ไตรทศขอเวลาอยู่เงียบๆ ตามลำพัง หลังจากพ่อแม่ผู้ให้กำเนิดกลับไป ร่างกายที่ไหวสะท้านด้วยแรงสะอื้น บ่งบอกว่าเขากำลังร้องไห้อย่างหนัก และคนที่ร้องไห้ไปกับเขาก็คือขวัญชีวา ที่ได้แต่ยืนมองเขาอยู่ห่างๆ ครั้งหนึ่งอคิราห์กับกวินภพก็เคยยืนมองเพื่อนที่ตกอยู่ในห้วงอารมณ์แบบนี้ “มึงว่ามันจะตัดพ่อแม่มันได้จริงๆ ไหมวะ” กวินภพพูดด้วยความหวั่นใจ และห่วงใย “ยังไงก็ตัดไม่ขาดหรอก ปากน่ะพูดได้แต่ในใจน้ำตาไหลท่วม” อคิราห์เข้าใจและเห็นใจความปวดร้าวที่เพื่อนได้รับ มั่นใจว่าไตรทศไม่สามารถตัดขาดพ่อแม่ผู้ให้กำเนิดได้ ไม่เช่นนั้นคงไม่ขอร้องเขาให้ช่วยพยุงบริษัทของพ่อแม่ตลอดระยะ 8 ปีมานี้ “มันคงไม่กลับมาดิ่งอีกใช่ไหมวะ แปดปีที่แล้วกว่าจะฉุดมันขึ้นมาได้แทบแย่” กวินภพเป็นกังวล กลัวว่าไตรทศจะเป็นเหมือนเมื่อ 8 ปีก่อน ที่พ่อแม่ไม่สนใจใยดีปล่อยให้ติดคุก จนตกอยู่ในภาวะความด้านชาทางความรู้สึก ซึ่งอาการจะคล้ายกับการฉีดยาชา

