ภูเมฆาหลับไปนานพอสมควร เขารู้สึกตัวตื่นอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงกัญญ์วรากลับเข้ามา
“ใบตองเหรอ” เขาถามออกไปทั้งที่ยังไม่ลืมตา
“ใบตองเองค่ะพี่ภู ขอโทษนะคะที่ทำเสียงดังจนพี่ตื่น”
“เอาน้ำให้หน่อยได้ไหมคอแห้งมากเลย”
“ได้ค่ะ ใบตองซื้อน้ำส้มมาด้วย คั้นสดๆ เลยนะคะ” เธอส่งน้ำส้มขวดเล็กให้ก่อนจะเดินกลับมาเก็บของที่เพิ่งซื้อมาเข้าตู้เย็น
“อร่อยดีไม่เปรี้ยวอย่างที่คิดนะ”
“ถ้าชอบเดี๋ยววันหลังใบตองจะซื้อให้อีกนะคะ ไหนๆ ที่ภูก็ตื่นมาแล้วใบตองจะถามว่าเย็นนี้อยากกินอะไรคะ”
“เอาเหมือนตอนกลางวันก็ได้นะ อร่อยดี”
“ไม่เบื่อเหรอคะ”
“ยังไม่เบื่อนะ” ภูเมฆาเป็นคนกินง่ายไม่ว่ากัญญ์วราจะทำเมนูไหนเขาก็ทานได้หมด
“ได้ค่ะ ว่าแต่พี่ภูมียาก่อนอาหารไหมคะ เดี๋ยวใบตองดูให้ค่ะ” เมื่อเห็นเขาจะลุกจากโซฟากัญญ์วราเลยรีบเดินมาหยิบถุงย่าที่อยู่บนโต๊ะทานข้าว เธอเปิดถุงยาของเขาดูอีกครั้งเมื่อเห็นว่าไม่มีก็เก็บเข้าที่เดิม
“ไม่มีใช่ไหม”
“ไม่มีค่ะ”
กัญญ์วราลงมือทำอาหารเย็นอีกครั้งนอกจากจะมีข้าวผัดกุ้ง ต้มจืดเต้าหู้หมูสับแล้วเธอยังเพิ่มฉู่ฉี่กุ้งอีกอย่างเพราะเห็นว่ากุ้งที่ซื้อมายังพอทำได้อีกเมนู
“อาหารพร้อมแล้วค่ะพี่ภู” กัญญ์วราเดินไปเรียกเจ้าของห้องที่หายเข้าไปในห้องทำงานตั้งแต่เธอเริ่มทำอาหารเย็น
“ไวจังขอพี่ทำงานต่ออีก 5 นาทีนะ”
“ได้ค่ะ อย่าเกินนั้นนะคะพี่ต้องรีบกินข้าวกินยา”
“ไม่เกินหรอกใบตองไปนั่งรอได้เลย”
กัญญ์วรานั่งเล่นโทรศัพท์ฆ่าเวลา แล้วก็ไลน์ไปบอกธิชากรว่าภูเมฆาไม่ได้เป็นอะไรมาก ธิชากรเลยเล่าว่าคนที่บริษัทห่วงภูเมฆากันมากและอยากมาเยี่ยมแต่ก็ไม่มีใครรู้ว่าชายหนุ่มพักที่ไหนนอกจากน้าสุชาติคนขับรถคนเดียว ซึ่งพอไปถามน้าสุชาติก็ไม่ยอมบอก
หลังทานอาหารเย็นกัญญ์วราก็เตรียมยาให้ภูเมฆาระหว่างนั้นก็ชวนคุยเรื่องที่ทุกคนในบริษัทกำลังเป็นห่วงเขา
“พี่ภูจะไม่แจ้งข่าวพวกเขาหน่อยเหรอคะ”
“ไม่ต้องหรอกมั้งพรุ่งนี้พี่ก็จะไปทำงานแล้ว”
“ได้ยังไงคะ พี่ภูต้องรอให้แผลหายดีก่อนไปทำงาน”
“แต่พี่ไม่เป็นอะไรมากนะ”
“พรุ่งนี้ก็วันศุกร์แล้วนะคะ หยุดต่ออีกวันเถอะค่ะ”
ภูเมฆาพยักหน้ารับทราบเพราะเห็นแววตาที่ห่วงใยของกัญญ์วรา เขาเลยคิดว่าพรุ่งนี้เช้าจะโทรไปบอกเลขาว่าตนเองไม่ได้เป็นอะไรมาก
“พี่ภูคะ แผลของพี่ต้องทำแผลไหม”
“หมอบอกไม่ต้องนะ”
“แล้วพี่ภูจะอาบน้ำได้ไหม”
“ได้สิ หมอปิดพลาสเตอร์กันน้ำไว้แล้ว”
“ค่ะ ใบตองขอตัวก่อนนะคะถ้าพี่ภูจะเรียกใช้ก็เรียกได้นะคะ”
“อือ”
กลางดึกขณะที่กัญญ์วรากำลังจะเข้านอนก็มีสายโทรเข้าจากภูเมฆา แต่ปลายสายไม่ได้พูดอะไร เธอได้ยินแต่เสียงลมหายใจของเขาและคิดว่าชายหนุ่มคงจะนอนทับโทรศัพท์จนมันโทรออก
แต่เธอก็ยังกังวลกลัวว่าเขาจะไม่สบายหรือต้องการความช่วยเหลือจึงถือวิสาสะเดินไปยังห้องนอนของชายหนุ่มซึ่งได้คุยกันก่อนหน้านี้แล้วว่าคืนนี้เขาจะไม่ล็อกประตูห้องนอน
กัญญ์วราเดินผ่านความมืดเข้าไปด้วยความเคยชินเพราะห้องนี้เธอเดินเข้าออกมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน หญิงสาวเดินไปหยุดบริเวณข้างเตียง อาศัยแสงไฟจากทางด้านนอกห้องมองหน้าคนที่กำลังหลับอยู่
ใบหน้าหล่อเหล่าที่สาวๆ เห็นต่างพากันมองนั้นเต็มไปด้วยเหงื่อทั้งที่ห้องก็เปิดเครื่องปรับอากาศไว้จนเธอยังรู้สึกหนาวเพราะสวมแค่ชุดนอนตัวบาง
เธอเอื้อมมือไปสัมผัสกับใบหน้าของเขาแล้วก็ต้องรีบดึงมือกลับเพราะไอร้อนที่ออกมาจากผิวกายนั้นร้อนกว่าปกติอยู่มาก
“พี่ภูคะ”
“อือ”
“พี่ภูตัวร้อนมากๆ เลยค่ะ แผลอักเสบหรือเปล่าคะ”
“ไม่รู้” เขาตอบทั้งที่ยังหลับตา
“พอจะลุกนั่งไหวไหมคะ เดี๋ยวใบตองเอายาลดไข้มาให้ แล้วก็ต้องเช็ดตัวด้วย”
“ไหวอยู่นะ” ภูเมฆายันตัวลุกนั่งแต่ก็ต้องเอามือกุมแผลเพราะรู้สึกเจ็บกว่าเมื่อตอนกลางวันมาก
“ใบตองขอเปิดไฟได้ไหม”
“ได้”
กัญญ์วราเปิดไฟที่หัวเตียงจากนั้นก็ช่วยพยุงให้เขานั่งก่อนที่ตัวเองจะรีบวิ่งออกไปหายาแก้ปวดลดไข้ซึ่งหมอได้จ่ายมาให้กับภูเมฆาตั้งแต่เมื่อตอนบ่าย
“กินยาก่อนนะคะ”
จากนั้นกัญญ์วราก็รีบไปเตรียมกะละมังใบเล็กและผ้าเช็ดตัวเข้ามา เธอปิดเครื่องปรับอากาศและนั่งลงบนเตียง
“พี่ภู ใบตองขอถอดเสื้อได้ไหม”
“อือ”
พอเขาอนุญาตหญิงสาวก็รีบแกะกระดุมเสื้อของเขาออกทีละเม็ดจนในที่สุดร่างกายท่อนบนของเขาก็เปลือยเปล่าตรงหน้า เป็นครั้งแรกที่เธอได้เห็นกล้ามหน้าท้องของใครใกล้ขนาดนี้ หญิงสาวมือสั่นเล็กน้อยเมื่อเช็ดไปตามหน้าท้องที่มีกล้ามเรียงตัวกันอย่างสวยงาม
“เจ็บแผลไหมคะ” เธอชวนเข้าคุยเพื่อกลบความประหม่า
“อือ ไม่รู้ว่ามันอักเสบไหม”
“ใบตองว่าถ้าพรุ่งนี้พี่ภูยังไม่ไข้อยู่ก็ต้องไปหาหมอนะคะ”
“ไปหาทำไม หมอก็ให้ยามาแล้ว อันที่จริงหมอก็บอกไว้ว่าคืนนี้น่าจะมีไข้ให้กินยากันไว้เลยแต่พี่ลืมกิน”
“นั้นไง ถ้าพี่ภูเชื่อหมอก็คงไม่ตัวร้อนแบบนี้ ดูสิเหงื่อเต็มเลย” หญิงสาวเช็ดไปบ่นไปแต่ก็ช่วยเขาเช็ดตัวจนทั่ว
“เช็ดขาด้วยไหม”
“ค่ะ แต่ไม่ต้องถอดกางเกงนะคะเช็ดถึงแค่เขาก็พอ”
“พี่ว่าถอดหมดดีกว่านะ”
“ถ้าถอดหมดพี่ภูต้องเช็ดเองนะคะ”
“อ้าว นึกว่าจะช่วยเช็ด”
“ใครจะช่วยกันล่ะคะ เดี๋ยวใบตองจะไปเอาชุดนอนมาให้เปลี่ยนให้ระหว่างนี้พี่ก็เช็ดไปคนเดียวก่อน อ้อ เช็ดแล้วก็ห่มผ้าไว้อย่างเดิมนะคะ ใบตองไม่อยากเป็นตากุ้งยิง”
“อย่าแอบดูล่ะ”
“ใครจะแอบดูกันล่ะ ของแบบนี้ใบตองเห็นจนเบื่อแล้วล่ะคะ” กัญญ์วราพูดจบก็รีบวิ่งไปยังห้องแต่งตัว เธอเลือกชุดนอนที่เป็นแบบติดกระดุมเพื่อเขาจะได้สวมได้ง่ายๆ จากนั้นก็นั่งรอเวลาอีกสักพักก่อนจะกลับออกมา
“พี่ภู” หญิงสาวหลับตาและเดินคลำทางมาเพราะกลัวว่าเขาจะยังโป๊อยู่
“ลืมตาได้แล้วน่า พี่ห่มผ้าแล้ว”
“แน่นะคะ”
“อือ”
กัญญ์วราลืมตาดูทีละนิดเมื่อเห็นเขาห่มผ้าแล้วเธอก็ช่วยเขาใส่เสื้อนอน
“ที่เหลือใส่เองนะคะ ใบตองจะกลับห้องแล้วค่ะ อีกชั่วโมงจะเข้ามาดูใหม่นะคะ” หญิงสาวเก็บเสื้อผ้าที่ชุ่มไปด้วยเหงื่อจากนั้นก็เดินกลับไปยังห้องของตนเอง
พอครบหนึ่งชั่วโมงกัญญ์วราก็กลับมาที่ห้องของภูเมฆาอีกครั้งเมื่อ เธอสัมผัสหน้าผากของเขาแล้วเห็นว่าไม่ร้อนอย่างตอนแรกก็เบาใจ
เธอกลับมายังห้องนอนของตนเองอีกครั้ง พอเวลาผ่านไปสองชั่วโมงหญิงสาวก็กลับเข้าไปดูเขาอีกเมื่อทุกอย่างปกติกัญญ์วราก็ล้มตัวลงนอนด้วยความง่วง