หลังจากที่แยกกับปาริสรานิชาก็เดินมาที่ป้ายรถเมล์ที่อยู่ถัดมาจากบริษัทเล็กน้อยเพื่อมารอรถกลับคอนโด และในระหว่างที่นั่งรอรถอยู่นั้นเสียงโทรศัพท์มือถือของหญิงสาวก็ดังขึ้น พอเห็นชื่อที่ปรากฎอยู่บนหน้าจอใบหน้าของหญิงสาวก็เต็มไปด้วยรอยยิ้ม
“ว่าไงคะ เฮียแฟสุดหล่อของน้อง วันนี้นึกยังไงถึงโทรมาหาน้องได้เนี่ย นึกว่าลืมน้องคนนี้ไปแล้วซะอีก” กรอกเสียงลงไปตามสายยาวเหยียดต่อว่าคนปลายสายที่ตัวเองเรียกว่าเฮียแฟหรือกาแฟพี่ชายของตัวเองที่ตอนนี้เป็นนายแพทย์หนุ่มประจำอยู่ที่โรงพยาบาลเอกชนชื่อดังอย่างไม่จริงจัง ก่อนจะได้ยินเสียงหัวเราะจากปลายสายดังกลับมา
(ประชดเก่งนะเราอ่ะ น้องสาวน่ารักขนาดนี้ใครจะไปลืมลง..ว่าแต่เราเหอะอยู่ไหนเนี่ย ทำไมมีเสียงรถวิ่งด้วย แอบเกเรไปเที่ยวไหนหรือเปล่า ไหนม๊าบอกว่าวันนี้เราไปฝึกงานที่บริษัทพี่ธีร์ไม่ใช่หรือไง) นิชาถึงกับคลี่ยิ้มออกมาเมื่อถูกพี่ชายตัวดีซักฟอกกลับมายาวเหยียดไม่แพ้กัน
“ตอนนี้น้องอยู่ที่ป้ายรถเมล์ข้างๆกับบริษัทพี่ธีร์ค่ะ กำลังนั่งรอรถกลับคอนโด ไม่ได้แอบเกเรไปเที่ยวไหนเลย”
(งั้นก็แล้วไป...แล้วทำไมไม่เอารถที่บ้านมาใช้ จะได้ไม่ต้องโหนรถเมล์ให้เมื่อย)
“เฮียแฟขา บริษัทของพี่ธีร์กับคอนโดน้องห่างกันแค่สามป้ายรถเมล์เองนะคะ นั่งตูดยังไม่ทันร้อนก็ถึงแล้วค่ะ”
(ดื้อจริงๆเลยนะเรา)
“ดื้อเหมือนเฮียเป๊ะเลยใช่มั้ยคะ”
(ยัยน้ำชา เฮ้อ! เฮียขี้เกียจเถียงกับเราแล้ว งั้นเฮียไปตรวจคนไข้ก่อนนะ ถึงคอนโดแล้วไลน์มาบอกด้วยล่ะ เฮียเป็นห่วงแค่นี้นะ”
“ค่ะ เฮียแฟก็ดูแลตัวเองด้วยนะคะ ชาเป็นห่วง รักเฮียนะ” พูดจบปลายสายก็ตัดทันที นิชาได้แต่ยิ้มให้กับหน้าจอโทรศัพท์ก่อนจะเก็บใส่กระเป๋าเหมือนเดิม และหันไปสนใจรถราที่สิ่งวุ่นอยู่บนท้องถนนต่อ ชะเง้อคอมองคันแล้วคันเล่าก็ยังไม่มีรถเมล์วิ่งผ่านสักที จนคนนั่งรอต้องถอนหายใจออกมาเบาๆ
“ทีอย่างนี้ล่ะไม่มีวิ่งทีตอนไม่ขึ้นวิ่งกันให้วุ่นเชียวนะ” นิชาบ่นออกมาอย่างเบื่อๆ ดีนะที่ไม่มีใครนั่งอยู่ข้างๆ ไม่อย่างนั้นเขาคงคิดว่าเธอเป็นบ้าแน่ๆ ที่นั่งพูดอยู่คนเดียว และในระหว่างที่นิชากับลังนั่งพูดกับลมกับแล้งอยู่นั้น รถยนต์คันคุ้นตาก็ตีไฟเลี้ยวเข้ามาจอดลงตรงหน้าเธอพร้อมกับลดกระจกลง นิชามองเข้าไปในรถด้วยความไม่เข้าใจโดยไม่ได้พูดอะไรออกมา จนคนที่นั่งอยู่ในรถต้องตะโกนออกมาอย่างอารมณ์เสียนิดๆ
“จะนั่งบื้ออีกนานมั้ย ขึ้นรถมาเร็วๆสิ เดี๋ยวรถคันอื่นเข้าก็บีบแตรไล่หรอก”
“ค่ะๆ” นิชารีบเดินมาขึ้นรถอย่างงงๆ ร้อยวันพันปีไม่เคยเรียกเธอขึ้นรถมีแต่เธอที่เสนอหน้าขึ้นเอง แล้วอยู่ดีๆทำไมวันนี้ถึงเรียกเธอขึ้นได้
และเมื่อรถเคลื่อนตัวออกมาได้สักครู่ความเงียบก็บังเกิดขึ้นในรถสร้างความอึดอัดให้คนที่นั่งหน้าบึ้งอยู่เป็นอย่างมาก พลันคำพูดของนิชาที่พูดในตอนเช้าก็ผุดเข้ามาในหัว งั้นต่อไปนี้เชิญพี่ธีร์ตามสบายเลยนะคะชาไม่ยุ่งกับพี่ธีร์แล้ว เพราะชาก็เบื่อพี่ธีร์แล้วเหมือนกัน
ไหนจะตลอดทั้งวันที่นิชาพยายามหลบหน้าไม่เจอไม่คุยกับเขาอีก ซึ่งมันไม่ใช่นิสัยของนิชาเลยสักนิดหรือว่ายัยเด็กแก่แดดคนนี้จะเบื่อเขาอยากที่พูดออกมาเมื่อเช้าจริงๆ พอคิดถึงตรงนี้ทำไมถึงได้รู้สึกใจแป้วขึ้นมาซะงั้น ขนาดนั่งอยู่ด้วยกันบนรถก็ยังเงียบไม่พูดไม่จากับเขาสักคำและก็เป็นธนัตถ์เองที่ทนต่อความเงียบที่เกิดขึ้นต่อไปไม่ไหวเอ่ยขึ้นมาก่อน
“จะกลับคอนโดหรือว่าไปไหนต่อ” นิชาหันมามองหน้าเจ้าของคำพูดนั้นนิดหนึ่งก่อนจะพูดตอบกลับมา
“กลับคอนโดค่ะ แต่พี่ธีร์จอดให้ชาลงตรงร้านบะหมี่ก่อนถึงคอนโดก็ได้ค่ะ” ธนัตถ์เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยถามออกมาอีกครั้ง
“หิว”
“ค่ะ” คำเดียวสั้นๆ และไม่ได้พูดอะไรออกมาต่อ เพราะจริงๆ หญิงสาวก็ไม่รู้จะพูดอะไรต่ออีกเหมือนกันกลัวพูดไปแล้วจะทำให้ธนัตถ์รำคาญจนไล่เธอลงจากรถ และถ้าเป็นอย่างนั้นเธอต้องตายแน่ๆ แม้ระยะทางจากตรงนี้ไปคอนโดไม่ได้ไกลแต่วันนี้เธอเดินทั้งวันจนเมื่อยไปหมดเธอไม่พร้อมจะเดินต่ออีกอย่างแน่นอนเพราะฉะนั้นทางที่ดีเธอคือควรจะนั่งนิ่งๆไม่กวนโมโหเขาดีกว่า
ส่วนธนัตถ์นั้นถึงกับหันมามองหน้านิชาด้วยความแปลกใจ กับท่าทางสงบเสงี่ยมประหยัดคำพูดของคนข้างๆ ปกตินี่จะต้องชวนเขาคุยเป็นต่อยหอยคุยนู่นคุยนี่จนเขารำคาญ แต่แทนที่เขาจะชอบแต่ทำไมเหมือนมันขาดอะไรไปสักอย่าง
“ล้มหัวฟาดพื้นมาหรือไงทำไมถึงได้สงบปากสงบคำเหมือนไม่ได้เอาปากมาด้วย” นิชาหันขวับมองหน้าธนัตถ์อย่างงุนงงและไม่เข้าใจ ไม่เข้าใจว่าเขาจะเอายังไงกับเธอแน่ พอเธอเงียบก็มาหาเรื่องแต่พอเธอพูดมากก็บอกว่ารำคาญ นี่เธอเริ่มจะทำตัวตามอารมณ์เขาไม่ถูกแล้วนะเนี่ย
“ตกลงพี่ธีร์จะเอายังไงกันแน่คะ พอชาพูดมากพี่ธีร์ก็ไม่ชอบบอกว่ารำคาญให้เงียบแต่พอชาเงียบพี่ธีร์ก็มาหาเรื่อง นี่ชาทำตัวไม่ถูกแล้วนะคะเนี่ย”
เออวะ! นี่เขาเป็นบ้าอะไรไปวะเนี่ย มันก็แค่ชินเท่านั้นเองมั้ง ใช่! ,มันต้องเป็นแบบนี้แน่ๆ
“ก็ทำเหมือนที่เคยทำทุกวันนั่นแหละ” นิชาลอบยิ้มน้อยๆออกมาอย่างชอบใจเมื่อได้ยินคำพูดตอบกลับมาของธนัตถ์
นั่นแน่! นี่แอบมีใจให้เธอแล้วใช่มั้ยเนี่ย ว่าที่สามีของฉัน
“ทำเหมือนที่เคยทำ คือบอกรักที่ธีร์น่ะเหรอคะ” หันมาจ้องหน้าคนที่ตั้งหน้าตั้งตาขับรถอยู่ข้างๆ โดยไม่ได้หันมามองเธอเลยสักนิด และไม่รู้ว่านิชาตาฝาดหรือเปล่าเพราะเธอเห็นว่าหน้าธนัตถ์นั้นแดง
“เธอนี่มันจริงๆเลยนะ...อันที่จริงฉันน่าจะปล่อยให้เธอนั่งเงียบเหมือนเมื่อกี้อ่ะดีแล้ว สบายหูดี”
“ไม่จริงหรอกค่ะ เพราะถ้าพี่ธีร์ชอบให้ชานั่งเงียบๆพี่ธีร์ไม่พูดกวนประสาทชาขึ้นมาหรอก เพราะจริงๆแล้วพี่ธีร์ก็อยากได้ยินเสียงชาเหมือนกัน”
“เพ้อเจ้อได้อีก คนอะไรหลงตัวเอง”
“ไม่ได้หลงตัวเองเหอะ หลงพี่ธีร์ต่างหากหลงมาตั้งห้าปีแล้วเนี่ยแต่พี่ธีร์ก็ไม่ใจอ่อนให้ชาสักที”
“ยัยเด็กแก่แดด”
“ชาชอบพี่ธีร์นะ” ธนัตถ์หันกลับมามองหน้านิชานิดหนึ่งก่อนจะหันกลับไปมองถนนตามเดิม ให้ตายเถอะ! อันที่จริงเขาน่าจะปล่อยให้ยัยเด็กนี่นั่งเงียบเหมือนเดิมน่ะดีแล้ว
“น้ำชา!!!”
“ขา” ขานรับเสียงหวาน ไม่ได้สนใจคนที่ร้องตะโกนเรียกชื่อเธอนั่นเลยสักนิด
“เธอนี่มันกวนประสาทฉันได้ทุกเวลาจริงๆนะ”
“ขอบคุณค่ะ” พูดออกได้ด้วยรอยยิ้ม รู้อยู่เต็มอกว่าธนัตถ์นั้นกำลังด่าเธออยู่แต่เธอก็แค่อยากกวนประสาทเขากลับไปก็เท่านั้นเอง
“ฉันด่าเธออยู่นะ”
“เขาบอกว่าเกลียดอะไรจะได้อย่างนั้น พี่ธีร์เกลียดชามากๆ นั่นก็แสดงว่าพี่ธีร์จะต้องรักชามากเหมือนกัน” ธนัตถ์ถึงกับกลอกตาเล่นพร้อมกับถอนหายใจออกมาดังๆ ไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาพูดต่อจากนี้ดี เพราะรู้สึกว่าพูดอะไรไปก็จะเข้าทางนิชาไปหมดทุกอย่าง
“ฉันต้องยอมแพ้เธอใช่มั้ย เธอถึงจะได้หยุดกวนประสาทฉัน” นิชาหันมายิ้มให้ก่อนจะเปลี่ยนประเด็นคุยเรื่องอื่นไปเมื่อเห็นเป้าหมายอยู่ตรงหน้า
“ข้างหน้าร้านบะหมี่อย่าลืมจอดให้ชาด้วยนะคะ” เป็นอีกครั้งที่ธนัตถ์ต้องถอนหายใจออกมา แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรตอบกลับมานอกจากเลี้ยวรถเข้าไปจอดข้างๆร้าน ตามที่หญิงสาวบอกเพราะว่าเขาเองก็เริ่มจะหิวแล้วเหมือนกัน
"ขอบคุณนะคะที่มาส่ง" นิชาหันมาพูดกับธนัตถ์ แต่ชายหนุ่มกับไม่ได้สนใจในสิ่งที่นิชาพูเปิดประตูรถเดินไปยังร้านบะหมี่หน้าตาเฉย โดยไม่ได้สนใจนิชาที่ยืนอ้าปากค้างกลางอากาศอยู่เลยสักนิด
"ใครกันแน่ที่ล้มหัวฟาดพื้น ตัวเองนั่นแหละที่ดูแปลกๆ รู้ตัวหรือเปล่าย่ะ" นิชาบ่นพึมพำตามหลังไป ก่อนจะรีบเดินตามธนัตถ์ไปติดๆ
"พี่ธีร์ จะกินบะหมี่เหมือนกันเหรอคะ" เอ่ยถามไขข้อสงสัยให้ตัวเองหายงุนงง พร้อมกับนั่งลงข้างๆธนัตถ์
"อืม ทำไมอ่ะ ฉันกินไม่ได้หรือไง" เอ่ยถามออกมาด้วยสีหน้าเรียบเฉยไม่บ่งบอกอารมณ์ใดๆออกมาทั้งสิ้น ต่างจากนิชาที่นั่งอ้าปากหวออีกครั้ง เขาต้องล้มหัวฟาดพื้นแน่ๆ เป็นไปได้ยังไงที่เขาจะมานั่งทานข้าวกับเธอ เพราะทุกครั้งที่ผ่านมาการที่เขาจะมานั่งร่วมโต๊ะกินข้าวกับเธอล้วนมาจากการถูกบังคับของคุณป้าหรืออาศัยความหน้ามึนของเธอบังคับเขาเท่านั้น
"มะ ไม่ใช่อย่างนั้นค่ะ ชาก็แค่แปลกใจเท่านั้น ก็ปกติพี่ธีร์ไม่ชอบขี้หน้าชาและก็ไม่ชอบนั่งกินข้าวกับชานี่นา"
"ตอนนี้ก็ไม่ชอบ แต่หิวโอเคป่ะ สงสัยอะไรอีกมั้ย"
"โห่ ตอบตรงจัง ไม่คิดจะรักษาน้ำใจกันบ้างเลยนะคะ... งั้นเดี๋ยวชาไปนั่งโต๊ะอื่นก็ได้ค่ะพี่ธีร์จะได้กินอร่อย" พูดจบนิชาก็ลุกขึ้นจะเดินออกไปจากโต๊ะตามที่พูดจริงๆ ถ้าไม่ติดตรงประโยคของธนัตถ์ที่พูดออกมา
"นั่งนี่แหละ อย่าเรื่องมากหิวแล้ว" นิชาชักสีหน้าไม่พอใจทันที
"ชาไม่ได้เรื่องมาก ก็พี่ธีร์บอกเองว่าไม่ชอบขี้หน้าชา แล้วจะทนนั่งกินกับคนที่ตัวเองไม่ชอบขี้หน้าทำไม"
"น้ำชา เป็นอะไรเนี่ย"
"ชาจะเป็นอะไรก็เรื่องของชา อยากกินก็กินไปเลยไม่กินแล้ว" พูดจบก็เดินหนีออกจากร้านมาทัน ธนัตถ์ได้แต่มองตามหลังไปอย่างอารมณ์เสียและไม่เข้าใจกับอารมณ์ที่ดูจะแปรปรวนของนิชา ก่อนจะถอนหายใจออกมา
"เป็นอะไรของเขาวะวันนี้"
ส่วนนิชาเมื่อเดินออกมาจากร้านก็ตรงดิ่งมายังคอนโดของตัวเองทันทีอย่างอารมณ์เสีย เปิดประตูเข้ามาในห้องนอนทิ้งตัวลงนอนบนเตียงอย่างหมดแรง พลางคิดถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อสักครู่แล้วก็ได้แต่ถอนหายใจออกมาเบาๆ
"เมื่อกี้แกเป็นอะไรวะนิชา แทนที่แกจะได้นั่งกินบะหมี่อร่อยๆกับพี่ธีร์สองคนอย่างที่แกอยากทำ แล้วแกไปเหวี่ยงใส่เขาทำไมวะ...ยัยนิชาแกต้องบ้าไปแล้วแน่ๆเลย" นิชาพลิกตัวไปมาบนที่นอนอย่างเสียดาย โอกาสทองมาถึงแทนที่จะคว้าไว้ดันไปเหวี่ยงใส่เขาซะงั้น ให้มันได้อย่างนี้สิยัยนิชา ยิ่งคิดก็ยิ่งเสียดาย นิชาลุกขึ้นมานั่งอย่างโมโหตัวเองก่อนจะลุกเดินเข้าไปในห้องน้ำและก็ถึงบ้างอ้อขึ้นมาทันที
"ว่าแล้วไง นี่ใช่มั้ยสาเหตุที่ทำให้แกอารมณ์แปรปรวน" นิชาเดินบ่นพึมพำออกมาจากห้องน้ำ เปิดตู้เสื้อผ้าหยิบผ้าอนามัยขึ้นมามองอย่างเซ็งๆ ก่อนจะเดินหัวฟัดหัวเหวี่ยงเข้าไปในห้องน้ำอีกรอบ
----------------------------------------------------------------------------------------------------------
น้ำชาาาาา ที่หนูอารมณ์หงุดหงิดโมโหเหวี่ยงวันทั้งวันเพราะเป็นประจำเดือนอย่างนั้นเหรอลูก ตายๆๆๆ นางเอกของไรท์ พอจะได้อยู่กับผู้ชายสองต่อสองก็พาลโมโหใส่เขาซะงั้น 5555
อ่านแล้วอย่างลืมส่งกำลังคอมเม้นเพิ่มพลังให้ไรท์ด้วยนะคะ