หนึ่งอาทิตย์ผ่านไป..
ไอรินกลับมายังคฤหาสน์ใหญ่โตเวอร์วังอลังการของตระกูลอัครเมธาสกุลในช่วงเช้าของวันหลังจากที่บินกลับมาจากภูเก็ตหญิงสาวอยู่แต่ในคอนโดไม่ยอมกลับบ้าน จนพิพัฒน์ต้องโทรไปตามเธอถึงจะยอมกลับมา
หญิงสาวสวมชุดเดรสรัดสั้นรูปคล้องคอแขนกุดสีดำเดินกรีดกรายเข้ามาภายในบ้านด้วยท่าทางมาดมั่นไม่สนใจใคร คนรับใช้ต่างพากันยกมือไหว้และทักทายคุณหนูของบ้านนี้ ไอรินสีหน้าเรียบเฉยเดินตรงไปยังห้องโถงใหญ่โตหรูหราทันที
“คุณหนู กลับมาแล้วหรอคะ” ดวงใจ หญิงแก่ชราอายุมากแต่ยังดูแข็งแรงเอ่ยทักทายไอรินด้วยความดีใจ
ป้าดวงใจช่วยแม่ของเธอเลี้ยงเธอมาตั้งแต่เธอจำความได้และหลังจากที่แม่เสียไปหญิงสาวก็มีแต่ป้าดวงใจนี่แหละที่สามารถเป็นที่พึ่งทางใจให้เธอได้และคอยอยู่ข้างๆเธอเสมอ
“ป้าดวง รินคิดถึงจังเลย”
ไอรินเดินไปสวดกอดหญิงแก่ที่อยู่ในชุดแม่บ้านประจำตระกูลของเธออย่างไม่รังเกียจ
“คุณหนู หิวไหม กินอะไรมาหรือยัง” สาวแก่เอ่ยถามอย่างเป็นห่วงเป็นใยพลางลูบหลังเบาๆ สองร่างกอดกันด้วยความคิดถึงอยู่นานสองนานจนไอรินค่อยๆผละออกจากร่างสูงอายุช้าๆ
“รินยังไม่ได้กินอะไรมาเลย รอกินฝีมือป้าดวงนี่แหละค่ะ”
“อ้อนป้าอีกแล้วนะ แต่ก็ไม่ยอมกลับมาบ้านสักที”
“ป้าก็รู้ว่ารินกลับมาก็มีแต่ปัญหาอยู่คอนโดดีกว่าค่ะ สบายใจดี”
“เดี๋ยวป้าไปทำอะไรให้กินนะคะ” สาวแก่เห็นความเศร้าหมองในสายตาหญิงสาว เธอจึงรีบเปลี่ยนเรื่องทันที
“ค่ะ ขอบคุณค่ะ”
พูดจบสาวใช้ที่อยู่ใกล้ๆก็เดินมาประคองหญิงชราอาวุโสที่สุดในคฤหาสน์นี้พาตรงไปยังห้องครัวใหญ่อย่างช้าๆ ไอรินก้าวเดินตรงไปยังห้องรับแขกใหญ่กวาดสายตาไปรอบๆห้อง
“คุณพ่ออยู่ไหน” ไอรินเอ่ยถามสาวใช้
“นายท่านอยู่บนห้องค่ะคุณหนู อีกสักพักก็จะลงมาแล้วค่ะ”
เมื่อได้ยินคำตอบจากคนใช้แล้ว หญิงสาวจึงย่อตัวนั่งลงบนโซฟาตัวใหญ่พร้อมกับวางกระเป๋าสีดำเข้ากับชุดราคาแพงลงบนโต๊ะ
“คุณหนูรับน้ำอะไรดีคะ” สาวใช้เอ่ยถามทันทีที่หญิงสาวนั่งลงบนโซฟา
“น้ำเปล่า” ไอรินตอบสั้นๆ
“ค่ะ”
สาวใช้ก้มหัวหนึ่งครั้งก่อนจะปลีกตัวเดินไปหยิบน้ำมาเสิร์ฟให้เธอ ในจังหวะนั้นเอง พิพัฒน์ พ่อของเธอก็เดินมายังห้องรับแขกพอดี
“แกยังจำทางกลับบ้านของแกได้ด้วยหรอ” พิพัฒน์เอ่ยเสียงเข้ม
“มีอะไรคะ โทรตามรินมาทำไม”
“ถ้าวันนี้ไม่มีธุระอะไรก็อยู่บ้าน เดี๋ยวจะมีแขกมาที่บ้านแกต้องทำความรู้จักสนิทสนมกับเขาไว้”
“แค่นั้นใช่ไหมคะ”
“แล้วต่อไปนี้แกต้องไปช่วยงานฉันที่บริษัททุกวัน แกจะมาเถลไถลแบบเมื่อก่อนไม่ได้แล้ว”
“รินขอเวลาสักสองสามวันแล้วกันค่ะ”
สิ้นเสียงของหญิงสาว พิพัฒน์ย่อตัวนั่งลงข้างๆไอรินพร้อมกับเอ่ยเสียงเเข็งขึ้นอีกครั้ง
“แกไปอยู่เมืองนอกมานานมีแฟนหรือยัง”
“ถามทำไมคะ” ไอรินขมวดคิ้วอย่างสงสัย
“ฉันเป็นพ่อแกนะ ทำไมฉันจะถามไม่ได้”
“รินไม่มีค่ะ แล้วก็ยังไม่คิดจะมีด้วย”
“ยังไม่มีก็ดี ฉันจะได้นัดดูตัวให้แก”
“พ่อจะทำอะไรก็ทำเลยค่ะตามสบาย ยังไงพ่อก็ไม่เคยถามความเห็นของรินอยู่แล้ว” หญิงสาวตอบอย่างประชดประชัน
“ยัยริน ฉันก็ถามแกอยู่นี่ไง”
“อันนั้นเรียกว่าถามหรอคะ”
สองพ่อลูกเริ่มเสียงดังใส่กันตั้งท่าจะเถียงกันต่อ แต่ทว่าในจังหวะนั้นเองก็มีชายหนุ่มหน้าฝรั่งหล่อเหลานัยน์ตาสีเทาน่าหลงใหลย่างกรายเข้ามาภายในห้องรับแขกที่ใหญ่โตหรูหรา ส่งผลให้สองพ่อลูกหันขวับไปมองอย่างตื่นตกใจ
“อ่าว คุณคาเดนมาไวจังเลยนะครับ”
พิพัฒน์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงร่าเริง พิพัฒน์ได้นัดหมายกับเคแลนคุยเรื่องธุรกิจ เขาต้องการจะนัดไปที่บริษัทแต่คาเดนต้องการมาที่บ้านเนื่องจากเขาบอกว่าเขาผ่านมาทางนี้พอดีและคาเดนไม่ได้เข้าบริษัทในวันนี้
“สวัสดีครับคุณพิพัฒน์” คาเดนยิ้มกว้างอบอุ่นส่งกลับไปให้พิพัฒน์พลางจ้องมองร่างบางที่อยู่ข้างกายพ่อของเธอ
“สวัสดีครับ” พิพัฒน์เอ่ย
“สวัสดีครับน้องไอริน” ชายหนุ่มยิ้มเจ้าเล่ห์ส่งไปให้ไอริน
“สวัสดีค่ะ”ไอรินหน้าตานิ่งเรียบยกมือไหว้ตามมารยาท
“นั่งก่อนครับ ทานมื้อเที่ยงมาหรือยังครับ” พิพัฒน์พายมือให้คาเดนนั่งลงตรงข้ามเขา
“ยังเลยครับ”
คาเดนย่อตัวนั่งลงบนโซฟาใหญ่พร้อมกับตวัดสายตามองที่ร่างบางอยู่บ่อยๆ ดวงหน้าของไอรินช่างน่ามองน่าหลงใหล เขาสามารถมองใบหน้าสวยเชิดรั้นนั้นได้อย่างไม่เบื่อเลย
“งั้นเดี๋ยวเชิญทานอาหารเที่ยงด้วยกันก่อนแล้วค่อยคุยเรื่องงานกันดีกว่าไหมครับ”
“ได้ครับ”
“จัดโต๊ะเพิ่มอีกที่หนึ่งนะ” พิพัฒน์หันไปเอ่ยกับสาวใช้ที่ยืนประจำตำแหน่งอยู่ตามแต่ละจุดของบ้าน
“ค่ะนายท่าน” สาวใช้เอ่ยตอบกลับและรีบหันหลังตรงไปยังห้องรับประทานอาหารทันที
“ทำไมผมถึงไม่เคยเจอลูกสาวคนสวยของคุณพิพัฒน์เลยละครับ”
คาเดนเชิงถามในสิ่งที่เขารู้อยู่แล้ว ชายหนุ่มให้คนไปสืบเรื่องของไอรินมาหมดแล้ว เธอโดนส่งไปเรียนที่ต่างประเทศตั้งแต่ช่วงวัยรุ่นของชีวิตและเพิ่งได้กลับมาที่ประเทศไทยเมื่อไม่กี่สัปดาห์นี้เอง
“ไอรินไปเรียนที่ต่างประเทศมานะครับ เธอเพิ่งจะเรียนจบผมเลยให้เธอกลับมาศึกษางานที่บริษัทต่อ”
พิพัฒน์เอ่ยตอบกลับคาเดนแทนลูกสาวที่เอาแต่นั่งเงียบไม่พูดไม่จา พิพัฒน์ลอบสังเกตสายตาที่คาเดนมองไอริน เขาเป็นผู้ชายเหมือนกันเขาพอจะมองออกว่าคาเดนคงจะชอบพอไอรินอยู่ไม่น้อย หากเป็นอย่างนั้นเขาจะได้ไม่ต้องให้ไอรินไปนัดดูตัวให้เสียเวลา เพราะคาเดนนั้นเพรียบพร้อมทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นหน้าที่การงาน ฐานะ เชื้อสายวงศ์ตระกูล ทุกอย่างที่เป็นคาเดนมันช่างสมบูรณ์แบบอย่างไร้ที่ติ
“ช่วงศึกษางานคงเหนื่อยแย่เลยนะครับ”
“ครับ ผมก็ค่อยๆให้แกเรียนรู้ไปนั่นแหละครับไม่ได้เร่งรัดแกมากจนเกินไป”
“ดีแล้วครับ อย่าหักโหมมากนะไอริน”คาเดนเอ่ยเสียงนุ่มนวล
“ขอบคุณค่ะ” ไอรินตอบกลับอย่างไม่เต็มใจเท่าไหร่นัก
เวลาผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมง พิพัฒน์และคาเดนพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน ส่วนไอรินเอาแต่นั่งหน้านิ่งไร้อารม์ถามคำตอบคำ จนสาวใช้เดินมาบอกเจ้านายของพวกเธอว่าโต๊ะอาหารจัดเตรียมเสร็จสรรพเรียบร้อยแล้ว
“โต๊ะอาหารจัดเตรียมเสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะนายท่าน” สาวใช้เอ่ย
“ขึ้นไปตามคุณมลบนห้องมาทานอาหารหน่อย”
สิ้นเสียงของพิพัฒน์ ไอรินหันขวับมองหน้าบิดาด้วยสายตาแข็งกร้าวขึ้นมาทันที จนคาเดนจับสังเกตอาการของเธอได้ว่าเธอรู้สึกไม่พอใจบิดาเป็นอย่างมาก
ศศิวิมล อรุณพงษ์วิไล หรือ มล ภรรยาคนที่สองของนายพิพัฒน์ที่ไม่ได้จดทะเบียนสมรสกันอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งเธอมีอายุมากกว่าลูกเลี้ยงเพียงแค่ 10 ปีเท่านั้น ไอรินและแม่เลี้ยงไม่ค่อยจะลงรอยกันเท่าไหร่นัก นั้นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ไอรินไม่อยากกลับบ้าน
“รินไม่หิว ขอตัวขึ้นห้องก่อนค่ะ” ไอรินเอ่ยด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว
“ไอริน เรามีแขกอยู่นะอย่าเอาแต่ใจแบบนี้ รักษาหน้าพ่อด้วย” พิพัฒน์กระซิบข้างหูไอรินเบาๆแต่กระนั้นก็ทำให้คาเดนได้ยินอยู่ดี
“ไม่เป็นไรหรอกครับคุณพิพัฒน์ ถ้าไอรินไม่หิวก็อย่าไปบังคับน้องเลย”
“ไม่ได้หรอกครับคุณคาเดน ไอรินอยู่เมืองนอกมานาน ผมต้องอบรมเรื่องมารยาทไทยให้เข้มงวดกว่านี้ครับ” พิพัฒน์ตอบกลับเสียงเข้ม
ไอรินกลอกตาพร้อมกับถอนหายใจเบาๆอย่างเบื่อหน่าย เธอไม่อยากเจอหน้ายัยแม่เลี้ยงใจร้ายตีสองหน้าที่เป็นต้นเหตุที่ทำให้เธอต้องโดนพ่อเนรเทศไปอยู่เมืองนอกใช้ชีวิตอยู่คนเดียว คิดไปถึงตอนนั้นแล้วเธอก็ยังเจ็บใจไม่หาย