สุดท้ายแล้วก็มาจบที่โรงพัก เคลียร์เรื่องอะไรเสร็จต่างก็แยกย้ายกัน เจนนั้นไม่เอาความเพราะรีบพาแฟนหนุ่มไปหาหมอต่อ โชคดีที่สองคนนั้นไม่กล้ามีเรื่องอีกหน จึงจบกันและต่างคนต่างไป
เธอเดินออกมานั่งอยู่หน้าโรงพักเป็นเวลาเกือบสี่ทุ่มแล้ว กว่าจะปล่อยตัวเสร็จอะไรเสร็จและหาอุปกรณ์ทำแผลมาทำให้ซันเพราะเธอกลัวเขาจะเจ็บมาก และอาจจะติดเชื้อเอาได้
"นั่งรอแท็กซี่แป๊บนะ มานี่กูทำแผลให้"
เธอเรียกซันให้มานั่งข้างทั้งที่ตัวเองขากะเผลกเล็กน้อย นั่นเพราะเธอถูกโยนลงกับพื้นจนหัวเข่าและแขนถลอกมีเลือดซึมเล็กน้อย แต่แผลแค่นี้ไกลหัวใจมาก เธอไม่ได้รู้สึกเจ็บเลยสักนิด
"หมิว ขอโทษนะ ทำมึงลำบากเลย"
จู่ ๆ ซันก็เกิดซึ้งในบุญคุณเธอขึ้นมา เขาพูดเสียงเบาคล้ายกับคนรู้สึกผิดมาก นั่นก็เพราะเขารู้ตัวว่าความงี่เง่าไม่เข้าเรื่องของเขาทำเอาเธอต้องมาเดือดร้อน หนำซ้ำยังเจ็บตัวอีกด้วย ทำให้เขาไม่สบายใจเป็นอย่างมาก ทุกคนในกลุ่มเพื่อนต่างดูแลหมิวมาเป็นอย่างดี ไม่เคยมีใครได้แตะเนื้อต้องตัวทำให้เกิดรอยช้ำบนตัวเธอแม้เพียงจุดเล็ก ๆ มาครั้งนี้หมิวกลับโดนทำขนาดนี้ เขาไม่อยากยกโทษให้ตัวเองเลยด้วยซ้ำ
"ไม่เป็นไรน่า คราวหน้าก็จำไว้ จะทำอะไรต้องถามกูก่อน มึงคิดเองไม่ได้กูช่วยคิด เข้าใจ?"
เธอไม่ติดใจจะว่าเขาแต่อย่างใด นั่นก็เพราะเข้าใจซันดีที่สุด เพราะซันเป็นแบบนี้แหละเธอถึงอดห่วงเขาไม่ได้
"เข้าใจแล้ว" ซันพยักหน้าหงึก ๆ
"มานี่มา กูทำแผลให้ก่อน"
"ขอบคุณนะ"
ซันเอ่ยขอบคุณพร้อมกับเบียดตัวนั่งข้างกายเธอ ที่นั่งอยู่บริเวณข้างถนน สภาพทั้งสองคนไม่มีใครดีไปกว่าใครเลยสักนิด ชุดนักศึกษาชุดนี้คงต้องทิ้งไปสินะ น่าเสียดายจัง นี่เธอต้องซื้อชุดนักศึกษาใหม่อีกแล้วเหรอเนี่ย
"จำไว้นะซัน มึงอย่าตัดสินใจอะไรบุ่มบ่ามเข้าใจไหม ทำอะไรต้องคิดก่อนเสมอ"
เธอบ่นเขาแต่นั่นก็เป็นคำบ่นที่เป็นคำสอนชั้นดี ไม่มีใครหวังดีกับซันได้เท่าเธออีกแล้ว
"ถ้ามึงหาคนที่หวังดีกับมึงได้ไม่เท่ากู มึงอย่าเอามาทำเมียนะ เดี๋ยวจะลำบากกูอีก"
"หึ"
ซันที่โดนเปิดหน้าผากสำรวจแผลบนหน้าก็หลุดยิ้มออกมา ใบหน้าบอบช้ำแต่กลับไม่ทำให้ความหล่อที่กร้าวใจนี้ลดลงเลยสักนิด ยิ่งเวลาซันยิ้มน้อย ๆ ยิ่งดูมีเสน่ห์น่าหลงไหล ทำเอาคนมองแบบเธอถึงกับนิ่งค้าง จ้องหน้าเขาอยู่แบบนั้นไม่ขยับไปไหน จนกระทั่งมือหนาสองข้องยกขึ้นจับใบหน้าของเธอไว้ทั้งสองฝั่ง ตัวเธอเองก็ยังไม่รู้
"กูรู้แล้วน่า ว่านอกจากป๊ากับมี๊ก็มึงนี่แหละที่หวังดีกับกูที่สุด" ซันยิ้มให้กับคนตัวเล็กที่อยู่ตรงหน้า
นั่นเพราะสุดท้ายแล้วเขาเหลือใครกัน หากไม่ใช่เธอคนนี้ ต่อให้เขาจะดีจะเลวแค่ไหนก็มีเธอคอยอยู่ข้าง ๆ เสมอ เธอเป็นมิตรภาพที่เขาไม่รู้จะหาจากไหนได้เท่านี้อีกแล้ว หมิวเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดสำหรับเขาจริง ๆ
"อะ เอ่อ อื้อ"
เธอตั้งสติได้พอดีกับจังหวะที่เขานั่นบีบแก้มเธอ คนตัวเล็กรีบดึงตัวเองให้หลุดออกจากภวังค์ เพราะกลัวใจตัวเองจะเผลอคิดไปไกลมากกว่านี้ เธอพยายามท่องไว้เสมอว่าเธอกับซันไม่มีทางเป็นได้มากกว่าคำว่าเพื่อนเเล้ว
"หูย ตรงนี้บวมมาก"
เธอถึงกับร้องเมื่อมองเห็นข้างแก้มของซันที่บวมปูด พร้อมกับมือเรียวบรรจงทำแผลให้เขาอย่างเอาใจใส่ ซันไม่ได้ร้องเจ็บเลยสักนิด นั่นเพราะหมิวมือเบามาก หรืออาจจะเพราะเขาหนังหนาด้วยส่วนหนึ่ง ตอนเด็กมีเรื่องต่อยตีเป็นประจำ แค่นี้คงไม่คณาหนังเท่าไรนัก
"อะ เสร็จแล้ว"
เธอลดมือลงก่อนจะเอ่ยบอกคนตัวโตตรงหน้าที่เอาแต่มองเธออยู่ตลอดเวลา คล้ายกับอยากสำรวจเธออย่างไรอย่างนั้น
"เอาสำลีกับยามานี่" ซันเอ่ยขึ้น
"เอาไปทำไม อันนี้เคี้ยวไม่ได้นะจ๊ะ"
เธอพูดกวนประสาทเขา เธองงเล็กน้อยเมื่อจู่ ๆ ซันก็เอ่ยขอเอาอุปกรณ์ทำแผล อย่างเดียวที่พอสันนิษฐานและมีความเป็นไปได้มากกว่าการที่ซุนนำไปทำประโยชน์ คนแบบเขาคงเอาไปเคี้ยวเล่นน่ะสิ
"เอามาทำแผลให้มึงไง มึงก็เจ็บไม่ใช่เหรอ"
เจ้าของเสียงทุ้มเอ่ยปากพร้อมกับทำตาโตเล็กน้อย เขาก็ไม่ได้โง่จนเคี้ยวสำลีเล่นหรอกน่า เขาสักเกตหมิวอยู่สักพักแล้ว เธอเองก็มีแผล เขาไม่อยากปล่อยให้แผลเธอเสี่ยงติดเชื้อเหมือนกันนี่
"ไอ้ซันมึงสมองกระทบกระเทือนหรือเปล่า กูกลัวนะเนี่ย"
เธอทำท่าตกใจระคนเหลือจะเชื่อ นั่นเพราะซันไม่ค่อยมีมุมนี้สักเท่าไร ส่วนมากจะเป็นเธอที่เป็นฝ่ายดูแลซัน และเกือบจะทั้งหมดที่ซันไม่เคยดูแลเธอเป็นการตอบแทน
"จริงจัง มึงเจ็บเพราะกูนะ" คนตัวโตเอ่ยอย่างจริงจัง แววตาที่สื่อออกมาล้วนไม่ผิดเพี้ยนไปจากคำพูด
"ไม่ต้อง แผลแค่นี้ไกลหัวใจเว้ย" เธอพูดไปงั้นแหละ จริง ๆ ใช่ว่าเธอจะไม่เจ็บนี่ คนนะไม่ใช่หุ่นยนต์ดีที่ไส้ไม่ทะลักออกมา แต่เพราะความที่ทนมือทนเท้าล่ะมั้ง เธอถึงได้บอกว่าเรื่องแค่นี้จิ๊บ ๆ
"ไกลหัวใจมึง แต่ใกล้ตากูเว่ย"
ว่าแล้วเขาก็แย่งเอาอุปกรณ์ทำแผลไปอย่างดื้อ ๆ นั่นเพราะเขาไม่สบายใจหากไม่ได้ทำ เวลามองเเล้วก็จะรู้สึกขัดตาขัดใจหน่อย ๆ เพราะสาเหตุล้วนมาจากตนเองทั้งนั้น เขาลงไปนั่งคุกเข่าอยู่ตรงหน้าเธอ ก่อนจะลงมือทำแผลทั้ง ๆ ที่ไม่เคยทำมาก่อนเลยในชีวิต
"อะ โอ้ยยย มึงก็ทำเบา ๆ หน่อยซี้!" คนตัวเล็กถึงกับร้องลั่นเมื่อฝ่ามือที่ใหญ่เกือบเท่าหน้าของเธอนั้น ใช้สำลีเช็ดแผลตรงหัวเข่าให้ ซันที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าเธอชักมือกลับ ก่อนจะยื่นมือมางับขาสองข้างเธอให้หนีบเข้ากันอย่างเรียบร้อย นั่นเพราะเธอเจ็บเลยเผลออ้าขาเล็กน้อยก็เท่านั้น
"นั่งดี ๆ กูทำเบาสุด ๆ ละ"
"นี่เบาเเล้ว?"
"ก็เออน่ะสิ มา เดี๋ยวไม่เสร็จสักที" พูดจบเขาก็กดสำลีลงอีกครั้ง คงไม่ต้องเดาใช่ไหมว่าเธอจะเป็นอย่างไรต่อนอกจากแหกปากร้องเจ็บ
"อ๊ากกก มึงหยุดดดดด"