ตอนที่ 6 | อ่อนโยน

1442 คำ
อนาวินหันไปมองหญิงสาวหลังจากที่จอดรถสนิท เขาลังเลว่าจะปลุกเธอดีหรือเปล่า เพราะดูท่าทางเธอน่าจะเหนื่อยมาก ถึงได้นอนหลับมาตลอดทาง ทั้งๆ ที่เธอไม่เคยหลับอยู่บนรถให้เขาเห็นเลยสักครั้ง เมื่อเห็นว่าเธอยังคงหลับสนิทเขาจึงช่วยปลดเข็มขัดนิรภัยแล้วปรับเบาะให้เธอ จังหวะที่เขากำลังโน้มตัวไปคลำหาปุ่มปรับเบาะ ตากลมโตก็ลืมตาขึ้นมาพอดี ก่อนที่เธอจะเบิกตากว้างเมื่อใบหน้าของทั้งคู่ห่างกันแค่ไม่กี่เซน แล้วท่าทางของเขายังล่อแหลม หัวใจดวงน้อยเต้นไม่เป็นจังหวะ ...แต่ไม่ใช่แค่เธอหรอกนะที่ตกใจ อนาวินเองก็ตกใจเช่นกัน… ที่ทำให้เธอตื่น แล้วดูท่าทางเธอกำลังเข้าใจผิดว่าเขากำลังจะล่วงเกินเธอแน่ๆ พรึบ!!!! ขณะที่ทั้งสองคนกำลังสบตากัน อนาวินสัมผัสไปโดนปุ่มปรับเบาะเข้าพอดี จึงทำให้เขาเสียหลักทาบทับลงไปที่ล่างเล็ก ม๊วฟ!!!! แล้วก็ไม่ใช่แค่ร่างกายที่สัมผัสกัน ริมฝีปากยังแนบชิดบดเบียดกันจนคนใต้ร่างเบิกตากว้างหัวใจเต้นแรงแทบระเบิด สัมผัสที่ไม่เคยพบเจอทำให้ร่างเล็กเกร็งไปทั่วร่างจนถึงปลายเท้า แล้วเขายังไม่ยอมถอนริมฝีปากออกเสียด้วย จนเธอต้องเป็นฝ่ายดันหน้าอกของเขาออกแทน “ขอโทษครับ พี่แค่จะปรับเบาะให้พิมพ์” อนาวินบอกไปหลังจากที่ผละออกจากริมฝีปากบางและร่างเนียนนุ่มอย่างน่าเสียดาย ใครจะรู้ว่าเขาต้องใช้ความพยายามมากแค่ไหน ไม่ให้ทำอะไรเธอไปมากกว่านี้ ทั้งๆ ที่อยากทำใจจะขาด “ไม่เป็นไรค่ะ” พราวฟ้าตอบไปเสียงเบา แล้วเบือนหน้ามองออกไปนอกรถ ตอนนี้หัวใจของเธอเต้นแรงจนทำตัวไม่ถูก เมื่อกี้เขาเรียกว่าจูบหรือเปล่า เธอยังไม่ได้เสียจูบแรกใช่ไหม เธอได้แต่ถามตัวเองด้วยท่าทางตื่น จนไม่ได้ฟังที่คนข้างๆ ถาม “พิมพ์ครับ” “ค่ะ” พราวฟ้าตอบเสียงสั่น เมื่อชายหนุ่มเรียกสติของเธอด้วยการใช้มือสัมผัสที่แก้มของเธอเบาๆ สายตาที่มองเธอก็อ่อนโยนจนเธอใจเต้นแรงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน อาจจะเป็นเพราะเธอไม่เคยใกล้ชิดกับผู้ชายคนไหนมาก่อน “ไปกันดีกว่าครับ คนของพี่เตรียมเรือไว้แล้ว” เตรียมเรืออย่างนั้นเหรอ พราวฟ้ามองหน้าชายหนุ่มด้วยท่าทางสงสัย เขาจะเตรียมเรือทำไม นี่เขาจะพาเธอไปไหนกันแน่ ไม่ใช่สิ… ต้องบอกว่าเขาจะพาพิมพ์ดาวไปไหนถึงจะถูก เพราะตอนนี้เธอเป็นตัวแทนของพิมพ์ดาว พราวฟ้านั่งนิ่งมองร่างสูงที่กำลังเดินอ้อมมาเปิดประตูรถให้เธอ เขาช่างอบอุ่นและใส่ใจน้องสาวของเธอจริงๆ “ไปครับ” อนาวินยื่นมือมากุมมือเธอแล้วพาเธอเดินไปยังที่ไหนสักแห่ง พราวฟ้าได้มองที่มือของตัวเองที่ผสานกันกับมือหนา เธอเดินตามเขาไปโดยไม่ถามอะไร เพราะคำตอบอยู่ตรงหน้าแล้ว พราวฟ้ามองเรือยอร์ชลำใหญ่ตรงหน้าด้วยความตื่นเต้น ไม่ใช่ว่าเธอไม่เคยขึ้นเรือแต่เธอรู้สึกตื่นเต้นที่ต้องไปกับเขา คนที่เธอแทบจะไม่รู้จัก รู้แค่เพียงว่าเขาชื่ออนาวินและเป็นแฟนของน้องสาวเธอ “ระวังนะครับ” น้ำเสียงอ่อนโยนที่เขาเอ่ยออกมาบ่งบอกถึงความห่วงใยและใส่ใจ จนพราวฟ้ารู้สึกอบอุ่นหัวใจไปด้วย เขาประคองเธอราวกับว่าเธอเป็นเด็กน้อยที่กำลังหัดเดิน “เราจะไปไหนกันเหรอคะ ทำไมต้องขึ้นเรือ” ถึงมันจะสายไปแล้วที่เธอถามตอนที่ขึ้นเรือมากับเขาแล้ว แต่เธอก็ถามออกไปเพื่อไม่ให้สถานการณ์ดูตึงเครียดเท่านั้น ระหว่างเธอกับเขาแทบไม่รู้จักกันเลย แต่ทำไมเธอถึงรู้สึกปลอดภัยก็ไม่รู้ “พิมพ์อยากมานอนดูดาวไม่ใช่เหรอครับ” อนาวินพูดออกไปขณะที่เดินมาถึงที่หมาย ที่ที่เขาสั่งให้ลูกน้องคนสนิทจัดเตรียมไว้ไม่กี่ชั่วโมงก่อน ซึ่งเป็นเวลาก่อนที่เขากับเธอจะมาถึง ทันทีที่ก้าวขึ้นมาถึงดาดฟ้าชั้นบนสุดของเรือ พราวฟ้าก็ตกตะลึงกับภาพตรงหน้า ที่นอนเล็กๆ ที่รายล้อมไปด้วยไฟกระพริบๆ วิบวับเล็กๆ ราวกับเอาดวงดาวบนท้องฟ้าลงมาประดับ บวกกับบรรยากาศและคลื่นลมทำให้ดูโรแมนติกสุดๆ “ชอบไหมครับ” เสียงทุ้มต่ำที่ดังขึ้นข้างๆ หูทำเอาพราวฟ้าขนลุกไปทั้งตัว แล้วหัวใจของเธอก็เต้นแรงขึ้นเมื่อแขนแกร่งสวมกอดเธอจากด้านหลัง ความอ่อนโยนของเขาทำเธอไปไม่เป็น จะปฏิเสธก็กลัวเขาจะจับได้ว่าเธอไม่ใช่พิมพ์ดาวคนรักของเขา จึงได้แต่ยืนให้เขาสวมกอดอยู่อย่างนั้น “ชอบค่ะ” พราวฟ้าตอบเสียงสั่น ร่างกายร้อนรุ่มขึ้นมาอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ตอนนี้เธอแทบจะไม่ได้สนใจบรรยากาศโดยรอบเลย เพราะลมหายใจอุ่นๆ ของเขากำลังทำลายสติของเธอ “ไปนอนดูดาวกันดีกว่าครับ” อนาวินคลายกอดแล้วจูงมือแฟนสาวมายังพื้นที่เล็กๆ ที่ลูกน้องคนสนิทเตรียมไว้ให้ เขาประคองเธอนอนลงเบาๆ ก่อนที่เขาจะนอนลงข้างๆ เธอ ทั้งสองคนนอนมองท้องฟ้าโดยไม่มีการพูดคุยใดๆ ออกมา มีเพียงเสียงลมเสียงคลื่นที่พัดผ่าน อากาศที่เริ่มเย็นลงทำให้พราวฟ้าใช้สองแขนโอบกอดตัวเองเพื่อคลายหนาว โดยไม่รบกวนคนที่นอนหลับอยู่ข้างๆ บางทีเขาอาจจะเหนื่อยจากการทำงานเหมือนเธอที่เผลอหลับตอนเขาขับรถมา น่าอายจริงๆ ขณะที่พราวฟ้ากำลังคิดอะไรเพลินๆ คนที่เธอคิดว่านอนหลับก็พลิกตัวขึ้นมาคร่อมร่างของเธอ พราวฟ้าเบิกตากว้างมองใบหน้าหล่อที่ห่างกันไม่กี่เซน จนเธอสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นๆ ที่กำลังเป่ารดแก้มของเธอทำให้เธอเริ่มหายใจไม่ทั่วท้อง ‘เอายังไงต่อดียัยพราว’ พราวฟ้าพยายามคิดหาทางออกให้ตัวเอง ขณะที่ใบหน้าหล่อกำลังเลื่อนเข้าใกล้มาเรื่อยๆ “ที่พี่ไม่เคยล่วงเกินพิมพ์ ไม่ใช่ว่าพี่ไม่รักพิมพ์ หรือว่าพี่รังเกียจพิมพ์นะครับ” พราวฟ้ารู้สึกโล่งอกขึ้นมาทันทีที่รู้ว่าเขาไม่เคยล่วงเกินน้องสาวของเธอ แล้วตอนนี้เขาก็คงจะไม่ทำเหมือนกัน… ใช่ไหม? “แต่ที่พี่ไม่ทำเพราะพี่อยากให้พิมพ์รู้ว่า พี่รักพิมพ์จริงๆ ไม่ใช่หวังแค่ร่างกายของพิมพ์ เหมือนผู้ชายที่ผ่านมาของพิมพ์” พราวฟ้านิ่งไปชั่วขณะเมื่อได้ยินในสิ่งที่ชายหนุ่มพูดออกมา ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นสายตาชื่นชมในความเป็นสุภาพบุรุษของผู้ชายคนนี้ ถึงเธอจะไม่รู้จักเขามาก่อน เธอก็รู้สึกได้ถึงความจริงใจของเขาที่มีต่อน้องสาวของเธอ ซึ่งหาได้ยากมากจากผู้ชายสมัยนี้ ขนาดเขารู้ว่าน้องสาวของเธอเคยคบกับใครมาก่อน แล้วเจออะไรมาบ้าง เขาก็ยังรักและทะนุถนอมน้องสาวของเธอ น่าชื่นชมจริงๆ พราวฟ้าเผลอมองใบหน้าหล่อด้วยสายตาหยาดเยิ้มและคิดอะไรเพลินๆ จนไม่รู้ตัวว่าเธอกำลังจะโดนขโมยจูบอีกครั้ง “อือ...” O.O!! ตากลมโตเบิกกว้าง หัวใจหยุดเต้นไปชั่วขณะเมื่อริมฝีปากหนากดลงมาที่ริมฝีปากบางของเธออย่างหนักหน่วง ปลายลิ้นร้อนสอดแทรกเข้ามาในโพรงปาก กวาดต้อนหาความหวานจากทุกซอกทุกมุม มันช่างเป็นความรู้สึกแปลกใหม่ที่รู้สึกดีเหลือเกิน พราวฟ้าเคลิ้มไปกับรสชาติการจูบของชายหนุ่มจนลืมความถูกต้อง เธอไม่ใช่พิมพ์ดาว เธอจะยอมให้เขาจูบตามอำเภอใจแบบนี้ไม่ได้ พราวฟ้าเลื่อนมือขึ้นมาดันหน้าอกแกร่งให้เขาหยุด แต่เขากลับรวบมือทั้งสองข้างของเธอ แล้วกดเอาไว้กับที่นอนไม่ให้เธอขัดขืนโดยที่ปากยังจูบเธออย่างดูดดื่ม .. ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ เป็นเรื่องแล้วไง จะทำยังไงต่อไปล่ะพราวฟ้า!!
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม