สถานที่ที่ทรรศนัยนัดมาพบนั้นคือร้านอาหารที่ชายหนุ่มเพิ่งซื้อต่อมาจากเจ้าของเดิมและอยู่ระหว่างการรอ รีโนเวทใหม่ ดังนั้นจึงมีเพียงเขาและลูกน้องเท่านั้น
“ต้องขอโทษด้วยนะครับที่ต้องให้คุณเคทกับคุณเก๋ลำบากมาไกลถึงที่นี่” ทรรศนัยพูดขึ้นเมื่อพาแคทเธอรีนและผู้จัดการส่วนตัวเข้ามาในส่วนของออฟฟิศ
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ไม่ได้ลำบากอะไร ดีซะอีกที่นี่ห่างไกลสายตาผู้คน ปลอดภัยจากพวกนักข่าว”
“เข้าเรื่องเลยแล้วกันนะครับ ที่ผมนัดคุณเก๋และคุณเคทมาที่นี่เพราะเรื่องข่าวที่เกิดขึ้น” ทรรศนัยพูดแต่สายตาของเขาจ้องมองใบหน้าสวยของคนที่เอาแต่นิ่งเงียบและก้มหน้าตั้งแต่ก้าวเข้ามาในห้อง
“ผมขอคุยกับคุณเคทเป็นการส่วนตัวสักครู่ได้ไหมครับ” คำขอนั้นทำเอาแคทเธอรีนเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของเสียงนุ่มทุ้มที่เธอไม่กล้ามองหน้าเขาทันที เมื่อสายตาสองคู่สบกัน เธอก็ต้องเป็นฝ่ายหลบเพราะไม่สามารถต่อสู้กับสายตาที่ ลึกล้ำทรงเสน่ห์นั้นได้ แคทเธอรีนรีบหันไปหาตัวช่วยอย่างเก๋ไก๋ แต่อีกฝ่ายยื่นมือมากุมมือเธอเป็นเชิงให้กำลังใจและพยักหน้าน้อยๆ
“ถ้างั้นเดี๋ยวพี่ออกไปรอข้างนอกนะคะ”
“ขอบคุณครับ” เมื่อเก๋ไก๋ออกจากห้องไปแล้วแคทเธอรีนที่ได้ชึ้นชื่อว่าเป็นสาวมั่นก็ถึงกับรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ กับคนตรงหน้า ที่เอาแต่นั่งจ้องหน้าเธอ จนเธอทนไม่ไหวต้องเป็นฝ่ายพูดออกไปก่อน
“คุณทรรศ เคท…เอ่อ…เคทขอโทษนะคะ ที่ทำให้คุณต้องเดือดร้อน”
“ผมจะยกโทษให้ก็ต่อเมื่อคุณรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้น” ทรรศนัยแกล้งทำหน้าขรึมทั้งที่กำลังกลั้นขำแทบแย่กับคนที่กำลังทำหน้าราวกับอยากร้องไห้เต็มที
“รับผิดชอบ คุณทรรศจะให้เคทรับผิดชอบยังไงคะ”
“อันที่จริงผมเป็นผู้ชาย เรื่องนี้มันไม่ได้เสียหายอะไรหรอก แต่สิ่งที่เกิดขึ้นมันมีผลกับคนในครอบครัวผม” แคทเธอรีนเดาว่าพวกท่านคงไม่พอใจที่มีภาพหลุดของลูกชายตัวเองไปทั่วประเทศ แม้ทรรศนัยจะเป็นผู้ชาย แต่ครอบครัวเขาเป็นคนมีหน้ามีตาในสังคม พวกท่านอาจไม่พอใจนักกับข่าวที่เกิดขึ้น
“คุณย่าผมท่านอยากให้ผมแต่งงานมีครอบครัวมานาน พอท่านเห็นข่าวนี้ท่านก็ดีใจมาก รบเร้าให้ผมพาคุณไปพบท่าน เพราะนอกจากจะดีใจที่คิดว่าผมเป็นแฟนกับคุณแล้ว ท่านยังเป็นแฟนละครตัวยงของคุณอีกด้วย และตอนนี้ท่านก็ป่วยอยู่โรงพยาบาล ตั้งแต่เห็นข่าวคุณกับผมท่านก็ดูสดใสมีชีวิตชีวามากขึ้น ผมเกรงว่าถ้าท่านรู้ว่าเราไม่ได้เป็นอะไรกันอาการท่านจะทรุดเพราะผิดหวัง” น้ำเสียงเคร่งเครียดของทรรศนัยทำให้แคทเธอรีนยิ่งรู้สึกผิดกับการกระทำสิ้นคิดของตัวเองเพราะมันส่งผลกระทบต่อใครหลายคน
“คุณจะให้เคททำยังไงคะ”
“เราคงต้องเป็นแฟนกัน”
“คะ” แคทเธอรีนมองคนตรงหน้าอย่างคาดไม่ถึง ทรรศนัยลุกจากเก้าอี้หลังโต๊ะทำงานมาหย่อนสะโพกนั่งลงบนโต๊ะแล้วใช้สองแขนเท้าลงที่พนักเก้าอี้ของเธอ
“เรื่องคืนนั้นระหว่างเรามันดีมาก คุณก็คิดเหมือนผมใช่ไหม” แคทเธอรีนรู้สึกหน้าร้อนวูบเมื่อนึกถึงเหตุการณ์จูบอันร้อนแรงในคืนนั้น แถมเธอยังเป็นฝ่ายเริ่มเสียด้วย แม้เธอจะเป็นสาวมั่นแต่เมื่อถูกเจ้าของใบหน้าหล่อเหลาจ้องมองในระยะประชิดกับน้ำเสียงทรงเสน่ห์ มันก็ทำเอาเธอทำอะไรไม่ถูกมือไม้รู้สึกเกะกะไปหมด ทำไมนะก่อนหน้านี้เธอถึงไม่เคยรู้สึกเลยว่าทรรศนัยมีแรงดึงดูดเพศตรงข้ามสูงขนาดนี้ เขาหล่อและมีแรงดึงดูดรุนแรงจนน่ากลัว
“เอ่อ…คะ…คุณกำลังล้อเคทเล่นใช่ไหมคะ” ครู่ใหญ่กว่าแคทเธอรีนจะหาเสียงของตัวเองเจอ
“ผมไม่ได้ล้อเล่น ผมรู้ว่ามันฟังดูโลดโผนไปหน่อย แต่มันคือทางออกเดียวที่จะรักษาสภาพจิตใจของคุณย่าผมแล้วอีกอย่าง คุณอยากเอาคืนคนคู่นั้นด้วยไม่ใช่เหรอ” เป็นอีกครั้งที่แคทเธอรีนต้องอึ้งที่เขารู้ทันความคิดของเธอ
“คุณรู้”
“อ่าฮะ ก็ผู้หญิงคนนั้นกับแฟนเก่าคุณไม่ใช่เหรอที่ทำให้คุณจู่โจมจูบผมโดยไม่ทันตั้งตัว” เป็นอีกครั้งที่แคทเธอรีนรู้สึกอายจนอยากแทรกแผ่นดินหนี แต่ก็ทำใจรวบรวมความกล้าคุยกับเขาต่อ
“เคทขอโทษจริงๆ ค่ะ ที่ทำให้คุณต้องมาเจอเรื่องอะไรแบบนี้ แต่เรื่องที่ให้เราเป็นแฟนกันเคทคง…”
“ผมโสด คุณเองก็โสด มันไม่น่าจะมีปัญหาอะไรนี่ หรือคุณคิดว่ามีทางออกที่ดีกว่านี้ เรื่องคุณย่าผมน่ะไม่เท่าไหร่ ผมคงหาทางบอกความจริงท่านได้ แต่คุณคิดไว้หรือยังว่าจะตอบคำถามนักข่าวยังไง เรื่องที่เราจูบกันโดยที่ไม่ได้เป็นอะไรกันเลย ที่สำคัญกว่านั้นผู้หญิงคนนั้นคง…” ทรรศนัยหย่อนระเบิดลูกใหญ่ลงไปเพราะดูออกว่าแคทเธอรีนไม่มีทางยอมโดนคู่อริเยาะเย้ยถากถางเป็นแน่ เขาได้แต่ขอโทษผู้เป็นย่าอยู่ในใจที่ต้องยกท่านมาอ้างเพราะกลัวทุกอย่างไม่เป็นไปตามแผน แต่เมื่อเห็นว่าเหยื่อสาวยังลังเลราชสีห์อย่างเขาจึงหย่อนระเบิดลงไปอีก เพื่อปิดประตูหนีของเธอและดูเหมือนว่ามันจะได้ผลกว่าการยกคุณย่าเขามาอ้างเสียอีก
ตั้งแต่ตัดสินใจได้ว่าจะเดินหน้าจีบแคทเธอรีนเขาก็คิดวางแผนอย่างรวดเร็ว การรีบออกตัวให้เธอเป็นแฟนก็เพื่อกันไม่ให้ผู้ชายคนอื่นมายุ่งในระหว่างที่เขากำลังเดินหน้าจีบเธอนั่นเอง
“ผมรู้ว่ามันคงทำใจลำบากเพราะเรื่องแฟนเป็นเรื่องสำคัญ เอาเป็นว่าเราตอบนักข่าวตามนี้ไปก่อนแล้วกันหลังจากนี้เป็นหน้าที่ของผมเองที่จะทำให้คุณใจอ่อนรับผมเป็นแฟนได้หรือเปล่า”
“คุณทรรศ” แคทเธอรีนยังตั้งตัวไม่ทันกับการจู่โจมของเขาที่ยอมรับมาตรงๆ ว่าจะจีบเธอ
“เอาเป็นว่าตกลงตามนี้นะครับ” ทรรศนัยรีบรวบรัดเพราะกลัวจะผิดแผนแล้วก็แอบยิ้มอย่างพอใจที่ทุกอย่างเป็นไปตามที่เขาต้องการ
หลังกลับจากตกลงเรื่องข่าวกับทรรศนัยเก๋ไก๋และแคทเธอรีนก็เดินทางมาหามินตราที่คอนโดเพราะอยากมาเยี่ยมหลานและคุยเรื่องข่าวที่เกิดขึ้นด้วย
“ดูท่าทางพี่เก๋อารมณ์ดีนะคะ” มินตราเอ่ยทักขณะยกแก้วน้ำมาเสิร์ฟให้แขกด้วยตัวเอง เพราะวันนี้เป็นวันหยุดของแม่บ้าน
“แน่นอนค่ะ คุณน้องมินนี่ เพราะนอกจากจะหาทางจัดการเรื่องข่าวได้แล้ว พี่ยังมีลุ้นว่าจะได้ว่าที่น้องเขยหล่อเริ่ดแถมรวยไม่รู้เรื่องแบบคุณทรรศนัยด้วย”
“พี่เก๋พูดอะไรก็ไม่รู้ น้องเขยอะไรกัน เคทกับเขาไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย” แคทเธอรีนที่กำลังหยอกล้อกับหนูน้อยวัยขวบกว่าลูกชายของมินตราที่นั่งอยู่บนตักหันมาเอ็ดผู้จัดการส่วนตัวแก้เขิน
“ไม่อยากจะเชื่อเหมือนกันนะคะ ว่าสุดท้ายสาวแซ่บอย่างเพื่อนมินนี่จะลงเอยกับคนใกล้ตัว”
“มินนี่ เธอก็เป็นไปกับพี่เก๋ด้วยเหรอ ก็บอกแล้วไงว่าฉันกับคุณทรรศเราแค่มีข้อตกลงร่วมกัน” แคทเธอรีนเลือกที่จะไม่พูดเรื่องที่ทรรศนัยบอกว่าจะเดินหน้าจีบเธอ
“ของแบบนี้มันก็ไม่แน่หรอก ความใกล้ชิดอะมันทำให้ใจคนเปลี่ยนได้นะเพื่อนรัก”
“เหมือนเธอกับวินใช่มะ” แคทเธอรีนได้ทีแซวเพื่อนกับสามีที่พัฒนาความสัมพันธ์มาจากเพื่อนสนิทตั้งแต่เด็กจนมาเป็นสามีภรรยาและมีพยานรักสุดน่ารักด้วยกันหนึ่งคน แคทเธอรีนยิ้มพอใจเมื่อมินตราออกอาการเขินที่ถูกแซว
“ไม่ต้องมานอกเรื่องเลย บอกมาซะดีๆ ว่าคืนนั้นมันเกิดอะไรขึ้น ทำไมจู่ๆ เธอกับคุณทรรศถึงมีรูปหลุดแบบนั้นออกมาได้” มินตราถือโอกาสสอบถามทันที เพราะโทรหาแคทเธอรีนตั้งแต่เห็นข่าว แต่อีกฝ่ายยังไม่สะดวกที่จะเล่าจึงนัดเจอกันวันนี้เพื่อตอบคำถามเรื่องที่มาของภาพหลุดให้หายข้องใจ หลังจากแคทเธอรีนเล่าจบมินตราก็ถอนหายใจออกมาอย่างอ่อนใจกับความไม่ยอมคนของเพื่อน
“เป็นไงล่ะทีนี้ ได้แฟนใหม่สมใจแถมดีกรีไม่น้อยหน้าไปกว่าอีตาภูดิศอะไรนั่นด้วย” มินตรากล่าวถึงอดีตคู่ควงของเพื่อนอย่างไม่ชอบใจนัก เพราะทราบดีว่าภูดิศทำกับเพื่อนเธอไว้เจ็บแสบเพียงใด
“แต่พี่ว่าในเรื่องร้ายก็ยังมีเรื่องดีนะคะ ผู้ชายอย่างคุณทรรศใช่ว่าจะหาได้ง่ายๆ โอกาสมาขนาดนี้แล้วก็คว้าไว้เถอะเคท”
“จะหนีเสือปะจระเข้หรือเปล่าก็ไม่รู้ พี่เก๋ก็รู้นี่คะว่าคุณทรรศน่ะธรรมดาที่ไหน”
“อันนี้ก็ต้องปล่อยให้เป็นเรื่องของอนาคต ดูอย่างคุณวินสิ เมื่อก่อนเจ้าชู้ตัวพ่อ แต่พอแต่งงานมีลูกมีเมียถอดเขี้ยวเล็บหมดเกลี้ยงไม่มีเหลือ”
“นั่นน่ะสิ ลองให้โอกาสตัวเองกับคุณทรรศดูสิเคท เท่าที่ได้ยินวินเล่าคุณทรรศเป็นคนที่น่าคบหาคนหนึ่งเลยนะ จะมีข้อเสียก็ตรงเจ้าชู้นี่แหละ แต่นั่นก็เพราะว่าเขายังโสด ไม่แน่ถ้าเขาเจอคนที่รักจริงๆ ก็อาจจะหยุดได้เหมือนวิน”
“ยุกันดีจังเลยนะ ทั้งพี่เก๋ทั้งเธอเลย ถ้าฉันน้ำตาเช็ดหัวเข่าขึ้นมาก็อย่าลืมหาผ้าเช็ดหน้ามาซับน้ำตาให้ฉันด้วยล่ะ” คำตอบของแคทเธอรีนทำให้เก๋ไก๋และมินตราลอบสบตากันยิ้มๆ อย่างพอใจ เพราะนั่นหมายความว่าแคทเธอรีนไม่ได้ปิดกั้นการสานสัมพันธ์กับทรรศนัย
“ไม่ต้องห่วงจ้ะะ ถ้าคนนี้ไม่โอเคอีก พี่จะพาเคทไปบวชชีสักสามเดือน”
“ไหวเหรอคะ ที่พูดเนี่ยคำนวณหรือยังคะว่าจะขาดรายได้ไปเท่าไหร่ ถ้าหยุดสามเดือน” เมื่อคิดตามคำพูดขของแคทเธอรีนเก๋ไก๋ก็ส่งยิ้มแหยตอบมาและตอบด้วยน้ำเสียงอ้อมแอ้ม
“เอ่อ…งั้นลดมาเหลือสักเจ็ดวันก็พอเนอะ สามเดือนอาจจะโหดไปสำหรับมือใหม่” คำตอบนั้นทำเอาทั้งสามหัวเราะออกมาพร้อมกันกับความงกของผู้จัดการคนเก่ง จนหนูน้อยที่นั่งอยู่บนตักแคทเธอรีนหัวเราะตามไปด้วย
“ป้าเก๋นี่ตลกจังเลยใช่ไหมคะน้องไนท์” แคทเธอรีนทำเสียงเล็กเสียงน้อยคุยกับหลานชาย
“เวลาเคทเล่นกับเด็กนี่น่ารักเนอะ ถ้าได้มีของตัวเองคงจะดี”
“โอ๊ย พี่เก๋คะ หยุดค่ะ อย่าคิดอะไรไปไกลขนาดนั้น ตอนนี้แฟนยังไม่มีเลยค่ะ จะเอาลูกที่ไหนคะ”
“ก็เอาจากคุณทรรศนั่นแหละ เขาทำให้ได้”
“แอร๊ย พี่เก๋” แคทเธอรีนตีเก๋ไก๋แก้เขิน ในขณะที่เก๋ไก๋และมินตราหัวเราะอย่างถูกใจ ทั้งหมดอยู่คุยกันอีกพักใหญ่ก่อนจะลากลับเพราะมีงานเดินแบบในวันพรุ่งนี้
“เสียดายที่ไม่ได้เจอวิน ไม่งั้นฉันจะหลอกถามเรื่องคุณทรรศให้เธอฟังให้หมด”
“เอาไว้โอกาสหน้าแล้วกัน”
“โอเค แล้วเจอกันจ้ะ น้องไนท์บ๊ายบายน้าเคทเร็วลูก” มินตรายกมือน้อยๆ ของลูกชายโบกลาเพื่อนที่หน้าประตูก่อนที่จะแยกย้ายกัน