ผมก็อยากเรียน

1058 คำ
“ขอบคุณมากนะคะคุณเอเลนสำหรับอาหารมื้อเย็น ขิมขอตัวกลับก่อนนะคะ” มนัญชญาบอกกับทุกคนหลังจากรับประทานอาหารอิ่มและมานั่งคุยกันที่ห้องรับแขกได้พักใหญ่แล้ว “ครูขิมขาทำไมรีบกลับล่ะคะอันนายังไม่หายคิดถึงเลยค่ะ” หนูอันนากกอดคุณครูของเธอไว้ด้วยความคิดถึง “พรุ่งนี้ครูก็มาอีกค่ะ อันนาเตรียมหนังสือนิทานไว้รอครูนะคะ” “ค่าครูขิม อันนาจะเตรียมไว้หลายๆ เล่มเลย” “ดีค่ะ งั้นครูไปก่อนนะคะ” “นี่มันดึกมากแล้วเดี๋ยวผมไปส่งครูขิมนะครับ” “ไม่เป็นไรคะคุณภพขิมกลับเองได้” “เอเลนว่าให้พี่ภพไปส่งดีกว่านะคะ ดึกแบบนี้ขึ้นรถเมล์คงไม่สะดวกไหนจะต้องเดินเข้าซอยไปอีก” “เดี๋ยวผมไปส่งเองก็ได้นะครับพอดีมีเรื่องยากจะถามครูขิมเกี่ยวกับการเรียนภาษาไทยด้วยน่ะครับ” ริคาโด้รีบอาสาเพราะดึกแบบนี้มันไม่สมคสรเลยที่สริภพกับมนัญชญาจะไปไหนมาไหนกันตามลำพัง “พี่ริคจะเรียนภาษาไทยเหรอคะ” เอเลน่าถามพี่ชายด้วยความสงสัยเพราะเธอรู้ว่าพี่ชายของเธอนั้นอ่านภาษาไทยออกและไม่มีความจำเป็นที่ต้องเรียนเลย “อือ พี่อยากฝึกเขียนภาษาไทยน่ะ” “นึกยังไงถึงอยากเรียนคะ” “ก็อยากจะเก่งเหมือนอันนาไงล่ะ” เขาเอาหลานสาวมาอ้างแต่ที่จริงก็แต่อยากจะกันท่ามนัญชญาออกจากสิรภพ “เอเลนฝากที่ริคส่งครูขิมให้ถึงบ้านด้วยนะคะ” “อือ ไม่ต้องห่วงหรอกพี่จะส่งให้ถึงบ้านเลย” “ขิมไปก่อนนะคะคุณเอเลน คุณภพ ครูไปก่อนนะคะอันนา” เมื่อบอกลาเจ้าของบ้านแล้วมนัญชญาก็เดินตามริคาโด้มาที่รถของเขาที่จอดอยู่ “คุณริคส่งขิมที่ป้ายรถเมล์หน้าปากซอยนะคะ” “ทำไมล่ะ” “ขิมเกรงใจค่ะ” “แต่ผมรับปากน้องสาวไว้แล้วว่าจะส่งให้ถึงบ้าน” “ถ้าขิมไม่พูด คุณริคไม่พูดคุณเอเลนก็ไม่รู้หรอกนะคะ” “แต่ผมไม่ชอบโกหกครับ” “ถ้างั้นก็ตามใจค่ะ งั้นคุณริคขับตรงไปก่อนนะคะถ้าถึงไฟแดงที่สองค่อยเลี้ยวซ้ายค่ะ” “ปกติแล้วคุณกลับบ้านยังไงเหรอ” “ปกติเวลามาสอนขิมจะขับรถมาเองค่ะ แต่ช่วงนี้รถขิมเข้าอู่คุณภพเลยมารับค่ะและมาส่งค่ะ” หญิงสาวตอบไปตามความเป็นจริงและคำตอบของเธอก็ทำให้คนฟังไม่ค่อยชอบใจเท่าไหร่ “เรื่องที่ผมพูดที่บ้าน ว่าจะให้คุณสอนภาษาไทยให้ผมพูดจริงนะ” "คะ?" มนัญชญาหันมามองริคาโดด้วยความสงสัย "ผมอยากให้คุณช่วยสอนภาษาไทยให้ผมหน่อยครับ" ริคาโด้ย้ำความต้องการของตนเองอีกครั้ง "ขิมคิดว่าคุณพูดเล่นเสียอีกนะคะ” “ผมพูดจริงนะ” “แต่ขิมเห็นว่าคุณใช้ภาษาไทยได้ดีนะคะพูดก็ชัดเหมือนคนไทยเลย” “ผมเคยเรียนภาษาไทยมาตอนเด็กๆ นะครับ แต่พอโตมาก็ไม่ค่อยได้อ่านหรือเขียนเท่าไหร่” “แล้วคุณอยากจะเรียนไปทำไมคะ” “ผมพูดได้ แต่เรื่องอ่านและเขียนยังไม่ค่อยคล่อง ผมเห็นหนูอันนาเรียนก็อยากจะเรียนบ้าง เอาตามตรงนะครับไม่อยากแพ้หลานน่ะ” ริคาโด้พูดติดตลก “โธ่ คุณริคคะ คุณโตแล้วนะคะจะมาแข่งกับเด็กสี่ขวบได้ยังไงกัน” “แล้วครูขิมจะช่วยสอนผมหน่อยได้ไหมล่ะครับ” “ถ้าคุณริคอยากเรียนจริงๆ คุณไปเรียนตามพวกโรงเรียนที่เขาเปิดสอนดีไหมคะ ขิมเป็นแค่ครูสอนชั้นอนุบาลเองนะคะ ขิมไม่เคยสอนผู้ใหญ่ค่ะ” “ผมไม่มีเวลาไปเรียนแบบนั้นหรอก” “แล้วคุณจะมีเวลาเรียนกับขิมเหรอคะ” “ที่ผมอยากเรียนกับคุณก็เพราะเรื่องเวลานี่แหละ” “ยังไงคะ” “ผมอยากกำหนดเวลาเรียนเอง วันที่ผมว่างแล้วคุณสะดวกเราก็นัดเจอกันตกลงไหม เรื่องค่าเรียนผมให้คุณเรียกได้เต็มที่เลยนะไม่ต้องเกรงใจ” “ขิมสอนก็ได้ค่ะ เรื่องค่าเรียนค่อยคุยรายละเอียดกันอีกทีก็ได้ แล้วคุณจะให้ขิมไปสอนคุณที่ไหนคะ” เพราะเห็นถึงความตั้งใจมนัญชญาเลยตกลงจะสอนแต่เรื่องค่าเรียนเธอยังไม่รู้ว่าจะคิดยังไงเพราะที่ผ่านมาก็เคยสอนแต่เด็กเท่านั้น “คอนโดของผมดีไหมครับ อยู่ไม่ไกลจากที่นี่ถึงเวลาเรียนผมจะให้คนมารับเองหรือไปเรียนที่โรงแรมก็ได้นะเลิกงานผมจะได้เรียนเลย” “ขิมขอเปลี่ยนเป็นคาแฟ่ได้ไหมคะ” “มันจะไม่รบกวนคนอื่นเหรอ” “ไม่หรอกค่ะ คาเฟ่ที่ขิมรู้จักมีห้องเล็กๆ สำหรับใช้ติวหนังสือด้วยค่ะ ถ้าให้ไปสอนที่นั่นน่าจะสะดวกกว่านะคะ” หญิงสาวเคยใช้บริการคาเฟ่แห่งนี้มาแล้วหลายครั้ง “แล้วคาเฟ่ที่คุณว่าเขาเปิดตลอดหรือเปล่าเพราะบางครั้งผมอาจจะต้องให้คุณมาสอนช่วงค่ำนะ” “เขาเปิดตลอด 24 ชั่วโมงค่ะ” “จริงเหรอ” เรื่องเข้าคาเฟ่ริคาโด้ไม่ถนัดเลยเขาถนัดเข้าร้านเหล้ามากว่า “จริงค่ะ” “ถ้างั้นก็ตกลงตามนั้นก็ได้นะ” ชายหนุ่มพูดขณะที่ขับรถมาจอดหน้าบ้านของหญิงสาวพอดี “ค่ะ” “แล้วผมจะติดต่อคุณยังไงล่ะ ผมขอเบอร์โทรติดต่อหน่อยได้มั๊ย” “ได้ค่ะ บอกเบอร์คุณมาสิเดี๋ยวขิมจะโทรเข้าเอง” ริคาโด้บอกเบอร์โทรศัพท์ของตัวเองให้กับมนัญชญา เธอโทรเข้ามาจนเขารู้สึกสั่นที่กระเป๋ากางเกง “คุณน่าจะโทรติดแล้วแหละโทรศัพท์ผมมันสั่นแล้วล่ะ ผมจะติดต่อมานะว่าจะเริ่มเรียนตอนไหน” “ได้ค่ะ ขอบคุณมากนะคะคุณริคที่มาส่ง” “ไม่เป็นไรครับ ผมไปก่อนนะ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม