บทที่4 เกมเพิ่งเริ่ม อย่าถอดใจไปก่อน

1606 คำ
เอมมิกาเลือกใช้แป้งปกปิดขอบดวงตาบอบช้ำเอาไว้ ไม่ให้ใครรู้ว่าเมื่อคืนเธอนอนร้องไห้จนเผลอหลับด้วยรอยคราบน้ำตากับการกระทำคนใจดำ เธอบอกตัวเองว่าต้องเข้มแข็ง ไม่ใช่เอมมิกาคนนั้นอ่อนแอ ยอมยกหัว ยอมทุกสิ่งทุกอย่างแม้แต่ความรักหรือเวลาที่เสียไปทำความดีเพื่อให้เขาเห็นค่า เอมมิกาจะหันมารักตัวเองมากกว่ารักสามีเจ้าชู้เฮงซวย และเธอยังไม่ต้องการหย่ากับเฮียสามตอนนี้ หญิงสาวจะเอาคืนทุกคน โดยเฉพาะไตรภพ เกมเดิมพันด้วยหัวใจเพิ่งเริ่ม เฮียสามอย่าถอดใจไปก่อนก็แล้วกัน อย่าหาว่าเอมมิกาไม่เตือน... “จะออกไปไหนแต่เช้า เอมมิกา งานบ้านงานเรือนไม่เคยหยิบจับแตะต้อง ดูหนูว่านนาง ลูกสาวบุญธรรมของฉันเป็นตัวอย่าง ต้องตื่นเช้าทำอาหารมาฝากพ่อแม่ อีกทั้งทำงานให้กับพี่ชายที่โรงแรม ไม่เหมือนใครบางคนที่ทำหน้าที่ลูกสะใภ้ไม่ค่อยดี เท่าที่ควร” เอมมิกายกยิ้มมุมปาก ก่อนหมุนตัวกลับมาหาแม่สามีคอยเหน็บแหนมเธอเรื่องการทำหน้าที่สะใภ้ หน้าที่ภรรยาเฮียสาม ลูกชายของท่านไม่สมบูรณ์แบบตามที่ท่านต้องการ เธอทำทุกอย่าง แต่ไม่มีใครเห็นค่ามันสักครั้ง ลูกสะใภ้ไม่ใช่ทาส ต้องทำงานอยู่บ้านตลอดทั้งวัน ปล่อยให้สามีกับเลขาส่วนตัวระเริงกันด้านนอกบ้าน นั่นไม่ใช่สาวสวยไฮโซอย่างเอมมิกาต้องรองมือรองเท้าใคร “ถ้าคุณแม่จะยกย่องลูกสาวบุญธรรมหรือว่าที่ลูกสะใภ้คนใหม่ ก็เชิญตามสบายนะคะ เพราะเอมก็ต้องออกไปทำงานเหมือนกัน ไม่ใช่ว่าแต่งงานมีสามีแล้วต้องทำงานบ้านงกๆ ไม่มีเวลาดูแลตัวเองให้สวย เอมเป็นเจ้าของแบรนด์เสริมสร้างบุคลิกภาพความงามของผู้หญิง จะให้เอมแต่งตัวเป็นคุณป้าผมกระเซิง มือหยาบกระด้างก็คงไม่เหมาะไหมคะ” เจอลูกสะใภ้ตัวแสบตอบโต้ เถียงสู้กลับคุณแม่สามี คุณหญิงพิมลภัสโมโหเดือดดาล เพิ่งเคยเห็นลูกสะใภ้ใหญ่กล้าปากดี ส่วนมากเอมมิกาอดทน ไม่ตอบโต้ ยอมทำตามที่แม่สามีต้องการทุกอย่าง “เอมมิกา นี่เธอกล้าแข็งข้อกับฉันเหรอ” “เอมจะทำแบบนั้นไปทำไมล่ะคะ ในเมื่อเอมก็เคารพรักคุณแม่เหมือนเดิม แต่ที่เอมพูดก็เพราะเอมพูดความจริง ถ้าคุณแม่อยากให้คนอื่นมาแทนที่เอมก็คงยาก เพราะเอมไม่มีทางออกจากบ้านหลังนี้ ถ้าไม่เห็นความพินาศของเฮียสามกับว่านนางเสียก่อน” “เธอคิดจะทำอะไร” “คุณแม่คอยดูแล้วกันนะคะว่าอำนาจเงินสามารถทำได้ทุกอย่าง อย่าคิดว่าทางฝั่งคุณแม่จะมีเงินทำฝ่ายเดียว อย่าลืมสิค่ะว่าแท้จริงแล้วคุณแม่ของเอมรวยมากกว่าครอบครัวคุณแม่ เอมก็แค่สงสารเฮีย อยากให้เฮียสามสบายมากกว่า แต่ถ้าเฮียไม่เห็นค่า เอมก็สามารถเรียกคืนกลับมาได้เหมือนกัน” “....” คุณหญิงพิมลภัสเก็บงำความลับตลอด ไม่ต้องการให้สามีกับลูกรู้ว่าเธอขอร้องคุณหญิงวิลาสินี เพื่อนสนิทช่วยใช้หนี้บ้านแทนการจะถูกขายบ้านไป แน่นอนว่าเธอรับเงื่อนไขของคุณหญิงวิลาสินีว่าต้องให้ลูกชายเธอแต่งงานกับลูกสาวเพื่อนรัก “ลองคิดดูสิค่ะ ถ้าหากผู้หญิงที่ชื่อว่านนางรู้ว่าเฮียสามกำลังหมดตัว ล้มละลาย เพราะบัญชีที่เฮียใช้เป็นของเอมแทบทั้งหมด เพราะวงเงินของเฮียใช้เต็มจำนวน ผู้หญิงเห็นแก่เงินเฮีย ไม่ได้รักสามีเอมจริงอย่างที่ใจว่า จะตีตัวออกห่างหรือว่ายังอยากจะกัดก้อนกินเกลือเหมือนเดิม” เอมมิกาแอบสะใจเพียงเห็นสีหน้าแทบจะเป็นลมจับของแม่สามี หญิงสาวนัดเพื่อนสนิทอีกคนเอาไว้รอที่แบรนด์โรมาเซ่ ซึ่งตั้งอยู่สาขาใหญ่เจ้าของห้างสรรพสินค้าเครือธุรกิจครอบครัวคุณหญิงวิลาสินี มารดาของเธอ เพื่อนคนนี้รู้ใจกันและกัน เธอหวังว่าเพื่อนรักจะไม่ทอดทิ้ง ไม่ทรยศหักหลังเหมือนว่านนาง น้องสาว(ไม่แท้)ของเฮียสาม … แบรนด์โรมาเซ่ เป็นชื่อแบรนด์ความสวยความงาม จำหน่ายเกี่ยวกับเครื่องสำอาง แฟชั่นกระเป๋า เสื้อผ้าของเหล่าสังคมแวววงไฮโซ และสร้อยไข่มุกโรมาเซ่ที่ได้จากเกาะไข่มุกของณทัต บิดาของเธอ ซึ่งเป็นเกาะร่ำรวยติดอันดับต้นๆ ของเมืองไทย แบรนด์โรมาเซ่ ตระกูลคุณหญิงวิลาสินีเป็นผู้ก่อตั้ง ตั้งแต่รุ่นพ่อรุ่นแม่ ทำหน้าที่แนะนำ คำปรึกษา เสริมสร้างบุคลิกภาพความมั่นใจของการใช้ชีวิต ส่วนมากจะเป็นผู้หญิง แต่เอมมิการับลูกค้าผู้ชายเข้ามาใช้บริการส่วนน้อย เอมมิกาเดินเข้าแบรนด์โรมาเซ่ พนักงานทุกคนต่างยิ้มแย้มต้อนรับเจ้าของแบรนด์ หญิงสาวต้องคัดเลือกคนที่จะเข้ามาทำงาน ไม่ใช่รับเข้ามาทำงานแบบไม่ให้เกียรติลูกค้าประจำ “อ้าว คุณแม่” “หนูเอม เป็นยังไงลูก แม่คิดถึงหนู แม่ก็เลยมาหาหนูที่นี่นะจ้ะ ยังไงหนูเอมต้องมาทำงานที่นี่อยู่แล้ว” วิลาสินียิ้มอ่อนโยนแสนละมุน พลางโอบกอดลูกสาวคนเดียว คนเป็นแม่รู้ว่าลูกสาวทนทุกข์ใจระหว่างแต่งงานกับสามีแต่ง(ไร้)รักครบหนึ่งปี แต่เธอรู้ว่าลูกสาว ถ้ารักใครจะรักมาก แต่ถ้าเกลียดหรือแค้นฝังใจใครก็จะเกลียดมากเช่นเดียวกัน “แล้วคุณพ่อทัตล่ะคะ ไม่เห็นมาด้วยกันเลย เอมคิดถึง” “พ่อของลูกออกไปเดินทางดูเกาะไข่มุกตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้ว แม่เหงา ก็เลยออกมานั่งเล่นที่นี่เสียหน่อย แม่ไม่รบกวนเวลาทำงานของลูกใช่ไหม” มารดาเห็นว่าลูกสาวมีอะไรบางอย่างในใจแต่เก็บมันเอาไว้คนเดียว ห้ามไม่ให้คนอื่นรู้ “ไม่ค่ะคุณแม่ เอมดีใจที่แม่มาหา” “แล้วช่วงนี้ลูกกับสามีของลูกเป็นยังไงบ้าง แม่ได้ยินข่าวไม่ดี เกี่ยวกับสามีเอมควงเลขาส่วนตัวออกงาน แต่กับภรรยาตัวเอง กลับไม่สนใจใยดี ลูกเอม ถ้าพอแล้ว ทำไมลูกไม่ออกจากจุดตรงนั้นล่ะ รังจะเจ็บปวดเสียเปล่า” วิลาสินีพยายามจะเตือนลูกสาวว่าอย่าเล่นกับไฟ มันจะเจ็บปวดฝ่ายเดียว “เอมขอเวลาสักนิดนะคะ ถ้าสุดท้ายสิ่งที่เอมพยายามทำเพื่อหวังให้เฮียหันกลับมารักเมียแต่งตัวเองไม่ได้ ถึงเวลานั้นเอมจะไป” เอมมิกาคิดทุกอย่างไว้ในหัว เธอจะทำทุกอย่างเพื่อให้ชีวิตเขาพังพินาศ ดูสิว่าถ้าหากเขาไม่มีเงินสักบาท ไม่มีฐานะเชื่อถือได้ ผู้หญิงคนไหนหวังจะเข้าหาตัวเฮียสามที่หมดตัวหรือเปล่า “คุณเอมคะ คือว่า...” พนักงานประชาสัมพันธ์ประจำอยู่หน้าเคาน์เตอร์รีบเข้ามาหาเจ้าของแบรนด์โรมาเซ่ เธอทำหน้าอึดอัด เมื่อต้องเจอลูกค้าขาวีนเหวี่ยง “มีอะไรหรือเปล่า” “คือ...” “ลูกน้องในร้านของพี่เอมยังใช้ไม่ได้เรื่องเลยนะคะ เอมแค่เรียกให้ไปพาเจ้าของแบรนด์ตัวจริงมาหา กลับทำไม่ได้” “ว่านนาง เธอมาที่นี่ทำไม” ใบหน้าหวานปรับเปลี่ยนสีหน้าบึ้งตึง เมื่อลูกค้ารายใหม่จงใจชอบหาเรื่องเธอ เอมมิการู้ดีอยู่แก่ใจว่าน้องสาว(ไม่แท้)ของสามีเธอไม่เคยย่างกรายเข้ามาเกี่ยวข้องธุรกิจด้วยซ้ำ ว่านนางมาไม่ใช่เพราะอยากเป็นลูกค้าของที่นี่ จงใจหาเรื่องเจ้าของแบรนด์โรมาเซ่เสียมากกว่า “ว่านอยากลองมาใช้บริการร้าน เอ่อ แบรนด์ของพี่สะใภ้ของว่านสิค่ะ ความจริงว่านไม่อยากมาหรอกค่ะ แต่เฮียเอาบัตรลูกค้าVIPของเฮียมาให้ว่านใช้” ว่านนางไม่ต้องการมาเป็นลูกค้าของแบรนด์โรมาเซ่ ก็แค่แบรนด์ดังในกลุ่มสังคมไฮโซ แต่เธอหารู้ไม่ว่า ของๆ ทุกอย่าง แบรนด์เนมที่ไตรภพซื้อให้ล้วนมาจากเครือสาขาธุรกิจแบรนด์ภรรยาแต่งของเขาทั้งสิ้น ที่เธอมา ก็เพื่อต้องการให้เมียเฮียสามรู้ว่าเธอคือผู้หญิงคนสำคัญมากที่สุด “เธอออกไปต้อนรับลูกค้ารายอื่นเถอะ เดี๋ยวลูกค้าคนนี้ ฉันจัดการเอง” “ได้ค่ะคุณเอม” “แม่ว่าแม่อยู่เป็นเพื่อนลูกเอมดีกว่า ถือว่าเป็นที่ปรึกษาให้ลูกด้วย” “เอมรับมือไหวค่ะ คุณแม่อย่าลืมสิค่ะว่าเอมไม่ใช่เอมมิกาหัวอ่อนคนก่อน” แววตาคู่หวานฉายความมั่นใจล้นเต็มเปี่ยม คุณหญิงวิลาสินีเชื่อมั่นในตัวลูกสาวว่าลูกไม้ย่อมหล่นไม่ไกลต้นจึงยอมออกจากบริเวณแถวนั้น “ทีนี้ก็เหลือแค่เราสองคนแล้ว เธอต้องการอะไรก็รีบๆ บอกมาดีกว่า” เอมมิกาจ้องมองคนที่คิดอยากได้สามีคนอื่น โดยใช้คำว่าน้องสาว(ไม่แท้)เป็นข้ออ้าง เธอเห็นกระเป๋าแบรนด์เนมรุ่นเดียวเหมือนของตัวเอง ในใจแอบปวดรวดร้าว รู้ทันทีว่าใครเป็นคนซื้อกระเป๋าใบนั้นให้ว่านนาง ผู้หญิงคนสำคัญของเขา “อ้อ เฮียสามเขาซื้อให้ว่านเองค่ะพี่เอม สวยไหมคะ เอ๊ะ กระเป๋าของว่านเหมือนของพี่เอมเลยนะคะ สงสัยเราคงชอบใช้ของแบบเดียวกัน ว่าไหมคะพี่เอม” “แค่ของใช้ก็น่าใช้ของแบบเดียวกันได้ เอมไม่ว่า แต่ถ้าน้องว่านนางคันมากอยากใช้สามีร่วมกับพี่ พี่ก็คงให้ไม่ได้ นี่คือเตือน ของจริงมันมากกว่านั้น” “โอ๊ย!”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม