ใต้อาณัติ บทที่ 11 : คนที่ไม่พร้อมเจอ

1513 คำ
พรึ่บ! เสื้อคลุมตัวหนาถูกนำมาคลุมเข้าที่ไหล่ทั้ง 2 ข้างเพื่อปกปิดร่างกายที่อยู่ภายใต้ชุดนอนตัวบางตลอดทั้งคืน ยังไม่ทันจะได้เปิดปากพูดอะไรลูกน้องก็รีบเข้ามารุมล้อมฉันเอาไว้ พวกเขาไม่ใช่พึ่งมาถึงแต่อยู่เฝ้ามาตั้งแต่เมื่อคืน เพียงแค่ไม่สามารถเข้าไปในพื้นที่ของคีตาได้ “ราชาล่ะ” แทนที่จะพาตัวเองเข้าไปในรถก่อน ฉันกลับถามหาน้องชายกับราม มือขวาของตัวเองด้วยความเป็นห่วงก่อนเป็นสิ่งแรก ถึงจะกระทำแบบนั้นต่อราชาแต่ความจริงเป็นห่วงสุดหัวใจ ตอนนี้เป็นห่วงทุกคนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ยกเว้นตัวเอง “ออกจากเกาะไปแล้วตั้งแต่ที่ผมส่งสัญญาณบอกคุณควีนเมื่อคืนและตอนนี้อยู่ในที่ปลอดภัยแล้วครับ” และเมื่อได้ยินคำรายงานที่ออกจากปากของรามชัด ๆ มันทำให้ฉันรู้สึกโล่งอกอย่างบอกไม่ถูก “กลับไปพักที่บ้านเถอะครับ คุณควีนยังไม่ได้นอนมาทั้งคืน” รามพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเป็นห่วง ไม่ใช่แค่เขาที่เป็นห่วงแต่รวมไปถึงทุกคนที่มาเฝ้าฉันตั้งแต่เมื่อคืน “ไม่เป็นอะไร ฉันมีงานต้องเคลียร์...เดี๋ยวให้คนเก็บของทั้งหมดมาที่นี่ตามคำสั่งของเขาและอย่าให้ใครรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้” อะไรที่เราตกลงกันแล้วมันย่อมเป็นไปตามนั้น แม้ว่าฉันจะรู้ดีจากสายตาของลูกน้องว่าไม่เห็นด้วยที่จะต้องยอมคีตา “ขอเสนอความคิดเห็นอะไรหน่อยนะครับ...ผมคิดว่าคุณควีนไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบกับเรื่องทั้งหมดด้วยวิธีเอาตัวเองเข้ามาอยู่ใต้อำนาจของคุณคีตาเลยครับ เราสามารถต่อรองกับคุณคีตาได้เพียงรอให้อารมณ์ของเขาเย็นลงกว่านี้” การที่รามเสนอสิ่งนั้นออกมาฉันรู้ดีว่าเขากำลังเป็นห่วง ยังไงในฐานะที่เป็นคนของฉันก็คงไม่ชอบใจสักเท่าไรหรอก ที่เมื่อเวลาพระอาทิตย์ตกดินฉันจะสูญสิ้นอำนาจในมือ ไร้สิทธิ์ต่อกรกับคีตา “แล้วใครจะเป็นคนต่อรอง” และสิ่งที่รามเสนอออกมาฉันไม่จับจุดว่าเราควรทำยังไง แต่จับจุดที่แล้วใครล่ะ...ใครจะเป็นผู้เข้าไปต่อรองกับเขา ทุกคนรู้ดีว่าถ้าคีตาตัดสินใจแล้วใครก็ยากจะเข้าไปเปลี่ยนแปลง “...” คำถามของฉันทำให้ทุกคนต่างตกอยู่ในความเงียบ สายตานับสิบคู่มองมาที่ตัวเองเป็นตาเดียวและนั่นคือคำตอบ เอาคำถามนี้ไปถามใครก็คงตอบเป็นเสียงเดียวกันว่าคนที่สามารถรับมือคีตาได้คือฉันอยู่ดี “ฉันไม่ตายหรอก ไม่มีใครเอาอำนาจส่วนของฉันไปได้หรอก...ไม่ต้องกลัวจะถูกเปลี่ยนไปเป็นคนของใคร” พูดจบก็ก้าวเท้าพาตัวเข้าไปนั่งเบาะหลังภายในรถยนต์คันหรู มือเล็กยกกำสาบเสื้อคลุมไว้แน่น หันหน้ามองไปทางฝั่งประตูที่กำลังปิดลง ปึก! ดวงตากลมโตจ้องมองคฤหาสน์หลังโตในพื้นที่ของคีตา นับจากนี้เวลาพระอาทิตย์ตกดินฉันจะเข้ามาอยู่ที่นี่และยังไม่รู้ว่าคืนที่ 2 จะเจอกับอะไร ต่อให้ต้องนอนนอกบ้านทุกคืนก็ย่อมได้ นอนในห้องนั่งเล่นหรือหอพักคนงาน อะไรก็ได้ที่อยู่ห่างกับผู้ชายคนนั้น สิ่งย้ำเตือนว่าตัวเองไม่ได้ชอบผู้ชายเพราะไม่ต้องการให้รู้สึกอะไรกับคนรอบตัว ฉันถือกฎและปฏิบัติตามมาอย่างดีตลอดแม้จะรู้ว่ามีคนคิดไม่ซื่อกับตัวเอง แต่นับจากนี้มั่นใจได้เลยว่าความรู้สึกของคีตาเหลือเอาไว้เพียงแค่ ความเกลียด... วันเดียวกัน ณ ห้องทำงานส่วนตัวของควีน เวลา 09.45 น. “แล้วไอ้คีตาว่าไง” คำถามของเพลิงจากปากที่กำลังเซ็นเอกสารอยู่ถึงกับชะงัก เพลิงมาที่นี่เพราะเรามีงานที่ต้องตัดสินใจร่วมกันซึ่งมันเป็นเรื่องปกติในหน้าที่ แต่การมาในวันนี้ของเพลิงนั้น มันพ่วงมาด้วยความรู้เรื่องราวเลวร้ายที่เกิดขึ้น เพลิงรู้ทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ไม่ได้แปลกใจสักเท่าไรและแน่นอนว่าซีเวียก็ย่อมรู้ด้วย ในฐานะผู้บริหารย่อมต้องรู้ทุกเรื่องราวในที่แห่งนี้และเป็นหน้าที่ของลูกน้องที่ต้องรายงาน ยิ่งเรื่องของคนใกล้ตัวแล้วด้วยละก็... “อย่าเจอตัวราชาอย่างเดียว ถ้าเจอก็...ฉันเป็นลูกคนเดียวทันที” ปลายปากกาจรดลงบนกระดาษขีดเขียนเป็นลายเซ็นของตัวเองหลังพูดจบ ตอนนี้แม้จะทำเหมือนสนใจงานแต่ความจริงแล้วกำลังลุ้นว่าเพลิงจะพูดอะไรต่อ จะรู้ลึกสักแค่ไหน จะรู้ไหมว่าฉันต้องข้องเกี่ยวกับอีกคน “ของแค่นี้คนอย่างคีตามันตามไม่ยากหรอกแต่ที่ไม่ตามเพราะมึง...เหตุผลเดียวที่มันยอม” เพลิงยังติดอยู่ในชุดความคิดเดิม เข้าใจว่าเพราะเพื่อนตัวเองรู้สึกกับฉันเพราะเขาไม่รู้ว่าตอนนี้ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปแล้ว “เพราะกูช่วยน้อง ปกปิดคนผิด ไม่สนสิ่งที่ควรจะทำ” “คนในครอบครัวเป็นใครก็ต้องช่วย มาเป็นกูก็หนักใจไม่แพ้กันแต่สุดท้ายก็เลือกชีวิตคนฝั่งตัวเองเอาไว้ แล้วที่หมายถึงคือคีตามันไม่ตามเพราะมันยอมแค่มึง กูไม่รู้ว่าเรื่องนี้มึงรับมือกับคีตายังไง แต่ผู้ชายที่มันรู้สึกลองเล่นกับมันดู...จะได้ต่อรองคุยกันง่ายขึ้น” เป็นคำแนะนำในฐานะของผู้ชายและเพื่อนที่รู้เรื่องราวทุกอย่างดี แต่เพลิงไม่รู้ว่าเรื่องทั้งหมดในตอนนี้เกมมันเปลี่ยนไปคนละทางแล้ว “เอานี่ เสร็จแล้ว” ฉันไม่ตอบกลับคำแนะนำนั้น ทำเพียงยื่นเอกสารสำคัญที่เพลิงเอามาเป็นข้ออ้างในการพบฉันเช้านี้ ทุกคำพูดของคนตรงหน้าไม่ได้หมายความว่าจะไม่เก็บเอามาคิด “ที่พูดก็แค่อยากแนะนำ มันเรื่องใหญ่และตอนนี้คีย์ยังไม่รู้สึกตัว” “คีย์ยังไม่...” สิ่งที่ออกมาจากปากเพลิงทำให้ฉันตื่นตัวขึ้นมาทันที “อือ ยังไม่รู้สึกตัว อยู่ภายใต้การดูแลของคีตาแค่คนเดียว” ยิ่งรู้ว่าอยู่ใต้การดูแลของพี่ชายเธอยิ่งทำให้ฉันคิดหนัก อุตส่าห์ตั้งใจว่าจะไปเยี่ยมดูเหมือนจะเป็นงานยากซะแล้วสิ “ไปเยี่ยมน้องมาแล้วเหรอ” “ไปเมื่อเช้า ไปหาไอ้หมอด้วย...ไม่งั้นไม่รู้ลึกหรอก” ไม่ใช่แค่รู้ธรรมดาแต่เรียกว่ารู้เรื่องทั้งหมดจากปากเพื่อนตัวเองมาแล้วสินะ “ขอโทษ” ฉันขอโทษทุกคน ขอโทษกับการตัดสินใจของตัวเองแบบนั้น “เข้าใจและก็เข้าใจไอ้คีตา...ถ้าเป็นตัวเองก็ตัดสินใจแบบนี้เหมือนกัน” พูดจบร่างสูงก็ลุกขึ้นยืนโดยไม่ลืมหยิบเอางานของตัวเองแล้วเดินออกไป “....” ดวงตากลมจ้องมองแผ่นหลังกว้างของเพลิงที่กำลังออกจากห้องทำงาน แต่แล้วคนตัวสูงก็หยุดชะงักอยู่หน้าประตู หันหน้ากลับมาสบตากับฉันแล้วพูดทิ้งท้ายเอาไว้ก่อนออกจากห้อง “บ่ายโมงกูมีนัดกับคีตา...มีเวลาตอนนี้ไปเยี่ยมคีย์” จากนั้นเพลิงก็ออกจากห้องทำงานฉันไป กับคนอื่นเพลิงไม่มีปัญหาด้วยและเป็นคนปกติ ทำหน้าที่ไม่บกพร่องอย่างเราทุกคนได้เป็นอย่างดี ยกเว้นแค่คนเดียวเท่านั้นที่เพลิงจะมีปัญหาด้วยเสมอเพียงสบตาก็คือ...ซีเวีย บ่ายโมง...ฉันมีเวลาแค่ช่วงนั้นที่จะไปเยี่ยมคีย์ได้ ณ ห้องพักคนไข้โซน VVIP เวลา 13.10 น. ติ๊ง! เสียงสัญญาณแจ้งเตือนดังขึ้นนำหน้าก่อนที่ประตูลิฟต์จะเลื่อนเปิดออก บรรยากาศชั้นบนสุดของอาคารห้องพัก VVIP เต็มไปด้วยความเงียบสงบ เท้าเล็กก้าวเดินออกจากตัวลิฟต์มุ่งตรงไปทางห้องพักรักษาตัวของคีย์ที่ได้ข้อมูลมา เพื่อความแน่ใจตัวเองเลือกที่จะมาหลังบ่ายโมงนิดหน่อย ฉันไม่ต้องการเจอพี่ชายของคีย์ในเวลาไม่เป็นอันควรหรอกนะ แค่เมื่อคืนเห็นหน้ากันมาตลอดทั้งคืนก็เบื่อมากพอเดี๋ยวเย็นนี้ก็ต้องพบกันอีก กริ้ก! แต่แล้วในขณะที่ฉันเดินเข้ามาใกล้ห้องพักของคีย์ที่เบื้องหน้านั้นมีคนของคีตาเฝ้าอยู่ จู่ ๆ ประตูก็เปิดออกก่อนที่คู่สามีภรรยาวัยกลางคนจะเดินออกมาด้วยใบหน้าเคร่งเครียดหันมาสบตากับฉันพอดี และมีผู้ชายตัวสูงอีกคนที่เป็นผู้ดูแลเพียงคนเดียวของคีย์เดินออกมา กลุ่มคนที่ฉันยังไม่พร้อมจะพบเจอมากที่สุดในตอนนี้...พ่อ แม่ของคีย์และคีตา
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม