ผมข่มตาหลับได้ไม่นาน ร่างกายก็เริ่มรู้สึกร้อนขึ้นมา ร้อนมากจนผมรู้สึกอึดอัดและนอนต่อไม่ไหว ผมจึงลุกขึ้นมานั่งหอบหายใจ เป่าปากไล่ความร้อนออกจากตัว
“พู่ว์...แฮก! แฮก! แฮก!”
ผมรู้สึกหายใจติดขัด ร้อนวูบวาบไปทั่วทั้งร่างกาย ไม่สบายเนื้อไม่สบายตัวเอาเสียเลย จนต้องถอดเสื้อเชิ้ตตัวบางที่กำลังใส่ออกจากร่าง เหลือไว้เพียงกางเกงยีนตัวเดียว
พอหันไปมองรอบ ๆ ห้อง ก็เหลือบไปเห็นน้ำเย็นในเหยือกตั้งอยู่ ผมเอื้อมไปหยิบมันขึ้นมาดื่มทั้งเหยือก และเทราดลงทั้งหน้า ทั้งหัวจนเปียกโชกยันพื้นบ้าน แต่ก็ไม่มีทีท่าว่าความเร่าร้อนในกายของผม มันจะสงบลงบ้างเลย
ผมมองออกไปข้างนอก เห็นคลื่นทะเลกำลังซัดสาดเข้าหาชายหาดเป็นระลอก ผมจึงนึกออกทันทีว่าต้องทำยังไง ผมพยายามเดินออกไปที่ชายหาดอย่างทุลักทุเล พอไปถึงผมก็วิ่งลงไปในทะเลและทิ้งตัวลงนอนบนชายหาด แช่ตัวลงไปในน้ำที่เย็นฉ่ำ เพื่อให้ความร้อนรุ่มในกายมันทุเลาลง พลางพยายามนึกหาสาเหตุ ที่เกิดขึ้นกับตัวเอง แต่ก็นึกไม่ออกหัวหมุนไปหมด ในระหว่างที่กำลังนอนคิดทบทวนทุกอย่าง อยู่ ๆ ก็มีเสียงใครคนหนึ่งดังขึ้นมา
“พี่เสือ!”
ผมหันหน้าไปหาทิศทางของเสียง เห็นผู้หญิงคนหนึ่ง กำลังวิ่งเข้ามาหาผม ด้วยใบหน้าที่ดูตื่นตกใจ
“พี่เสือ! ทำไมมานอนแช่น้ำอยู่อย่างนี้ล่ะคะ? พี่เป็นอะไรหรือเปล่า?”
ไม่รู้ว่าผมตาฝาดหรือเปล่าที่เห็นยัยเฉิ่มอยู่ตรงนี้ ยัยนี่ไม่ได้ไปเที่ยวกับคนอื่น ๆ หรอกเหรอ ทำไมมาอยู่ที่นี่ได้ ผมนอนมองเธอที่กำลังเขย่าตัวผมและพยายามดึงผมให้ลุกขึ้น
“พี่เสือคะ พี่เสือ!” เธอเรียกผมเสียงดัง และทำหน้าตาตื่น
ผมต้องบ้าไปแล้วแน่ ๆ ที่ผมกำลังเอาแต่จ้องหน้ายัยนี่อยู่ ใบหน้าที่ดูเป็นห่วงเป็นใยผม เสียงใส ๆ ที่เรียกชื่อผม มือนุ่มนิ่มที่จับต้องตัวผม และกลิ่นหอมละมุนจากตัวเธอ กำลังทำให้ผมร้อนรุ่มขึ้นเป็นทวีคูณ
ผมลุกขึ้นตามแรงฉุดดึงของเธอ แต่คงเพราะผมตัวใหญ่กว่าเธอมาก เธอจึงดึงไม่ไหวเป็นเหตุให้ร่างบางเซถลาเข้ามาปะทะกับแผงอกของผมเต็มแรง อย่างช่วยไม่ได้
นาทีนั้นเอง กลิ่นหอมละมุนจากตัวเธอ ก็ทำเอาผมหายใจติดขัดขึ้นมา ผมได้ยินเสียงหัวใจของตัวเอง เต้นแรงและเร็วมาก กลิ่นหอมละมุนจากตัวเธอ บวกกับอารมณ์ที่เริ่มก่อตัวขึ้นในกายผม ทำให้ผมเผลอตัวยกแขนขึ้นโอบกอดเธอ จนทำให้เธอตกใจ
“ฮึก! พี่เสือ ปล่อยพระพายค่ะ”
เธอพยายามดันตัวผมออกห่าง แต่ผมกับยิ่งกอดรัดตัวเธอ ให้แนบชิดตัวเองแน่นขึ้นไปอีก
“อื้อ...พี่เสือปล่อยพระพายนะ”
เธอผลักผมแรงขึ้นและดิ้นรนขัดขืนอ้อมกอดของผมสุดกำลัง ผมไม่ได้สนใจที่เธอพูด ผมเลื่อนมือขึ้นไปลูบไล้เอวบางและแผ่นหลังของเธออย่างถือวิสาสะ
ความหน้ามืดตามัวทำให้ผมก้มลงไปซุกไซ้สูดดมกลิ่นหอมละมุนที่ข้างแก้มและลำคอขาวเนียนของเธออย่างเผลอไผล
“อย่านะ! พี่เสือ! อย่าแกล้งพระพายแบบนี้นะ ปล่อย...อ๊ะ!”
เธอพยายามเบี่ยงหน้าหลบจมูกของผม ผมรู้สึกขัดใจและรำคาญเสียงเอะอะโวยวายของเธอเป็นอย่างมาก และที่สำคัญผมไม่รู้ว่าเธอโวยวายอะไร เพราะผมเองก็ฟังอะไรไม่เข้าใจเลยตอนนี้ ผมเลื่อนมือขึ้นไปจับที่ท้ายทอยของเธอ ให้หันมาเผชิญหน้ากับผม ก่อนจะก้มลงไปจูบที่เรียวปากนุ่มในทันที
“ปล่อยนะอ๊ะ...อื้อ!”
เธอดิ้นขลุกขลักในอ้อมกอดของผม ใบหน้าเรียวส่ายไปมา เพื่อหลบหนีจากการถูกสัมผัสด้วยริมฝีปากของผม กำปั้นน้อยทุบไปที่แผงอกเปลือยของผมปึงปัง มันกลับกระตุ้นให้ผมยิ่งได้ใจ ผมบดจูบกับริมฝีปากเรียวบาง เพื่อกระตุ้นให้เธอยอมเปิดปาก เพื่อรับการรุกล้ำจากปลายลิ้นของผม แต่เธอกลับไม่ได้ว่าง่ายอย่างที่ควรจะเป็น
ผมจึงสอดฝ่ามือเข้าไปภายใต้เสื้อตัวบาง ก่อนจะลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลังเนียน ซอกซอนวนเวียนจนทั่วร่างบาง เธอคงตกใจมากถึงกับเผลออ้าปากจะกรีดร้อง ทำให้ผมได้โอกาสสอดลิ้นเรียวเข้าไปทักทายปลายลิ้นอุ่นของเธอ
“อื๊อ...ฮึก! ฮึก! ฮือ ๆ” เธอพยายามดิ้นรนขัดขืนอย่างแรง พลางสะอื้นปล่อยโฮออกมา น้ำตาไหลอาบสองแก้มนวลอย่างน่าสงสาร
“ฮึ่ม!” ผมส่งเสียงครางฮึ่มฮั่มในลำคออย่างขัดใจ เมื่อเธอเอาแต่ดิ้นรนขัดขืน ผมดูดดื่มและตักตวงความหวานละมุนจากเรียวปากนุ่มเนิ่นนาน จนคนตัวเล็กทำท่าจะขาดอากาศหายใจ ผมถึงยอมถอนจูบจากปากเธอ เธอผลักผมออกห่างสุดกำลัง ก่อนจะสาดฝ่ามือเข้าที่ใบหน้าของผมสุดแรง
///// เพี๊ยะ! /////
ผมถึงกับหน้าหันไปตามแรงตบ นิ่งอึ้งไปชั่วขณะ ก่อนจะหันกลับมาและดึงตัวเธอเข้ามาจูบอีกที ครั้งนี้เธอสู้สุดแรงเช่นกัน ร่างบางดีดดิ้นจนหลุดจากการกอดรัดของผม แล้วรีบวิ่งหนีทันที ผมมองตามร่างบางด้วยอารมณ์ขัดใจ แม้จะเห็น ๆ อยู่ว่าเธอร้องไห้ แต่ผมกับรู้สึกดีที่ได้กอดได้จูบเธอ