ตอนที่ 13
อยู่ในการควบคุม2
ห้องพักที่เตรียมไว้สำหรับพี่เลี้ยงอยู่ติดกับห้องของเด็กสาวฝาแฝดทั้งสอง และมีประตูด้านในที่เปิดเชื่อมไปหากันได้ ส่วนอีกฝั่งเป็นห้องของคุณหมอเจ้าของบ้าน ที่สามารถเปิดประตูจากห้องของเขามาห้องลูกสาวได้เหมือนกัน เหมือนออกแบบมาเพื่อให้ห้องเด็กทั้งสองอยู่ตรงกลาง
“เสื้อผ้าชุดนอนและของใช้ทั่วไปอยู่ในตู้ ถ้าอยากจะได้อะไรเพิ่มก็บอกป้าว่านได้”
“ไม่เป็นไรค่ะแค่นี้ก็มากมายแล้ว”
แม้คุณหมอจะบอกว่าห้องที่จัดไว้จะเป็นห้องนอนเล็ก แต่ก็ยังใหญ่กว่าห้องนอนที่บ้านทาวน์เฮ้าส์ของเธอเสียอีก แถมเมื่อเปิดตู้เสื้อผ้าและลิ้นชักแล้วก็พบของใช้และเสื้อผ้าอยู่ในนั้นเป็นขนาดที่พอดีกับตัว และส่วนใหญ่จะเป็นของใหม่ที่ยังไม่ผ่านการใช้งานด้วยซ้ำ
นี่เขาลงทุนกับพี่เลี้ยงของลูกสาวดีขนาดนี้เลยเหรอ
“แผลคุณหายดีแล้วใช่ไหม?”
จู่เขาก็ถามขึ้นมา ทำให้มือที่กำลังเปิดตู้เสื้อผ้าเพื่อดูของด้านในถึงกับชะงัก
“หายแล้วค่ะ”
น้ำผึ้ง เบี่ยงหน้าหลบเล็กน้อย เมื่อรู้สึกว่าสองแก้มของตนเริ่มจะผ่าวร้อนขึ้นมา ผู้ชายอะไรแค่เอ่ยไม่กี่คำก็มีเซ็กซ์แอพพีลเสียจนเธอเริ่มจะไม่เป็นตัวของตัวเอง
“แน่ใจเหรอ ว่าไม่ต้องทายาอีก”
คุณหมอขยับเข้ามาใกล้ ดวงตาคู่สีนิลหลุบต่ำมองใบหน้าเนียนใสที่มีปรอยผมคลอเคลียอยู่ข้างๆ แม้คนตัวเล็กจะหลบตาเขา แต่เหมือนจะไม่เป็นผล เพราะกลิ่นหอมอ่อนๆที่โชยมาจากตัวเธอทำให้เขานึกถึงรสชาติหวานล้ำที่ยังคงติดตรึงอยู่ตรงปลายลิ้น
“มะ ไม่ต้องค่ะดึกแล้วคุณหมอไปพักผ่อนเถอะค่ะ”
ช่างแปลกนัก ที่เธอรู้สึกเสมอว่าเขาเป็นคุณหมอมาเฟียที่อันตรายและเธอควรจะถอยห่าง แต่ทำไมทุกครั้งที่เขาเข้ามาใกล้ชิดเธอกลับรู้สึกวาบหวามเหมือนกำลังมีแรงดึงดูดอย่างประหลาด
ที่ผ่านมาไม่ใช่ว่าไม่เคยโดนจีบและได้รับสัมผัสผู้ชาย แต่อาการที่เหมือนโดนไฟฟ้าสถิตช็อตจนแขนขาคล้ายจะอ่อนแรงแบบนี้ คืออะไรกัน?
“ไม่ต้องให้ผมตรวจดูแผล?”
นกุล โน้มหน้าลงมาใกล้ใบหน้าเล็กที่อยู่ต่ำเพียงแค่ช่วงอกของเขา แม้ความจริงเธอจะสูงเกือบร้อยเจ็ดสิบ แต่เหมือนจะเตี้ยกว่าคุณหมอมาก
“ไม่ต้องแล้วค่ะ”
ถ้าตรวจอีกครั้ง เธอคงว้าวุ่นหนักกว่าเดิม มือเล็กจึงดันอกของเขาไว้ ทว่าอุ้งมือหนาของคุณหมอกลับจับมือเธอไว้แล้วแนบเข้ากับอกตัวเอง เธอได้สัมผัสได้ว่าหัวใจเขาเต้นตึกตักเหมือนมีกลองตีกันอยู่ภายใน ไม่ต่างจากเธอ
“ความจริงผมไม่เคยตรวจแบบนี้ให้ใคร”
เหมือนถ้อยคำนั้นจะสร้างความปั่นป่วนให้เธอพอควร
“.....”
“และผมก็ไม่เคยรุ่มร่ามกับพี่เลี้ยงคนไหนเลยที่ผ่านมา”
เขาต้องการสื่ออะไร?
“คุณหมอ”
น้ำผึ้ง ช้อนตาขึ้นมองเขา ดวงตาคู่สีน้ำตาลของเธอเป็นประกายวาววับด้วยความฉงน ความสับสนแล่นปรี่เข้ามาในใจของนกุลที่เขาเองก็ไม่เข้าใจตัวเอง เพียงแต่ตอนนี้เขาไม่สามารถละสายตาจากริมฝีปากจิ้มลิ้มตรงหน้าได้
นิ้วเรียวแข็งไล้ยังกลีบปากนุ่มช้าๆ
พลันก็รู้สึกลำคอแห้งผากจนอยากจะลิ้มลองรสชาติตรงหน้าว่าจะหวานล้ำสักแค่ไหน
“ลองจูบกันมั้ยครับ?”
“คะ?”
เขาพูดอะไร?
ทว่าไม่ทันที่จะเอ่ยอะไรต่อ ริมฝีปากหยักก็บดจูบลงมา น้ำผึ้ง ชะงักเล็กน้อยด้วยไม่คาดคิดว่าตัวเองจะถูกจู่โจมแบบไม่ทันตั้งตัวแบบนี้ คุณหมอจูบเธออย่างเนิบนาบเพียงบดเคล้าริมฝีปากด้านนอกไม่ได้ล่วงล้ำด้านใน ก่อนจะผละออกห่าง
เพียงแค่นั้นลมหายใจของเธอก็คล้ายจะขาดห้วง
เธอยืนตัวแข็งทื่อและมองเขาราวโดนแช่แข็งไว้ ริมฝีปากจิ้มลิ้มอิ่มชื้นเม้มเข้าหากันแน่น
“ไม่เคยถูกจูบ?”
คุณหมอหัวเราะในลำคอ นั่นทำให้หน้าสวยเชิดขึ้นเล็กน้อย ความจริงมีคนเข้ามาจีบเธอเยอะมาก และก็เคยคุยอยู่บ้างแค่จูบๆหอมๆใครบ้างจะไม่เคย
“ทำไมจะไม่เคยคะ”
เพราะไม่อยากให้เขามองว่าเธอเป็นเด็กกะโปโล น้ำผึ้งจึงตอบไปเช่นนั้นทว่าเหมือนจะเป็นถ้อยคำที่ทำให้อีกฝ่ายไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ หางคิ้วหนาของเขากระตุกเล็กน้อย เมื่อเห็นท่าทางของกระต่ายน้อยตรงหน้า
“เคย? แต่เหมือนจูบไม่เป็น”
ดวงตาคู่สีนิลมีประกายวิบวับขึ้น นั่นทำให้น้ำผึ้งเม้มริมฝีปากเข้ากันแน่นยิ่งกว่าเดิม ด้วยนิสัยส่วนตัวเธอไม่ชอบให้ใครมาปรามาสอยู่แล้วไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม ยิ่งเป็นคนตรงหน้าที่เธอพยายามจะเอาชนะเขาเพื่อขับไล่ความกลัวออกจากใจ
ร่างเล็กจึงเขย่งปลายเท้าขึ้น และกดจูบยังริมฝีปากหยักแดงระเรื่อนั้นอย่างหนักหน่วง โดยไม่สนใจปฏิกิริยาของอีกฝ่ายที่นิ่งงันเล็กน้อยเมื่อพี่เลี้ยงสาวบดเคล้าจูบอย่างกล้าๆกลัวๆ ลิ้นเล็กแลบออกมาดันริมฝีปากบนของเขาให้เผยอออก ก่อนจะสอดเข้าไปในโพรงปากนุ่มทำแบบที่เธอเคยดูในซีรีย์ และตวัดรัดลิ้นสากร้อนอยู่เพียงครู่ก่อนจะผละห่าง
ทว่าเหมือนคุณหมอจะไม่ยินยอม
“อึก”
เหมือนลมหายใจเธอจะติดขัด จนนกุลต้องอมยิ้มออกมา
“คุณหมอ อื้อ...”
และไม่ทันจะดันร่างเขาออก มือหนาก็สอดเข้ายังท้ายทอยด้านหลัง ตรึงใบหน้าของเธอให้ได้องศา ก่อนจะบดเคล้าจูบลงมาใหม่อย่างหนักหน่วงรุกเร้าต่างจากในคราแรก เพียงเธอเผยอริมฝีปากออกลิ้นสากร้อนก็แทรกซอนเข้ายังโพรงปากนุ่ม เข้าตวัดรัดรึงเรียวลิ้นเล็ก ควานหาความหวานล้ำที่ทำให้สมองเขาปั่นป่วนมาหลายวัน
เขาจูบเธออยู่อย่างนั้นเนิ่นนาน ผละออกให้เธอหายใจแล้วบดจูบลงมาใหม่ราวกับกระหายอยาก จนริมฝีปากของเธอบวมเจ่อ หัวสมองล่องลอยคิดอะไรไม่ออก รู้เพียงว่ารสจูบของคุณหมอเร่าร้อนและวาบหวามเกินต้าน
คุณหมอจูบเก่ง นี่คงเป็นสูบวิญญาณแน่ๆ
RRR เสียงมือถือในกระเป๋าเสื้อของเธอดังขึ้น นั่นทำให้ทั้งคู่ได้สติ ใบหน้าหล่อเหลาจึงผละออกห่าง ทั้งสองสบตากันอยู่เพียงครู่โดยไม่เอ่ยคำใดออกมา ก่อนที่เขาจะหันหลังและเดินออกจากห้องไปเสมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ทว่าความรู้สึกเธอ ....เหมือนมีบางอย่างผุดขึ้นในใจ