เขาไว้ใจได้

1322 คำ
มนัญชญาเดินกลับเข้ามาในบ้านซึ่งตอนนี้คุณยายของเธอกับคุณน้ารัตนาพากันเข้านอนแล้ว หญิงสาวอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแต่ยังไม่ทันได้ล้มตัวลงนอนเสียงโทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้นมาเสียก่อน มนัญชญายิ้มเมื่อเห็นว่าคนที่โทรเข้ามาคือผู้ชายที่เพิ่งพาเธอไปทานอาหารเมื่อตอนหัวค่ำ “สวัสดีค่ะคุณริคถึงแล้วเหรอคะ” “ครับผมถึงแล้วครับ คุณขิมจะนอนหรือยังครับ” “กำลังจะนอนแล้วค่ะ พรุ่งนี้ต้องรีบตื่นแต่เช้าค่ะ” “ถ้างั้นผมไม่รบกวนแล้วฝันดีนะครับ” “เช่นกันค่ะคุณริค” เมื่อริคาโด้วางสายแล้วมนัญชญาก็ยิ้มให้กับโทรศัพท์ เธอไม่ใช่ผู้หญิงอ่อนต่อโลกที่ไม่รู้ว่าริคาโด้กำลังจีบเธออยู่ แต่หญิงสาวไม่เข้าใจว่าทำไมเขาจะต้องมาจีบเธอทั้งที่มาเฟียหนุ่มอย่างเขาก็คงมีผู้หญิงสวยๆ หุ่นดีอยู่เต็มไปหมด มนัญชญาถามเรื่องนี้กับสิรภพแล้วว่าริคาโด้เป็นคนยังไง สิรภพบอกกับเธอว่าริคาโด้เป็นผู้ชายเจ้าชู้ควงผู้หญิงไม่ซ้ำหน้าและให้เธอระวังตัวเวลาอยู่กับเขา มนัญชญารับฟังแต่พอได้อยู่ใกล้ได้พูดคุยกับริคาโด้มันก็ทำหญิงสาวให้รู้สึกว่าผู้ชายคนนี้เป็นคนที่มีเสน่ห์ดึงดูดเป็นอย่างมาก เขาเป็นคนสุภาพ พูดคุยด้วยแล้วรู้สึกสบายใจ บางทีมนัญชญาอาจจะลองเปิดใจศึกษานิสัยใจคอของริคาโด้ดูก่อนแม้ว่าสิรภพจะเตือนแล้วแต่หญิงสาวก็คิดว่าตัวเองโตพอที่จะตัดสินใจเรื่องนี้ได้ด้วยตัวเอง ที่ผ่านมามนัญชญาก็มีผู้ชายเข้าหาค่อนข้างมากแต่เธอยังไม่สนใจจะมองใครเพราะโฟกัสกับการเรียนพอและเรียนจบก็เริ่มต้นทำงานที่โรงเรียนเอกชน หญิงสาวตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่เวลาส่วนใหญ่หมดกับการสอนที่โรงเรียนพอกลับจากโรงเรียนก็มาทำสื่อการสอนหรือเตรียมการสอนในวันรุ่งขึ้น แต่การออกไปเจอริคาโด้ได้พูดคุยกับเขามันทำให้เธอมีความสุขอย่างบอกไม่ถูกยิ่งอยู่ใกล้ยิ่งได้พูดคุยมนัญชญาก็รู้สึกหลงเสน่ห์เขาไปทีละนิด หญิงสาวนอนคิดถึงใบหน้าของเขาจนกระทั่งเผลอหลับและตื่นมาอีกทีในตอนเช้า เมื่อออกมานอกห้องก็เห็นน้าสาวและคุณยายกำลังช่วยกันเตรียมอาหารอาหารอยู่ในห้องครัว “อาหารเต็มโต๊ะเลยนะคะน้ารัตน์ น่ากินทุกอย่างเลยค่ะ” “ถ้าน่ากินก็ขิมต้องกินเยอะๆ นะหนูขิมน่ะตัวเล็กเกินไปแล้ว วันนี้น้าทำอาหารไว้หลายอย่างน้าเก็บไว้ในตู้แล้วนะหนูจะได้อุ่นกิน” รัตนาเตรียมอาหารไว้ให้หลานสาวหลายอย่างเพราะรู้ว่ามนัญชญาทำกับข้าวไม่ค่อยเก่งและไม่ค่อยมีเวลาเท่าไหร่ “ขอบคุณค่ะน้ารัตน์” “ยายไม่อยู่บ้านหนูขิมดูแลตัวเองดีๆ นะลูก กินข้าวให้ตรงเวลาด้วย” “ค่ะคุณยาย” “ถ้ากับข้าวที่น้าทำไว้หมดก็ซื้อที่ร้านหน้าปากซอยนะลูก อยู่คนเดียวอย่าทำให้เสียเวลาเลย” “ค่ะคุณยาย” “แล้วเมื่อวานไปทานข้าวกับเพื่อนมาเป็นยังไงบ้าง” “ก็ดีค่ะคุณยาย คุณริคเขาพาขิมไปทานข้าวที่โรงแรมของเขาค่ะ” “เพื่อนจริงเหรอจ๊ะหนูขิม” “จริงสิคะน้ารัตน์” “เพื่อนที่ว่าเป็นผู้ชายเหรอ แล้วเขาเป็นใครกันล่ะ” “คุณริคเขาเป็นลุงของลูกศิษย์ที่ขิมสอนพิเศษอยู่ค่ะ” “ฟังดูซับซ้อนจังนะ หนูออกไปกับเขาตามลำพังแบบนี้น้าว่าคงไม่ใช่เพื่อนธรรมดาแน่เลยใช่ไหม” “เพื่อนจริงๆ ค่ะน้ารัตน์ พอดีว่าคุณริคเขาอยากให้ขิมช่วยสอนภาษาไทยให้เขาค่ะ เมื่อวานเราก็เลยไปพูดคุยทำความรู้จักกันเพิ่มเติมนิดหน่อยแล้วก็วางแผนว่าอยากจะเรียนอะไรเมื่อไหร่ด้วยค่ะ” มนัญชญารีบอธิบายเพราะกลัวน้าสาวกับคุณยายจะเข้าใจผิด “นี่เขาจะให้หนูขิมสอนด้วยเหรอ” “ค่ะน้ารัตน์” “น้าว่ามันแปลกๆ นะเขาพูดไทยได้หรือเปล่า” รัตนาถามด้วยความสงสัยและเป็นห่วง “เขาพูดไทยได้ค่ะ” “พูดไทยได้แล้วทำไมยังจะต้องเรียนภาษาไทยอีกนะ น้าว่าเขาคงไม่ได้อยากจะมาเรียนหรอกนะ เขากำลังจีบหนูใช่ไหม” “ยายเองก็คิดเหมือนน้ารัตน์ แต่ยายรู้ว่าหนูโตแล้วแต่ถ้าจะคบกับใครก็ให้มองดีๆ อย่าใจร้อนเอาแต่อารมณ์เป็นที่ตั้งให้ใช้สติยายไม่ได้ห้ามเลยรหัสหนูจะคบหากับใครขอแค่ผู้ชายคนนั้นเขารักและจริงใจกับหนูแค่นั้นก็พอ” “ยายขา....น้ารัตน์ขา....ขิมกับเขาเพิ่งรู้จักและได้เจอกันแค่สามครั้งเองนะคะ เรายังไม่ได้คิดอะไรกันเลยค่ะ” “ยายก็แค่เตือนไว้น่ะหนูขิมของยายทั้งสวยทั้งมีเสน่ห์ผู้ชายคนไหนเข้าใกล้ก็ยังชอบกันทั้งนั้น” “ขิมยังไม่อยากคิดอะไรมากหรอกค่ะคุณยาย เขาตั้งใจจะมาเรียนจริงๆ ถ้าขิมคิดว่าเขามาจีบเวลาสอนคงไม่มีสมาธิแน่” “มันก็ไม่แน่นะหนูขิมดูอย่างน้ากับสามีน้าสิตอนแรกก็ปรึกษากันเรื่องงาน ปรึกษาไปปรึกษามาสุดท้ายก็ตกลงเป็นแฟนกันความใกล้ชิดมันเป็นบ่อเกิดของความรักนะ” รัตนาพูดอย่างคนมีประสบการณ์ “แต่ขิมกับเขาคงไม่ได้ใกล้ชิดกันขนาดนั้นหรอกค่ะ เราตกลงกันแล้วว่าขิมจะสอนเขาแค่อาทิตย์ละสองวันเองค่ะน้ารัตน์” “น้าไม่ได้ว่าอะไรขิมสักหน่อย ถ้าขิมจะสอนเขาหรือจะออกไปเที่ยว ไปทานข้าวกับเขาขอแค่หนูขิมดูแลตัวเองดีๆ เพราะช่วงนี้อยู่บ้านคนเดียวตามลำพังเขาไว้ใจได้ใช่ไหม” “ไว้ใจได้ค่ะ ขิมลืมบอกน้ารัตน์ว่าคุณริคาโด้คนนี้เขาเป็นพี่เขยของคุณสิรภพค่ะ เขาคงไม่กล้าเข้ามาหาขิมด้วยจุดประสงค์ไม่ดีหรอกนะคะ” “ได้ยินแบบนี้น่าค่อยสบายใจหน่อยเอาล่ะ เรารีบทานข้าวเถอะเดี๋ยวจะได้รีบทำงาน” เมื่อทานอาหารเสร็จแล้วมนัญชญาก็ช่วยเอากระเป๋าของคุณยายขึ้นไปใส่ที่หลังรถ “เดินทางปลอดภัยนะคะคุณยาย” “จ้ะลูก หนูอยู่คนเดียวก็ปิดประตูล็อกบ้านให้ดีนะลูก ใครมาเคาะมาเรียกก็อย่าเปิดนะ” “ค่ะคุณยาย เลิกงานแล้วหนูจะรีบกลับบ้านค่ะ คุณยายไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ” “จะไม่ให้ยายห่วงได้ยังไงล่ะ หนูต้องอยู่คนเดียวนะลูก” คุณยายศรีนวลมองหลานสาวด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความห่วงใย “ยายขาหนูโตแล้วนะคะหนูอยู่ได้ค่ะ บ้านเรามันก็ไม่ได้อันตรายอะไรเลยค่ะคุณยาย ข้างบ้านก็คนรู้จักกันทั้งนั้นค่ะ” “น้าขอโทษนะที่ทำให้หนูต้องลำบากอยู่คนเดียว” “หนูไม่ลำบากอะไรเลยค่ะน้ารัตน์ หนูอยู่ที่นี่มาตั้งสิบกว่าปีแล้วค่ะ คุ้นเคยกับคนที่นี่น้าอย่าห่วงเลยนะคะ หนูว่าน้ากับคุณยายรีบเดินทางเถอะค่ะ ถ้าง่วงก็จอดพักนะคะหนูเป็นห่วง” “ยายไปก่อนนะลูก” “ค่ะคุณยาย” มนัญชญากอดคุณยายไว้แน่น เธอรู้สึกใจหายที่จะต้องอยู่ห่างจากคุณยายเพราะเธอกับคุณยายสนิทกันมาก มนัญชญาอยู่กับคุณยายมาตั้งแต่เกิดและแทบไม่เคยห่างกันเลย แต่เธอก็เข้าใจถึงความจำเป็นที่คุณยายจะต้องไปอยู่กับน้ารัตนา
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม