รอคอยใครสักคน
“จุดที่หนาวที่สุดไม่ใช่บนดอย...
แต่เป็นจุดที่รอคอยใครสักคน แต่เขาไม่มาสักที”
นิยายเรื่องหนึ่งเกริ่นเอาไว้ว่าความรักเกิดขึ้นได้ทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นห้องน้ำ ทางม้าลาย ทางกลับบ้าน ร้านขายของชำ หรือแม้แต่บนฝาท่อระบายน้ำ
เธออาจจำจุดเริ่มต้นของความรักครั้งนั้นไม่ได้ แต่เมื่อมันสิ้นสุดลงเธอกลับจดจำมันได้เป็นอย่างดี เฉกเช่นถูกผนึกตราตรึงฝังลงห้วงความทรงจำอันแสนเจ็บปวด ภายในหัวใจที่ยังคงเต้นอยู่ของ อิงดาว
แต่แล้วหัวใจอันช้ำเลือดช้ำหนองของเธอ ก็กลับมาเต้นแรงอีกครั้ง เมื่อได้พบกับเขาคนนี้
น่านฟ้าผู้ชายที่ทำให้หัวใจอันเวิ้งว้างได้รับการดูแลอีกครั้ง และกำแพงความโสดที่ถูกพังทลายลง
********************************
11 เดือนก่อน
พิธีมงคลสมรส กรวิภา&ณวัส
‘พร้อมกันหรือยัง ผมจะนับถอยหลังแล้วเจ้าสาวโยนช่อดอกไม้เลยนะคร้าบ เพื่อนเจ้าสาวเล็งให้ดีๆน้า~ ใครอยากรับสิทธิ์เป็นเจ้าสาวคนต่อไป เตรียมรับช่อดอกไม้ให้ได้นะคร้าบ ห้า สี่ สาม สอง หนึ่ง ....โยนคร้าบบบ’
สิ้นเสียงพิธีกรบนเวที กรวิภาเจ้าสาวแสนสวยในชุดแต่งงานฟูฟ่องก็กลับหลังหัน แล้วโยนช่อดอกไม้ในมือลงมายังกลุ่มเพื่อนๆที่อยู่ด้านล่างเวที
'รับนะทุกคน'
ฟี้ว....
ช่อดอกกุหลาบสีขาวลอยละลิ่วบนอากาศ สาวๆต่างยื้อแย่งจนมันลอยกระเด็นไปมาอย่างไร้การควบคุม สุดท้ายพลัดตกมาอยู่ในมือของอิงดาวแบบไม่ทันได้ตั้งตัว แม้ไม่อยากได้แต่ถ้าเธอไม่คว้าไว้กุหลาบช่อโตคงฟาดเข้าหน้าเธอเต็มๆ
‘เฮ้ย ยัยอิงได้ช่อดอกไม้’
จันจิปรบมือพร้อมกระโดดไชโยส่วนอิงดาวยืนหน้าเหวอ มองช่อดอกไม้ในมือสลับกับเพื่อนๆ ที่กำลังแหกปากตะโกนประโยคร้ายกาจ
‘เจ้าสาวคนต่อไป เจ้าสาวคนต่อไป’
เอาอะไรมาเป็นเจ้าสาว ขนาดนกตัวผู้ยังไม่มีบินผ่านหน้าบ้านเลย แห้งเหี่ยวโสดสนิทอย่างอิงดาวถึงกับต้องทำหน้าเซ็ง
“ไม่ได้เด็ดขาด มันต้องเป็นของฉัน”
ท่ามกลางเสียงหัวเราะชอบใจของเพื่อนๆ จู่ๆมาริกาที่อยู่ในอาการมึนเมาก็พุ่งเข้ากระชากช่อดอกไม้ในมือของอิงดาว ไปถือเอาไว้เป็นของตัวเองแบบหน้าด้านๆ
‘ไม่ใช่ของแก มันเป็นของยัยอิงโว้ย!’
แต่ยังไม่ทันที่อิงดาวจะออกโรง นะนางเพื่อนสนิทที่เมามายเต็มคาราเบลและเป็นไม้เบื่อไม้เมากับมาริกา มีหรือเรื่องนี้จะจบลงง่ายๆ เธอกระโดดเข้ายื้อแย่งช่อดอกไม้ ฟาดฟันกันอีนุงตุงนัง ในที่สุดดอกไม้ช่อนั้นปี้ป่นกระจัดกระจายไม่เหลือชิ้นดี ทั้งสองถูกเพื่อนจับแยกแต่ก็ยังเปิดศึกสงครามน้ำลายใส่กันต่ออย่างดุเดือด
‘พวกแกรุมฉัน ยัยอิงดาวยังไม่มีแฟน ให้ตายก็ไม่มีโอกาสได้แต่งงานภายในปีนี้ด้วย จะมาแย่งช่อดอกไม้กับเพื่อนๆ เพื่ออะไรยะ’
‘หุบปากไปเลย ถ้าแกไม่ข่มขืนแฟนของอิงดาว แกก็ไม่มีปัญญาหาผัวได้เองหรอก’ นะนางโวยวายกลับถลกกระโปรงชุดเดรสสายเดี่ยวสีเทาขึ้น สะบัดเรียวขาสวยเตะออกไปทางมาริกาแต่เธอหลบทัน
'ข่มขืนอะไร พี่ปืนสมยอมยะ'
‘นี่ริก้า เรื่องช่อดอกไม้กติกาเขาก็ไม่ได้ห้ามคนโสดอย่างฉันรับช่อดอกไม้นี่ เธอจะมาโวยวายทำไม ส่วนเรื่องพี่ปืนจะพากันไปลงนรกอเวจีปอยเปรตที่ไหนก็ไปเลยนะ อิงไม่ได้เสียดายผู้ชายเฮงซวยคนนั้นสักนิด เสื่อมทั้งคู่'
อิงดาวไม่ใช่นางเอกที่จะยอมถูกด่าฝ่ายเดียว เธอสู้กลับชนิดที่เอาให้อายตายคาที่กันไปข้าง คนอะไรน่ารำคาญชะมัด ไม่มีรู้จะหาเรื่องเธอไปถึงไหน แย่งแฟนเธอไปสำเร็จแล้วเมื่อไหร่จะตกนรกอเวจีไปสักที ถ้าไม่ติดว่าเจ้าสาวอย่างกรวิภาเป็นเพื่อนกันมานานเป็นสิบปี อิงดาวก็คงไม่มาร่วมงานนี้ คิดอยู่แล้วว่าต้องถูกมาริกาหาเรื่องแน่ๆ มีลางสังหรณ์ตั้งตอนที่หล่อนแกล้งเซมาเหยียบเท้าช่วงถ่ายรูปหมู่แล้ว
‘กรี๊ด...พวกแกจะรุมฉันใช่มั้ย ทำไมอ่ะ ทำไมทุกคนไม่เห็นใจริก้าบ้าง’
ทุกคนในงานไม่มีใครเข้าข้างมาริกา เธอเมามากและพยายามหาเรื่องอิงดาวตลอดเวลาที่อยู่ในงาน ยิ่งเมื่อไม่มีใครเข้าข้างเธอก็ยิ่งเจ็บใจ อิงดาวกับมาริกาเป็นทั้งญาติและเพื่อนรู้จักกันมาตั้งแต่จำความได้ แต่มาริกานั้นมักที่จะหาเรื่องเอาเปรียบอิงดาวอยู่เสมอ
โดยเฉพาะช่วงเทศกาลและวันรวมญาติ อิงดาวกับมาริกาจะได้ของเล่นดีๆจากผู้ใหญ่เสมอ แต่มาริกาก็ไม่เคยพอ เธอจะเล่นบทเด็กเจ้าน้ำตาขอเปลี่ยนของเล่นของอิงดาวมาเป็นของตนเองทุกครั้ง พอโตขึ้นก็เรียนอยู่ที่เดียวกัน ทว่าเพื่อนส่วนใหญ่รักอิงดาวเพราะเธอเป็นคนไม่เรื่องมากและเข้าถึงทุกคน ต่างจากมาริกาที่เอาแต่ใจ ต้องการให้เพื่อนปรนนิบัติเหมือนตัวเองเป็นพวกลูกคุณหนู จึงไม่ค่อยมีใครอยากสุงสิงกับเธอ
‘บ้าไปกันใหญ่แล้วริก้า สงบสติอารมณ์เมาแล้วก็ไปนอน ไปกันเถอะนะนางอย่าไปสนใจเลย งานสำคัญของเพื่อนพังหมดแล้วเนี่ย’
อิงดาวเตือนสติและกอดแขนลากนะนางออกให้ห่างจากตัวมาริกา รวมถึงเพื่อนคนอื่นๆ ต่างเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะของใครของมัน แม้มาริกาเคยตีท้ายครัวแย่งผู้ชายซึ่งคบหาอยู่กับอิงดาวไปจริงๆ แต่นั่นมันก็ผ่านมานานแล้ว
‘ให้มันจบตรงนี้นะ เรื่องพี่ปืนปรบมือข้างเดียวมันไม่ดังเธอก็รู้ อย่าให้เห็นว่าเธอมามองผู้ชายของฉันอีก’
ทว่าเป็นมาริกาเองที่แกว่งปากหาเท้าไม่หยุดพ่นพิษไม่หย่อน งานนี้เลยมีต่อยกที่สอง อิงดาวข่มอารมณ์ไม่สนใจแต่คนข้างๆไม่ได้ใจเย็นอย่างเธอ
‘ยัง ไม่จบอีกใช่มั้ย ขอตบสักทีเถอะวะ’
'กรี๊ดดด!'
'ยกที่1 เริ่มได้'
~แอ๊ แอ แอ แอ่ แอ แอ แอ แอ~
ดวงมาริกาคงกำลังจะถึงฆาต นะนางสาวขาลุยประจำกลุ่มสะบัดแขนที่กอดกันอยู่ของอิงดาวออก กระโจนเข้าใส่มาริกาฟัดกันอย่างดุเดือด เสียงพากย์ของพิธีกรบนเวทีที่เมาได้ที่ดังขึ้นอย่างเร้าอารมณ์
'นะนางศอบูรพาฝ่ายน้ำเงินเน้นขวายกขาตั้งฉากฮุบวงในเข้าใส่มาริกาฝ่ายแดงไม่ยั้ง เอาคืนด้วยการตบแล้วแทง แทง เตะชายโครงขวาแล้วเสียบ พลเปลเตรียมหามฮ่ำหั่นกันทั้งคู่ เตะซ้าย แทงขวานะนางค้ำเอาไว้ ถอยหลังก็ไม่ได้ คิดช้าก็ไม่ได้ หมัดเท้า เข่า ศอกงัดออกมา มาริกานักชกศิษย์เจ๊นิ่มสู้แรงฮึดของนะนาง กรรมการเข้าไปห้าม อัดศอก เพล้ง! ระฆังช่วยเอาไว้พอดีคร้าบ'
ทั้งสองตะกุยหน้ากันอยู่สักพัก ก่อนที่แฟนของมาริกาจะมาจับเธอแยกออก ส่วนอิงดาว จันจิและรินลดาก็ช่วยแยกนะนางออกไปไกลๆอีกทาง สุดท้ายนะนางก็ฟาดช่อดอกไม้ที่เหลือเพียงก้านเข้าเบ้าหน้าพลาสติกของมาริกา และไม่ลืมกระแทกแดกดันก่อนวงแตก
‘อยากได้นักก็เอาไปเลย! สวยและรวยโคตรๆ อย่างอิงดาวไม่ต้องพึ่งก้านดอกไม้งานแต่งหรอก ยังไงผัวเพื่อนฉันก็ต้องหล่อกว่าอีผู้ชายเฮงซวย หลัวมักมากในกามของแกอยู่แล้ว คอยดู้!’
ตะคอกไม่พอชี้หน้าฝ่ายผู้ชายด้วย ไม่สนใจกรวิภาที่กำลังเบิกตาโตกับสภาพแบล็กดรอปดอกไม้ที่เละไม่มีชิ้นดี ต่อให้เป็นงานเล็กๆมีเฉพาะกลุ่มเพื่อนและญาติสนิทก็เถอะ อิงดาวกับจันจิกำลังใช้แรงที่มีดึงนะนางเอาไว้ไม่ให้กระโจนเข้าใส่มาริกาอีกครั้ง
'เหอะ! พนันกันมั้ยล่ะ ด้วยเบียร์หนึ่งร้อยลัง หมูกระทะหนึ่งร้อยโล ถ้ายัยอิงยังโสดถึงปีหน้า พวกแกจะต้องเสียของพนันให้ฉัน'
'หน็อยแน่!'
'ไม่กล้าอ่ะดี้'
มาริกาท้าทายด้วยรู้ดีว่าอิงดาวมีแผลเป็นภายในใจ แต่ของพนันไม่เอาแต่ได้ไปหน่อยเหรอแม่คุณ
‘ไปเถอะนาง อย่าไปสะ...’
‘ได้ เบียร์หนึ่งร้อยลัง กับหมูกระทะหนึ่งร้อยโล ฉันแถมกิมจิกับผักให้แกด้วยเลย แต่ถ้ายัยอิงหาหลัวได้ก่อนวันสิ้นปีนะ แกต้องเป็นคนเอาของพนันทั้งหมดมาให้พวกฉัน!! วะฮะฮ่า....’
เลือดนักสู้พุ่งปี๊ด คนใจใหญ่ไม่รอช้าลั่นวาจาออกมารับคำท้าจนไฟแทบแลบจากปาก อิงดาวถึงกับยกมือขึ้นทึ้งผมตัวเองกับประโยคที่นะนางประกาศกร้าวออกไป นี่พวกหล่อนหิวกันมากใช่มั้ย เพื่อนๆคนอื่นก็ร้องเชียร์เพราะไม่ว่าใครชนะพวกเขาจะได้กินของฟรีอยู่ดี
เธอคาดไม่ถึงว่าความโสดของตัวเองจะส่งผลต่อมวลมนุษยชนได้มากมายถึงเพียงนี้ นี่มันคือมหันตภัยความโสดชัดๆ
วันนั้นนะนางก็ได้ร่างสัญญากลางวงป๊อกเด้ง ปักหมุดขึ้นบนโน้ตของห้องแชตไลน์กลุ่มสาวสวยสะท้านบู๊ตึ๊ง ราวกับประกาศศักดิ์ดาหลั่งเลือด ตั้งคำปฏิญาณก่อนออกรบสมัยกรุงศรีอยุธยา
‘ภายใน360วันอิงดาวจะต้องสละโสด หากไม่สำเร็จต้องถูกริก้าปรับภาษีคนโสดด้วยเบียร์100ลัง หมูกระทะ100โล'
เดี๋ยวก่อน! นะนางเป็นคนวางพนัน...ทว่าคนซวยใยมาเป็นอิงดาว ชักจะไม่มั่นใจแล้วสิว่าระหว่างนะนางกับมาริกาใครที่ร้ายกว่ากัน แล้วกำแพงความโสดที่สูงเด่นอยู่ยอดดอยปุยเมฆใครจะมาช่วยพังลง