ปิ๊งรักเจ้าสาวกำมะลอ

โจทย์เก่า

ปานตะวัน หญิงสาวที่เกิดในครอบครัวคนไทยเชื้อสายจีน ใบหน้าของเธอสวยหวานต่างจากหญิงสาวที่มีเชื้อสายจีนส่วนใหญ่ มีเพียงตาชั้นเดียวของเธอเท่านั้นที่บ่งบอกว่าเธอมาจากครอบครัวของคนไทยเชื้อสายจีน

หญิงสาวรีบหอบแฟ้มงานขึ้นรถไฟฟ้าด้วยความรีบร้อน เพราะเธอมีนัดนำเสนองานกับบริษัทยักษ์ใหญ่ ซึ่งทางเจ้าของบริษัทเอเจนซี่ที่เธอทำงานอยู่ ก็ต้องการงานโปรเจคนี้เป็นอย่างมาก

หญิงสาวเดินทางฝ่าความแออัดของผู้คน ก่อนที่จะมาถึง เจ แอนด์ เค คอร์ปอเรชั่น ปานตะวันก็ต้องถอนหายใจด้วยความโล่งอก เพราะในที่สุดหญิงสาวก็มาที่นี่ได้ทันเวลาพอดี เมื่อเธอตรงเข้าไปยังเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ เธอก็รีบแจ้งกับเจ้าหน้าที่ทันที

“เฮ้อ...เกือบไม่รอดแล้วนะเรา” ปานตะวันถอนหายใจด้วยความโล่งอก แล้วจึงรำพึงกับตนเองด้วยความดีใจ

“เชิญคุณปานตะวันขึ้นไปรอที่ห้องประชุมชั้นแปดเลยนะคะ” พนักงานต้อนรับสาวกล่าวด้วยรอยยิ้ม

“ขอบคุณนะคะ” ปานตะวันหันกลับมากล่าวกับหญิงสาว ก่อนที่เธอจะสาวเท้าตรงไปที่ลิฟท์ตัวใหญ่ของสำนักงาน หญิงสาวเริ่มตื่นเต้นขึ้นมาเล็กน้อย เนื่องจากว่านี่เป็นการนำเสนองานใหญ่ครั้งแรกของเธอ และที่สำคัญเธอต้องคว้างานนี้มาให้ได้ ไม่เช่นนั้นเธอโดนผู้จัดการเล่นงานอย่างแน่นอน

ลิฟท์ตัวใหญ่พาหญิงสาวเดินทางไปที่ชั้นแปด เมื่อถึงจุดหมายร่างบางก้าวเท้าออกมาด้วยความมั่นใจ แล้วเดินตรงไปตามป้ายบอกทางห้องประชุม

และเมื่อถึงห้องประชุม หญิงสาวก็เข้าไปจัดการเตรียมเอกสาร และส่งแฟลชไดรท์ให้กับเจ้าหน้าที่ในห้อง เพื่อให้เขาอัพโหลดข้อมูลลงเครื่องก่อนที่หญิงสาวจะนำเสนองานของเธอให้ผู้บริหารระดับสูงของที่นี่พิจารณา

เมื่อถึงเวลาที่หญิงสาวต้องนำเสนองาน ปานตะวันก็ต้องเบิกตาโพลงด้วยความตกใจ เพราะร่างสูงรูปงามราวกับเทพบุตรก้าวเข้ามาด้วยบุคลิกน่าเกรงขาม

และที่สำคัญเธอก็เพิ่งจะก่อคดีกับเขา เหตุเพราะเธอต้องการช่วยเหลือในเรื่องความรัก ของเพื่อนสาวคนสนิทที่ชื่อนิชานันท์ ชายหนุ่มผู้ที่ก้าวเข้ามานี้คือทัพไท เขาเป็นคนที่เขามาแทรกกลางระหว่างความสัมพันธ์ของเพื่อนสาวคนสนิท และแฟนหนุ่มของเธอที่คบกันมากว่าห้าปี

เพราะช่วงนั้นนิชานันท์มีปัญหาไม่เข้าใจกันกับนิรุตน์แฟนหนุ่ม นิชานันท์จึงเปิดใจให้ทัพไทเข้ามา แต่เมื่อลองคบกันไปสักพัก นิชานันท์กลับพบว่าเธอไม่สามารถลืมนิรุตน์ได้เลย เธอจึงเลือกตัดขาดความสัมพันธ์กับทัพไท และดูเหมือนว่าชายหนุ่มจะไม่ยอมปล่อยนิชานันท์ไปง่ายๆ มันทำให้ปานตะวันต้องเข้าไปจัดการเรื่องนี้แทนเพื่อนสาวคนสนิท ซึ่งเรื่องราวครั้งนั้นมันจบลงไม่ดี ปานตะวันด่าทอทัพไทด้วยความเหลืออด แต่ทัพไทก็ไม่ได้สนใจที่ปานตะวันทำเช่นนี้ เขากลับมองเห็นเป็นเรื่องขบขัน