บทที่ 5 ให้สินสอด 9,999,999 บาท

1356 คำ
บทที่ 5 ให้สินสอด 9,999,999 บาท “แม่คะ แม่คงไม่รู้หรอกว่า เพื่อนในกลุ่มของหนูมีคนหนึ่ง ครอบครัวของเธอซื้อบ้านที่นั่นให้เธอ มันดูมีหน้ามีตามากเลย!” ชะเอมพูดด้วยความตื่นเต้น “ดีๆๆ” นภาตอบรับโดยไม่ต้องคิด ชะเอมดีใจจูบแก้มแม่ของเธอหนึ่งที “ดีจัง ขอบคุณค่ะแม่ แม่ดีที่สุดเลย! พอหนูย้ายไปอยู่ที่นั่น หนูก็จะชวนเพื่อนๆ ไปจัดปาร์ตี้ พวกเขาต้องอิจฉาหนูแน่ๆ” ฮันนี่ยิ้มเยาะที่มุมปาก ไม่ได้รู้สึกแปลกใจ แต่ในใจยังคงเจ็บปวดไม่หยุด ทุกคนในบ้านนี้คิดว่าการให้ของของเธอกับน้องสาวเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล ถ้าเธอปฏิเสธ นั่นก็หมายความว่าความผิดที่ไม่รู้จักบุญคุณ ไม่รู้จักการเป็นพี่สาวที่ดี! กรกันธ์มองฮันนี่ที่ก้มหน้า รู้สึกเจ็บปวดในใจเหมือนถูกมีดสนิมแทงแทบอยากจะลากคนตรงหน้าออกไปเฆี่ยนตีให้หนักๆ แต่เขาทำไม่ได้พราะยังต้องรักษาภาพลักษณ์ เขากดความโกรธในใจลง หยิบเอกสารจากมือของเครย์ลี่ ยื่นให้เมทิน “ให้ที่ดินอีกแปลงเป็นสินสอดดีไหม? สินสอด ผมไม่รู้ว่าควรให้เท่าไหร่ เอาเป็นเลขมงคล เก้าล้านเก้าแสนเก้าหมื่นเก้าพันเก้าร้อยเก้าสิบเก้าบาทดีไหม?” เสียงพูดจบ เมทินก็เบิกตากว้างด้วยความดีใจ นภาและชะเอมก็มีสีหน้าดีใจเหมือนถูกลอตเตอรี่ พวกเขาไม่คิดเลยว่าคนที่ถูกมองว่าโชคร้ายนี้จะได้รับสินสอดมากขนาดนี้! ฮันนี่ตกใจจนต้องจับบ่าของกรกันธ์ไว้ ยังไม่ทันได้พูดอะไร กรกันธ์ก็จับมือเธอไว้แน่นและลูบมือเธอเบาๆ “ไม่ต้องพูดอะไร พ่อตาบอกถูกแล้ว จะแต่งงานทั้งทีจะไม่มีสินสอดได้ยังไง ถ้าเรื่องนี้แพร่ออกไป ชื่อเสียงของฉันในเมืองนี้จะเหลืออะไร?” เมทินได้ยินดังนั้นก็รีบจ้องฮันนี่ด้วยสายตาเขม็ง “ใช่แล้ว เธอจะทำตัวไม่รู้เรื่องแบบนี้ไม่ได้! คุณชายสามเป็นใคร? ถ้าเรื่องนี้แพร่ออกไปว่าไม่มีสินสอด มันจะดูดีได้ยังไง?” กรกันธ์พยักหน้าเห็นด้วยเล็กน้อย “แล้วพ่อตา คิดว่าจะให้สินเดิมภรรยาผมเท่าไหร่ล่ะ? ผมไม่คิดจะรวยจากครอบครัวภรรยาอยู่แล้ว พูดตรงๆ ให้พอเป็นพิธีก็พอ” “นั่นแหละๆ” เมทินตอบรับ มองไปที่ห้องนั่งเล่น “หรือไม่ก็ให้ของเก่าบางชิ้นเป็นสินสอดก็ได้ คุณชายสามให้เราตั้งเก้าล้านเกือบสิบล้าน ผมจะคืนให้ก็ไม่มีประโยชน์ใช่ไหม?” พูดตรงๆ คือเงินที่เข้ากระเป๋าแล้วไม่อยากเอาออก แต่บ้านตระกูลพิรามภักดีก็ไม่มีอะไรที่เอามาอวดได้ มีแต่ของเก่าในห้องนั่งเล่นที่เขาซื้อมาในราคาสูง กรกันธ์เงยหน้ามองฮันนี่ “ของเก่าเหล่านี้ เธอชอบไหม?” ฮันนี่มองไปที่ของเก่าชิ้นหนึ่งที่เป็นเครื่องลายคราม นั่นคือของเก่าที่เมทินซื้อมาในราคาสูงที่สุด ตอนนั้นเธอมองมันแค่แวบเดียว เมทินก็เตือนเธอว่าอย่าแตะต้อง บอกว่าเธอดวงไม่ดี กลัวว่าถ้าแตะต้องแล้วมันจะร่วงตกลงมา ตามคาดเมทินมองตามสายตาของฮันนี่ หัวใจสั่นไหวกำลังจะเปิดปากพูด ฮันนี่ก็ชี้ไปที่ของรักของเขาแล้วพูด “ฉันคิดว่าอันนั้นก็ดีนะ” กรกันธ์ขมวดคิ้วเล็กน้อย ดูเหมือนจะไม่พอใจ แต่ก็ยังให้เครย์ลี่เอาของเก่ามาให้ฮันนี่ แล้วถามว่า “ยังมีอะไรที่ชอบอีกไหม?” ฮันนี่มองดูพ่อที่หน้าเจ็บปวด แล้วชี้ไปที่ของเก่าอีกหลายชิ้นอย่างสะใจ กรกันธ์ส่ายหัว “เธอยังตาไม่ถึงนะต้องเรียนรู้จากฉันอีกเยอะ ถ้าอยากมีรสนิยมสูง ต้องเริ่มจากการทุบของที่เธอถืออยู่ก่อน” “ทุบ?” ฮันนี่มองกรกันธ์ด้วยความตกใจ กรกันธ์พยักหน้า ยื่นมือไปปัดของที่เธอถืออยู่ลงพื้น เครื่องลายครามตกลงมาแตกเป็นเสี่ยงๆ ทำเอาเมทินหน้าเหี่ยวลงทันที รู้สึกเหมือนสิ่งที่แตกไม่ใช่สิ่งของ แต่เป็นหัวใจของเขา! กรกันธ์ชี้ไปที่ของเก่าที่ฮันนี่เพิ่งหยิบมา “ในเมื่อเป็นสินสอดที่พ่อตาให้เธอ เธอก็ไปทุบมันเลย ทุบให้เต็มที่ ยังไงของพวกนี้อยู่ที่บ้านฉันก็ไม่สนใจอยู่แล้ว” ฮันนี่เหมือนถูกกระตุ้น ความดื้อรั้นที่เก็บไว้นานพุ่งออกมา เธอเดินไปทุบของเก่าที่พ่อและพี่ชายไม่เคยให้เธอแตะต้องจนแตกละเอียด เสียงดังโครมคราม ของเก่าตกลงพื้นเสียงดังฟังแล้วรู้สึกสะใจจริงๆ! สะใจ! เมทินกุมอก หน้าเขียวคล้ำด้วยความเจ็บปวด ส่วนกรกันธ์ก็ยังคงมีรอยยิ้มเอ็นดูบนใบหน้า หลังจากฮันนี่ทุบเสร็จแล้ว เธอรู้สึกไม่ค่อยสบายใจ เดินกลับไปหากรกันธ์ ก้มหน้าพูดว่า "ฉันฟุ่มเฟือยเกินไปจริงๆ ที่ทำลายสินเดิมจากบ้านของฉันเอง..." ยังไม่ทันพูดจบ กรกันธ์ก็ขัดขึ้นด้วยเสียงอ่อนโยนว่า "ไม่เป็นไร สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเธอมีความสุข" ฮันนี่รู้ว่ากรกันธ์ทำเพื่อเธอ ก็ทำให้รู้สึกอบอุ่นใจ ในขณะนั้น เมทินเห็นทั้งสองคนรักใคร่กันก็ใจเจ็บจนหายใจไม่ออก ได้แต่ยิ้มแห้งๆ ขัดจังหวะทั้งสอง "ลูกเขย...แล้วสินสอดเมื่อไหร่จะ..." "เดี๋ยวนี้เลย!" เมทินถอนหายใจเบาๆ ส่วนแม่และชะเอมตาเป็นประกายด้วยความตื่นเต้น กรกันธ์ชี้ไปที่เศษที่พื้น พูดเบาๆ ว่า "เงินจำนวนเล็กน้อยแบบนี้ ฉันไม่ใส่ใจหรอก" หลายคนพยักหน้าเห็นด้วย "ใช่แล้ว" พูดจบ กรกันธ์ก็พยักหน้าให้เครย์ลี่เดินเข้ามา "โอนเงินเก้าล้านเก้าแสนเก้าหมื่นเก้าพันเก้าร้อยเก้าสิบเก้าบาทไปยังบัญชีธนาคารของภรรยาฉันทันที แล้วก็โอนที่ดินให้ภรรยาฉันด้วย" กรกันธ์มองเมทินด้วยท่าทีสุภาพเรียบร้อย "โอ้ ลืมบอกพ่อตาไปว่า เช้านี้บ้านที่ว่าย่านสุขุมวิทน่ะผมได้โอนให้ฮันนี่แล้ว ไม่ต้องกังวลไปนะครับ" เสียงติ๊งที่โทรศัพท์ของฮันนี่ดังขึ้น เธอมองดูโดยไม่รู้ตัวว่าเป็นข้อความจากธนาคารแสดงยอดเงินเข้าเก้าล้านเก้าหมื่นเก้าพันเก้าร้อยเก้าสิบเก้าบาทเข้าบัญชี ฮันนี่พูดขอบคุณกรกันธ์ว่า"ขอบคุณคุณกรกันธ์ เงินเข้าแล้วค่ะ" ไม่นาน เครย์ลี่ก็วางสายโทรศัพท์ แล้วรายงานว่า "คุณกรกันธ์ ที่ดินก็โอนให้คุณนายเรียบร้อยแล้วครับ" เมทินถึงกับตะลึง "คุณกรกันธ์ โอ้ ไม่สิ ลูกเขย สินสอดนี้ควรให้พวกเราสิ! ให้พวกเราที่เป็นพ่อแม่ถึงจะถูก" "อืม ตามหลักแล้วใช่แต่ครอบครัวที่มีเงินมักไม่สนใจสินสอด คิดว่าลูกสาวแต่งงานไปจะได้อยู่ดีมีสุข ก็ให้สินสอดลูกสาวไป ผมไม่อยากให้พวกคุณโอนเงินไปมา เสียค่าธรรมเนียมซะเปล่า เลยให้ฮันนี่ไปเลย" "นี่คุณหลอกพวกเราใช่ไหมเนี่ย!" ชะเอมมองเศษโบราณวัตถุที่พื้น ทนไม่ไหวกระโดดชี้หน้าฮันนี่ "นังคนนี้ใช่ไหมที่บอกให้คุณมาหลอกพวกเรา!" เสียงจบลง เครย์ลี่ก็ปรี่เข้าไปตบหน้าชะเอมทันที เครย์ลี่ที่เป็นดั่งคนฝึกยุทธ์ ตบนี้ทำให้หูของชะเอมดังอื้ออึง เพราะไม่เคยถูกตบตีมาก่อน ตาโตอ้าปากค้างพูดไม่ออก "คุณ...คุณ..." "คุณอะไร? คนก่อนที่ชี้หน้าคุณกรกันธ์แบบนี้ นิ้วก็ถูกตัดไปแล้ว! ฉันเห็นแก่เธอที่เป็นน้องสาวของคุณนายนะเลยไม่ลงมือหนัก" เสียงจบลง กรกันธ์มองเครย์ลี่ด้วยความโกรธ และตำหนิเบาๆ "ไม่สำรวม!"
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม