ตอนที่.2 ล่าท้าผี

1149 คำ
"เขาว่ากันว่าถ้าเอาน้ำตาหมาดำมาป้ายแล้วจะเห็นผี" เป็นปกติที่หนุนตักจะหาทฤษฎีต่างๆ มาบอก "แต่กูไม่อยากลองหรอกกลัว" "กระจอก!" "แล้วมึงกล้าเหรออีแป๋ว!" "กูกลัวที่ไหนวันนี้ไหมล่ะ" "จัดไป" ฉันยอมรับคำท้าทายเนื่องจากว่าไม่เคยเกรงกลัวอะไร จนกระทั่งจินส่ายหน้าเนื่องจากเป็นเด็กเรียนเก่งจึงไม่เชื่อเรื่องภูตผีวิญญาณแม้เราจะอาศัยอยู่ในถิ่นกันดารก็ตาม พักกลางวัน "มึงจะไปจริงๆ เหรอ" บอยเอ่ยถามสงสัย "ใช่กูจะไปทำไมล่ะ" "มึงไม่กลัวผีหรือยังไง" "ผีมันก็แค่ทฤษฎีที่เราคิดไปเองเกิดมากูยังไม่เคยเห็นเป็นตัวเป็นตนเลย" หน้าไอ้บอยก็เป็นกังวลแต่ฉันก็บังคับให้มันไปด้วยอย่างน้อยก็มีผู้ชายไว้ค่อนข้างอุ่นใจ หมับ "ขอนะ" ฉันคว้าลูกอมจากเด็กอนุบาลแล้วฉีกซอง "หวานดี" "____" "มองหน้าทำไมเปี๊ยก!" "อีแป๋ว" "โหย ไอ้เด็กเวร" ไอ้เปี๊ยกเป็นเด็กแถวบ้านฉันมักจะมาปล้นขนมกับลูกอมมันบ่อยทั้งที่เรียนอยู่แค่อนุบาลสามปากมันนี่น่าเตะชะมัด "มึงจะไปด่าเด็กทำไมก็มึงมาไถลูกอมมัน ฮ่าๆ" บอยขำส่ายหน้าไปมา "ว่าแต่กูต้องเตรียมตัวยังไงบ้างวะ.." "มึงก็แค่ทำใจสบายๆ แล้วก็เตรียมเห็นผีได้เลย" "ปากเสีย!" เวลาล่วงเลยผ่านไปจนกระทั่งเรียนคาบบ่ายคุณครูอบรมถึงเรื่องเข้าเรียนมหาวิทยาลัย "สรุปว่ามึงจะได้ไปเรียนอยู่ที่เมืองกรุงเหรออีปุยนุ่น.." หนุนตักตกใจในขณะที่ถาม "เออสิเห็นแม่บอกน้าว่างั้น" "แต่เขาบอกว่าแพงมากเลยนะ" "แล้วไงก็บ้านกูมีตังค์" "ค่ะอีสัส!!" เมื่อสองสาวเถียงกันแต่จินกับตั้งหน้าตั้งตาทำหน้างานบางอย่างจนทำให้แป๋วสงสัยเดินไปถาม "มึงอ่านอะไรอยู่เนี่ย" "วิธีเห็นผีมึงเลือกวิธีเอาน้ำตาหมาดำป้ายตาใช่ไหม..อ่านสิ" "ให้ทำในคืนเดือนมืดพร้อมกับก้มลงมองหว่างขาจากนั้นหลับตานับหนึ่งถึงสามแล้วจึงค่อยๆ ลืมตาขึ้น" "ใช่มึงต้องทำตามให้ครบขั้นตอนด้วยนะ" "ของมันแน่อยู่แล้วกูไม่กลัวหรอก หึ" กริ๊งงง กระดิ่งของโรงเรียนดังขึ้นในเวลา 15.30 น. ซึ่งเป็นเวลาเลิกเรียนแต่ทั้งหมดยังนั่งคุยกันอยู่ใต้ต้นฉำฉาเก้าอี้ไม้อ่อนที่ประจำ "สรุปคืนนี้กูจะไปพิสูจน์ล่าท้าผีนะ" ฉันพูดอย่างมั่นใจสาดเสียงไปใส่หนุนตัก "ค่ะ..กูจะรอดูนะว่ามึงจะเห็นผีไหมแล้วอย่าเป็นบ้าไปซะก่อนละ" "มึงนั่นแหละจะบ้า!!" "ปากดีไปเถอะ" "ถ้าอย่างนั้นคืนนี้เจอกันที่ป่าช้าวัดซักสองทุ่มนะเพราะกลับดึกเดี๋ยวแม่จับได้" ฉันทำการนัดแนะกลุ่มเพื่อนแล้วรีบกลับบ้านไปเพื่อทำตัวให้เป็นปกติไม่ให้แม่สงสัย "แล้ววันนี้แม่ไม่ขายไก่ปิ้งหรือไง.." ลืมบอกว่าอาชีพที่บ้านของฉันคือการย่างไก่ขายที่ตลาด "เขามาเหมาไปใส่เพลวัดกูกำลังทำส่งอยู่นี่ไง" "ได้บุญได้เงินดี๊ดีเนาะแม่" "ได้บุญหรือได้บาปมีลูกอย่างมึงเนี่ยปวดหัวถ้าอีกหน่อยไม่มีกูแล้วใครจะคอยด่าคอยว่ามึง" แม่เสียบไก่สีแดงที่หมักโดยนั่งบนพื้นซึ่งทำเป็นประจำในขณะที่แป๋วก็ทำท่าล้อเลียนก่อนจะวิ่งไปกอดรัดฟัดเหวี่ยง "โอ๊ย อีแป๋ว!ร้อนมากอดทำไม" แม่ตวาดใส่แม้ในใจจะยิ้มแก้มบาน "ฉันอาจจะเป็นเด็กที่ดื้อรั้นแต่ฉันรักแม่ที่สุดเลยนะ" "ถ้ารักมึงก็ชวนกวนประสาทให้น้อยๆ หน่อยเถอะวะชื่อเสียงของมึงเลื่องลือนามไปกี่ตำบล" แม่บ่นยังหันเอามือมาทุบหน้าผากของลูกสาวเบาๆ ทั้งคู่อาศัยอยู่ด้วยกันดิ้นรนสุดกำลังแต่เพราะแป๋วไม่ชอบใช้ของหรูหรือทำอะไรเกินตัวจึงอยู่ได้อย่างไม่ขัดสน "คืนนี้แม่จะไปเล่นไพ่บ้านมงคลเปล่า" ฉันรีบถามเพื่อดูลาดเลา "ไปอยู่มั้งเล่นแค่วันละร้อยที่เหลือกูนั่งดูเอา" "ดีแล้วแม่การพนันมันเป็นสิ่งที่แย่จะทำให้เรานั้นสิ้นเนื้อประดาตัวแม่อย่าเล่นเลยนะเพลาๆ ลงบ้าง" ป่าช้า "อีสามตัวนั่นมันฝากเงินมาลงขันเท่าไหร่?" ฉันเลยถามไอ้บอยเพราะพวกเราพนันกันไว้ว่าฉันจะกล้าพอหรือเปล่า "คนละห้าสิบบาท" "ห้าสิบ!!ให้มาล่าท้าผีกับเงินรวมร้อยห้าสิบ" "เออไม่คุ้มกลับเถอะ" หมับ "เดี๋ยว!" ฉันรู้ว่าไอ้บอยกลัวมันหันหลังแทบจะโกยแน่บแต่ฉันรีบคว้าแขนมันเอาไว้ "เราต้องสู้ร้อยห้าสิบกูก็เอา" "อีห่า!!" "ว่าแต่แล้วเราจะไปหาหมาดำที่ไหนกันวะ" ทันทีที่แป๋วทำท่าทางครุ่นคิดก็มีเสียงเล็กๆ แทรกเข้ามา "แล้วทำไมต้องเป็นกู!" "อีหนุนตักไม่ว่างอีปุยนุ่นพ่อก็ไม่ออกจากบ้านเหลือมึงกับไอ้บอยเนี่ย" "เฮ้อออ" ตึก ตึก เสียงจินบ่นอุบอินตอนนี้บอยเป็นผู้ชายคนเดียวจึงได้ถือไฟฉายนำเพื่อส่องหาหมาดำตามคำบอกเล่า "เจอแล้ว!!" ในขณะที่เห็นดวงตาสะท้อนไฟปรากฏว่าเป็นหมาจรจัดที่เฝ้าป่าช้านี้ไว้ "เอาไงอีแป๋วแหวว" "เดี๋ยวกูจัดการเองเสียใจไม่เป็นไรเสียหน้าไม่ได้อีหนุนตักจะหาว่ากูกาก" "ตามใจมึง" "ไปจับมันมา" ฉันสั่งให้ไอ้บอยจับหมาดำพร้อมกับเดินไปหาในขณะที่จินจับชายเสื้อเดินตามมาติดๆ "อีแป๋วมึงเปลี่ยนเป็นหมาสีน้ำตาลได้ไหม!ไอ้ดำจับโคตรยาก" บอยตะโกนถาม "มึงจะบ้าเหรอเขาให้ใช้หมาสีดำจับสีน้ำตาลมาแล้วจะเห็นไหมผี!!" "กูเหนื่อยวิ่งวนอยู่เนี่ย" โฮ่ง โฮ่ง โฮ่ง ทันทีฝูงหมาก็เห่ากันอย่างพร้อมเพรียงเพราะเหมือนกับกำลังโดนคุกคามการพักผ่อนของมัน "เห่าอย่างเดียวก็พออย่าหอนแล้วกัน" "อีจิน! ปากเสียนะมึง" "ก็กูกลัวเหมือนกันนิถ้ารู้ว่าอีสองตัวนั้นไม่มากูก็ไม่มาหรอก" "เอาหน่ากูไม่คิดเงินพนันมึงก็แล้วกัน" หลังจากใช้เวลาสักพักไอ้บอยก็ตะล่อมจับหมาดำซึ่งปกติพวกเราเห็นมันทุกวันไม่มีทีท่าจะดุร้ายหรือเคยกัดใคร ฉันจึงใจสู้พร้อมกับเอื้อมมือปาดน้ำตาที่ไหลส่วนอีจินยืนส่องไฟฉาย กรี๊ดดดด "อีแป๋ว!!!!"
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม