นอนกับฉัน คิดเท่าไหร่
เท่าที่ประเมินจากสายตาคร่าวๆ เขาเป็นผู้ชายที่รูปร่างสูงโปรง อกผาย ช่วงไหล่กว้าง ดูก็รู้ว่าคงเป็นคนที่รักการออกกำลังกายมาก และคำนวณจากความยาวของท่อนขาคาดว่าเขาน่าจะสูงเกือบๆ ร้อยเก้าสิบเซนติเมตร ผมทรงเจนเทลแมนถูกเซ็ตปัดไปข้างหลังเผยใบหน้าคมเข้มชัดเจน แต่แอบตาตี๋นิดๆ สวมเสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อน กางเกงสแล็กขายาวสีดำเผยให้เห็นข้อเท้าเล็กน้อย ใส่คู่กับรองเท้าหนังแบรนด์หรูสีดำ
"โอ้โห ไม่ต้องคิดถึงโพรไฟล์เลย แค่บุคลิกกับหน้าตาก็ผ่านฉลุยแล้วป้ะ" กานต์พิชชาเอ่ยขึ้นตาโตเมื่อมองชายหนุ่มที่วิลาสินีชี้ให้ดูชัดๆ
"ไหนๆ ขอฉันดูบ้าง" ดาวิกาที่ความรู้สึกช้ากว่าเพื่อนรีบยื่นหน้าเข้ามามีส่วนร่วมในการส่องผู้ชาย ก่อนจะต้องเบิกตากว้างเมื่อเห็นผู้ชายที่เป็นเป้าหมายของเพื่อนในคืนนี้ "นั่นมันแฟนยายเลม่อนเน่านี่"
"เลม่อนไหน" จิราวดีขมวดคิ้วถามอย่างไม่เข้าใจ
"ก็ยายมะนาวไง ที่มันชอบแย่งผู้แกบ่อยๆ ตอนม. ปลายอะ"
ดาวิกาหมายถึงมาริสาหรือมะนาว คู่ปรับเก่าของจิราวดีตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมโรงเรียนเดียวกัน ด้วยความไม่ชอบขี้หน้าทำให้ดาวิกามักจะเรียกมาริสาว่ายายเลม่อนเน่า ทั้งที่จริงๆ แล้วมาริสามีชื่อเล่นว่ามะนาว
"แล้วแกรู้ได้ยังไงว่าผู้ชายคนนั้นเป็นแฟนยายเลม่อนเน่า"
กานต์พิชชาถามอย่างสงสัย ซึ่งเป็นคำถามที่ทุกคนก็สงสัยเช่นกัน
"แหม เรื่องเผือกไว้ใจนี่" ว่าแล้วก็ชี้นิ้วเข้าหาตัวเองอย่างภาคภูมิใจที่สุด ถึงแม้จะเป็นคนสมองช้านิดหนึ่ง แต่เรื่องกินเผือกต้องยกให้ดาวิกาเป็นที่หนึ่ง "ก็วันนั้นฉันพาคุณย่าไปหาหมอที่โรงพยาบาล
แล้วบังเอิญเจอยายเลม่อนเน่าเดินมากับผู้ชายคนนู้นอะ ท่าทาง
กระหนุงกระหนิง ตอนแรกฉันก็ไม่ใส่ใจหรอก แต่เพราะความหล่อของเขามันเตะตาฉันไง ก็เลยเพ่งมองนานหน่อย ก็เลยเห็นว่าผู้หญิงที่เดินข้างๆ คือยายเลม่อนเน่า"
"เออ แต่หล่อจริง" กานต์พิชชาพยักหน้าเห็นด้วย เพราะชายหนุ่มที่ตกเป็นเป้าสายตาของพวกเธอตอนนี้หล่อจริงๆ นี่ขนาดมองไกลๆ ยังรู้ว่าหล่อมาก
"ใช่ แถมเป็นศัลยแพทย์มือหนึ่งของประเทศด้วยนะ" ดาวิกาโม้ต่อ
"เป็นหมอ?" จิราวดีเลิกคิ้วนิดๆ
"ใช่แล้ว เป็นหมอ แล้วที่สำคัญเขาเป็นหมอในโรง’บาลพ่อแกด้วย" บังเอิญจังแฮะ จิราวดีคิด
"ใช่ๆ เขาเป็นหมอ ที่ฉันบอกว่าโพรไฟล์เริ่ดก็เพราะเป็นหมอที่เก่งนี่แหละ" วิลาสินีสาวสังคมของกลุ่มพูดเสริมขึ้น "ก็อย่างที่ยายดิวบอกนั่นแหละ ความหล่อของเขามันเตะตา ที่สำคัญเขามาที่คลับนี้ประจำฉันก็เลยได้เจอเขาบ่อยเลยรู้ว่าโพรไฟล์เริ่ด แต่ไม่ยักกะเคยเห็นยายเลม่อนเน่าสักครั้ง"
"ถ้าหล่อและโพรไฟล์เริดขนาดนั้นทำไมแกไม่กินเอง มาแนะนำให้ฉันทำไม" จิราวดีถามในสิ่งที่ตัวเองสงสัย วิลาสินีถือได้ว่าเป็นสาวสังคมของกลุ่ม รู้จักคนนั้นคนนี้ไปทั่ว เป็นคนที่คุยเก่ง มีเสน่ห์ดึงดูดเพศตรงข้ามเป็นอย่างมาก เพียงแค่ขยิบตาให้เพียงครั้งเดียวพวกผู้ชายก็เป็นต้องยอมสยบแทบเท้าของเพื่อนเธอคนนี้ จิราวดีจึงแปลกใจว่าคนที่
โพรไฟล์ดี แถมยังมีความหล่อเตะตาขนาดนี้ จะรอดพ้นจากวิลาสินีเพื่อนของเธอไปได้ยังไง
"ตรงๆ เลยนะ รู้แล้วเหยียบให้มิดเลยโอเคไหม" วิลาสินีว่าด้วย
สีหน้าจริงจัง เพื่อนทั้งสามก็พร้อมใจกันพยักหน้ารับปากอย่างแข็งขัน เพราะรู้ว่าถ้าเพื่อนพูดมาทำนองนี้ต้องเป็นความลับชัวร์! วิลาสินีมองหน้าเพื่อนแล้วสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะเอ่ยบอกเสียงหงอย
"เขาไม่เอาฉันอะ"
"ถามจริง!?" กานต์พิชชาถามกลับด้วยความช็อกนิดๆ วิลาสินีจึงพยักหน้ายืนยัน "เป็นไปได้ยังไง"
"อย่าไปเล่าที่ไหนนะ อายว่ะ คนแรกเลยนะที่กล้าปฏิเสธฉันอะ"
"แล้วคืนนี้เขาจะเอาไอ้แจนเหรอวะ" ดาวิกาที่นิ่งคิดไปสักพักเอ่ยถามออกมา และไอ้แจนที่วิลาสินีพูดถึงก็คือจิราวดี
"นั่นสิ" กานต์พิชชาพยักหน้าเห็นด้วยกับคำถามของวิลาสินี ก่อนจะหันไปถามจิราวดีที่สายตากำลังจดจ้องผู้ชายคนนั้นอยู่ "แจน แกว่าไง คิดว่าไหวไหม"
"ก็…ต้องลองดู" จิราวดีตอบเพื่อน แต่สายตาของเธอยังจ้องมองไปยังศัลยแพทย์หนุ่มที่นั่งจิบเหล้าด้วยท่าทีสบายๆ อย่างไม่รู้ตัวว่ากำลังตกเป็นเป้าสายตาของหญิงสาวกลุ่มหนึ่ง
"มาคนเดียวเหรอคะ" เสียงจากหญิงสาวที่ดังขึ้นใกล้ๆ ตัวไม่ได้ทำให้ปฐพีละสายตาจากสมาร์ตโฟนไปมองแต่อย่างใด หากก็เอ่ยตอบคำถามของหญิงสาวไปตามมารยาท
"มากับเพื่อน" น้ำเสียงห้วนๆ ติดเย็นชาแถมยังไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมาสนใจ เหมือนไม่ค่อยอยากจะเสวนาด้วยเท่าไหร่ ทำให้จิราวดีเริ่มคิ้วขมวด ท่าทางผู้ชายคนนี้คงไม่ง่ายอย่างที่เพื่อนเธอว่าเสียแล้ว เธอคงต้องเปลี่ยนกลยุทธ์การเข้าหาใหม่
การใช้เสน่ห์และความสวยตัดออกไปได้เลย เพราะดูท่าแล้วเขาคงเคยเจอผู้หญิงสวยๆ ที่มีเสน่ห์ล้นเหลือมาเยอะแล้ว ขนาดสาวมั่นและมีเสน่ห์แพรวพราวอย่างวิลาสินีเพื่อนของเธอยังกินแห้ว เธอก็คงไม่เหลืออะไรไปสู้แล้วล่ะ
คำนวณในใจคร่าวๆ เธอมายืนอยู่ตรงนี้เกือบๆ สามนาทีได้แล้ว แต่เขายังไม่มีทีท่าว่าจะหันมาสนใจเธอเลย เพราะฉะนั้นอันดับแรกที่เธอต้องทำก็คือ ทำยังไงก็ได้ให้เขายอมเงยหน้าจากสมาร์ตโฟนขึ้นมาสนใจเธอก่อน อย่างอื่นก็ค่อยว่ากันทีหลัง
จิราวดีหันไปมองเพื่อนสาวทั้งสาม ที่ตอนนี้กำลังยืนให้กำลังใจเธออย่างลุ้นๆ ว่าคืนนี้เธอจะสอยศัลยแพทย์หนุ่มจอมหยิ่งคนนี้ได้หรือไม่ แต่ไม่ว่ายังไงเธอก็จะไม่ทำให้เพื่อนผิดหวังเด็ดขาด เพราะคืนนี้เธอต้องได้!
หญิงสาวตัดสินใจก้าวเท้าเข้าไปใกล้ แล้วทรุดตัวนั่งลงที่โซฟาข้างๆ ขยับเข้าแนบชิดกับเขาเล็กน้อย ก่อนจะยื่นหน้าเข้าไปกระซิบข้างหูเขาเสียงเบา
"นอนกับฉันคืนนี้ คิดเท่าไหร่"