#พิษรักคนเลว(5)
“รีบไปใส่เสื้อผ้าเถอะค่ะ จะได้มานอนกันสักที นี่ก็ดึกมากแล้ว พรุ่งนี้เฮียมีงานเช้าไม่ใช่เหรอคะ” วันใหม่แสร้งเปลี่ยนเรื่อง ไล่ให้ชายหนุ่มไปใส่เสื้อผ้าจะได้มานอนกันสักทีเพราะนี่ก็ดึกมากแล้ว และตัวเธอเองก็ง่วงมากด้วย
ชนกันต์ที่ได้ยินอย่างนั้นก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก เขาไม่รู้เลยว่าการกระทำต่าง ๆ ที่เขาแสดงออกมามันอยู่ในสายตาของวันใหม่อยู่ตลอด
วันใหม่เห็นทุกอย่างแต่ก็เลือกที่จะมองผ่านราวกับไม่ได้สนใจหรือใส่ใจการกระทำของเขา เธอนิ่งเฉยราวกับเมื่อกี้ไม่ได้มีเหตุการณ์ใดเกิดขึ้น แม้ความจริงแล้วใจของเธอร้อนรุ่มดั่งเพลิงไฟแล้วก็ตาม
เธอเลือกจะปล่อยผ่านไม่ถามเซ้าซี้ชนกันต์ไปมากกว่านั้น แต่เธอไม่ได้ปล่อยผ่านเรื่องรอยแดงบนคอของเขาหรอกนะ เธอไม่มีทางปล่อยผ่านแน่ แต่ที่เธอทำเป็นนิ่งเฉย เมินเฉยก็เพราะเธอรู้ดีว่าถามไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร
ไม่มีใครหรอกที่ทำผิดแล้วจะยอมรับว่าตัวเองทำผิด
อีกทั้งรอยแดงแค่นั้นก็ไม่สามารถยืนยันได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าชนกันต์มีคนอื่น วันใหม่ไม่อยากกล่าวหาใครทั้งที่ตัวเธอไม่ได้มีหลักฐานอะไรสักอย่าง มีแค่รอยแดงบนคอเขามันจะไปช่วยยืนยันอะไรได้ ตอนนี้วันใหม่จึงจำใจต้องนิ่งเฉยและเฝ้ามองความเคลื่อนไหวของชนกันต์อย่างเงียบ ๆ ไม่ให้เขารู้ตัวว่าเธอกำลังจับผิดเขาอยู่
หลังจากเหตุการณ์วันนั้นวันใหม่ก็กลับมาทำตัวปกติ แต่คนที่ไม่ปกติน่าจะเป็นชนกันต์มากกว่า เขามักบอกเธอว่างานยุ่งและเขาก็กลับบ้านดึกทุกวัน หนำซ้ำยังมีกลิ่นน้ำหอมไม่คุ้นเคยติดตัวมา ยิ่งไปกว่านั้นน่าจะเป็นรอยลิปสติกที่ติดปกเสื้อมาราวกับว่ามีใครบางคนจงใจทำและจงใจให้เธอเห็น
อย่างเช่นวันนี้เมื่อเขากลับมาถึงบ้าน แล้วเดินตรงเข้ามากอดเธอที่นั่งกินผลไม้อยู่ วันใหม่สัมผัสถึงกลิ่นแปลกปลอมที่ติดมากับตัวของเขาได้
กลิ่นมันฉุน จนเธอต้องยกมือขึ้นมาปิดจมูก ทำหน้าเหยเกจะอ้วกออกมาอยู่รอมร่อ มือบางดันตัวชนกันต์ออกหาก
“เหม็นอะ” พูดพลางใช้มือปิดจมูก
ชนกันต์ทำหน้าไม่เข้าใจ ทำจมูกฟุดฟิดดมหากลิ่นเหม็นที่หญิงสาวว่า
“เหม็นอะไรคะ เหม็นกลิ่นเหงื่อเฮียเหรอ” เขาถามด้วยความไม่เข้าใจพลันเรียวคิ้วขมวดเข้าหากันแน่น เขาดมตัวเองดูแล้วก็ไม่ได้มีกลิ่นเหม็นอย่างที่เธอว่า อีกทั้งเขายังเป็นคนรักความสะอาด ทำงานอยู่ห้องแอร์ไม่มีทางที่ตัวเขาจะตัวเหม็นได้หรอก หรือว่าวันใหม่ยังไม่หายแพ้ท้องกันนะ “หนูยังแพ้ท้องอยู่เหรอคะ”
“หนูไม่ได้แพ้ท้องหรอกค่ะ หนูแค่เหม็นกลิ่นเน่าก็เท่านั้น”
“หนูพูดจาเพ้อเจ้อจัง” ชนกันต์ขำอย่างเอ็นดูแฟนสาว พลางยกมือขึ้นลูบศีรษะวันใหม่เบา ๆ ด้วยความมันเขี้ยว
พรึ่บ
“หื้ม” ชนกันต์ชะงักร้องครางออกมาด้วยความแปลกใจ เมื่อจู่ ๆ วันใหม่ก็ผลักมือเขาออกจากศีรษะเธออย่างแรง “เป็นอะไรคะ” เขาถามอย่างไม่เข้าใจในการกระทำของแฟนสาว เสี้ยววิแววตาของวันใหม่ที่มองเขามันแข็งกร้าว แต่เพียงแวบเดียวเท่านั้นเธอก็ปรับสีหน้าเป็นปกติ
“รีบขึ้นไปอาบน้ำสิคะ จะได้มากินข้าว ยังไม่กินข้าวไม่ใช่เหรอคะ” หญิงสาวเอ่ยเปลี่ยนเรื่อง
“โอเคค่ะ เฮียจะรีบลงมา” วันใหม่เอียงหน้าหนีเมื่อชนกันต์กำลังก้มลงมาหอมแก้มกัน
“หนูบอกว่าเหม็น”
“อ่า โอเคค่ะ” ชนกันต์ยกมือยอมแพ้ ก่อนจะปลีกตัวขึ้นห้องมาโดยมีวันใหม่นั่งมองตามแผ่นหลังเขาจนสุดสายตา ด้วยความรู้สึกหลากหลาย
เขาเก่งมาก ๆ ที่สามารถทำตัวปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นได้
เขาแสดงทุกอย่างออกมาได้อย่างแยบยล ในขณะที่หัวใจของเธอร้าวรานจนไม่เหลือชิ้นดี
“ทำไมกันนะ” เสียงหวานพึมพำออกมา ความผิดหวังฉายชัดในแววตา ทั้งที่เธอรักเขาหมดหัวใจที่มีขนาดนี้ แต่ทำไมเขาถึงไม่ไยดีความรักของเธอเลย
วันใหม่นั่งจมในภวังค์ความคิดของตัวเองอยู่อย่างนั้น ก่อนจะหยัดกายเดินตามชายหนุ่มขึ้นห้องมา
หญิงสาวย่อตัวลงเก็บเสื้อผ้าของชายหนุ่มที่ถอดวางทิ้งไว้อย่างสะเปะสะปะขึ้นมา เธอส่ายหน้าระอาเขาเล็กน้อยที่วันนี้ไม่ยอมถอดเสื้อผ้าลงตะกร้าดี ๆ
ติ้ง
ระหว่างนั้นเธอก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์ของชายหนุ่มที่วางอยู่บนโต๊ะตรงหน้าเธอดังขึ้นมา หน้าจอโทรศัพท์สว่างจ้าพร้อมข้อความบางอย่างที่เด้งขึ้นมา
‘ถึงบ้านยังคะกันต์ มิ้งคิดถึงคุณมากเลย’