ตอนที่ 3 องค์ราชินีของข้า

782 คำ
องค์หญิงเมอร์อาร์เสด็จเข้ามาในอุทยานหลวง ทอดพระเนตรมองดอกกุหลาบสีแดงที่ทรงโปรดปรานยิ่งนัก แต่ทว่าก้านดอกไม่มีหนามทำให้พระนางแปลกพระทัย ทว่าพระนางกลับได้สดับเสียงฝีเท้าหนักๆ มาจากทางด้านหลัง พระนางจึงหันกลับไปทอดพระเนตรมอง กลับเห็นชายผู้หนึ่งที่ยืนหันหน้ามองพระนาง แต่กลับไม่เห็นใบหน้าของเขา เพราะมีเมฆหมอกปกคลุมเต็มไปหมด และเขาก็อยู่ห่างไกลเหลือเกิน "เจ้าเป็นใคร" องค์หญิงตรัสถามด้วยความสงสัย "จำข้ามิได้หรือ องค์ราชินีของข้า" ชายคนนี้เอ่ยบอกพระนาง ทำให้พระนางแปลกพระทัยยิ่งนัก ทั้งที่พระนางไม่เคยเห็นชายผู้นี้มาก่อน "ใครคือราชินีของเจ้า ข้ายังไม่อภิเษกกับผู้ใด" องค์หญิงตรัสถามเช่นนี้ และเสด็จเข้าไปหาชายผู้นั้น พอเสด็จเขาไปหา กลับทรงรู้สึกว่าช่างห่างไกลเหลือเกิน "แล้วเราจะได้เจอกันองค์ราชินีของข้า" เมื่อเขาเอ่ยบอกจบ เขากลับหายไปพร้อมกลับควันสีขาว พระนางจึงตรัสเรียกโดยทันที "อย่าพึ่งไปรอข้าก่อน" องค์หญิงตรัสด้วยพระสุรเสียงดังขึ้น ทรงลืมพระเนตรขึ้นทันที "มีอะไรหรือเปล่าเพคะ" นางกำนัลทูลถามด้วยความตกใจ "ไม่มีอะไรเจ้านอนเถอะ" องค์หญิงตรัสเช่นนี้ แล้วทรงทอดพระเนตรมองไปข้างนอก ที่ยังมืดอยู่จึงประทับนอน แต่บรรทมเท่าไหร่ก็ไม่หลับเสียที จึงเสด็จไปยังพระบัญชร ทอดพระเนตรมองดวงจันทร์นวลผ่อง ช่างคืนนี้ช่างสุขสกาวยิ่งนัก ทำให้พระนางมีพระดำริถึงชายที่พระสุบินถึงเมื่อครู่ เพราะพระสุบินถึงชายผู้นี้ที่ไม่เห็นหน้า แต่ได้สดับเสียงกึกก้องดังในพระทัย และพระสุบินถึงชายผู้นี้ตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ (พระสุบิน แปลว่า ฝัน) "เจ้าเป็นใครกันแน่นะ ข้าฝันแบบนี้ตั้งแต่ตอนเด็กๆ จนตอนนี้ยังไม่เลิกฝันเสียที" องค์ฟาโรห์อินโยเซฟทรงบรรทมหลับ แล้วสะดุ้งบรรทมตื่นด้วยความตกพระทัย เมื่อพระสุบินถึงหญิงสาวผู้หนึ่ง และร่ำร้องเรียกพระองค์ว่าเรเนส พระนามเดิมของพระองค์เช่นนี้อยู่หลายครั้ง และพระสุบินเป็นหญิงสาวนางนี้ตั้งแต่พระเยาว์ "ฝันอะไรแบบนี้ ฝันแบบเดิมทุกคืน ในฝันยังไม่เห็นหน้าของนาง แต่ทำไมน้ำเสียงช่างไพเราะอ่อนหวานเหลือเกิน" องค์ฟาโรห์ตรัสแผ่วเบา ทรงลุกขึ้นประทับยืน นำพาพระพระวรกายเปลือยเปล่างดงามสมชายชาตรี เสด็จไปยังระเบียงนอกตำหนัก ทอดพระเนตรมองไปยังแม่น้ำไนล์ที่ไหลหลากช่วงของฤดูน้ำหลากขึ้นถึงบันไดตำหนักในยามนี้ "นางเป็นใครกัน ทำให้ข้าฝันถึงตั้งแต่จำความได้" องค์ฟาโรห์ตรัสแผ่วเบา ทอดพระเนตรมองไปยังดวงจันทร์ องค์หญิงเมอร์อาร์เสด็จมาที่ท่าเรือพร้อมกับองค์กษัตริย์คาร์เซอร์ พระนางทอดพระเนตรมองเรือขนาดใหญ่เทียบท่าอยู่ เพื่อรอพระนางเสด็จขึ้นเรือไปยังอียิปต์ดินแดนแห่งไนล์ องค์กษัตริย์หันพระพักตร์มาหาองค์หญิง และองค์หญิงก็หันพระพักตร์มาหาพระองค์ด้วยเช่นกัน "ระวังตัวด้วยนะ" องค์กษัตริย์ตรัสเช่นนี้ แล้วแย้มพระสรวล "หม่อมฉันจะทำให้สำเร็จ" องค์หญิงตรัสด้วยพระสุรเสียงมุ่งมั่น "ข้าและทุกคนเป็นหนี้เจ้า เมอร์อาร์" "หม่อมฉันทูลลาเพคะ" องค์หญิงตรัสเช่นนี้ ย่อพระองค์และก้มพระเศียรเล็กน้อย พระนางจึงเสด็จขึ้นเรือทันที และเรือก็ค่อยๆ ออกจากท่าเรือไปยังอียิปต์ "ฝ่าบาทหม่อมฉันเป็นห่วงน้องหญิง" ราชินีบาร่าตรัสถามองค์กษัตริย์คาร์เซอร์ที่ทอดพระเนตรเรือหลายสิบลำกำลังล่องเรือไป "มันไม่ใช่น้องข้า" องค์กษัตริย์ตรัสเช่นนี้ และทรงหันไปตรัสกับองค์ราชินีด้วยพระสุรเสียงเรียบเฉย "นางคือน้องของฝ่าบาทมิใช่หรือ" องค์ราชินีตรัสถามด้วยความแปลพระทัย "มันเป็นลูกของสนมฮายา ทำให้พระบิดาข้าไม่สนใจพระมารดาของข้า จนพระมารดาข้าตรอมใจ" องค์กษัตริย์ตรัสด้วยพระสุรเสียงเกลียดชัง "ฝ่าบาทมันก็ผ่านมานานแล้วเพคะ นางก็ทำเพื่ออาณาจักรของเรา" องค์ราชินีตรัสเช่นนี้ แต่ทว่าองค์กษัตริย์กลับเสด็จขึ้นม้าทรงเสียแล้ว พระนางนางส่ายพระพักตร์เบา และถอนปัสสาสะด้วยความเหนื่อยพระทัย (พระปัสสาสะ แปลว่า ถอนหายใจออก) อย่าลืมเข้ามากดหัวใจและคอมเม้นท์ให้ไรท์ด้วยน๊าาาาาา 1 เม้นท์ 1 กำลังใจ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม