@อพาร์ตเมนต์ของปุยฝ้าย
สามทุ่มเป็นเวลาที่ปุยฝ้ายจะต้องรอโทรศัพท์จากขุนพลเสมอช่วงหลัง ๆ เขาไม่ค่อยจะโทรหาเธอแต่จะเป็นฝ่ายปุยฝ้ายส่วนใหญ่ที่ต้องโทรไป เพราะที่ตอนนี้เขาต้องเรียนรู้งานของทางบ้านและต้องเรียนไปด้วยทำให้ขุนพลมีเวลาน้อยมาก ๆ ที่จะได้คุยกับคู่หมั้นสาวอย่างปุยฝ้าย หลังจากวางสายเธอก็ปิดไฟเตรียมตัวเข้านอนซึ่งเธอกำลังจะหลับตาลงก็มีสายวิดิโอคลอจากคนตัวโตชอบบงการโทรมา
วิชญ์ : ลงมาเปิดประตูหน่อยครับ ง่วงนอนแล้ว
ปุยฝ้าย : จะนอนแล้ว เก่งก็ขึ้นมาเองสิ
วันนี้เธอหงุดหงิดเล็กน้อยเพราะขุนพลไม่ค่อยจะใส่ใจและไม่มีเวลาให้เธอเท่าที่ควร ถึงเธอจะเข้าใจแต่อารมณ์ของผู้หญิงก็มีน้อยใจเป็นเรื่องปกติ
วิชญ์ : ยอมแพ้แล้วดิ
ปุยฝ้าย : วันนี้ปุยเหนื่อย พรุ่งนี้ค่อยว่ากัน
วิชญ์ : นะครับ วิชญ์อยู่ข้างล่างรอหนาวด้วย
เขาอ้อนวอนเธอเพราะวันนี้เขาอยากมานอนใกล้ ๆ ให้หายคิดถึงหลังจากขึ้นมาที่ห้องของ ปุยฝ้ายวันนี้ดูท่าทางของปุยฝ้ายดูอารมณ์ไม่ค่อยดีนักตาแดงเหมือนคนเพิ่งจะร้องไห้มา วิชญ์เขาสนใจและแอบสังเกตเห็นวันนี้เขาตั้งใจจะมาเอาคืนที่จู่ ๆ ก็มีหนุ่มหล่ออุตสาหการมาจีบคนของเค้าเป็นการหักหน้าเขาชัด ๆ
“ไม่สบายหรือเปล่าครับ ทำไมหน้าตาดูไม่ค่อยสู้ดี” เขาเอามือมาแตะหน้าผากมนอย่างเบามือและเช็คว่าเธอมีไข้หรือเปล่า
“สงสัยอากาศเดี๋ยวร้อนเดี๋ยวเย็นน่ะ ปุยไม่เป็นไร” วิชญ์เดินไปหยิบกล่องยาและแกะยาลดไข้พร้อมกับแก้วน้ำมาให้เธอ
“กินยาแล้วพักผ่อนนะ วิชญ์จะอยู่เป็นเพื่อน” เขายื่นยาและแก้วน้ำให้สาวบัญชีคนโปรดอย่างใส่ใจ
“ปุยไม่เป็นอะไร” วันนี้เธอเป็นวันนั้นของเดือนอารมณ์จึงไม่ปกติ บวกกับขุนพลที่มัวแต่ยุ่งไม่โทรหาเธอเลยกว่าเขาจะรับสายและคุยกันไม่กี่คำเท่านั้น
“แค่ยาลดไข้กลัวเป็นยาพิษรึไง ถ้าไม่กินวิชญ์จะปล้ำนะ” เขาหงุดหงิดที่อุตส่าห์เป็นห่วงแต่โดนปฏิเสธน้ำใจปุยฝ้ายรีบหยิบยาและกินมันลงไปทันที เขาอดกลั้นหัวเราะไม่ได้ในเวลานี้ปุยฝ้ายที่ว่านิ่ง ๆ ดูอ่อนโยนแต่ที่จริงเวลาที่เธออยู่กับเขาจะเป็นคนหัวดื้อไม่ใช่เล่น
“ก็แค่เนี๊ย ดื้อ!” เขาแอบเห็นรอยยิ้มที่มุมปากบางเธอเผลอยิ้มออกมา ทำเอาใจเขาละลายน้อยครั้งมากที่จะเห็นยัยหน้านิ่งยิ้มให้เขาทั้งคู่ต่างหัวเราะและหยอกล้อคุยกัน ดูเหมือนว่าวิชญ์จะทำให้ปุยฝ้ายอารมณ์ดีขึ้นมาได้
“วันนี้ทิ้งกันที่โรงยิมอีกล่ะนะ ใจร้ายมากก….ปุยฝ้าย” วิชญ์นอนข้าง ๆ เธอวันนี้ใส่ชุดนอนกางเกงขาสั้นสีฟ้าใบหน้าไร้เครื่องสำอางผิวพรรณสะอาดสะอ้านเนียนละเอียดเหมือนผิวเด็ก เรือนผมยาวสีน้ำตาลธรรมชาติสยายหอมกลิ่นอชมพูอ่อน ๆ เขาตื่นเต้นทุกครั้งที่ได้นอนใกล้ชิดเธอและได้ยินเสียงหายใจที่แผ่วเบาของเธอแบบนี้
“ก็แข่งจบล่ะนิ จะยืนทำอะไรมิทราบ” ปุยฝ้ายกวนประสาทเขาเล่น
“หึ! และวันนี้แจกเบอร์ไปกี่คนล่ะมิทราบ ช่วยไปอ่อย…ผู้ชายให้ไกล ๆ ตาหน่อยไม่ได้รึไง” เขาเริ่มออกอาการประชดประชันเพราะเขาแอบหึงเธอทุกครั้งที่มีผู้ชายคนอื่นเข้ามาใกล้ ๆ เขายิ่งหงุดหงิดตัวเองที่ไม่สามารถทำอะไรได้เลย
“จะบ้ารึไง….เขาแค่ทักทายและแนะนำตัวก็เท่านั้น” ปุยฝ้ายอธิบายถึงเหตุการณ์ตอนนั้นที่หนุ่ม
อุตสาหการคนที่นั่งใกล้ ๆ เธอเข้ามาทักทายและตีสนิท
“ต่อหน้าวิชญ์อย่าทำแบบนี้อีก วิชญ์ไม่ชอบ” เขาต่อว่าเธอถึงเหตุการณ์ในวันนี้ที่เขาเห็นกับตามันเป็นภาพบาดตาบาดใจไม่น้อย ทำเอาคนที่ได้ยินสับสนกับอาการและพฤติกรรมที่เขาต้องมาคอยสแกนผู้ชายทุกคนที่มาเข้าใกล้ ว่าเขาจะคอยขวางและโกรธเธอไปทำไมกันเพราะทั้งคู่ไม่ได้มีสถานะหรือคบหาอะไรกันทั้งนั้น
“ก็แค่นั่งเฉย ๆ ป่ะ! ไม่ได้ทำอะไรเลย นั่งหายใจก็ผิดว่างั้น” เธอก็ไม่ยอมให้เขาต่อว่าเธอได้ฝ่ายเดียววิชญ์ที่เขาอดกลั้นความโกรธเอาไว้ในใจเพราะเขาทำอะไรเธอไม่ได้ ในใจเขานั้นอยากจะกระชากคนปากดีที่กล้าเถียงเขาทุกเม็ดมาจูบซะให้หายปากเก่งเขารีบหันหน้ามาและยื่นใบหน้าหล่อเข้ามาใกล้ ๆ เธอทำเอาปุยฝ้ายหัวใจกระตุกวาบ
“ล้ำเส้น” มือบางรีบเอาหมอนข้างที่กลั้นตรงกลางมาดันหน้าคนหล่อเจ้าเล่ห์ออกไป วิชญ์ด้วยความที่เขาอยากแกล้งยัยหน้าจืดเขาจึงเอามือจับหมอนข้างแล้วปามันทิ้งลงบนพื้น
พรึบบ! ปุยฝ้ายสตั้นและตาค้างอึ้งไปกับการกระทำของเขาบรรยากาศในห้องเงียบกริบ ได้ยินเพียงแค่เสียงเครื่องปรับอากาศเท่านั้นที่ดัง เธอเริ่มสัมผัสได้ถึงบรรยากาศมาคุ๊……ที่มันเย็นยะเยือกแปลกๆ
“มันเกะกะนอนไม่สะดวก ห้ามเอามันขึ้นมาอีก” เขาสั่งห้ามเธอและนอนหันหน้ามาทางเธอสายตาคมกริบจ้องมอบใบหน้าหวานที่นอนอยู่ข้าง ๆ พร้อมกับกระตุกยิ้มที่มุมปาก มองไปที่ใบหน้าสวยและสายตาคู่งามได้ชัดเจนตอนนี้วิชญ์ทั้งหลงและคลั่งไคล้ในตัวของปุยฝ้ายที่สุด ยิ่งทั้งคู่ได้ใกล้ชิดกันมันยิ่งทำให้เขารู้จักนิสัยใจคอเธอมากขึ้นเธอเป็นผู้หญิงคนแรกและคนเดียวที่เขาต้องยอมอะไรมากมายขนาดนี้ เขาไม่สามารถเอาตัวเองออกมาจากความรู้สึกนี้ได้จริง ๆ
ปุยฝ้ายเริ่มใจคอไม่ค่อยดีจึงทำตามเขาอย่างว่าง่ายและไม่ต่อปากต่อคำอีก ทางด้านวิชญ์เขารู้จุดอ่อนของเธอเขาจึงแกล้งยัยหน้าจืดเพื่อเป็นการสั่งสอนให้เธอสงบและประหม่า
“หึ! ยัยหน้าจืดถ้าเป็นเมียจะเอาให้เข็ดจนต้องร้องขอชีวิตเลยคอยดู”
เขาได้แต่คิดในใจเท่านั้นเพราะช่วงนี้เป็นช่วงที่เขาต้องทำคะแนนชนะใจเธอให้ได้ จึงต้องอดทนกับเธอให้มากที่สุดวิชญ์เดินไปปิดไฟในห้องและปุยฝ้ายก็เปิดโคมไฟข้างเตียง เธอไม่กล้าปิดไฟนอนเพราะไม่ไว้ใจคนข้าง ๆ ทางด้านคนตัวโตที่วันนี้เล่นฟุตบอลมาอย่างเหน็ดเหนื่อยก็เผลอหลับไปอย่างง่ายดาย ส่วนคนปุยฝ้ายด้วยฤทธิ์ยาและปวดหน่วงที่ท้องเพราะประจำเดือนเธอจึงเผลอหลับตามเขาไปอีกเช่นกัน