป๋าใบเล็กไปจากมือเธอหน้าตาเฉยอย่างไม่รู้สึกผิด “ชื่อพิมพ์พลอยสินะ?” นั่นคือชื่อที่ผู้ชายคนนั้นพูดขึ้นหลังจากที่ค้นหาบัตรประจำตัวในกระเป๋าสะพายใบเล็กที่แย่งไปจากมือเธอ พิมพ์พลอย... 
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม