เตวิช.....
"ให้กำลังใจผมด้วยละกันนะครับ^^" ผมนี่กำหมัดแน่นเลยอยากเอาหมัดไปตั้นหน้ามันซะจริงๆ จากไอ้สุภาพที่ผมพอจะรู้จักวันนี้มันทำไมกวนตีนได้ขนาดนี้ผมไม่เข้าใจละอีกอย่างอลิซก็เข้าข้างมันผมว่าอะไรมันไม่ได้เลย
"เตนายกลับไปก่อนก็ได้นะเดี๋ยวฉันจะไปหาน้องติณณ์กับพี่มาร์ชเอง"
"ไม่!!!" ตอบเสร็จผมก็เดินนำหน้าสองคนนั้นไปหาน้องติณณ์
"ปะป๊าค๊าบบบ ปะป๊า" พอผมเดินมาถึงน้องติณณ์ก็วิ่งออกมาหาผมทันทีผมอุ้มลูกขึ้นมากอด
"ว่าไงครับ"
"ผมอยากได้หุ่นยนต์ตัวนั้นจังเลยค๊าบ" น้องติณณ์ชี้ไปที่หุ่นยนต์ที่มีเด็กคนนึงกำลังถือไว้อยู่
"ได้ครับเดี๋ยวปะป๊าพาไปซื้อเนอะ^^"
"ปะป๊าใจดีที่สุดเลยค๊าบบบ^^"
"ปะงั้นเราไปซื้อกันเลยเนอะ" แต่ไม่ทันทีผมจะอุ้มลูกไปแผนกของเล่นอลิซก็รีบเดินมาหาผมทันที
"นายจะพาน้องติณณ์ไปไหน"
"ปะป๊าจะพาผมไปซื้อหุ่นยนต์ค๊าบแม่"
"ใช่ เธอมีปัญหาอะไร"
"นายก็รู้ว่าฉันจะพาน้องติณณ์ไปบ้านพี่มาร์ช"
"เธอจะไปก็ไปคนเดียวฉันจะพาลูกไปซื้อของเล่นแล้วก็จะพาไปบ้านปัากับม๊า"
"นายอย่าทำแบบนี้ได้มั้ยเต"
"ทำอะไรฉันทำอะไร" ผมตีมึนทั้งที่รู้ตัวเองดีว่าทำอะไรอยู่
"ก็ทำแบบที่นายทำอยู่ตอนนี้ไง"
"แล้วไงน้องติณณ์ก็ลูกฉันเหมือนกันผิดตรงไหนที่ฉันจะพาลูกไปไหนมาไหน"
"นายไม่ผิดหรอกแต่นายก็รู้ว่าพี่มาร์ชเค้า..."
"น้องติณณ์ครับเราไปกันเถอะเนอะ อยากได้ตัวไหนปะป๊าซื้อให้ทุกตัวเลยดีมั้ยครับ" ผมตัดบทกับอลิซแล้วหันไปพูดกับลูกแทน
"ค๊าบบบบบ^^" หลังจากนั้นผมก็ไม่สนใจคนทั้งคู่เดินอุ้มลูกไปยังแผนกของเล่นทันที เพราะผมคิดว่ายังไงๆอลิซก็คงเดิมตามมาเอง แต่สรุปไม่มาครับเธอส่งข้อความมาบอกว่าให้ผมพาน้องติณณ์ไปส่งที่โรงแรมด้วยส่วนเธอจะไปทานข้าวบ้านไอ้มาร์ช ผมอ่านข้อควา่มแล้วควันออกหูทันทีอลิซเห็นผู้ชายคนอื่นสำคัญกว่าลูกกว่าผัว(เก่า)อย่างผมได้ไงวะ คิดละมันเจ็บใจชะมัดทำไมผมต้องรู้สึกโกรธขนาดนี้ด้วยวะ
อลิซ....
หลังจากส่งข้อความไปบอกเตเสร็จฉันก็เดินตามพี่มาร์ชมาที่ลานจอดรถ อันที่จริงฉันก็อยากปฏิเสธแต่เพราะฉันเคยปฏิเสธพี่มาร์ชไปหลายรอบแล้วด้วยความเกรงใจด้วยก็เลยมากับเขาและอีกอย่างตอนนี้ฉันก็ให้โอกาสพี่มาร์ชอยู่
"ขอบคุณนะครับลิซที่ยอมไปทานข้าวบ้านพี่ ยัยเมย์ต้องดีใจมากแน่"
"เอ่อพี่มาร์ชคะที่เตเค้าพูดไม่ดีกับพี่ลิซขอโทษแทนเตเค้าด้วยนะคะ"
"ไม่เป็นไรครับพี่ไม่ใส่ใจอยุ่แล้ว และอีกอย่างพีก็ไปกวนใส่เค้าก่อนด้วยก็ไม่แปลกที่เค้าจะโมโหใส่" พี่มาร์ชตอบพร้อมกับยิ้มอบอุ่นมาให้ จะบอกว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ฉันนั่งรถมากับพี่มาร์ชสองต่อสอง เมื่อสมัยตอนที่ฉันเรียนอยู่ก็ได้พี่มาร์ชนี้แล่ะคอยขับรถไปรับส่งฉันที่โรงเรียนช่วงที่พ่อกับแม่ไปทำงานต่างประเทศ ท่านทั้งสองไว้ใจพี่มาร์ชมาก จนมาห่างกันกับพี่มาร์ชก็ช่วงที่ฉันเป็นแฟนกับเตวิชนั่นแล่ะ
ครึ่งชั่วโมงต่อมาฉันก็มาถึงบ้านพี่มาร์ชโดยมียัยเมย์ยืนรออยู่หน้าประตู
"นึกว่าจะไม่มาซะแล้ว"
"มาสิจ๊ะ^^"
"แล้วน้องติณณ์ล่ะ" ยัยเมย์หันไปมองข้างหลังเพื่อมองหาน้องติณณ์
"น้องติณณ์ไปกับพ่อเขาน่ะ"
"อ้าวเหรอ น้องมุ่ยก็รอเก้อล่ะสิเนี้ย ฉันบอกกับน้องมุ่ยว่าเดี๋ยวแกจะพาน้องติณณ์มาเล่นด้วย เห้อละชั้นจะตอบหลานยังไงล่ะเนี๊ย><"
"เอาน่า น้องมุ่ยไม่ใช่เด็กไม่มีเหตุผลนะยัยเมย์เดี๋ยวพี่บอกแกเอง" เป็นพี่มาร์ชที่ตอบน้องสาว
"คุยเลยนะ แล้วอย่าให้หลานน้อยใจล่ะ"
"ค๊าบบบคุณน้องบังเกิดเกล้า" พี่มาร์ชประชดน้องสาวก่อนจะเดินนำพาฉันกับยัยเมย์เข้าไปยังในบ้านพอเข้ามาก็เจอพ่อแม่พี่หมวยพี่เขยกับน้องมุ่ยที่กำลังนั่งกันอยู่ที่ห้องรับแขก
"สวัสดีค่ะ คุณพ่อคุณแม่ สวัสดีค่ะพี่หมวยพี่เอก สวัสดีจ๊ะน้องมุ่ย^^"
"อาลิซขาน้องติณณ์อยู่ไหนเหรอคะ"
"เอ่อคือน้องติณณ์..." ฉันไม่รู้จะบอกน้องมุ่ยยังไงจนพี่มาร์ชออกหน้าบอกเหตุผล
"น้องติณณ์ไม่ได้มาครับน้องไม่ค่อยสบายเนอะ ไว้ถ้าน้องหายแล้วอาจะพาน้องมุ่ยไปเล่นกับน้องติณณ์นะครับ" พี่มาร์ชตอบคำถามน้องมุ่ยเสร็จก็หันมายิ้มให้ฉันก่อนจะพูดขอโทษเบาๆที่ไปอ้างกับน้องมุ่ยว่าน้องติณณ์ไม่สบายทั้งที่แกไม่ได้เป็นอะไรแต่ฉันก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะฉันเองก็หาเหตุผลให้น้องมุ่ยไม่ได้เหมือนกัน
"น้องไม่สบายเหรอค๊าอามาร์ช"
"ใช่ครับ อ่ะอามีของฝากมาให้น้องมุ่ยด้วย" พี่มาร์ชพูดจบก็ยื่นถุงของเล่นที่เราแวะซื้อกันก่อนกลับให้กับน้องมุ่ย
"ขอบคุณค่าาา" น้องมุ่ยยกมือไหว้พี่มาร์ชอย่างนอบน้อม ฉันมองน้องมุ่ยแล้วก็อดสงสารแกไม่ได้เมื่อได้รู้ถึงความเป็นมาของแก ฉันไม่รู้หรอกว่าถ้าวันนึงน้องมุ่ยรู้ความจริงเรื่องพ่อกับแม่ของเธอเธอจะรู้สึกยังไง ฉันรู้ว่าทุกคนต่างมีเหตุผลที่ปิดบังน้องมุ่ยในตอนนี้แต่ถ้าถึงวันหนึ่งฉันมั่นใจว่าทุกคนคงจะต้องบอกความจริงกับเธอเพราะความจริงมันไม่สามารถปิดบังไปได้ตลอดให้เธอได้รู้ความจริงจากปากของคนในครอบครัวดีกว่าไปฟังจากปากคนอื่น มันทำให้ฉันคิดไปถึงน้องติณณ์เหมือนกันถ้าวันนึงฉันพูดความจริงเรื่องป๊าของแกแกจะรู้สึกยังไง ฉันหวังว่าแกจะเข้าใจนะ
และหลังจากทานอาหารกันเสร็จพี่หมวยกันถามพี่มาร์ช
"เออมาร์ชสิ้นเดือนนี้พี่กานพี่เลี้ยงน้องมุ่ยแกจะลาออกแล้วนะ"
"สิ้นเดือน...ก็อีกแค่ไม่กี่วันแล้วสิครับ"
"ใช่ไง พี่นี่มึนตึ๊บเลยไม่รู้จะไปหาใครมาเป็นพี่เลี้ยงน้องมุ่ย"
"แล้วพี่กานแกจะลาออกทำไมปุบปับครับแกอยู่กับเรามาตั้งนาน"
"เห็นบอกแม่ที่บ้านนอกแก่แล้วไม่มีใครดูแลแกก็เลยอยากกลับไปดูแลน่ะพี่ก็เลยไม่รู้จะพูดยังไง พ่อแม่ใครๆก็รัก"
"เอางี้ไว้พรุ่งนี้ผมจะลองประกาศหาพี่เลี้ยงคนใหม่ละกัน"
"ขอบใจจ๊ะ" ฉันที่นั่งฟังอยู่จู่ๆก็คิดไปถึงผู้หญิงคนนี้เตวิชขับรถชนเมื่อวาน เตวิชบอกเธออยากทำงาน มันจะโอเคมั้ยนะถ้าฉันจะบอกเตให้พาเธอมาทำงานที่นี่ แต่ฉันก็ไม่ได้รู้จักเธอคนนั้นฉันไม่รู้ว่าเธอเป็นคนดีมั้ยนี่สิ ประวัติอะไรเธอก็ไม่มี แต่จากที่เตเล่าฉันรู้สึกสงสารเธอเหมือกันนะ ไม่มีที่ไปพ่อแม่ก็ไม่ต้องการซ้ำแฟนยังมานอกใจอีกเธอคงหมดหนทางจริงๆถึงอยากจะฆ่าตัวตายแม้การฆ่าตัวตายของเธอมันจะทำให้เตเกือบกลายเป็นผู้ต้องหาฆ่าตัวตายก็ตาม
"พี่มาร์ชคะพี่ไปส่งลิซที่โรงพยาบาลxxxxหน่อยได้มั้ยคะ" ฉันพูดกับพี่มาร์ชเมื่อขึ้นมาบนรถ
"ลิซไม่สบายเหรอ" พี่มาร์ชกันมาถามฉันทันทีด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง
"เปล่าค่ะ คือลิซอยากไปเยี่ยมคนๆนึงค่ะ" ฉันไม่รู้หรอกว่าที่ทำอยู่มันถูกหรือเปล่า แต่ฉันก็อยากช่วยเหลือผู้หญิงคนนั้น เพราะถ้าฉันเป็นเธอฉันก็คงมีความคิดไม่ต่างจากเธอ
"เพื่อนเหรอ"
"เปล่าหรอกค่ะ ไว้ถึงแล้วลิซจะเล่าให้ฟังนะคะ"
หนึ่งชั่วโมงต่อมาฉันก็มาถึงโรงพยาบาลที่เตพาฉันมาเมื่อเช้า หลังจากถามกับเจ้าหน้าที่และบอกกับเจ้าหน้าที่ว่าฉันเป็นเพื่อนของเตวิชถ้าไม่เชื่อให้โทรถามเขาได้ จากนั้นฉันก็เห็นพี่เจ้าหน้าที่พยาบาลโทรไปหาเตวิชเพื่อสอบถาม หลังจากวางสายพี่พยาบาลก็พาฉันมายังโซนห้องพักผู้ป่วยโดยมีพี่มาร์ชเดินมามตาติด
"ขอบคุณค่ะ" ฉันกล่าวขอบคุณพี่พยาบาลหลังจากมาส่งฉันถึงหน้าห้องพักผู้ป่วย หลังจากพี่พยาบาลเดินไปแล้วฉันก็เคาะประตูห้องเบาๆก่อนจะค่อยๆเปิดเข้าไปอย่างช้าๆ
"คุณเป็นใครคะ" หญิงสาวที่นั่งอยู่บนเตียงในชุดผู้ป่วยหันมาถามฉัน ฉันมองหน้าเธอสายตาของเธอเหมือนเพิ่งผ่านการร้องไห่มาหมาดๆ
"เอ่อคือฉันเป็นเพื่อนเตวิชคนที่ขับรถชนคุณน่ะค่ะ"
"เค้าไม่ได้ขับรถชนฉันหรอกค่ะฉันเป็นคนวิ่งเข้าไปให้รถเขาชนเอง" ผู้หญิงคนนั้นพูดพร้อมกับปล่อยโฮออกมา ฉันรีบเข้าไปใกล้แล้วจับมือเธอที่มีสายน่้ำเกลือติดอยู่ตรงหลังมือ
"คุณชื่อวิมลใช่มั้ยคะ เตบอก"
"ค่ะคุณเรียกฉันว่ามลเฉยๆก็ได้ค่ะ"
"ฉันชื่ออลิซนะคะ ส่วนนี่พี่มาร์ชเป็น.."
"เป็นว่าที่แฟนของอลิซครับ" พี่มาร์ชตอบเองเสร็จสรรพจนฉันต้องหันไปมอง
"พี่พูดไม่ถูกตรงไหนครับ^^"
"คุณสองคนเหมาะสมกันจังเลยนะคะ คุณลิซก็สวยคุณมาร์ชก็หล่อ"
"ขอบคุณครับที่ชม"
"เอาล่ะค่ะมาเข้าเรื่องกันดีกว่า คือเมื่อเช้าเตบอกกับฉันว่าคุณไม่มีที่ไป แล้วก็อยากทำงานใช่มั้ยคะ"
"ใช่ค่ะ มลอยากทำงานเพราะตอนนี้มลไม่มีเงินติดตัวเลย ค่ารักษาพยาบาลก็ยังไม่รู้จะเอาที่ไหนมาจ่าย คุณเตบอกว่าจะจัดการเรื่องค่าใช้จ่ายให้แต่มลก็เกรงใจเพราะมลทำให้คุณเตเดือดร้อนเกือบกลายเป็นฆาตกร"
"เตเค้าไม่คิดแบบนั้นหรอกค่ะ เค้าสงสารคุณมากต่างหาก" ฉันพยายามปลอบใจวิมลเพราะเธอเอาแต่โทษตัวเอง
"ถึงอย่างงั้นก็เถอะค่ะ ฉันอยากตอบแทนบุญคุณเขา เขาจะให้ฉันไปทำงานเป็นแม่บ้านเป็นคนใช้อะไรก็ได้ฉันทำได้หมด ส่วนค่าแรงฉันจะไม่เอาก็ได้ค่ะขอแค่มีที่ซุกหัวนอนให้ฉันก็พอ"
"คุณเลี้ยงเด็กเป็นมั้ยคะ"
"เลี้ยงเด็กเหรอคะ"
"ใช่ค่ะ เด็กประมาณสามสี่ขวบ"
"ฉันเคยเป็นพี่เลี้ยงเด็กที่เนิสเซอรี่มาก่อนค่ะ" พอไกด้ยินแบบนั้นฉันก็ยิ้มออกมาก่อนจะหันไปหาพี่มาร์ชที่ยืนกอดอกมองอยู่
"พี่มาร์ชคะจะเป็นไปได้มั้ยถ้าพี่จะรับวิมลเป็นพี่เลี้ยงน้องมุ่ย"
"พี่พูดตามตรงนะ เอ่อคุณมลอย่าว่างั้นงี้เลยนะ คือผมก็ไม่เคยรู้จักคุณประวัติความเป็นมาของคุณผมก็ไม่รู้ เดี๋ยวนี้พวกมิจฉาชีพมันเยอะผมไม่รู้ว่าผมจะไว้ใจคุณให้ดูแลลูกสาวผมได้หรือเปล่า" ฉันเข้าใจที่พี่มาร์ชพูดนะ ฉันก็ลืมคิดถึงข้อนี้ไปเลย