ตอนที่ 11
หุ่นที่เฟอร์เฟคของเขามันทำให้หัวใจของเธอเต้นแรงขึ้นมา ใบหน้าของเธอร้อนผ่าวในยามที่มองร่างเปลือยท่อนบนของเขา ทำไมเธอถึงได้ฟุ้งซ่านไม่หยุดกันนะ หญิงสาวอยากจะข่มตาให้หลับตาลงแต่ในหัวของเธอก็ยังวนเวียนคิดถึงแต่เรือนร่างของเขา
ไม่นานนักชายหนุ่มก็ออกมาจากห้องน้ำด้วยการนุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียว เขาเดินมาทิ้งตัวนั่งบนเตียงจนเธอต้องรีบหันหน้าหนีเพราะไม่อยากดูหน้าอกเปลือยอันเซ็กซี่ของเขา คนที่ยังไม่ยอมสวมเสื้อผ้านั่งมองทุกอากัปกิริยาของติวเตอร์สาวร่วมห้องอย่างชื่นชม เขาจะอยากจะหัวเราะออกมาเมื่อเห็นท่าทางของเธอเมื่อสักครู่นี้
เขาลุกขึ้นยืน แม้จะหันหลังให้เธอแต่ก็รับรู้ได้ว่าถูกหญิงสาวแอบมองอยู่ตลอดเวลา
ฉับพลันดวงตากลมโตก็เบิกกว้างขึ้น เมื่อชายหนุ่มร่วมห้องทำท่าจะปลดผ้าเช็ดตัวออกจากร่าง ศิรินทร์รัตน์อุทานในใจ และเพียงเสี้ยววินาทีก่อนที่เธอจะหลับตาลง เธอก็เห็นเรือนร่างของเขาทุกสัดส่วนไม่เว้นแม้แต่ความเป็นชาย และในตอนนี้เธอหลับตาไม่ลงเสียแล้ว หญิงสาวแอบหรี่ตามองเรือนร่างของเขา
หัวใจของเธอไม่เคยเต้นแรงอย่างนี้มาก่อน มันคล้าย ๆ กับตอนที่เธอแอบกินกาแฟในตอนเด็ก ๆ แต่แล้วคนที่เธอแอบมองอยู่ เขาก็ไม่ได้เปลือยกายอีกต่อไป เพราะเขาหยิบกางเกงบ๊อกเซอร์ขึ้นมาสวมใส่ ศิรินทร์รัตน์ถึงกับพ่นลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก
“หายใจแรงเชียว ผมรู้นะว่าเมื่อกี้คุณแอบมองผม” แค่ได้ยินเสียงทุ้ม ๆ ของเขาเอ่ยอ้างขึ้นมา เธอก็แทบจะแทรกแผ่นดินหนี
“ใครจะไปมอง คุณออกมาจากห้องน้ำตอนไหนฉันยังไม่รู้เลย ฉันเผลอหลับไปตั้งนานแล้ว” ศิรินทร์รัตน์รีบแถทันที
“หลับทั้ง ๆ ที่คุณก็เปิดไฟนอนเนี่ยนะ” เขาเดินเอาผ้าเช็ดตัวไปแขวนไว้ก่อนจะเดินกลับมาหาเธอ หญิงสาวจำใจหันมาเผชิญหน้ากับอีกฝ่าย
“ก็มันแปลกที่ไง ฉันก็เปิดไฟนอนนะสิ”
“ถ้าไม่ได้แอบดู ก็แสดงว่าคุณกลัวผี ผมพูดถูกมั้ย” เขาถามย้ำเหมือนจะเล่นงานให้เธอจนมุมเสียให้ได้ น้ำเสียงนั้นแสดงถึงการหยอกล้ออย่างชัดเจน ก่อนจะเห็นติวเตอร์สาวรีบดึงผ้าห่มมาปิดบังด้วยร่างด้วยความอายเมื่อเห็นเรือนร่างของเขาที่ไม่ได้สวมเสื้อ
“บ้ารึ!! กลัวที่ไหน ฉันไม่เคยกลัว” เธอพูดออกมาภายใต้ผ้าห่มผืนนั้นที่ดึงมันมาคลุมโปง
“ก็ดี!! งั้นเดี๋ยวผมขอปิดไฟนอนนะ แต่ผมจะเปิดไฟหัวเตียงเอาไว้ให้” พูดจบเขาก็ก้าวขึ้นเตียงทันที
“ผมขอนอนบนเตียงกับคุณนะ” เขากล่าวขออนุญาตสั้น ๆ โดยตั้งแต่แรกก็ไม่ได้บอกเธอเอาไว้ ซึ่งศิรินทร์รัตน์เห็นว่ามันอาจจะไม่ปลอดภัยสำหรับตัวเธอ
ก่อนจะเอาศีรษะออกมาจากผ้าห่มผืนหนาและหันมาต่อว่าเขาทันที
“คุณนี่ไม่เป็นสุภาพบุรุษเอาซะเลยนะ ทำไมไม่ไปนอนที่โซฟาล่ะ”
“ก็ผ้าห่มมันมีแค่ผืนเดียวนี่!... ผมขอห่มกับคุณหน่อยไม่ได้เหรอไง”
“คุณคิดจะทำอะไรกันแน่ แล้วนี่คุณไม่มีเสื้อใส่หรือไง ถึงได้ใส่แค่กางเกงในตัวเดียวแล้วมาขอนอนกับฉัน” เธอต่อว่า เพราะถ้าปล่อยให้เขานอนด้วย มีหวังต้องมีการเลยเถิดกันแน่ ๆ และอีกอย่างเธอก็คงห้ามใจไม่ไหวหากถูกเขาโอ้โลมปฏิโลม
“โธ่คุณ!!..นี่เราเพิ่งหนีกันมานะครับ ใครจะไปเตรียมพร้อมอะไรได้ขนาดนั้น เสื้อผ้าผมก็มีมาแค่ชุดเดียวเอง ผมก็ต้องถอดผึ่งเอาไว้ใส่พรุ่งนี้สิ” สิ้นข้ออ้างของชายหนุ่มที่เหมือนจะหยิบยกขึ้นมาเพื่อทวงบุญคุณกับเธอ ติวเตอร์สาวก็รีบตะแคงหันหลังให้เขาทันที
“คนเจ้าเล่ห์!....” หญิงสาวบ่นออกมาเบาๆ ด้วยใบหน้าอันร้อนผ่าวอย่างถึงที่สุด เธอจำเป็นต้องหันหลังก็เพราะกลัวจะถูกเขาจับได้เสียก่อน ศิรินทร์รัตน์หน้าแดงไปจนถึงไปหู
ผู้ชายอะไรก็ไม่รู้ หุ่นน่ากินชะมัด ตัวล่ำบึกขนาดนี้ถ้าอยู่ในอ้อมกอดของเขาจะอบอุ่นน่าดู ตายแล้วที่เธอคิดบ้าอะไรอีก! ติวเตอร์สาวรีบสลัดความคิดบ้า ๆ ในหัวออกทันที
ติวเตอร์สาวพยายามข่มตาหลับอยู่นาน แต่สมองก็ยังคิดวนเวียนเรื่องอะไรต่อมิอะไรไปมากมาย ก่อนจะพลางคิดไปว่าถ้าหากตนเองลุกไปนอนที่โซฟาเพียงคนเดียวก็จะดีกว่านี้ แต่พอนึกไปถึงผีแม่บ้านเธอก็ดันกลัวขึ้นมาทันที เห้อ!!!..สรุปแล้วไม่ต้องไปไหน
อนาวินอดยิ้มไม่ได้ที่แกล้งเธอสำเร็จ เขาแอบมองใบหน้าของเธอที่มันแดงก่ำพร้อม ๆ ความเขินอายขณะที่ถูกเขาเอื้อมไปกอดเอาไว้ และใช้ท่อนเอ็นส่วนล่างสัมผัสไปกับก้นนุ่ม ๆ ของเธอ เมื่อไม่มีอะไรขัดขวางเขาจำทำมันไปเรื่อย ๆ
“เมื่อไหร่จะเลิกแกล้งค่ะ ฉันไม่มีอารมณ์ร่วมหรอกนะ” เสียงหวานเอ่ยขึ้นเมื่อเขาไม่หยุดลวนลามเธอ
“เปล่าแกล้งสักหน่อย” เสียงทุ้มแอบกระซิบที่ข้างหู
“ไม่แกล้งก็ปล่อยสิคะ” หญิงสาวพยายามแกะมือปลาหมึกของเขาออกจากสะโพกอวบ ๆ ของเธอ
“ก็ผมหนาวนี่ครับ คุณให้ความอบอุ่นผมหน่อยไม่ได้หรือไง” เสียงทุ้มออดอ้อนเธอ
“งั้นคุณก็นอนหงายสิ เดี๋ยวฉันจะกอดให้ความอบอุ่นคุณเอง” อนาวินยิ้มกว้างทันที
“จริงนะ” เขารีบพลิกร่างไปนอนหงาย
ศิรินทร์รัตน์พยายามข่มใจ ก่อนจะพลิกร่างมากอดชายหนุ่มที่นอนหงายอยู่ ก็ยังดีกว่านอนหันหลังแล้วถูกแท่งรักถูไถไปมาอยู่อย่างนั้น เขารีบดึงร่างเธอให้มาแนบชิด ก่อนที่หญิงสาวจะยอมเอาศีรษะมาหนุนตรงแผงอกกว้าง
“พอใจรึยัง” เธอถามจบ มือหนาก็จับมือเรียวบางของเธอลงไปสัมผัสกับความเป็นชายที่มันแข็งโด่ตั้งตระหง่านขึ้นมา เธอไม่รู้ว่าเขาไปแอบถอดบ๊อกเซอร์ของตัวเองออกไปตอนไหน
“ช่วยทำให้น้องชายของผมมันสงบหน่อยสิ” หญิงสาวจำใจจับรูดเข้าออกให้กับเขา ศีรษะของเธอถูกเขาสูดดมไปหลายรอบ เธอไม่ใช่ผู้หญิงบริสุทธิ์ไร้เดียงสาที่ไม่รู้ว่าเขาต้องการอะไร แต่วันนี้เธออยู่ในระยะไม่ปลอดภัยเลยเนี่ยสิ
“โอเคหรือยัง” เสียงหวานเอ่ยถาม
“มันยังไม่สงบเลยนะครับ ช่วยทำมากกว่านี้ได้มั้ย” เสียงกระเส่าของเขากระซิบที่ข้างใบหูของเธอ ก่อนเม้มแรง ๆ ที่ใบหู
จากนั้นติวเตอร์สาวก็เริ่มปรนนิบัติตามคำขอร้องของชายหนุ่ม เธอเลื่อนศีรษะลงไปยังส่วนล่างของเขา ก่อนจะใช้ปลายลิ้นแตะวนไปมาที่ส่วนปลายหัวบานหยักอย่างช้า ๆ และไล่เลียมันเบาๆ ก่อนจะอ้าปากกว้างเพื่องับมันลงคอ ทำให้อนาวินรู้สึกเสียวซ่านวูบไหวไปทั่วร่าง
“อ๊าส!!..คุณครู”
“บอกแล้วไง...ว่าไม่ให้เรียกคุณครู” เธอผละริมฝีปากออกมา ก่อนจะรีบบอกเขา ศิรินทร์รัตน์ไม่อยากให้ตนเองรู้สึกว่าเธอมาทำอะไรแบบนี้กับลูกศิษย์ของตัวเอง
“งั้นผมเรียกชื่อเล่นคุณนะ” เธอพยักหน้า และก้มลงไปทำให้เขาต่อ
ติวเตอร์สาวใช้ริมฝีปากเพื่อครอบครองแก่นกายของชายหนุ่มให้ลึกที่สุด แต่ด้วยความใหญ่ยาวมันก็เลยเข้าไปได้แค่ครึ่งลำ
“ลึก ๆ เลย ที่รัก” เขาบอกโดยไม่สนความรู้สึกของเธอ
“ลึกสุดแล้ว มากกว่านี้ไม่ไหว มันจะอ๊วก” ศิรินทร์รัตน์รีบผละออกมา แล้วตอบเขาว่าเธอได้พยายามอย่างเต็มที่แล้ว