บทที่8

2832 คำ
คนที่นอนหลับสนิทอยู่บนเตียงเริ่มรู้สึกตัวลืมตาขึ้นช้าๆ เพดานห้องสีขาวพร้อกับกลิ่นของยาฆ่าเชื้อที่คละคลุ้งชวนอาเจียนนั้นทำให้หญิงสาวรู้ดีว่าที่นี่คือที่ไหน โรงพยาลอีกแล้วเหรอ มาอีกจนได้นะยัยชาเอ้ย “ไงเรา ทำไมถึงปล่อยให้ตัวเองปวดท้องจนเป็นลม” นิชาหันไปตามเสียงพูดที่ดังขึ้น ก็พบกับนายแพทย์หนุ่มในชุดเสื้อกาวน์สีขาวพร้อมสวมแมสอยู่บนใบหน้า แต่นิชาก็จำได้ขึ้นใจว่านายแพทย์คนนี้คือใคร “เฮียขา” “ไม่ต้องมาทำเสียงอ้อน ถ้ายังไม่ดูแลตัวเองอยู่แบบนี้เฮียจะบอกม๊ากับป๊าแล้วนะรอบนี้” นายแพทย์หนุ่มพูดเสียงดุพร้อมกับดึงแมสลงจ้องมองน้องสาวอย่างเป็นห่วงและตำหนิอยู่ในที เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่นิชาปวดท้องจนเป็นลมเพราะเป็นโรคกำเริบแถมยังปวดท้องประจำเดือนมากกว่าผู้หญิงคนอื่นจนต้องฉีดยาแก้ปวดในบางเดือนและถ้าจำไม่ผิดนี่เป็นครั้งที่สามได้แล้วมั้ง และทุกครั้งน้องสาวจอมดื้อก็จะมาขอร้องอ้อนวอนว่าให้ปิดเรื่องนี้ไว้ไม่ให้บอกป๊ากับม๊าทุกครั้งไป พร้อมทั้งสัญญาเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าจะดูแลตัวเองดีๆ แต่สุดท้ายก็ยังปล่อยให้ตัวเองปวดท้องจนเป็นลมล้มพับอีกจนได้ มันน่าจับตาตีก้นให้เข็ดซะจริงๆยัยน้องคนนี้หนิ “งื้ออ เฮียแฟสุดหล่อผู้ใจดีของน้อง อย่าบอกป๊ากับม๊านะคะ นะคะเฮีย ชาขอร้อง” นิชารีบลุกขึ้นสวมกอดเอวสอบของคนเป็นพี่ไว้ทันทีพร้อมกับซบหน้าลงกับหน้าอกแน่นๆ นั้นอย่างออดอ้อน เพราะรู้ดีว่าถ้าเรื่องถึงหูป๊ากับม๊าเมื่อไหร่เธอต้องได้ย้ายกลับไปอยู่ที่บ้านสวนชานเมืองแน่นอน กาแฟได้แต่ถอนหายใจออกมาพร้อมกับยกมือขึ้นมาลูบศีรษะน้องสาวเบาๆ “เราก็เป็นซะแบบนี้ ไหนบอกจะดูแลตัวเองดีๆ สุดท้ายก็ทำไม่เคยได้” “ชาขอโทษ” นิชาพูดออกมาอย่างรู้สึกผิดที่ไม่สามารถทำตามที่รับปากกับพี่ชายของเธอเอาไว้ได้ แบบนี้ทุกทีสินะ พอตัวเองผิดทีไรก็มาขอโทษแบบนี้ทุกที “น้ำชา...เราต้องรักตัวเองให้มากกว่านี้รู้มั้ย ชาก็รู้ว่าถ้าปล่อยให้ตัวเองหิวมากๆจะปวดท้องและเวลาที่ตัวเองปวดท้องมากๆมันจะเป็นยังไง แล้วทำไมถึงไม่กินข้าวเช้า แล้วยาไปไหนทำไมไม่พกติดตัวไว้” กาแฟเอ่ยกับน้องสาวอย่างอ่อนอกอ่อนใจแกมดุนิดๆ จนคนถูกดุถึงกับทำหน้าเศร้าตอบกลับมาเสียงอ่อย “ก็เมื่อเช้าชาตื่นสายก็เลยไม่ได้แวะกินข้าว ส่วนยาชาลืมหยิบใส่กระเป๋า” “เฮ้อ! ให้มันได้อย่างนี้สิ” นิชาทำหน้าเศร้าสลดเถียงไม่ออก ก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ “เฮีย! ชากลับได้หรือยังไงคะ ชาต้องกลับไปฝึกงาน ป่านนี้พี่ธีร์ด่าชาแล้วแน่ๆ” ลุกลี้ลุกลนทำท่าเหมือนจะลงจากเตียงจนกาแฟต้องมาจับแขนไว้ “เดี๋ยวๆ น้ำชาหยุดเดี๋ยวนี้...ไม่ต้องไปแล้วพี่ธีร์เขาบอกให้ชาพักผ่อนให้หายดีก่อนแล้วค่อยไป” “ไม่ค่ะ ชาจะไป เดี๋ยวเขาจะมาหาว่าชาทีหลังว่าชาไม่มีความรับผิดชอบ” พูดออกมาด้วยความน้อยใจ คำพูดของธนัตถ์ที่พูดกับเธอวันนี้เธอจำได้ดีไม่มีลืม “พี่ธีร์เขาไม่ว่าหรอกน่า เพราะเขาบอกพี่เองว่าให้ชาพักให้หายก่อน” กาแฟเอ่ยย้ำออกมาอีกครั้งเพื่อให้น้องสาวเชื่อในสิ่งที่ตัวเองพูด “เขามาส่งชาที่โรงพยาบาลเหรอคะ” “ใช่ พี่ธีร์เป็นคนขับรถมาส่งชาที่โรงพยาบาลและตอนนี้เขาก็นั่งรอชาอยู่ที่หน้าห้องฉุกเฉิน” ที่ทำทั้งหมดเป็นเพราะมนุษยธรรมสินะ คิดแล้วก็ถอนหายใจออกมา "ที่ทำไปทั้งหมดก็คงเพราะสมเพชชาล่ะมั้ง" "คิดมากน่า ดูพี่ธีร์เขาก็เป็นห่วงเราเหมือนกันนะ" ยกมือขึ้นมาลูบศีรษะของน้องสาวเป็นการปลอบใจ "เขากลัวชาตายในบริษัทเขามากกว่า" "เราก็นะ พูดไปเรื่อยพี่ธีร์เขาก็ไม่ได้ใจร้ายขนาดนั้นสักหน่อย มา! ลงมาจากเตียงได้แล้วจะได้กลับคอนโดไปพักผ่อน" นิชาอยากจะตะโกนเถียงพี่ชายออกไปดังๆว่า พี่ธีร์นั้นใจร้ายกว่าที่พี่ชายเธอคิดเอาไว้มากขนาดไหน ธนัตถ์นั่งถอนหายใจเป็นสิบๆครั้งหลังจากที่มาส่งนิชาที่โรงพยาบาล พลางนึกย้อนไปถึงเหตุการณ์ที่ปาริสราร้องเรียกให้ช่วยที่บริษัท ธนัตถ์ก็อดที่จะโทษตัวเองไม่ได้ที่อาจจะเป็นสาเหตุให้นิชาต้องเป็นลมล้มพับอยู่หน้าห้อง ยิ่งเห็นใบหน้านิชาที่ซีดเซียวนั้นก็ยิ่งรู้สึกผิดขึ้นมาเพราะจริงๆ แล้วสิ่งที่นิชาพูดกับเขาในห้องนั้นอาจจะเป็นเรื่องจริง ลมหายใจของชายหนุ่มผ่อนออกมาเบาๆอีกครั้งพร้อมกับประตูห้องฉุกเฉินที่ถูกเปิดออกจากด้านใน ธนัตถ์รีบลุกขึ้นยืนมองคนที่เดินออกมาจากห้องฉุกเฉินด้วยความดีใจและโล่งใจที่ถูกเก็บซ่อนเอาในข้างในลึกๆ อย่างน้อยๆ ยัยเด็กแก่แดดก็ไม่ได้เป็นอะไรมาก ส่วนนิชาเมื่อเห็นหน้าธนัตถ์ความน้อยใจก็วิ่งเข้าชนอย่างจังเมินหน้าหนีมองไปทางอื่นไม่อยากจะมองหน้าผู้ชายใจร้ายคนนี้เลยให้ตายเถอะ "เฮีย ให้ชารอกลับพร้อมเฮียไม่ได้เหรอคะ" เอ่ยเสียงอ้อนมองตาพี่ชายอย่างเว้าวอนสุดชีวิต แต่คนเป็นพี่กลับส่ายหน้ายิ้มๆ "ไม่ได้ อีกตั้งหลายชั่วโมงกว่าเฮียจะออกเวร ชากลับไปพักผ่อนที่คอนโดเถอะ" "ให้ชาไปนั่งรอเฮียที่ร้านกาแฟข้างๆ โรงพยาบาลก็ได้ นานแค่ไหนชาก็รอได้" "น้ำชา! ทำไมดื้อ เลือกเอาว่าจะกลับไปพักที่คอนโดหรือให้เฮียโทรบอกป๊าขับรถมารับกลับบ้าน" คนถูกยื่นข้อเสนอถึงกับทำหน้ามุ่ยอย่างขัดใจ จะข้อไหนเธอก็ไม่อยากได้ทั้งนั้นแหละ "เฮียอ่ะ เล่นแบบนี้ทุกทีเลย" กาแฟมองน้องสาวยิ้มๆ ก่อนจะหันไปพูดกับธนัตถ์ที่ยืนมองดูสองพี่น้องคุยกันเงียบๆ "ขอบคุณพี่ธีร์มากนะครับที่พายัยชามาส่ง...ผมมีเรื่องอยากจะรบกวนพี่ธีร์อีกอย่างจะได้มั้ยครับ" กาแฟเอ่ยถามออกมาอย่างเกรงใจ "ได้สิ มีอะไรเหรอ" "ผมจะรบกวนพี่ธีร์ไปส่งยัยชาที่คอนโดหน่อยได้มั้ยครับ" "เฮีย!! ไม่เอาอ่ะ จะไปรบกวนเขาทำไม ชานั่งแท็กซี่ไปก็ได้" นิชาร้องค้านออกมาแทบจะทันทีที่พี่ชายพูดจบ จะบ้าหรือไง เขาคงจะว่างไปส่งเธอหรอกเวลาเขาเป็นเงินเป็นทองขนาดนั้น แค่พาเธอมาส่งโรงพยาบาลก็คงเสียเวลางานเขาจะแย่ "ได้สิ เดี๋ยวพี่ไปส่งน้องสาวเราให้" นิชาอ้าปากค้าง บ้าน่า! นี่เธอหูเพี้ยนไปหรือเปล่าเนี่ย เขาเนี่ยนะจะไปส่งเธอร้อยวันพันปีไม่เห็นอยากจะไปส่ง "ขอบคุณครับ งั้นผมฝากพี่ธีร์ด้วยนะครับ...กลับถึงคอนโดก็หาอะไรทานด้วยล่ะจะได้ทานยาแล้วนอนพัก" พูดพร้อมกับยื่นถุงยาส่งให้น้องสาว นิชาเลยจำใจต้องยื่นมือไปรับถุงยาอย่างเลี่ยงไม่ได้ "แต่ชากลับแท็กซี่เองได้นะคะเฮีย" นิชายังไม่ลดละความพยายามที่จะอ้อนวอนพี่ชายตัวเองแต่ก็ได้น้ำเสียงและหน้าตาดุของคนเป็นพี่กลับมา "อย่าดื้อ ให้พี่ธีร์ไปส่งน่ะดีแล้ว พี่จะได้ไม่ต้องเป็นห่วง" นิชาเมื่อคัดค้านอะไรไม่ได้ก็ได้แต่ถอนหายใจออกมา ธนัตถ์ยืนมองดูสองพี่น้องสั่งลากันเรียบร้อยจึงเอ่ยขึ้นมาบ้าง "งั้นพี่ไปก่อนนะ" "ครับ สวัสดีครับพี่ธีร์" กาแฟยกมือไหว้ลาธนัตถ์ที่ก็ยกมือรับไหว้เหมือนกัน ก่อนจะยื่นมือยาโยกศีรษะน้องสาวเล่นด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม "พี่ไปทำงานก่อนนะ" พูดจบก็เดินหันหลังกลับเข้าไปในห้องฉุกเฉินตามเดิม ทิ้งให้นิชากับธนัตถ์อยู่กันสองคน นิชาชำเลืองมองหน้าคนที่ยืนหน้านิ่งอยู่ข้างๆ นิดหนึ่งก่อนจะเดินออกมาโดยไม่ได้สนใจธนัตถ์เลยสักนิดว่าจะเดินตามเธอมามั้ย ไม่เดินตามเธอมาได้ยิ่งดีเพราะเธอยังไม่พร้อมจะคุยกับเขาตอนนี้ เมื่อนิชาเดินไปธนัตถ์ก็ได้แต่ส่ายหน้าตามหลังก่อนจะเดินตามนิชาออกมาจากหน้าฉุกเฉิน "จะไปไหน" น้ำเสียงทุ้มเอ่ยถามขึ้น เมื่อเห็นนิชาเดินไปอย่างไม่มีจุดหมาย คนถูกถามหยุดเดินพร้อมกับหันกลับมามองเจ้าของคำถาม "ก็เดินไปหารถพี่ไง" เอ่ยตอบกลับมาเสียงห้วนใบหน้าบูดบึ้งไม่มีรอยยิ้มเลยสักนิด "รถจอดอยู่นู่น" ธนัตถ์ชี้ไปยังอีกทางกับที่นิชาเดินมา เพล้ง!! รับรู้ได้ถึงเสียงของแข็งบางอย่างที่ล่วงแตกกระจายอยู่เต็มพื้น ไม่ใช่อะไรที่ไหนเศษหน้าของนิชานั่นเอง "ก็แล้วทำไมไม่บอกตั้งแต่แรกล่ะ ปล่อยให้เดินมาอยู่ได้" พูดเสียงสะบัดอย่างไม่สบอารมณ์ด้วยความอาย ก่อนจะเดินเชิดหน้าไปยังทิศทางที่ธนัตถ์ชี้ไปเมื่อสักครู่ เสียงเพลงที่เปิดคลอเบาๆทำลายความเงียบในรถพร้อมกับแอร์เย็นๆ รวมทั้งร่างกายที่อ่อนเพลียจากการพักผ่อนไม่เพียงพอถูกความง่วงเข้าครอบงำ หนังตาหนักอึ้งค่อยๆปิดเข้ากันอย่างฝืนต่อไปไม่ไหว แขนเรียวถูกยกขึ้นมากอดอกตัวเองไว้ด้วยความหนาวเย็นจากแอร์ก่อนจะหลับไปในที่สุด ธนัตถ์หันมามองคนที่นั่งอยู่ข้างๆ เมื่อเห็นว่าหลับไปแล้วจึงตีไฟเลี้ยวจอดรถข้างไหล่ทางก่อนจะเอื้อมไปหยิบเสื้อแจ็คเก็ตที่วางอยู่ที่เบาะกลังมาคลุมให้หญิงสาว ใบหน้าของคนทั้งคู่อยู่ห่างกันแค่คืบสายตาคมจับจ้องอยู่ที่ดวงหน้าสวยนิ่งงัน ความชิดใกล้โดยไม่ได้ตั้งใจทำให้ได้กลิ่นหอมๆ ที่โชยเข้ามาแตะจมูกโด่งนั้นจนเผลอตัวสูดดมความหอมนั้นเข้าไปเต็มปอด แก้มเนียนใสมีเลือดฝาดขึ้นมาเล็กน้อยของหญิงสาวส่งกลิ่นหอมขึ้นมายั่วยวนใจ ริมฝีปากอิ่มสีชมพูระเรื่อที่เผยอขึ้นเล็กน้อยเป็นเหมือนแรงดึงดูดให้ชายหนุ่มอยากเข้าไปสัมผัส ใบหน้าคมค่อยๆ ก้มต่ำลงไปหาเรียวปากอิ่มนั้นช้าๆ ทีละนิดๆ อีกแค่นิดเดียวเท่านั้นริมฝีปากหนาก็จะประกบลง พลันชายหนุ่มก็รีบถอยตัวออกห่างเหมือนนึกอะไรขึ้นได้ "แกเป็นบ้าอะไรของแกวะไอ้ธีร์" ยกมือขึ้นลูบหน้าตัวเอง หอบหายใจแรงเมื่อนึกถึงสิ่งที่ตัวเองกำลังจะทำลงไปเมื่อสักครู่ สะบัดศีรษะขับไล่ความรู้สึกบ้าๆนั้นออกไป หันมองคนที่นอนหลับตาพริ้มอยู่เบาะข้างๆด้วยความโล่งใจที่หญิงสาวยังคงหลับตานิ่งเหมือนเดิม ก่อนจะหันมาสนใจถนนเบื้องหน้าและรีบออกรถไปทันที ธนัตถ์จอดรถลงเมื่อมาถึงคอนโดของนิชาแต่เจ้าตัวก็ยังคงนอนหลับสนิทไม่ยอมตื่นแต่อย่างใด ธนัตถ์จึงยื่นมือไปแตะที่แขนเรียวนั้นเบาๆ พร้อมกับเอ่ยเรียกเป็นการปลุก "นี่เธอ เธอ ตื่นได้แล้วถึงแล้ว" เงียบ! คนถูกปลุกยังคงนิ่งเฉยไม่ไหวติงอะไรใดๆทั้งสิ้น "นี่หลับไม่ได้แกล้งตายใช่มั้ยเนี่ย" พูดออกมาเบาๆ ก่อนจะลงเรียกพร้อมกับเขย่าแขนอีกครั้งให้แรงขึ้นกว่าเดิม "น้ำชา ชา ตื่นได้แล้ว" ได้ผล เมื่อคนที่หลับค่อยๆ ขยับเปลือกตาขึ้นพร้อมกับยื่นแขนสองข้างออกมาด้านหน้าเป็นการบิดขี้เกียจ "ถึงแล้วเหรอคะ" เอ่ยถามออกมาด้วยน้ำเสียงงัวเงีย ก้มลงมองเสื้อแจ็คเก็ตที่คลุมอยู่บนตัวก็ต้องอมยิ้มออกมา ก็ถือว่ายังมีน้ำใจอยู่บ้างที่ไม่ปล่อยให้เธอหนาวตาย เจอแบบนี้เข้าไปอารมณ์ขุ่นมัวก่อนหน้านั้นก็พลันหายไปเป็นปลิดทิ้ง "อืม ถึงแล้ว" คนถูกถามตอบลับมาสั้นๆ "เสื้อพี่ธีร์เหรอคะ ขอบคุณนะคะที่เป็นห่วงชา" พูดออกมาด้วยรอยยิ้ม แต่ไอ้คำว่าเป็นห่วงของหญิงสาวที่พูดออกมานั้นทำให้ธนัตถ์รู้สึกแปลกๆ ห่วงอย่างนั้นเหรอ? ไม่หรอกมั้งเขาก็แค่กลัวยัยเด็กนี่หนาวตายต่างหาก "ฉันก็แค่กลัวเธอหนาวตายบนรถฉันหรอก" นิชาพยักหน้ารับยิ้มๆ กับคนปากแข็งข้างๆ "ปากแข็งจริงๆเลยนะ ถ้าไม่ห่วงพี่ธีร์จะพาชาไปโรงพยาบาลทำไมแถมยังยอมมาส่งชาตามที่เฮียแฟขอร้องอีก...น่ารักอ่ะแฟนใครน๊า" "ไม่ใช่แฟนเธอแล้วกัน" ธนัตถ์เถียงออกมาทันควัน พอมีแรงเข้าหน่อยก็กวนประสาทเขาขึ้นมาทันทีเลยนะยัยเด็กคนนี้ "จริงอ่ะ วันนี้ไม่เป็นวันหน้าก็อาจจะเป็นก็ได้นี่คะใครจะไปรู้ เนอะ" "อย่ามาเพ้อเจ้อ...กวนประสาทฉันได้ขนาดนี้ก็แสดงว่าหายดีแล้วใช่มั้ย ถ้าใช่ก็ลงไปได้แล้วจะได้ไปหากินข้าวกินยา เดี๋ยวก็มาเป็นลมเป็นแล้ง ฉันขี้เกียจอุ้มเธอไปหาหมออีก" นิชาตาโตเมื่อได้ยินคำพูดประโยคสุดท้ายของธนัตถ์ หัวใจของหญิงสาวเต้นแรงขึ้น นี่เขาเป็นคนอุ้มเธอไปหาหมออย่างนั้นเหรอ งื้อ!! ว่าที่สามีของชา ทำไมน่ารักอย่างนี้ อย่างนี้มันต้องมีรางวัลให้สินะ "ขอบคุณนะคะที่ดูแลชาอย่างดี ไม่ยอมให้ผู้ชายคนอื่นมาถูกตัวชา...เอ๊ะ! พี่ธีร์อะไรติดอยู่ที่หน้าอะ มาค่ะขยับมาเดี๋ยวชาหยิบออกให้" ธนัตถ์ยกมือขึ้นมาจับหน้าตัวเอง พลางหรี่ตามองนิชาอย่างไม่ค่อยไว้ใจเท่าใดนัก "อะไร ติดตรงไหนบอกมาเดี๋ยวฉันหยิบออกเอง" "บอกไปพี่ธีร์ก็เอาออกไปถูกหรอกค่ะ เสียเวลาเปล่าๆ มาค่ะเดี๋ยวชาเอาออกมาให้...เร็วสิคะ ชาจะได้ไปกินข้าวเริ่มปวดท้องอีกแล้วเนี่ย" พูดเร่งเร้าให้ธนัตถ์ทำตามที่เธอบอก ธนัตถ์ก็ได้แต่ถอนหายใจออกมานิดๆ มองหน้านิชาอย่างชั่งใจ ถ้าไม่มีติดหน้าฉันนะ เธอเจอดีแน่ยัยเด็กคนนี้ ในที่สุดธนัตถ์ก็ขยับเข้าไปใกล้พร้อมกับโน้มใบหน้าเข้าไปให้นิชานิดหนึ่ง ซึ่งเว้นระยะห่างไว้ไกลพอสมควร นิชาอมยิ้มอย่างพอใจก่อนจะยื่นมือจับไปที่ใบหน้าของชายหนุ่มเพื่อหยิบของที่ติดอยู่นั้นออกให้ แต่ไม่เป็นอย่างนั้นเมื่อใบหน้าสวยโน้มเข้าใกล้ด้วยความเร็วประกบริมฝีปากลงไปบนริมฝีปากหนาด้วยความเร็วและรีบผละออกด้วยความเขินอาย "ขอบคุณที่ดูแลชานะคะ" พูดจบก็รีบเปิดประตูรถวิ่งเข้าไปในคอนโดทันที โดยไม่มีแม้แต่จะหันกลับมามองคนที่นั่งอึ้งอยู่ในรถเลยสักนิด ธนัตถ์ยกมือขึ้นมาแตะที่ริมฝีปากของตัวเองเบาๆ สัมผัสนุ่มนิ่มเมื่อสักครู่ทำให้หัวใจของชายหนุ่มเต้นรัวขึ้นอย่างประหลาด สัมผัสนุ่มนั้นยังคงติดตรึงอยู่บนริมฝีปากชายหนุ่มไม่หางหาย "ยัยเด็กแก่แดดเอ้ย" ปากก็ด่าแต่ทำไมรู้สึกเหมือนตัวเองอมยิ้มอย่างไรอย่างนั้น ก่อนจะดึงสติกลับมาอยู่กับตัวเองไม่ให้คิดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้อีก แต่ไม่ว่ายังไงธนัตถ์ก็สลัดความรู้สึกดีนั้นออกไปไม่ได้อยู่ดี ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------- งื้ออออ น้ำชาลูก พอดีขึ้นปุ๊บหนูก็ลุกพี่เขาหนักเลยนะ ก็พี่เขาน่ากินขนาดนี้เป็นไรท์ก็สู้ตายนะ แต่เอ๋!! ดูเหมือนอีพี่ก็แอบมีใจเนาะ 555 เอาไงต่อไปดีเราจะให้น้องถอยหรือให้น้องสู้ต่อดี
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม