บทที่ 3 ข้าวตังเป็นเด็กซื่อๆ

1396 คำ
บทที่ 3 ข้าวตังเป็นเด็กซื่อๆ แค่งูแมวเซาฉันป่วยทุกคนเป็นอะไรกันล่ะเดินหนีฉันหมดเลย แต่ก็ช่างเถอะใครจะเป็นยังไงก็ช่าง ตอนนี้ฉันมีเจ้านายเพียงคนเดียวนั่นก็คือพี่ภีม เพราะฉะนั้นฉันต้องดูแลพี่ภีมทุกอย่าง ส่วนคนอื่นช่างหัวมันค่ะ ตกเย็นวันนี้ฉันก็เตรียมทำเมนูที่คิดว่าน่าจะเหมาะกับพี่ภีม นั่นก็คือสลัดโรล มีปูอัด ไข่กุ้ง ยำสาหร่าย ของพวกนี้ฉันเดินออกไปซื้อที่เซเว่นหน้าปากซอยมา รถพี่ไนท์ขับเข้ามาจอดที่โรงจอดรถ ฉันก็ทำได้แค่ยิ้มหวานแล้วก็หันไปมองพี่ริวที่เดินลงมาจากรถอีกคัน ฉันยิ้มให้ทั้งสองคนจนกระทั่งรถของพี่ภีมขับเข้ามา เขาลงจากรถฉันก็รีบวิ่งดุ๊ก ๆ ไปหาเพื่อรับเสื้อผ้าเสื้อกาวน์ของพี่ภีมมาเก็บใส่ตะกร้า "ดูแลประดุจเมีย" "ไอ้ไนท์มึงพูดถูกใจกูจริง ๆ" "พี่ภีมวันนี้ฉันทำสลัดโรลด้วย มีอกไก่ ไข่ต้ม ข้าวโพด ไข่กุ้ง ยำสาหร่าย ส่วนผลไม้ก็มีแอปเปิล องุ่น เงินที่พี่ให้ฉันมานั่นแหละฉันเอาไปซื้อของมาไว้ให้พี่" "มีใช้หรือเปล่า ไปซื้อของมาหมดไปเท่าไหร่" "หนึ่งพันบาทค่ะ ฉันซื้อพวกเครื่องครัวมาด้วย เดี๋ยวฉันไปยกมาให้พี่เลยนะ พี่เอาน้ำส้มไหมฉันคั้นเอาไว้ให้ พอดีฉันไปเดินตลาดนัดเจอแม่ค้าขายส้มสายน้ำผึ้ง ผิวมันไม่ค่อยสวยสำหรับไว้คั้นน้ำฉันก็เลยคั้นเก็บเอาไว้ให้พี่" "อืม" พอพี่ภีมพยักหน้าฉันจะรีบไปจัดการหยิบสลัดโรลที่ตัวเองทำไว้ออกมาพร้อมกับน้ำส้มคั้นในเหยือก พี่ไนท์กับพี่ริวรีบเคลียร์พื้นที่ด้านหน้าของตัวเอง เพื่อรอทานสลัดโรลแต่ว่าฉันไม่ได้ทำให้เขา ก็พวกเขาทั้งสองคนไม่ได้จ้างฉันนี่ "แล้วของฉันสองคนล่ะอย่าลำเอียงดิ" "พวกพี่สองคนไม่ได้เป็นคนจ้างฉัน พี่ภีมเป็นคนจ่ายค่าแรงให้ฉัน เพราะฉะนั้นฉันก็ต้องดูแลแค่พี่ภีมสิ" "หึ สมน้ำหน้า เด็กมันซื่อพวกมึงก็น่าจะรู้" "กูว่ากวนตีนมากกว่า ไปเอามาเสิร์ฟฉันกับไอ้ไนท์เดี๋ยวนี้ อย่าให้ฉันโมโห ไม่งั้นฉันจะโยนเธอออกไปจากบ้านหลังนี้" "พี่ภีมคะ..." "เอามาให้พวกมันกินบ้าง ยังไงค่าใช้จ่ายในบ้านพวกมันก็ต้องช่วยออก แล้วเธอก็มานั่งกินพร้อมกับพวกฉันเลย ไม่ต้องคิดว่าตัวเองเป็นลูกจ้าง อยู่ที่นี่ก็เหมือนครอบครัวเดียวกันไม่ต้องแบ่งชนชั้น" "ค่ะ" ถ้าตัดเรื่องความอุบาทว์ยามค่ำคืนออกไป พี่ภีมเนี่ยค่อนข้างเป็นผู้ชายที่มีความเที่ยงธรรม ไม่เอาเปรียบใคร เป็นคนมีความรู้ความสามารถ ระหว่างทานมื้อเย็นพี่คนหนึ่งจะอธิบายเรื่องการเรียนรวมถึงการวางตัวเวลาฉันต้องไปเจอผู้คน ส่วนพี่ริวกับพี่ไนท์เขาจัดการสลัดโรลจนพุงกางก็เดินไปนอนเอนหลังที่โซฟาคนละตัว เล่นเกมออนไลน์ด่ากันให้แซ่ดไปหมด คืนนี้ฉันอาบน้ำประแป้งสวดมนต์ก่อนนอน ยังไม่ทันจะขึ้นนะโมเสียงชั้นสองของบ้านดังกึก ๆ ๆ บนห้องนอนของฉัน มันทำให้ฉันต้องหยิบหูฟังมาเสียบเอาไว้แล้วเปิดบทสวดมนต์ เพื่อสงบจิตสงบใจของตัวเอง ห้องข้างบนเป็นห้องของพี่ภีม ฉันบอกแล้วใช่ไหมถ้าตัดเรื่องผู้หญิงที่พี่ภีมชอบนัดมากิน พี่ภีมก็คือผู้ชายที่แสนดีคนหนึ่ง ปึก! ปึก! ปึก! (อ๊าา~ พี่ภีม~ เบาหน่อยค่ะ~ อ๊าาา~พี่ไนท์ พี่ริวพวกพี่จะยัดพร้อมกันไม่ได้ กรี๊ดดด ฉีกหมดแล้ว~) ปึก! ปึก! ปึก! "อีพวกเปรต!!! จะได้นอนกี่โมงกี่ยามวะเนี่ย ไอ้ที่ชมไปขอถอนคำพูดนะ จะบ้าตายพวกโรคจิตวิตถาร" ฉันคิดภาพตาม ตอนนี้พี่ภีมน่าจะอยู่ตรงประตูหลัง ส่วนพี่ไนท์กับพี่ริวจับมัดรวมกันกระแทกรูหน้า แค่คิดก็ขนลุกแล้ว บ้าบอมากคนพวกนี้ ตอนเช้าฉันเตรียมทำเมนูโจ๊กหมูพร้อมไข่ลวกคนละสามใบ ดูท่าเมื่อคืนจะใช้แรงเยอะต้องบำรุงกันหน่อย ทั้งสามเดินลงมานั่งประจำที่ พอเห็นฉันตอกไข่ลวกใส่แก้วเหมือนพวกเขาจะเริ่มดูสึกอะไรบางอย่าง "พวกพี่บำรุงเยอะ ๆ นะ เอาผู้หญิงมาสวิงกิ้งทุกคืนว่าง ๆ ก็ไปตรวจเลือดที่โรงพยาบาลบ้าง โรคเอดส์มันอันตรายถึงชีวิต" "ยัยบ้านนอกพูดอะไรของเธอ!" "ฉันพูดเรื่องจริงนะพี่ไนท์ พี่น่ะตัวดี นอกจากปากดีแล้วสันดานพี่ก็ไม่ดี พี่ใช้ชีวิตอยู่ได้ยังไง ถ้าอยู่บ้านนอกรับรองได้ว่าพี่โดนกระทืบตายคาตีนไปแล้ว ไม่ทันได้อายุ 18 หรอก" "ไอ้ภีม!! มึงจัดการเลยนะ" "พี่ริวพี่ก็อีกคน ฉันต้องไปเรียนคณะเดียวกับพี่ บางทีฉันก็อายคนนะเวลาใครถามว่าฉันอยู่บ้านระเบียงดาวจริงไหม แค่ฉันเข้ากลุ่มนิสิตใหม่ก็มีคนถามฉันว่าฉันอยู่บ้านเดียวกับพวกพี่จริงหรือเปล่า ฉันอยากจะให้ทุกคนภายนอกได้เห็นสันดานของพี่มาก" "1 2 3 4 1 2 3 4 ไอ้หมอถ้ามึงไม่จัดการให้กู ยัยนี่โดนกูฆ่าหมกส้วมแน่!" "พี่ภีมก็เหมือนกัน ตอนกลางวันพี่ก็ดูเป็นผู้เป็นคน ทำไมกลางคืนอย่างกับผีกระหังต้องโบยบินออกไปหาเหยื่อ ตัวพี่เองก็เรียนหมอเคยไปเช็กระบบประสาทบ้างไหมว่าเป็นโรคอะไรหรือเปล่า ทำไมถึงต้องออกล่าผู้หญิงทุกคืน" "มันเรื่องส่วนตัวของพวกฉัน ฉันจะหิ้วผู้หญิงมากินกี่คนก็ได้ส่วนเธอมีหน้าที่ทำอะไรก็ทำไป หนังสือฉันเอาของไอ้ริวมาวางไว้ที่โต๊ะแล้วหัดทบทวนอ่านหนังสือ อย่าดีแต่ปากสมองต้องดีด้วย" "ฉันสอบชิงทุนได้อันดับที่ 2 ฉันคิดว่าสมองฉันน่าจะดีกว่าพี่ไนท์กับพี่ริวนะ" "กูไม่ไหวแล้วไอ้ริว ถ้าวันนี้กูไม่ได้เลาะฟันยัยบ้านนอกนี่อย่าเรียกกูว่าไนท์กี้ขยี้ทุกเม็ดเลย!" "ว้ายยย น่ากลัวมาก ที่ฉันพูดเพราะฉันเป็นห่วงพวกพี่นะ ไม่อยากให้พวกพี่เป็นเอดส์ตาย ฉันยังต้องเรียนอีกหลายปี ต้องหาเงินส่งตัวเอง ส่งให้ที่บ้าน ถ้าพวกพี่ตายไปแล้วใครจะมาจ้างฉันทำงานบ้านล่ะ" "พอเลิกพูดฉันปวดหัวจะแย่ วันนี้ฉันไม่มีเรียนจะออกไปห้างเธอจะไปไหมข้าวตัง" พี่ภีมยกมือห้ามพวกฉันไม่ให้มีการต่อล้อต่อเถียงกันอีก แถมเขายังชวนฉันไปเที่ยวห้างด้วย มีหรือที่ฉันจะไม่ไป "ไปสิฉันอยากไปเที่ยวห้าง อยากรู้ว่าห้างในกรุงเทพฯ มันจะเป็นยังไง พี่เคยกินน้ำแข็งไสไหม น้ำแข็งไสที่มันมีท็อปปิ้งเยอะ ๆ มีนมราดที่เขาเอาแคนตาลูปทำเป็นลูกกลม ๆ แปะ ๆ อ่ะ" "เขาเรียกว่าบิงซู" "ใช่ซู ๆ นั่นแหละ มันแพงมากไหม ตอนฉันอยู่บ้านนอกมีแต่พวกลูกจากเฉาก๊วยแล้วก็ทับทิมกรอบ" "มันคนละอย่างกัน ถ้าอยากจะกินฉันจะพาไป" "กูสองคนไปด้วย วันนี้ไม่มีเรียนเหมือนกัน" "แต่พี่ภีมเขาไม่ได้ชวนพวกพี่นะ" แค่ฉันหันไปพูดทั้งสองก็เตรียมทำท่าจะกระโจนใส่ฉันอีกแล้ว ทำไมน่ากลัวแบบนี้ล่ะ คนพวกนี้ไม่น่ารักเลย "ก็ไปกันให้หมดนี่แหละตัดปัญหาจะได้ซื้อของเข้าบ้านด้วย" "โอเคงั้นพี่กินไข่ลวกเยอะ ๆ ฉันลวกไว้อีกยี่สิบใบเผื่อพวกพี่ต้องการบำรุง" "สภาพนะ ถ้าแดกหมดนั่นกูช็อกตาย แล้วไข่หนึ่งแผงเธอลวกหมดเลยเนี่ยนะ" "อืม... ใช่!" "___" "___" "___"
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม