"โอ้ยยย...พี่บวรพี่ตบผมทำไม่เนีย"
ชัยร้องขึ้นอย่างเจ็บปวด
"นั้นสิพี่มาตบชัยมันทำไม มีอะไรทำไมไม่ค่อยพูดค่อยจากันคะ"
โสภารีบเข้าไปประคองน้องชาย
"แกยังมีหน้ามาพูดอีกหรอ ทำงานไม่สำเร็จ ยังจะพาฉันซวยไปด้วย"
บวรยืนชี้หน้าน้องเมียอย่างหัวเสีย
"โถ่..พี่ใครจะไปรู้ว่าไอ้ภาคินมันจะมาช่วยทัน มันจะสำเร็จอยู่แล้ว"
"ไม่ได้เรื่อง ตอนนี้มันเริ่มระแวงฉันแล้ว เพราะมึงคนเดียวไอ้ชัย"
"เอาน้าาา...พี่บวรเราค่อยๆหาทางมันต้องมีสักทางแหละใจเย็นๆก่อนนะจ้ะ"
"ใจเย็นกับผีอะไรละ เธอเองก็เหมือนกันวันๆใช้แต่เงินไม่ทำอะไรสักอย่าง...โธ่เว้ย"
บวรพูดเสร็จก็เดินหนีไป
"สักวันเถอะมึง...ไอ้บวร"
ศักดิ์พูดตามหลังอย่างโกรธเเค้น
"อย่าไปโกรธพี่บวรเขาเลย แกทำงาน พลาดเอง จะไปโทษเขาก็ไม่ถูก"
"ผัวพี่นะมันดีแต่ปาก มีแต่สั่งๆถ้าไม่มีผมค่อยเช็ดขี้เช็ดเยี่ยวให้มันมันจะมีหน้ามายืนด่าผมอยู่แบบนี้ไม"
"เอาเถอะใจเย็นๆเวลานี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาทะเลาะกันเอง"
"พี่เองก็ระวังเถอะ หมดประโยชน์เมื่อไหร่มันจะเฉดหัวพี่ทิ้ง"
โสภาเงียบที่น้องเธอพูดมันก็หน้าคิด เห็นทีเธอต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว
[ติ๊ง]
ระหว่างนั้งรถกลับบ้านหลังจากฝังพระสวดก็มีเสียงข้อความจากโทรศัพท์ของ
พิมรดาดังขึ้น
[ติ๊งๆ]
[ติ๊งๆๆ]
"ไม่คิดจะอ่านหน่อยหรือไงคุณ"
ภาคินขมวดคิ้วถาม
"เออ..เดี๋ยวค่อยไปดูที่บ้านค่ะ"
เธอพูดขึ้น
"ทำไมกลัวผมรู้หรือไงว่าคุยกับใคร"
"เปล่าค่ะ พรีมกลัวจะรบกวนคุณ"
"กลัวรบกวนผมหรือกลัวว่าผมนะรู้ว่าคุยกับผู้ชาย"
"พรีมไม่ได้กลัวค่ะ จะผู้หญิงหรือผู้ชายก็คือเพื่อนไม่มีอะไรต้องปิดบังค่ะ"
[Rrrrrrrr]
พูดยังไม่ทันจบเสียงโทรศัพท์เธอก็ดังขึ้น
พิมรดาหยิบขึ้นมาดู
[แดเนียล]
"หึ...ไม่มีอะไรแต่ไม่กล้ารับ"
ภาคินพูดขึ้นลอยๆ อยู่ดีๆเขาก็รู้สึกหงุดหงิดชะมัด
พิมรดามองภาคินแล้วก็ได้แต่สายหน้า ที่เธอไม่อย่ากรับโทรศัพท์เเดเนียลเพราะเธอรู้ดีว่าเเดเนียลไม่ได้คิดกับเธอแค่เพื่อนเธอจึงไม่อยากคุยต่อหน้าเขา ถึงเเม้ว่าเธอจะคิดกับแดเนียลแค่เพื่อนก็ตาม แต่ดูเหมื่อนคนข้างๆจะไม่ค่อยพอใจเธอเลยตัดสินใจรับสาย
"ว่าไงเเดเนียล"
พิมรดารับสายตามภาษาสัญชาติของเพื่อนชาวอังกฤษ
"พรีมคุณอยู่ไหนผมส่งข้อความไปก็ไม่ตอบ โทรไปคุณก็ไม่รับ"
พิมรดารู้สึกอึดอัดที่จะพูดตรงนี้เธอ เหลือบตามองคนตัวโตที่นั้งอยู่ข้างๆเธอ ถึงแม้เขาจะมองไอแพดของเขาอยู่ก็ตาม
"พรีมยังไม่สะดวกคุยตอนนี้ เดี๋ยวพรีมโทรกลับ"
"ผมโทรไปคุณยังไม่รับเลย มีหรอที่คุณจะโทรกลับ พรีมคุณก็รู้ว่าผมคิดยังไงกับคุณเมื่อไหร่คุณจะใจอ่อนกับผมสักที"
"แดเนียลคุณเมา เอาไว้คุณปกติแล้วเราค่อยคุยกัน"
"เป็นเพราะคุณ ผมคิดถึงคุณได้โปรดเถอะพรีม"
"เดี๋ยวเเวะผับให้ฉันก่อน ฉันจะเข้าไปดูความเรียบร้อยหน่อย"
"ครับนาย"
เสียงภาคินสั่งลูกน้องอย่างตั้งใจให้มันดัง
เข้าไปในโทรศัพท์
"พรีมคุณอยู่ไหน ทำไมมีเสียงผู้ชาย"
"พรีมบอกแล้วไงว่าพรีมไม่สะดวก เอาไว้ค่อยคุยกันนะคะ"
พิมรดารีบตัดสายทันที
"หึๆ"
พิมรดาหันไปดูขึ้นข้างที่กำลังขำเธออยู่
"คุณขำพรีมหรอคะ"
"มีหนุ่มโทรมาตามหึงด้วย"
"แดเนียลเป็นเพื่อนพรีมค่ะ"
"ผมก็ยังไม่ได้ว่าอะไร"
พิมรดามองค้อนเข้าไปหนึ่งควับ
"ถึงแล้วครับนาย"
ชัยรายงานหลังจากเขา เลี้ยวรถเข้ามาจอดด้านหลังของผับเป็นที่จอดประจำตำแหน่งของเขา
"ผมขอเข้าไปดูความเรียบร้อยในผับหน่อย"
ภาคินพูดขึ้น
"ค่ะ ให้พี่ชัยไปส่งพรีมก่อนก็ได้"
"จะให้ไอ้ชัยขับรถไปขับรถมาทำไมเสียเวลาคุณก็เข้าไปกับผมนี้แหละ"
พิมรดาชั่งใจอยู่ว่าจะเอาไงดี จะไปกับเขาก็กลัวจะเป็นภาระเปล่าๆ
"เร็วสิคุณเวลาผมทีค่านะ"
"ค่าาา..."
พิมรดาค้อนเขาไปหนึ่งที คนอะไรเอาแต่ใจชะมัด เข้าเดินนำหน้าเธอไปก่อนแล้ว พิมรดารีบวิ่งตามเขาเข้าไป
เขาพาเธอเดินเข้าทางหลังร้าน ที่เป็นทางผ่านไปห้องน้ำ ผู้คนพลุกพล่านพอสมควร แค่เปิดประตูเข้าไปเธอก็ได้กลิ่นบุหรี่กลิ่นเหล้าลอยคละคลุ้งไปหมด เเสงไฟสลัวๆมองไม่ค่อยเห็นทำให้พิมรดาเดินไปชนกับผู้ชายคนหนึ่งที่เดินส่ายไปส่ายมาด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์
"อุ้ย..ขอโทษค่ะ"
เธอเอ่ยขึ้นอย่างตกใจ
"อ่าว..คนสวยสนใจพี่หรอถึงแกล้งเดินมาชนห๊ะ"
"ขอโทษค่ะดิฉันไม่ได้ตั้งใจ"
พูดเสร็จเธอกำลังจะเดินหนีออกมา
"เดียวสิคนสวย ชนแล้วหนีไม่ได้นะครับต้องเครมก่อน"
มันคว้าข้อมือเธอไว้ พิมรดาตกใจ
"ปล่อยฉันนะ"
เธอพยายามดึงข้อมือตัวเองออก
"เรามาทำความรู้นักกันหน่อยดีกว่า"
มันดึงเธอเข้ามาใกล้ พิมรดาใจเต้นตุบตับ
[ตุ๊บ]
"โอ้ยยย..ใครถีบกูว่ะ"
มันโว้ยวายขึ้นด้วยความเจ็บในขณะที่มันไปกองอยู่กับพื้น
"กูเอง"
ภาคินยืนจังก้า พร้อมกับลูกน้องอีกสองคน พิมรดารีบวิ่งไปหลับหลังเขาทันที
"มึงเสือกอะไรด้วย มึงเป็นผัวมันหรือไง"
[ปึก]
"โอ้ยยย.."
มันร้องขึ้นอีกรอบ รอบนี้มันเอามือกุมที่ปากพร้อมกับมีเลือดไหลออกมา
"สำหรับปากหมาๆของมึง"
พิมรดาตกใจเธอดึงเสื้อเขาไว้จากด้านหลังกลัวว่าเขาจะเข้าไปเตะซ้ำโอ้หมอนั้นอีก ลูกน้องก็ยืนนิ่งเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
"เลือด...โอ้ยยเจ็บ ยอมแล้วยอมแล้วครับ
โอ้ยย..พาผมไปโรงพยาบาลที"
มันร้องโอดโอยอย่างหมดสภาพ
"ลากมันออกไป แล้วขึ้นบัญชีอย่าให้มันเข้ามาในนี้อีก"
ภาคินหันไปสั่งลูกน้อง
"ครับนาย"
ภาคินหันมาคว้าข้อมือบางของพิมรดาแล้วจูงเธอขึ้นไปบนชั้นสองที่เป็นห้องทำงานของเขา พอห้องทำงานของเขาปิดลงเหมือนอยู่คนละโลกกับเมื่อกี่เลย ไม่มีกลิ่นบุหรี่เสียงที่ดังกระหึ่มกลายเป็นเงียบสงบ
"เดินยังไงให้ไปชนกับคนเมาได้"
ภาคินพูดขึ้น
"พรีมก็เดินของพรีมดีๆนี้ค่ะ เขาเซมาชนพรีมเอง"
เขาพาเธอไปนั้งลงที่โซฟาตัวยาว
"ใช้ชีวิตอยู่เมืองนอกยังไงคนเดียวได้แค่เดินหลบคนเมายังไม่ได้"
"พรีมไปเรียนนะคะ ที่อโคจรแบบนี้พรีมไม่ไปหรอกค่ะ"
"จะบอกว่าเป็นเด็กเรียนไม่เที่ยงกลางคืนว่างั้น"
"ก็มีบ่างแต่ก็ไม่ได้ไปบ่อย เฮ้อออ..ช่างเถอะค่ะ พูดไปคุณก็ไม่เชื่อพรีมอยู่ดี"
ถึงเธอจะบอกว่าเธอไม่ชอบที่แบบนี้เขาก็ไม่เชื่ออยู่ดี
"รู้ได้ไงว่าผมไม่เชื่อ"
"ก็ทั้งคำพูด แววตา น้ำเสียงของคุณไงค่ะ ที่บอกว่าไม่เชื่อพรีม"
พิมรดาหันมามองเขาตรงๆ พบว่าภาคิน
มองเธออยู่แล้ว
"แววตา น้ำเสียงผมเป็นยังไง"
เขาขยับเข้าไปใกล้ๆให้เธอได้มองแววตาเขาได้ชัดๆ
[ก๊อกๆๆ]
พิมรดารีบถอยออกห่างภาคิน
"สวัสดีครับคุณภาคิน"
ผู้จัดการเข้ามาทักทาย
"เป็นไงมั่งทุกอย่างเรียบร้อยดีไม"
"ทุกอย่างเรียบร้อยดีครับ"
"ดีคุณไปทำงานเถอะ"
"ครับ"
ผู้จัดการร้านหันมามองพิมรดาเขาก้มศรีษะให้เธอนิดหนึ่งก่อนจะเดินออกไป
ผู้หญิงคนี้ต้องมีความสำคัญกับเจ้านายพอสมควรเพราะเขาไม่เคยเห็นเจ้านายพาผู้หญิงเข้าไปในห้องทำงานเลยสักครั้งเดียว