หลังจากไดม่อนกับเอริคแยกตัวกลับไปก่อน ปล่อยให้คู่หูเพื่อนสนิทอย่างทอฝันกับพายุยืนกันอยู่สองคนใต้แสงไฟหน้าตึกที่เริ่มสลัว
พายุ หาวหวอด ๆ แล้วเกาหลังคอ
“คืนนี้กูขอนอนด้วยอีกนะเว้ย”
ทอฝัน ขมวดคิ้วทันที หันมามองอย่างระแวง
“ไม่โว้ย! มึงจะติดกูไปถึงเมื่อไหร่วะเนี่ย ห้องกูก็ไม่ใช่โฮมสเตย์นะ จะมานอนเช้าเย็นกลางคืนแบบนี้ไม่ได้!”
พายุ ทำหน้าเหมือนลูกหมาโดนทิ้ง ลากเสียงอ้อน
“แต่ห้องกูท่อแตกอะ! ช่างเขายังซ่อมไม่เสร็จ พรุ่งนี้ก็ยังไม่ได้ จะให้นอนทั้งเหม็น ๆ ทั้งร้อน ๆ อีกเหรอ มึงจะใจร้ายกับเพื่อนแบบนี้จริงดิ?”
ทอฝัน เบะปาก
“ใจร้ายกับมึงกูก็ไม่ตายหรอก พายุมึงไม่ได้เป็นพระเอกละครหลังข่าวซะหน่อย จะได้ต้องสงสารให้มานอนกอดกันทุกคืน!”
พายุ ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ ลมหายใจอุ่น ๆ พ่นใส่หน้าทอฝัน
“กูไม่ได้อาบน้ำนะโว้ย! ถ้ามึงไม่ให้กูนอนที่นี่ มึงก็ต้องยอมให้กูนอนห้องมึงด้วย ‘กลิ่น’ นี้แหละ กูจะเดินตามมึงทั้งคืน!”
ทอฝัน รีบถอยหลังทันที ยกมือปิดจมูก
“ไอ้บ้า! เดินเข้ามาอีกก้าวเดียว กูตบคว่ำแน่!”
พายุ หัวเราะร่วน ก่อนจะยักไหล่ ทำหน้าแบ๊วเกินวัย
“งั้นก็ให้กูนอนดิ๊ คืนนี้แค่คืนเดียว กูสัญญาว่าจะไม่ดิ้น ไม่แย่งผ้าห่ม ไม่กรน ไม่ทำเสียงแปลก ๆ ไม่ทำอะไรให้มึงรำคาญเลย”
ทอฝัน ทำหน้าเหมือนโดนบังคับขายวิญญาณให้ปีศาจ
“มึงพูดแบบนี้ทุกคืน แล้วสุดท้ายเป็นไง? ผ้าห่มกูอยู่ที่มึง หมาในหมู่บ้านยังไม่กรนเท่ามึงเลยมั้ง! ส่วนเสียงแปลก ๆ… อย่าให้กูพูดเลย กูยังหลอนอยู่จนถึงวันนี้!”
พายุ หัวเราะกลั้นไม่อยู่
“เสียงนั้นคือเสียงกรนแบบมีจังหวะเว้ย! นักดนตรียังต้องยอมแพ้!”
ทอฝัน กลอกตา
“มึงนี่มัน… เออ ๆ จะนอนก็นอน แต่คืนนี้ช่วยอาบน้ำก่อนขึ้นเตียงด้วยนะ ไม่งั้นกูจับโยนออกระเบียงแน่ ๆ”
พายุ ทำท่าดีใจยกมือขึ้นสองข้าง
“เยส! ขอบคุณครับคุณแม่ทอฝัน! รักที่สุดเลย!”
ทอฝัน ยกเท้าขึ้นทำท่าจะถีบ
“อย่าให้ถึงกับต้องเรียกแม่จริง ๆ นะ กูตีมึงได้!”
พายุกลั้นหัวเราะก่อนจะเปลี่ยนเรื่องทันทีแบบเนียน ๆ
“แล้วมึงไม่ถามหรือน้องน้ำตาลกูอะ ว่าทำไมกูไม่ไปหาวันนี้?”
ทอฝัน ขมวดคิ้ว
“อ้าว จริงด้วย แล้วน้ำตาลล่ะ? ไม่ไปอ้อนสาวเหรอ?”
พายุ ส่ายหน้า ทำหน้าง่วง ๆ
“ไม่ว่ะ น้องอยู่หอใน ผู้ชายห้ามเข้า แล้ววันนี้เธอก็บอกว่ามีเรียนตอนเย็น เดี๋ยวต้องทำรายงานต่ออีก”
ทอฝัน เหล่มอง
“มึงนี่นะ ชีวิตลักลั่นซ่อนเงื่อนจริง ๆ กลางวันจีบสาวปีหนึ่ง ทำตัวจน ๆ ไปนั่งกินสเต๊กกับน้อง กลางคืนมานอนห้องเพื่อนสาวที่รู้ไส้รู้พุง กอดกลิ้งเป็นหมาโดนทิ้งทุกคืน”
พายุ ยิ้มกว้างอย่างคนหน้าด้าน
“แล้วมึงจะเลี้ยงหมาไหมล่ะ?”
ทอฝัน เดินหนี
“เลี้ยงเหรอ? กูจะส่งไปฉีดยากันบ้าก่อนเลย!”
เสียงหัวเราะของพายุไล่หลังทอฝันที่เดินลิ่วขึ้นหอพัก ก่อนที่เขาจะวิ่งตามเข้าไป พร้อมบทสนทนาจบด้วยความวุ่นวายแบบคู่เพื่อนสนิทสุดแสบที่มีอะไรมากกว่าคำว่า ‘เพื่อน’ แอบซ่อนอยู่ลึก ๆ
ณ คอนโด xx ห้องของทอฝัน
~ครืด~
เสียงเปิดลิ้นชักและฝีเท้าหนัก ๆ ของพายุคลอเบา ๆ กับเสียงน้ำจากฝักบัวในห้องน้ำที่ยังไม่เปิดใช้
พายุ เดินวนหยิบผ้าเช็ดตัวพาดบ่าข้างหนึ่ง
“งั้นกูขออาบน้ำก่อนนะ มีชุดกูมะ?”
ทอฝัน นั่งชันเข่าบนโซฟา มือถืออยู่ในมือข้างหนึ่ง อีกข้างชี้ไปทางตู้เสื้อผ้าท้ายเตียง
“เสื้อผ้ามึงก็อยู่ในตู้นั่นแหละ กูซักไว้ให้ละ กางเกงอยู่ลิ้นชักล่าง”
พายุ พยักหน้าหงึก ๆ แล้วเปิดตู้ดึงเสื้อยืดสีดำที่ดูเหมือนจะซักใหม่ ๆ ออกมา
“เออ ๆ ขอบใจนะ แม่บ้านทอฝัน”
คำแซวลอย ๆ ทำให้ทอฝันปรายตามองนิดหนึ่งแต่ไม่ได้ตอบอะไร เพราะกำลังดูคลิปน้องหมาในมือถืออย่างเพลิน ๆ
ขณะที่พายุเปิดลิ้นชักล่างตามที่เธอบอก แทนที่จะเจอกางเกง เขากลับเจอสิ่งที่ทำให้มือแข็งค้าง
เสื้อชั้นในลูกไม้สีครีมอ่อน… คัพ C… วางพับเรียบร้อยอยู่ข้างในลิ้นชัก
พายุ กระแอมกระไอ เสียงเหมือนคนสำลักอากาศ
“แค่ก ๆ …ไอ้ทอฝัน”
ทอฝัน เงยหน้าจากมือถือ หรี่ตานิด ๆ
“หืม? เป็นไรนิ่งแบบนั้น? หรือว่าไปเจอจิ้งจก?”
พายุ ยังคงยืนค้างอยู่ที่ลิ้นชัก มือยังจับผ้าลูกไม้ไว้แต่พยายามวางคืนอย่างสุภาพที่สุดเท่าที่ผู้ชายจะทำได้
“เอ่อ…กูแค่จะถามว่า…”
เขาเว้นวรรคก่อนจะหันหน้ามามองเธอแล้วพูดด้วยน้ำเสียงล้อเลียนที่พยายามกลบความเขิน
“…มึงหน้าอกใหญ่ขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่วะ?”
เงียบ
เงียบจนเหมือนช็อก
ทอฝันนิ่งไปครู่หนึ่ง ใบหน้าจืดสนิทของเธอเริ่มขึ้นสีแดงเรื่อเมื่อนึกออกว่าลิ้นชักไหนที่เธอบอกให้พายุเปิด…
ทอฝัน เม้มปากเป็นเส้นตรง สีหน้าเรียบสนิทแต่แววตาลุกวาว
“ไอ้พายุ!”
เสียงเรียกชื่อเขาดังจนพายุสะดุ้งเฮือก แล้วรีบยกมือทั้งสองขึ้นเหมือนผู้ต้องหาโดนตำรวจจับ
“กูไม่ได้ตั้งใจ! มึงบอกเองว่าอยู่ลิ้นชักล่าง!”
“กูหมายถึงลิ้นชักล่างฝั่งขวา! ไม่ใช่ฝั่งกูโว้ย!”
“โอ้ย! ขอโทษ ๆ ๆ เอาเป็นว่ากูจะลืมภาพนี้ไปตลอดชีวิตเลยก็แล้วกัน!”
ทอฝัน ลุกขึ้นเอาหมอนปาใส่หน้าเขาเต็มแรง
“ถ้ามึงยังพูดอีกคำเดียว กูจะโยนเสื้อในกูให้มึงเอาไปใส่เองเลย!”
พายุ หลบหมอนพลางหัวเราะร่วน
“ถ้าเป็นไซส์นี้จริง ๆ กูน่าจะใส่ได้แค่ข้อมือ!”
“ไอ้เวรพายุ!”
พายุหลุดหัวเราะจนตัวงอ ขณะที่ทอฝันทำท่าจะเดินเข้าไปหวดเขาอีกรอบ เขารีบหนีเข้าห้องน้ำพลางตะโกนออกมา
“โอ๊ยยย! กูขอโทษ! กูจะจำไว้ว่าลิ้นชักล่างต้องดู ‘ฝั่ง’ ให้ดี!”
แกร๊ก~
เสียงประตูห้องน้ำปิดลงดัง “แกร๊ก” ทิ้งให้ทอฝันยืนหน้าแดงอยู่คนเดียวกลางห้อง ก่อนจะพึมพำเบา ๆ
“บ้าบอ…ไอ้เวรเอ๊ย…”
เธอนั่งลงบนโซฟาอีกครั้ง มือหนึ่งยกมือถือขึ้น แต่คราวนี้ไม่ได้ดูคลิปหมาแล้ว เธอกลับเปิดแอพเพลง คลอเสียงเบา ๆ เพื่อกลบเสียงหัวใจที่เต้นแรงของตัวเองแทน
ผ่านไป 15 นาที
เสียงฝักบัวจากห้องน้ำหยุดลง พร้อมกับกลิ่นสบู่หอมสะอาดจาง ๆ ที่ลอยออกมากับไอน้ำอุ่น
ประตูห้องน้ำถูกเปิดออก
พายุ เดินออกมาในสภาพมีเพียงผ้าเช็ดตัวพันไว้หลวม ๆ ที่เอว หยดน้ำยังเกาะพราวตามไรผมที่เปียกยุ่งเล็กน้อย กล้ามเนื้อท้องที่ตึงแน่นเป็นลอนชัด ภายใต้แสงไฟสีวอร์มที่ทำให้ผิวของเขาดูอบอุ่นและมีชีวิตชีวายิ่งขึ้น
ทอฝัน กำลังนั่งพับเพียบอยู่บนฟูกหน้าเตียง เงยหน้าขึ้นมาพอดี
ดวงตาสองข้างชะงักค้างอย่างไม่ทันตั้งตัว
ปลายนิ้วที่กำลังเลื่อนหน้าจอมือถือชะงักไปเฉย ๆ เสียงวูบวาบในอกดังขึ้นจนได้ยินในความเงียบ
“มึงจะออกมาแบบนี้เลยเหรอไอ้พายุ!?”
เสียงของเธอไม่ดังนัก แต่ก็ดูจะฝืนความตกใจไว้พอสมควร
พายุ ใช้ผ้าขยี้หัวตัวเองไปมาเหมือนไม่รู้สึกรู้สาอะไร
“ห้องน้ำไม่มีไดร์เป่าผม มึงมีไหม เดี๋ยวหัวกูเป็นเห็ด”
ทอฝัน เบือนหน้าหนีอย่างหงุดหงิดกลบเกลื่อน
“มี แต่กูไม่อยากให้มึงมาหัวเห็ดแบบโป๊ ๆ ต่อหน้ากู! ไปใส่เสื้อก่อนเลย!”
พายุ หัวเราะเบา ๆ ขณะเดินไปทางตู้เสื้อผ้าโดยยังไม่เร่งรีบ
“อะไรกัน กูอาบน้ำมาตั้งแต่เด็ก มึงก็เห็นจนชินแล้วไม่ใช่เหรอ?”
ทอฝัน ขบริมฝีปากตัวเองแน่น ก่อนจะตัดใจพูดเบา ๆ
“นั่นมันตอนเด็ก ตอนนี้เราโตแล้วนะพายุ…”
เสียงนั้นเบาเสียจนเกือบหล่นหายไปในอากาศ แต่พายุชะงักมือที่กำลังเปิดลิ้นชัก ร่างสูงหันกลับมามองเธอช้า ๆ
“แล้วโตแล้ว…แปลว่าเราต้องห่างกันใช่ไหม?”
เขาไม่ได้พูดด้วยน้ำเสียงขำ ๆ แบบทุกที แต่เป็นคำถามที่จริงจังและนิ่งขึ้นอย่างน่าประหลาด สายตาของเขาสบกับเธอเต็ม ๆ โดยไม่มีอะไรซุกซ่อน
ทอฝันเงียบไปชั่วขณะ ก่อนจะหลบตาแล้วพูดเสียงแผ่ว
“มันไม่เหมือนเดิมแล้วไง เราไม่ใช่เด็ก ๆ ที่นอนด้วยกัน เล่นด้วยกันโดยไม่มีอะไรต้องคิดอีกแล้ว…”
เธอกัดปากแน่น สูดลมหายใจเข้า
“ต่อไป…มึงก็คงมีแฟน มีชีวิตของมึง น้ำตาลเขาก็คงไม่ชอบใจหรอก ถ้ารู้ว่ามึงยังมานอนห้องเพื่อนผู้หญิงแบบนี้อยู่ได้”
พายุ ขมวดคิ้ว
“แต่น้ำตาลยังไม่ใช่แฟนกู”
ทอฝัน หันขวับ
“แต่เขาก็เป็นคนที่มึงชอบ!”
พายุ พูดเบา ๆ แต่หนักแน่น
“แล้วมึงล่ะ… มึงไม่สำคัญกับกูเลยเหรอ?”
คำถามนั้นทำให้โลกของทอฝันหยุดนิ่งไปชั่ววินาที ความเงียบถาโถมใส่พวกเขาทั้งคู่ราวกับคลื่นลูกใหญ่ที่ไม่มีเสียง
ทอฝันไม่กล้าตอบ เธอเพียงหันหน้าไปอีกทาง และพูดเสียงเบาเหมือนคนกลัวคำตอบตัวเอง
“มึงสำคัญ… แต่มึงก็ไม่ได้เป็นของกู”
พายุสบตาเธออีกครั้ง ก่อนจะยิ้มบาง ๆ แล้วหยิบเสื้อขึ้นมาสวมในที่สุด เขาไม่ได้เซ้าซี้ ไม่ได้เข้าไปกวนเธอแบบทุกครั้ง
“งั้นคืนนี้…ขอนอนเงียบ ๆ ละกันนะ กูไม่ล้ำเส้น”
เขาเดินไปนอนบนโซฟาตัวเดิม ดึงผ้าห่มมาคลุมตัวไว้ ก่อนจะเอ่ยขึ้นเบา ๆ ทั้งที่ยังหันหลังให้
“แต่กูแค่ยังไม่ชินน่ะ…กับการที่โตแล้ว แล้วต้องห่างจากมึงน่ะ”
ทอฝันเงียบอยู่นาน ก่อนจะกระซิบเบา ๆ เหมือนพูดกับตัวเอง
“กูก็ไม่ชิน…แต่ก็ต้องหัดให้ชิน…ใช่ไหมพายุ”