-5-
@ผับหรูใจกลางเมืองนิวยอร์ก
"ไงครับคุณว่าที่เจ้าบ่าว เมียอนุญาตให้ออกมาเหรอครับ" เจวานพูดแซวเพื่อนสนิทอย่างมาร์ตินทันทีที่เปิดประตูเข้ามาในห้อง VVIP ที่มีเพื่อนๆ แก๊งมาเฟียนั่งรออยู่ก่อนแล้ว
"หึ ก็แค่แต่งงาน ใบทะเบียนสมรสจะทำอะไรกูได้"
"แหม กูละสงสารแทนว่าที่เจ้าสาวมึงจริงๆ เลย" คาร์ลอสแทรกขึ้นมาในจังหวะที่มาร์ตินเดินมาหย่อนตัวนั่งลงบนโซฟา
"ช่วยไม่ได้อยากมีผัวหล่อก็ต้องทำใจ"
"หึ กูนึกว่าไอ้คริสเตียนจะเป็นคนไปคนแรกซะอีกแต่กลับเป็นมึงซะได้" ลูคัสแทรกขึ้นมาบ้าง
"พอๆ มาผับใครเขาพูดถึงเมียกันมันเสียระบบ" คริสเตียนแทรกขึ้นมาพลางกระดกแก้วเหล้าราคาแพงในมืออย่างอารมณ์ดี
"ทำเป็นพูดดีไป นี่เมียมึงยอมให้ออกมาเหรอ" มาร์ตินกระแนะกระแหนคริสเตียนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม เพราะนานๆ ทีจะได้เห็นหัวมัน วันๆ กกอยู่แต่กับเมีย
"กูกล่อมเข้านอนไปละ รีบๆ แดก รีบๆ คุยเดี๋ยวเมียกูตื่นมาก่อน"
"ถุย! เมื่อกี้หมาที่ไหนมันบอกกลัวเมียมันเสียระบบวะ"
"ฮ่าๆๆๆ /ฮ่าๆๆๆ " ทุกคนในห้องหัวเราะเห็นด้วยกับมาร์ติน
"เออ กูจะคอยรอดูมึงละกัน"
@วันงานแต่งงาน
โรงแรมหรูระดับเจ็ดดาวถูกเนรมิตเป็นงานแต่งงานที่สาวๆ หลายคนใฝ่ฝัน ตลอดทางเดินประดับไปด้วยดอกกุหลาบสีขาวนับหมื่นดอก ผู้คนไฮโซ นักธุรกิจจากทั่วมุมโลกต่างมารวมตัวกันที่นี้นี่เพื่อแสดงความยินดีกับคู่บ่าวสาวในงานแต่งครั้งนี้
"สวยมากเลยค่ะคุณเอ็มม่า พี่แค่สะบัดแปรงนิดๆ หน่อยๆ เท่านั้นเอง" ช่างแต่งหน้ารูปร่างชายหัวใจหญิงจีบปากจีบคอชมว่าที่เจ้าสาวอย่างออกรสขณะสะบัดแปรงลงบนใบหน้าหวาน
"ขอบคุณค่ะ"
"ทั้งชุด ทั้งการจัดงานออกมาดูดีมากเลยค่ะ เจ้าบ่าว เจ้าสาวก็สวยหล่อเหมาะสมกัน สมกับเป็นงานแต่งงานแห่งปีจริงๆ เลยค่ะ"
ใบหน้าหวานอมยิ้มให้ช่างแต่งหน้าสาวเพียงนิดเท่านั้น เพราะเธอไม่ได้รู้สึกอินหรือตื่นเต้นในการแต่งงานครั้งนี้สักเท่าไหร่นัก
"เจ้าสาวพร้อมไหมคะ พิธีจะเริ่มแล้วค่ะ"
"พร้อมแล้วค่ะ"
ร่างบางถูกผู้ช่วยนับสิบคนรุมล้อมเพื่อเช็กความเรียบร้อย ทั้งเสื้อผ้า หน้า ผมอีกครั้ง
"ลูกสาวพ่อสวยที่สุดเลย" ไมเคิลชมลูกสาวด้วยสายตามีความสุขที่ได้เห็นลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนเป็นฝั่งเป็นฝา
"ก็ได้ยีนของแดดดี้กับมัมมี้มาไงคะ"
"จะมีสามีเป็นตัวเป็นตนยังไม่เลิกปากหวานอีกนะ" ไมเคิลพูดด้วยน้ำเสียงไม่จริงจังนักกับความทะเล้นของลูกสาว ก่อนจะยื่นแขนตั้งฉากให้เอ็มม่าเดินคล้องแขนออกไปหาเจ้าบ่าว
พรึ่บ!!!
ไฟทุกดวงในงานดับลงก่อนสปอตไลต์ จะถูกฉายมายังเจ้าสาวที่เดินควงแขนไมเคิลมาตามทางเดินพรมแดงด้วยท่วงท่าสง่างาม ไมเคิลส่งตัวเจ้าสาวให้เจ้าบ่าวต่อไปเพื่อดำเนินตามพิธี
บาทหลวง : ท่านทั้งสอง มีเจตจำนง ที่จะสมรสกัน ขอให้ท่านจับมือขวาของกันและกัน และแสดงความสมัครใจ ต่อหน้าพระเป็นเจ้า และพระศาสนจักรของพระองค์
เจ้าบ่าว : ข้าพเจ้ามาร์ติน ขอรับคุณเอ็มม่า เป็นภรรยา และขอสัญญาว่าจะถือซื่อสัตย์ต่อคุณทั้งในยามสุขและยามทุกข์ ทั้งในเวลาป่วยและเวลาสบาย เพื่อรักและยกย่องให้เกียรติคุณ จนกว่าชีวิตจะหาไม่
เจ้าสาว : ข้าพเจ้าเอ็มม่า ขอรับคุณมาร์ตินเป็นสามี และขอสัญญาว่าจะถือซื่อสัตย์ต่อคุณทั้งในยามสุขและยามทุกข์ ทั้งในเวลาป่วยและเวลาสบาย เพื่อรักและยกย่องให้เกียรติคุณ จนกว่าชีวิตจะหาไม่
มาร์ตินหยิบแหวนเพชรประจำตระกูลเม็ดงามมาบรรจงสวมลงบนนิ้วนางข้างซ้ายของเอ็มม่า จากนั้นเอ็มม่าก็หยิบแหวนทองคำขาวฝังเพชรตรงกลางมาสวมใส่ให้มาร์ตินเช่นกัน เพื่อแสดงถึงการร่วมใช้ชีวิตที่สมบูรณ์
"เชิญเจ้าบ่าวจูบเจ้าสาวได้เลยครับ"
สิ้นสุดคำสั่งบาทหลวงมาร์ตินก็บรรจงจูบลงไปบนริมฝีปากอย่างละเมียดละไมเป็นเวลานานนับนาทีกว่าจะถอนจูบออก ราวกับต้องการกลั่นแกล้งภรรยาของตัวเอง
"ทางนี้!!! ๆๆๆๆ " เสียงกรี๊ดกร๊าดดังกึกก้องตรงบริเวณหน้าเวทีเมื่อสาวๆ ต่างพากันไปรอรับช่อดอกไม้จากเจ้าสาวตามความเชื่อ
"1 2 3!!! "
"อ๊ะ! " พัดชาสะดุ้งด้วยความตกใจเมื่อช่อดอกไม้ลอยมาตกตรงหน้าเธอ ทำให้ต้องเอื้อมมือไปรับอย่างเลี่ยงไม่ได้
"อ้าววะ สงสัยจะไปอีกหนึ่ง" เจวานมองคริสเตียนที่ยืนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เมื่อคู่หมั้นสาวรับช่อดอกไม้ได้
"คืนนี้ปั๊มลูกเลยไหมจะได้รีบแต่ง" คริสเตียนเดินไปกระซิบข้างใบหูเล็ก จนคู่หมั้นสาวต้องหันมาแหวใส่เพื่อกลบเกลื่อนความเขินอาย
"จะบ้าเหรอ อย่ามาทะลึ่งแถวนี้นะเอาไปถือเลยไป" พัดชายัดช่อดอกไม้ในมือให้คริสเตียนก่อนจะเดินหนีไปทางอื่น คริสเตียนจึงเดินแยกกลับมารวมอยู่กับเพื่อนๆ
"นี่พวกเพื่อนผม คริสเตียน เจวาน คาร์ลอส และก็ลูคัส"
"ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ" เอ็มม่ากล่าวทักทายอย่างมีมารยาท
"เช่นกันครับ ยังไงก็ฝากไอ้มาร์ตินมันด้วยนะครับ" เอ็มม่าเพียงแต่ยิ้มบางๆ แทนคำตอบ
"ตามสบายนะคะ เอ็มขอตัวก่อน"
"ที่รักจะไปไหนล่ะ ไม่ชอบพวกเพื่อนผมเหรอ ผมไล่พวกมันออกจากงานก็ได้นะ" มาร์ตินดึงเอวคอดมาโอบไว้ราวกับหวงแหนนักหนา
"น้อยๆ หน่อยครับคุณมาร์ติน"
"เปล่าหรอกค่ะพอดีเอ็มจะไปทักทายเพื่อนหน่อย" หญิงสาวกัดฟันตอบ
"งั้นผมไปด้วยสิ ผมก็อยากทำความรู้จักเพื่อนเมีย เอ่อ เพื่อนภรรยาไว้เหมือนกัน"
ฟอด~
"นี่นาย!!! " เอ็มม่าเบ้หน้าหนีเมื่อมาร์ตินฉวยโอกาสตอนเธอเผลอก้มลงมาหอมแก้มนวลฟอดใหญ่
"จุ๊ๆ เดี๋ยวคนอื่นเขาเข้าใจผิดนะที่รัก" มาร์ตินทำสีหน้ายียวนยิ่งกระตุ้นอารมณ์ฉุนเฉียวของเอ็มม่าได้เป็นอย่างดี แต่ก็ต้องข่มอารมณ์ไว้ แล้วทำสีหน้าให้เป็นปกติเพราะสายตาหลายร้อยคู่กำลังมองมาที่เจ้าบ่าว เจ้าสาว พ่องาน แม่งานของคืนนี้
"จะไปก็เชิญค่ะ" เอ็มม่าพูดด้วยน้ำเสียงลอดไรฟันก่อนจะเดินสะบัดกระโปรงนำมาก่อน
"เมียมึงนี่ดุดีเหมือนกัน ฮ่าๆๆๆ " คาร์ลอสพูดแซวมาร์ตินมาตามหลัง เมื่อเดินตามเอ็มม่าออกมา
"แสดงความยินดีด้วยนะคะเจ้าสาวป้ายแดง"
"แกก็รู้นี่ว่าเหตุผลของการแต่งงานคืออะไร"
"เฮ้ย เจ้าบ่าวแกยืนอยู่นี่นะเว้ย"
"แล้วไงฉันไม่จำเป็นต้องสร้างภาพกับแก"
"เอ่อ คือว่า..."
"ไม่เป็นไรหรอกครับภรรยาผมเขาขี้หงุดหงิด"
"นี่นาย นี่เกรซี่เพื่อนฉันไม่ต้องมาแสดงแถวนี้"
"ฉันไม่ได้แสดงให้เพื่อนเธอดูสักหน่อย สวัสดีครับคุณดีแลน" มาเฟียหนุ่มพูดประโยคแรกกับหญิงสาวก่อนจะพูดประโยคถัดมากับผู้มาเยือนใหม่
"แสดงความยินดีด้วยนะครับ"
"ขอบคุณมากครับ"
"พี่ดีแลนมานานหรือยังคะ" เกรซี่พูดขึ้นเพื่อทำลายบรรยากาศเมื่อเห็นเพื่อนสาวนิ่งเงียบไม่พูดอะไร
"สักพักแล้วละ แต่เดี๋ยวคงกลับแล้วพี่แค่มาแสดงความยินดีด้วย มีความสุขมากๆนะ"
"ทำไมรีบกลับจังล่ะครับ อยู่ส่งตัวเจ้าสาวเข้าหอก่อนสิครับ"
"พอดีผมมีธุระ คงไม่สะดวกขอโทษด้วยนะครับ"
"ถ้างั้นก็ไม่เป็นไรครับ"
"ผมขอตัวก่อนนะครับ"
ดีแลนแยกออกจากวงสนทนาไปอีกทางหนึ่งโดยทิ้งบรรยากาศที่น่าอึดอัดเอาไว้
"เดี๋ยวฉันมานะ นายอยู่รับแขกที่นี่แหละเดี๋ยวฉันมา" เอ็มม่าพูดจบก็จับชายกระโปรงเดินไปยังทางที่ดีแลนเดินหายไป