ตอนที่ 5 สมการนี้มีคนคิดเกินเลย

1644 คำ
ความสัมพันธ์เริ่มแปรเปลี่ยนไปตั้งแต่เจอเขา.. การตัดสินใจที่จะเปิดใจในครั้งนั้น ทำให้ชีวิตของเธอได้พบกับโลกใบใหม่ ตั้งแต่รู้จักผู้ชายที่ชื่อชานชวินทร์ ชีวิตของจันจ้าวก็แลดูจะเปลี่ยนไป จากคนที่เก็บตัวเงียบก็ได้ออกไปเจอผู้คนเยอะขึ้น มากกว่าตอนที่หมกตัวซุ่มอ่านหนังสืออยู่คนเดียว ตอนนี้เลยกลายเป็นว่าตลอดระยะเวลาสองสัปดาห์ที่ผ่านมา จันจ้าวได้ทั้งความรู้ที่อัดแน่นจากชานชวินทร์ รวมถึงได้ทำความรู้จักรุ่นพี่ที่เป็นเพื่อนของเขาด้วย จากเข้าสังคมไม่เก่งก็เริ่มเปิดใจได้บ้างแล้ว.. ช่วงเที่ยงของวันหลังจากนั่งติวหนังสือกันยาวนานหลายชั่วโมง ชานชวินทร์ก็อาสาเป็นฝ่ายเข้าครัวลงมือทำอาหารให้สองสาวด้วยตัวเอง ใช้เวลาไม่นานกลิ่นของอาหารก็หอมคละคลุ้งตลบอบอวลไปทั่วครัว ข้าวสวยหอมกรุ่นลอยมาแตะปลายจมูก เรียกน้ำย่อยคนที่นั่งรอได้เป็นอย่างดี “พี่ชานทำกับข้าวอร่อยมากเลยนะคะเนี่ย” เสียงใสของน้ำอิงเอ่ยชมไม่หยุด ขณะซดน้ำซุปต้มจืดสาหร่ายรสอร่อยเข้าปาก พร้อมกับยกนิ้วโป้งให้ชานชวินทร์ที่ยืนยิ้มอย่างพึงพอใจ ร่างสูงยืนมองเจ้าของใบหน้าสวยหวานตักอาหารจ่อที่ริมฝีปาก สีหน้าและแววตาดูคาดหวังว่ารสชาติมันจะออกมาถูกปากเธอ “ระวังร้อนนะ” “อื้อ” “เป่าก่อน” จันจ้าวเป่าอาหารตามที่อีกฝ่ายบอก ก่อนจะอ้าปากลิ้มรสแล้วทำตาโตขึ้นมาทันที “อร่อยมั้ย” “อร่อยค่ะ” พอได้รับคำชมชานชวินทร์ก็อมยิ้มกรุ้มกริ่ม มือก็ดันชามต้มจืดเข้าหาจันจ้าว คล้ายว่าบอกเป็นนัยน์ให้เธอกินได้เต็มที่ “ทำให้สาวกินบ่อยเหรอคะ ถึงได้ช่ำชองขนาดนี้” สุ้มเสียงเชิงหยอกเย้าเอ่ยขึ้น เมื่อเห็นท่าทางดูใส่ใจเกินเหตุของรุ่นพี่ที่มีต่อเพื่อนของเธอ เจ้าของใบหน้าคมคายเลิกคิ้วสูง พร้อมกระตุกยิ้มบนมุมปากแสร้งว่าไม่เข้าใจในสิ่งที่อีกฝ่ายพูด “ทั้งหล่อ ทั้งเก่งแบบพี่ชาน คงมีสาวเยอะน่าดู” น้ำอิงว่า พลางเอียงคอรอคำตอบด้วยความสงสัย “ไม่มีหรอก พี่แค่โตมาตัวคนเดียว ก็เลยทำกินเองจนชิน” “อย่าโกหกเลยค่ะ บอกมาเถอะว่าทำให้แฟนกินบ่อย” จันจ้าวนั่งเคี้ยวข้าวจนแก้มตุ่ย ก่อนขยับสายตามองทั้งคู่สลับกันไปมา พอพูดถึงเรื่องแฟนเธอก็แอบหูผึ่งด้วยความอยากรู้เหมือนกัน ว่าผู้ชายที่เก่งรอบด้านอย่างเขาจะมีหวานใจตัวจริงเป็นของตัวเองหรือยัง ถึงมีก็ไม่แปลกใจอะไร แต่ถ้าจะไม่มีเลยก็ดูแปลกอยู่ดี “พี่ไม่มีแฟนครับ” เขาตอบกลับด้วยท่าทีเป็นกันเอง ก่อนจะเหลือบสายตามองจันจ้าวแล้วยิ้มให้ คนที่รู้ตัวว่าถูกมองแสร้งเบนสายตาไปทางอื่น ใบหน้าเห่อร้อนขึ้นมาโดยฉับพลัน เมื่อหันกลับมาแล้วพบว่าอีกฝ่ายยังไม่หยุดมอง “ไม่น่าเชื่อเลยนะคะเนี่ย ว่าคนอย่างพี่ชานจะไม่มีแฟน” “เชื่อพี่เถอะ เห็นพี่เป็นคนชอบโกหกหรือไง” “ก็เปล่า แค่ไม่อยากเชื่อเท่านั้นเองค่ะ เนอะจ้าว” พูดจบน้ำอิงก็หันมาเพยิดหน้าหาเพื่อนช่วยสมทบ ทำเอาเจ้าตัวชักสีหน้าไปต่อไม่ถูก ได้แต่ละล่ำละลักอ้าปากพูดไม่ทันกับความคิดที่ตีกันในหัว ชานชวินทร์ป้องปากหลุดขำออกมา ก่อนจะมองหน้าจันจ้าวแล้วส่งสายตาคาดคั้นรอคำตอบ “แล้วเธอล่ะ” “คะ” “คิดว่าพี่ชอบโกหกเหรอ” คนที่ถูกถามหน้าเหวอไปชั่วขณะ ดวงตากลมโตหลุกหลิกไปมา พลางส่ายหัวด้วยสีหน้าที่ดูไม่ค่อยมั่นใจ “จ้าวเองก็คิดว่าพี่ชานมีแฟนแล้ว” เธอว่าเสียงค่อย ทำเอาน้ำอิงตาโตอยากรู้ขึ้นมาด้วยทันที “ทำไมคิดแบบนั้น” “ก็วันนั้น.. จ้าวเห็นพี่ชานยืนทะเลาะกับผู้หญิงคนนึง” ชานชวินทร์มีท่าทีนิ่งสุขุมไม่ตื่นตระหนกกับคำพูดของอีกฝ่าย แม้จะถูกจับได้คาตาจนยากที่จะปฏิเสธก็ตาม โดยที่มีน้ำอิงนั่งรอคำตอบจนลุ้นตัวโก่งไปพร้อมกัน แต่เอาเข้าจริงเธอก็อยากได้ยินจากปากเขาเหมือนกัน เพราะที่ผ่านมาจันจ้าวไม่เคยล้ำเส้นเรื่องส่วนตัวของเขาเลย บางทีอาจจะมีหลายอย่างที่เธอเข้าใจผิดคิดไปเองก็ได้ “แค่คนเคยคุย” “คนคุยเหรอ” “ใช่ครับ ไม่ได้มีสถานะแบบคนรัก แล้วเราก็จบความสัมพันธ์นี้ไปแล้วด้วย” น้ำอิงที่ได้ยินแบบนั้นก็พยักหน้ารับกับความชัดเจน แต่ไม่วายหรี่ตาอย่างจับผิดพิรุธหนุ่มรุ่นพี่อยู่ดี เพราะสิ่งที่ได้ยินมาหนาหูเลยก็คือความเพลย์บอยของชานชวินทร์ ควงสาวระดับตัวท็อปทั้งนั้น.. เขาเป็นถึงลูกชายบุญธรรมของท่านดนัย เจ้าของบริษัทยักษ์ใหญ่อย่างเอ็มอาร์กรุ๊ป ที่จะตกทอดถึงเขาอย่างแน่นอนในอนาคตอันใกล้นี้ แถมเรื่องผู้หญิงก็มีเข้ามามากเช่นกัน “แต่ฉันได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับพี่มาเยอะเลยนะ” น้ำอิงว่าแล้วนั่งเท้าคางใส่ แต่อีกฝ่ายกลับยิ้มรับอย่างไม่สะทกสะท้านอะไร “แล้วน้องอิงอยากเลือกเชื่อแบบไหนล่ะครับ” “ไม่รู้สิคะ ฟังหูไว้หูเหมือนกัน” “หรือพี่ดูเป็นคนไม่ดี” “ก็เปล่าค่ะ” สิ้นประโยคนั้นน้ำอิงก็ไหวไหล่อย่างไม่ยี่หระ เพราะเท่าที่สัมผัสมากับตัว ชานชวินทร์เป็นผู้ชายที่เอาใจใส่คนรอบข้างเก่งก็เท่านั้นเอง ไม่แปลกอะไรหากจะมีผู้หญิงมากมายอยากเข้าหาเขา แต่เหมือนจะมีหนึ่งคนที่พิเศษกว่าคนอื่น.. ตาวิเศษมองเห็นการกระทำที่มากกว่าพี่น้องมาสักพักแล้ว “ทานให้หมดนะจ้าว พี่อุตส่าห์ตั้งใจทำให้” “ได้ค่ะ พี่ชานก็นั่งทานด้วยกันสิคะ” “พี่สั่งมาการองมาให้เธอด้วย รสโปรดเธอ” “จริงเหรอคะ เกรงใจจัง แต่ก็ขอบคุณนะคะพี่ชาน” น้ำอิงที่นั่งสังเกตการกระทำและสายตาของชานชวินทร์พลันลอบยิ้มออกมา ทั้งคู่นั่งข้างกันในขณะที่ผลัดกันตักอาหารใส่ชามของอีกฝ่าย ชวนคุยกระหนุงกระหนิงหัวเราะคิกคักอยู่สองคน โดยที่เธอแทบจะกลายเป็นส่วนเกินอยู่แล้ว จันจ้าวคงไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเผลอยิ้มออกมามากกว่าปกติเวลาอยู่กับเขา อีกทั้งชานชวินทร์ยังแสดงออกชัดเจนว่าปฏิบัติตัวกับเธอต่างจากคนรอบกาย นี่แหละพิเศษกว่าคนอื่นของจริง.. หลังจากหนุ่มรุ่นพี่อาสาขับรถมาส่งคอนโดเหมือนทุกวัน น้ำอิงก็ขอติดรถมาติวที่ห้องจันจ้าวด้วย สองสาวนั่งช่วยกันทบทวนหนังสืออยู่สักพักใหญ่ ก่อนจะทิ้งตัวนอนแบหลาหันหัวชนกันอยู่บนเตียง ดวงหน้าหมดจดดูอ่อนเพลีย หน้ามืดตาลายจนแทบจะอ้วกออกมาเป็นตัวหนังสือ ยิ่งใกล้ถึงวันสอบจริงเธอก็อยากทำมันให้ออกมาดีที่สุด “ทำไมวันนี้แกต้องจี้ถามพี่เขาแบบนั้นด้วยอิง” จันจ้าวเอ่ยถามกับสิ่งที่ติดอยู่ในใจ พลางเหลือบสายตามองคนที่นอนเล่นโทรศัพท์อยู่ “แบบไหนอะ” “ก็เรื่องผู้หญิง” สิ้นประโยคนั้นน้ำอิงก็ลดมือถือลง ก่อนจะหันมองจันจ้าวด้วยสีหน้าจริงจัง “ฉันได้ยินมาว่าเขาเป็นเสือผู้หญิง แต่เขาพูดเรื่องจริงที่ไม่ได้ให้สถานะกับคนไหนเป็นพิเศษ” “แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเรา ทำไมแกต้องไปจับผิดพี่เขาด้วย” “ก็ต้องจับผิดสิ ดูก็รู้ว่าพี่ชานกำลังสนใจแก” ดวงตาคู่สวยเบิกโพลงด้วยความตกใจ ตรงกันข้ามกับน้ำอิงที่คลี่ยิ้มเชิงหยอกเย้าออกมา “พูดอะไรของแกเนี่ยน้ำอิง” จันจ้าวกลอกตาไปมาอย่างเลิ่กลั่ก พลันข้างแก้มก็เห่อร้อนขึ้นมาแต่ต้องเก็บซ่อนอาการไว้ กลัวอีกฝ่ายจะแซวไม่หยุด “ไม่รู้สิ ความรู้สึกมันบอก การกระทำของเขาก็ออกตัวชัดเจนอยู่” น้ำอิงยืนกรานเสียงหนักแน่นตามความรู้สึกแล้วก็สิ่งที่ได้เห็น พวกที่คิดเกินเลยกว่าคำว่าพี่น้อง มองจากนอกโลกก็ดูออก.. “แกคิดมากแล้ว ไม่ใช่หรอก” “ช่วงนี้แกกับพี่เขาตัวติดกันเหมือนตังเมเลยนะ” “ก็เขาเป็นพี่ติวนี่” ใช่ พวกเขาทั้งคู่เป็นแค่รุ่นพี่กับรุ่นน้องก็เท่านั้น อีกอย่างมันจะเป็นไปได้ยังไง ที่ผู้ชายอย่างเขาจะมาสนใจในตัวผู้หญิงที่ไม่มีอะไรโดดเด่นอย่างเธอ เขาก็แสนดีกับทุกคนนั่นแหละ.. “แต่ไปดูหนังด้วยกัน” “ก็..” “กินข้าวด้วยกัน” “คือ..” “แสดงความเป็นห่วงกันออกนอกหน้าอีก แบบนี้มันไม่ผิดปกติไปหน่อยเหรอ” จันจ้าวอ้าปากค้างเถียงไม่ทัน เพราะสิ่งที่อีกฝ่ายพูดออกมาดันเป็นความจริงทั้งหมด ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าช่วงเวลาที่ยากลำบากสำหรับเธอที่ผ่านมา ได้ชานชวินทร์เข้ามาช่วยประคองจนทำให้เธอเลิกไขว้เขว จากที่ไม่มั่นใจในตัวเองก็เริ่มกลับมามุ่งมั่นอีกครั้ง น้ำอิงพลิกตัวนอนคว่ำ ก่อนจะเท้าคางมองหน้าเพื่อนสนิท พร้อมกับจ้องตาอย่างจับผิดพิรุธคนที่โกหกไม่เก่ง “พนันได้เลยว่าพี่ชานเขาสนใจแก” “น้ำอิง” “แล้วแกล่ะ คิดยังไงกับพี่เขาเหรอจ้าว”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม