บทที่ 3 -เพื่อนสาว-

2121 คำ
เช้าวันต่อมา... “กลับบ้านไม่เกินสองทุ่ม ถ้าสองทุ่มเธอยังไม่ถึงคอนโด ฉันจะรายงานแม่เธอ” ชิ๊ กลับบ้านไม่เกินสองทุ่ม ไม่งั้นจะรายงานแม่เธอ ขี้ฟ้อง “รู้แล้วหนา พี่ย้ำกับพิ้งค์จนหลอนไปหมดแล้วเลิกทวนสักที่เถอะ” ก็มันจริงอะ เขาพูดประโยคนี้กับฉันตั้งแต่ก่อนออกจากห้องจนมาถึงลานจอดรถข้างล่างจนฉันหลอนไปหมดแล้วก็ยังทวนไม่หยุด ทวนอยู่นั้นแหละทวนจนฉันจำขึ้นใจ แล้วคือเห็นฉันเป็นเด็กป.1หรือไง เรียนเสร็จต้องรีบกลับบ้านห้ามไปเถลไถลที่ไหนอะ ชิ๊! “แล้วนี้จะให้พิ้งค์ขับคันไหนไปเรียนอะ” ฉันยืนกอดอกมองรถสองคันที่จอดอยู่ตรงหน้าด้วยความไม่สบอารมณ์ เริ่มอารมณ์เสียเพราะประโยคกวนใจของเขานั้นแหละ กะว่าจะไปมหาลัยด้วยใบหน้าเบิกบานสักหน่อย แต่ก็อย่างที่เห็นแหละทำฉันหน้าหงิกตั้งแต่เช้าเลย อารมณ์เสีย! “คันสีชมพูรถของเธอ” !!! ฉันหูผึ่งเบิกตาโตเท่าไข่หานทันทีที่ได้ยินว่ารถมินิคูเปอร์ที่จอดอยู่ตรงหน้าคือของฉัน จากที่อารมณ์เสียเมื่อกี้คือหายวับไปเลย คือเข้าใจความหมายของเธอในแบบฉันปะ มันหมายถึงว่ายกให้ฉันถูกไหม “เดี๋ยวพี่ทาม พี่บอกของพิ้งค์หมายถึงยกรถคันนี้ให้พิ้งค์ใช้เลยใช่ไหม” “แม่ซื้อให้เธอเป็นของขวัญวันเข้าเรียน” เห้ย! จริงเหรออารันซื้อให้ฉันจริง ๆ เหรอ แก~แม่สามีฉันใจดีเว่อร์อะ “อารันซื้อให้พิ้งค์จริง ๆ เหรอ” ฉันเดินเข้าไปหาตัวรถด้วยสีหน้าดีใจแบบสุดๆ ก่อนจะใช้นิ้วเรียวลูบไล้ตัวรถอย่างปลาบปลื้ม “งื้อ~ พิ้งค์ดีใจจัง” ฉันฟุบหน้าลงกับกระโปรงรถแล้วดุ๊กดิ๊กขาอย่างดีใจ แม่สามีใจดีเว่อร์อ่ะ ขนาดแม่ฉันยังไม่ซื้อให้เลย “เลิกดีใจแล้วขึ้นรถได้แล้ว เดี๋ยวก็ไปเรียนสายหรอก ดีใจเหมือนเด็กได้ตุ๊กตาไปได้” พี่ทามที่ยืนล้วงกระเป๋ากางเกงอยู่ข้างหน้ารถพูดเสียงเรียบด้วยมาดนิ่งๆหยิ่งๆของเขานั้นแหละก่อนจะเดินไปขึ้นรถออดี้อาร์แปดสุดหรูสีดำของเขาที่จอดอยู่ข้างๆรถฉัน ชิ๊ ตัวเองก็พูดได้สิเป็นลูกคนรวยนี่...ดีใจเหมือนได้ตุ๊กตาไปได้งั้นเหรอ นี่มันรถราคาเป็นล้านนะ! อีกอย่างไม่ให้ฉันดีใจที่ได้รถแล้วจะให้ฉันดีใจที่ได้เขาเป็นสามีหรือไง! เหอะ! ปึก! ฉันเลิกสนใจพี่ทามที่ขึ้นรถไปแล้ว แล้วหันมาเปิดประตูรถของตัวเอง ขึ้นไปนั่งให้เรียบร้อยก่อนจะปิดประตูรถในเวลาต่อมา จากนั้นก็พนมมือไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในรถก่อนอันดับแรกเพื่อความสิริมงคลก่อนจะสตาร์ทรถตามด้วยคาดเข็มขัดนิรภัยในเวลาต่อมา จากนั้นก็เข้าเกียร์แล้วเหยียบคันเร่งพุ่งทะยานออกไปจากลานจอดรถทันที จนกระทั่งถึงมหาวิทยาลัย ฉันก็เข้าไปจอดหน้าตึกคณะแพทยศาสตร์ของตัวเองอย่างปลอดภัย... @มหาวิทยาลัย “เฮ้อ~ ขับรถวันแรก...แกขับได้ตีนผีมากพิ้งค์ แต่ไม่เป็นไรขับเร็วก็ถึงเร็วแบบนี้แหละ” หลังจากที่จอดรถเสร็จแล้วฉันก็นั่งนิ่งคิดเรื่องการขับรถของตัวเองอยู่สักพักเพราะเมื่อกี้ฉันขับได้น่าไปสน.มาก แต่พอคิดได้ว่าขับเร็วก็ถึงเร็วฉันก็ฉีกยิ้มทันที เพราะขับเร็วก็ถึงเร็วจริงนั้นแหละถึงแม้จะโดนชาวบ้านชาวช่องบีบแตรไล่ด่าทอจนสนั่นทั่วถนนก็ตาม ก๊อก! ก๊อก! ขวับ! “พี่ทาม?” !!! “พี่ทาม!” เชี้ย~ อุ้ยตายคำหยาบ ฉันตีปากตัวเองทันทีที่หลุดคำหยาบออกไปอย่างอัตโนมัติเมื่อนึกขึ้นได้ว่าก่อนหน้านี้ฉันขับรถตามหลังรถของพี่ทามอยู่ แต่อยู่ ๆ ฉันก็มาถึงมหาวิทยาลัยก่อนพี่ทามสะอีกไม่รู้ว่าแซงพี่ทามไปตอนไหน แล้วคือสภาพการขับรถของฉันเมื่อกี้คือ... ตายแล้วฉันตายแน่ ๆ “ตายแน่ยัยพิ้งค์โดนพี่ทามดุแน่แก หน้าขมึงทึงมาด้วย” ปึก! ฉันค่อยๆลงจากรถด้วยสีหน้าที่หดลงเหลือนิดเดียวแบบไม่ค่อยจะสู้ดีเท่าไหร่นัก เพราะตอนนี้พี่ทามเขายืนจ้องหน้าฉันตานิ่งเลยแถมยังเท้าเอวอีก เขาต้องโกรธฉันแน่ ๆ ที่ขับรถเร็วชนิดฟาสแปดขนาดนั้น “พี่ทาม~ คือพิ้งค์...” ฉันเรียกชื่อพี่ทามเสียงอ่อยพลางทำหน้าจ่อยเหมือนน้องหมาง่องแง่งเบาๆ “แซงซ้ายแซงขวาแบบนั้นคิดว่าตัวเองอยู่ในสนามแข่งรถหรือไง” นั้นไง ฉันว่าแล้วว่าต้องโดนดุแน่นอน คือฉันแค่ดีใจที่ได้ขับรถก็เลยลืมตัวเหยียบคันเร่งลึกไปหน่อย ทำไงดีจะเถียงกลับก็ไม่ได้เพราะหลักฐานมันคาตา งั้นยอมรับไปเถอะ “พิ้งค์ลืมตัวอะ แต่พิ้งค์สัญญานะต่อไปนี้จะขับช้า ๆ แบบเต่าล้านปีเลย แฮร่ๆ” พูดจบฉันก็หัวเราะแห้งๆกลบเกลื่อนกลับไป ในขณะที่พี่ทามเอาแต่ยืนจ้องหน้าฉันนิ่งไม่พูดอะไรออกมาสักคำ ถามว่าอึดอัดไหม อึดอัดมาก ฉันก็เลยคิดว่า...ฉันไม่ควรอยู่ตรงนี้นานไปมากกว่านี้แล้วแหละ ก็เลยค่อยๆขยับเท้าถอยหลังออกไปที่ละก้าวสองก้าวช้า ๆ ก่อนจะยกมือไหว้พี่ทามแล้วพูดว่า... “พะพิ้งค์ ๆ...ปะไปก่อนนะคะ บาย” จากนั้นก็...ตึกตึกตึก รีบหมุนตัวชิ่งออกมาเลย วิ่งตุบๆโดยไม่หันหลังไปมองพี่ทามด้านหลังแม้แต่นิดเดียว เพราะกลัวว่าภาพสีหน้าถมึงทึงนั้นจะติดตาเอา ไม่งั้นวันนี้ฉันเรียนไม่เข้าหัวแน่ หลอน! พอวิ่งมาไกลจนมาถึงในคณะแล้ว ฉันก็หยุดวิ่งแล้วสลับเป็นเดินแทน ก่อนจะรีบเดินเร็วๆอีกครั้งเพื่อไปขึ้นลิฟต์รวมกับคนอื่น ๆ ที่กำลังจะขึ้นไปชั้นบนเหมือนกัน ติ๊ง. ตุบ! “อ๊ะ! ขอโทษค่ะ” ฉันชนผู้ชายคนหนึ่งหลังจากที่เดินออกมาจากลิฟต์ แต่ไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร จนกระทั่งที่เขาหันมาทางฉัน... โห่... สูง หล่อ ขาว งานดีมาก “ไม่เป็นไรครับ” พูดจาเพราะอีก ผู้ดีจากไหนเนี่ย “เอ๋อ...ค่ะ งั้นขอตัวก่อนนะคะ” “ครับ” ฉันก้มหัวลงเบาๆอย่างเขินๆให้เขาก่อนจะเดินออกมาจากตรงนั้น แต่พอเดินออกมาได้ไม่นานฉันก็อยากกระโดดโลดเต้นทันที เพราะเขา...หล่อมาก!! ตัวก็หอมมากด้วย อร๊าย! พิ้งค์อยากแจกเบอร์อะ ^^ ฉันเดินพร้อมเอี่ยวตัวหันไปดูเขา บิดตัวด้วยความเขินอายจนกล้ามเนื้อคอหดเกร็งไปหมด แต่สุดท้ายก็ต้องหันกลับมาทางเดิมเมื่อแผ่นหลังกว้างๆนั้นหายไปกับเสาอาคารในที่สุด ฉันถึงได้กลับมาเดินแบบคนปกติทั่วไป ถ้าฉันเจอเขาอีกนะ บอกเลยมีแจกเบอร์สามตัวหลังแน่! ฮึ่ย! มันเขี้ยวผู้ชายหล่อ! ห้องเรียน 208 หาเจอสักที... หลังจากที่เดินหาห้องเรียนอยู่สักพักฉันก็เจอห้องเรียนของตัวเองสักที หาจนเกือบจะท้อแล้วกลับไปนอนแล้วนะ แต่นึกถึงความยากลำบากที่กว่าจะสอบเข้ามาได้ก็เลยพยายามต่อจนเจอ ฟุบ! ฉันนั่งลงที่โต๊ะแถวกลางของห้องหลังจากที่เดินเข้ามาข้างใน ...แต่นั่งได้ไม่ถึงห้านาทีจู่ ๆ ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งน่าตาสะสวยใช้ได้เลย จนฉันยังคิดเลยว่าผู้หญิงอะไรใช้ความสวยเปลืองมาก อ้อลืมบอกเธอมายืนค้ำหัวจ้องฉันเบาๆก่อนจะขยับปากสวยๆนั้นพูดกับฉัน “เธอนั่งที่ของฉัน” ฉันก้มลงมองที่เก้าอี้ของตัวเองทันทีก่อนจะเงยหน้าขึ้นไปมองเธอนิดๆด้วยความสงสัยว่า...โต๊ะมีตั้งหลายตัวจำเป็นไหมที่ต้องมานั่งโต๊ะนี้โต๊ะเดียว ทำเป็นเด็กมอปลายที่ชอบจองโต๊ะในห้องเรียนไปได้ แต่ด้วยความที่ไม่อยากมีปัญหากันฉันเลยยอมขอโทษเธอไป “อ้อ โทษที” ฉันขยับไปนั่งที่โต๊ะอีกตัวที่อยู่ข้างๆแทนพร้อมกับฉีกยิ้มเป็นมิตรให้เธอ ยอมเพราะเห็นว่าสวยกว่าหรอกนะถ้าสวยเท่ากันฉันกระโดดถีบไปแล้ว หมั่นไส้! “เธอชื่ออะไรอะ” “เราเหรอ...” ฉันชี้มาที่ตัวเองแบบงงๆหลังจากที่ถูกถามชื่อ “อื้ม เธอนั้นแหละถ้าไม่ใช่เธอแล้วจะเป็นใคร ในห้องนี้มีเธอกับเราสองคนที่นั่งอยู่” พอผู้หญิงหน้าสวยคนนี้พูด ฉันก็ปรายตามองไปรอบ ๆ ห้องทันทีก่อนจะเจอกับ... “...” “...” เอ๋อ..ความว่างเปล่าและเงียบสนิทชนิดที่ท้องร้องยังได้ยิน อะไรคือการเรียนวันแรกแต่ยังไม่มีใครมา มีแค่ฉันกับยัยหน้าสวยคนนี้สองคนที่นั่งเอ๋ออยู่เหรอ แต่ช่างมันเถอะมาทำความรู้จักกับคุณคนสวยกว่าข้างๆฉันดีกว่า “เอ่อ...เราชื่อน้ำพิ้งค์อะ แล้วเธออะ” “เราชื่อสวย” หื้ม...นางชื่อสวยสมหน้าตามาก สวยสมชื่อ! อยากให้คนอื่นอิจฉาตาร้อนลุกขึ้นมาตบเหรอ ถึงได้ตั้งชื่อไม่ดูคนข้างๆเลย “อ้อ ยินดีที่ได้รู้จักนะ” “อื้ม เช่นกัน” “...” “...” ปึก! ตึก ตึก ตึก “เฮลโล่วเฟรนส” หลังจากที่ฉันกับสวยทำความรู้จักกันไปเรียบร้อยแล้ว ฉันกับสวยก็นั่งเงียบกริบไม่มีใครพูดต่อหลังจากนั้น แต่ไม่นานประตูที่ถูกปิดอยู่ก็ถูกผลักออกโดยใครบางคน ใครบางคนที่เดินเข้ามาอย่างกับนางงามจักรวาลด้วยหน้าตาและจริตจะก้านที่ไม่ธรรมดา เพราะเธอเดินเหมือนกำลังเดินอยู่บนพรหมแดงแล้วหมุนตัวฟูลเทิร์นจนเกือบหน้าคะมำตรงหน้าฉันกับสวย ยัยนี้ดูมิสยูนีเวิร์สมากไปปะ หมุนสะฉันเวียนหัวเลย ฟุบ! ขวับ! “ฮาย~มายเฟรนส ว้อช เยอรเน๊ม” เอ่อ...หันขวับมาขนาดนั้นคอเคล็ดยังอะ แต่เอาเถอะคอเคล็ดก็ไปดามเฝือกเอาเองละกันนะ “เอ่อ...มายเนมอิส วอเตอร์พิ้งค์ แอนท์ ชี เนม บิวตี้ฟูล” ขวับ! เอาสิภาษาฝรั่งมาฉันก็ภาษาฝรั่งกลับนั้นแหละ “โอ้วเยียร์ วอเตอร์พิ้งค์แอนท์บิวตี้ฟูล...ไนททูมิทยูว มายเน๊มอิสชิลลี่ไทยแลนด์ ^^” ชิลลี่ไทยแลนด์? เดี๋ยวนะชีลลี่ไทยแลนด์นี่ใช่พริกไทยปะ น่าจะใช่แหละ “อ้อ เยียร์ ไนท์ทูมิทยูทูว” แล้วฉันก็ยื่นมือไปเช็คแฮนด์กับนางมิสยูนีเวอร์สที่ยื่นมือมาข้างหน้าฉันกับสวยด้วยรอยยิ้มนางสาวไทย “พวกเธอมาจากจังหวัดอะไรกันเหรอ” คุณชีลลี่ไทยแลนด์ถามฉันกับสวย “...เรามาจากเชียงใหม่อะ” ฉันตอบกลับไป “เรามาจากกรุงเทพ” คุณสวยตอบ แต่เดี๋ยวนะมันจะมาจากกรุงเทพได้ไงก็มันอยู่กรุงเทพแล้ว มึงงงอะไรปะเนี่ยสวย “อ่า~ เรามาจากขอนแก่น” “นี่ วอเตอร์พิ้งค์” “เอ่อ...เรียกพิ้งค์เฉยๆก็ได้” ฉันบอกด้วยด้วยสีหน้ายิ้มแห้งๆ “อ่าๆพิ้งค์...พวกเธอคิดยังไงถึงได้มาเรียนแพทย์อะ เอาเธอก่อนคุณสวย นั่งเงียบเป็นผู้ดีเชียวนะ” “ที่บ้านเราให้เรียนเพราะจะได้ช่วยดูแลธุรกิจนะ” “ธุรกิจบ้านเธอป่วยเหรอ...หยอกๆ ^^” “ไม่ได้ป่วยหรอกพ่อเราแค่อยากให้เรียนแล้วช่วยแบ่งเบางานกับพี่ชายเรา” “อ้อ...แล้วเธออะพิ้งค์” “เราคิดว่า...คณะนี้ผู้ชายหล่อดีก็เลยเรียน” “เห้ย!! จริงดิสุดยอดเลยอะที่โลกเหวี่ยงเราสองคนมาเจอกัน ฮ่าๆ เราก็คิดเหมือนเธอเราถึงได้ลงเรียนคณะนี้” พริกไทยลุกขึ้นมากอดฉันแล้วเขย่าตัวฉันแรงๆเหมือนมันคลั่งอะไรสักอย่างก่อนจะกลับไปนั่งที่เดิม เอาละฉันว่า...ฉันได้อะไรเยอะจากการมาเรียนก่อนเวลาในวันนี้แล้วแหละ อย่างเช่นเพื่อนอย่างพริกไทยดูเหมือนมันจะศิลเสมอกับฉันอยู่นะ ส่วนยัยสวยข้างๆฉันนั้น....ปล่อยให้มันนั่งสวยต่อไปเถอะ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม