ดีกับทุกคนยกเว้นเมีย 2

1266 คำ
และก็เป็นไปตามคาด หลังจากส่งพลอยชมพูกลับ สามีผู้แสนดีกับผู้หญิงคนอื่นยกเว้นภรรยาของตัวเองก็ตรงดิ่งมายังห้องทำงานของพาขวัญ “ทำไมคุณไปว่าพลอยชมพูเขาแบบนั้น ผมไม่โอเคนะแอ้ม พลอยชมพูคือลูกค้า คุณควรให้เกียรติและรักษามารยาทบ้าง ไม่ใช่ขาดสติพูดออกไปแบบนั้น” ขายังไม่ทันก้าวเข้ามาในห้องทำงาน เสียงที่ฟังยังไงก็รู้ว่าเจ้าของเสียงไม่พอใจเอามากๆ ก็ดังมาก่อนตัวเสียแล้ว พาขวัญก็ขี้คร้านจะต่อล้อต่อเถียง เพราะมีงานด่วนต้องจัดการ จึงเลือกที่จะนั่งทำงานเอาหูทวนลมไป พาให้คนอารมณ์เสียยิ่งเสียเข้าไปใหญ่ เดินเข้ามาหาหญิงสาวหน้าโต๊ะทำงาน เท้ามือทั้งสองข้างยันกับโต๊ะไว้ มองภรรยาที่นั่งทำตัวไม่รู้ร้อนตาขวาง “แอ้ม! ผมพูดกับคุณอยู่นะ” “รู้แล้วค่ะ แต่แอ้มทำงานก่อนได้ไหม ยังไม่มีเวลามาทะเลาะด้วย ต้องเอาข้อมูลไปให้พี่คิม” “ผมขอห้านาที” พาขวัญกระแทกลมหายใจออกมาหนักๆ กับความดื้อดึงไม่ฟังของคุณากร ที่คงเป็นเดือดเป็นร้อนมากถึงได้ขอเวลาคุยกับเธอแบบนี้ เพราะหากชายหนุ่มอยากพูดคุยในเรื่องสำคัญ เขามักจะเอ่ยขอเวลาแบบนี้เสมอ เป็นการบอกว่าเขาต้องการคุยจริงๆ และห้ามใครปฏิเสธ พาขวัญหยิบโทรศัพท์มือถือที่วางเข้าโหมดนาฬิกาจับเวลา และกดเริ่มทันที “เชิญ” “ตอบผมมาว่าคุณทำแบบนั้นทำไม” “คุณก็น่าจะรู้อยู่แก่ใจนะคะว่าทำไมแอ้มถึงทำแบบนั้น แอ้มเตือนคุณแล้วนะคินณ์ ว่าถ้างานไหนที่แอ้มต้องทำร่วมกับพลอยชมพู คนที่คุณอยากได้เป็นเมียคนนั้น แอ้มไม่ทำ” “แต่มันคืองาน” พาขวัญลุกขึ้นเดินเข้ามาหาสามี สบสายตาคมเอาจริง สาวเท้าเข้าใกล้ จนคุณากรต้องขยับเท้าออกห่างอย่างระวังเช่นกัน “งานที่คุณตั้งใจยัดเยียดมันให้แอ้มทำ โดยที่แอ้มไม่เต็มใจ...เพราะฉะนั้นคุณก็ต้องรับในสิ่งที่มันจะเกิดขึ้นได้ด้วยเหมือนกัน” “แต่ยังไงผมก็คิดว่าคุณไม่ควรทำแบบนั้น” “ใช่! แอ้มก็คิดว่าคุณไม่ควรดื้อกับแอ้มตั้งแรกเหมือนกัน และถ้าคุณยังมีสมองคิดได้อยู่บ้าง” นิ้วเรียวจิ้มลงบนหน้าอกย้ำๆ ทั้งที่จริงพาขวัญอยากจะจิ้มลงบนศีรษะของสามีตัวดีซะมากกว่า “คุณคง ค ว ย ได้นะคะ” คิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน พลางคิดไปถึงตัวอักษรที่คนตรงหน้าเอ่ยออกมา ค ว ย อย่างนั้นเหรอ ดวงตาคมเบิกกว้าง ใบหน้าเริ่มแดงก่ำชี้หน้าภรรยาตาขวาง “พาขวัญ!! นี้คุณด่าว่าผมเป็นไอ้นั่นเหรอ” พาขวัญกลอกตาใส่ จับมือคุณากรที่ชี้หน้าตัวเองลง “ประสาท คิดอะไรตื้นๆ ค ว ย ที่ว่าคือคิดวิเคราห์แยกแยะต่างหาก คุณควรตีความหมายให้ออก ว่ายัยพลอยชมพูแอ๊บแอ้ของคุณเป็นเริ่มประเด็นก่อน นางมาด่าแอ้มก่อน คนที่คุณต้องปกป้องคือแอ้มไม่ใช่ผู้หญิงคนนั้น” “ไม่รู้ล่ะ....” ติ่งๆๆๆๆ เสียงนาฬิกาจับเวลาส่งสัญญาณบอกว่าหมดเวลาห้านาที พาขวัญเดินไปกดปิดเสียงนั้นลง “เชิญกลับไปทำงานได้แล้วค่ะท่านรองประธานคุณากร เพราะดิฉันก็จะต้องทำงานเช่นกัน” คุณากรเป็นคนตรงต่อเวลา เมื่อหมดเวลาที่ร้องขอชายหนุ่มก็ไม่คิดจะต่อรอง ร่างสูงจึงหมุนตัวเดินออกจากห้องทำงานของพาขวัญ โดยมีเสียงถอนหายใจของหญิงสาวตามหลังไป คุณากรไม่ได้ตรงกลับห้องทำงานของตัวเอง แต่ชายหนุ่มเลือกที่จะไปหาที่ปรับทุกข์อย่างห้องทำงานของพี่ชายที่อยู่ถัดไปอีกหนึ่งชั้น “ทำไมหน้าตาเป็นงั้น” คนเป็นพี่เอ่ยหยอกเย้าน้องชายที่เดินหน้ามุ่ยเข้ามานั่งลงตรงหน้า คุณากร ในวัยสามสิบสองสำหรับคิมหันต์ ที่เป็นพี่ชาย ก็เหมือนเด็กชายคุณากรในวัยสิบสองขวบไม่มีผิด เมื่อมีอะไรไม่พอใจ หรือไม่ได้ดั่งใจ จะแสดงออกทางสีหน้าแววตาเมื่ออยู่ต่อหน้าตนเสมอ “ก็น้องสะใภ้สุดที่รักของพี่สิครับ กวนประสาทชะมัด ผมชักเริ่มเบื่อเต็มทน จะมีสักวันไหมที่แอ้มจะเชื่อฟังผมบ้าง ไม่ดื้อกับผมอะ” คิมหันต์อมยิ้ม เพราะการแต่งงานที่ไม่ได้เกิดจากความรัก แต่เกิดจากความจำเป็นที่ผู้ใหญ่ทั้งสองครอบครัวทำร่วมกันในวัยหนุ่ม และยังนำสัญญาที่ทำไว้เข้ามาใส่พินัยกรรม โดยมีใจความสำคัญที่ว่า หากวันที่ตนลาลับโลกนี้ไป และทั้งสองครอบครัวยังไม่ได้เกี่ยวดองเป็นทองแผ่นเดียวกัน ก็ขอให้ลูกหลานทั้งสองครอบครัวแต่งงานกันในเร็ววัน อยู่กินฉันท์สามีภรรยาไปจนครบสองปี มรดกในส่วนของตนที่มี ถึงจะสามารถแบ่งให้ลูกหลานได้ และหากลูกหลานไม่ทำตามจะถือว่าพินัยกรรมฉบับนี้เป็นโมฆะ ทรัพย์สมบัติที่เป็นชื่อของตนจะถูกยกให้แก่สถานสงเคราะห์ต่างๆ และนั่นคือจุดเริ่มต้นในความสัมพันธ์ฉันท์สามีของคุณากรและพาขวัญที่ต้องรับหน้าที่อันสำคัญนี้ เพราะพี่น้องคนอื่นแต่งงานมีครอบครัวไปกันหมดแล้ว ความบันเทองจึงมาตกที่คนทั้งคู่ “แล้วคินณ์ไปกวนประสาทอะไรแก้มก่อนหน้าเปล่า” “ก็ ก็...” เมื่อถูกถามถึงสาเหตุ คุณากรก็คล้ายจะพูดไม่ออก เหมือนความจริงมันวิ่งมาจุกที่ลำคอ “ที่พูดไม่ออก เพราะคินณ์คือคนไปจุดประเด็นก่อนใช่ไหมล่ะ” “พี่คิมก็เป็นงี้ เข้าข้างคนอื่น แทนที่จะอยู่ข้างน้องชายตัวเอง” “ถูกก็พูดไปตามถูก ผิดพี่ก็ว่าไปตามนั้น ไม่ได้เข้าข้างใครสักหน่อย” “เมื่อไหร่จะครบสองปีสักทีนะ ผมอยากเป็นอิสระเต็มทน ไม่อยากตื่นมาเห็นหน้าแอ้มแล้วอะ ผู้หญิงอะไรไม่ความเป็นกุลสตรีเลยสักนิด หาความน่ารักก็ไม่เจอ เจอหน้ากันทีไรแยกเขี้ยวใส่กันตลอด ใครได้ไปเป็นเมียมีหวังซวยไปตลอดชีวิต” “แต่ตอนนี้คินณ์คือผัวแอ้มนะ” “ก็นี่ไงครับ ผมถึงบอกว่าซวย ช่วงนี้ผมเหมือนคนดวงตก ถูกราหูอมยังไงไม่รู้” คนเอาแต่ใจโอดครวญออกมา พาให้พี่ชายนั่งอมยิ้ม “ถ้าแอ้มมาได้ยินจะเสียใจเอานะ” “แล้วไง ผมต้องแคร์เหรอ ทุกวันนี้ก็อยู่กันเพราะหน้าที่และทำเพื่อทุกคนไหมล่ะ” คุณากรไม่มีทางรู้เลยว่าสิ่งที่ชายหนุ่มเอ่ยออกมานั้น ได้เข้าไปกระแทกหัวใจของผู้หญิงที่ยืนอยู่หน้าห้องเป็นที่เรียบร้อย มันอัดกระแทกเข้าอย่างแรงจนรู้สึกเจ็บ ทว่าสีหน้าของหญิงสาวกลับเรียบนิ่งไม่แสดงความรู้สึกใดออกมาให้เห็น มีเพียงแววตาเท่านั้นที่วูบไหวเล็กน้อย และกลับมาเรียบเฉยดังเดิม ก่อนเรียวปากจะแสะยิ้มออกมา ถ้าวันหนึ่งต้องเลิกรากัน แล้วอย่ามาร้องไห้กอดขาทีหลังนะไอ้ผัวดวงตก เดี๋ยวนี้คนที่ต้องมานั่งร้องไห้เสียใจไม่ใช่ผู้หญิงแล้วจ้ะ จะบอกอะไรให้นะ ว่าเดี๋ยวนี้ผู้หญิงเขาไม่มานั่งร้องไห้ฟูมฟายแล้วย่ะ เอาเวลาเสียน้ำตาไปปัดมาสคาร่าออกหาผัวใหม่ดีกว่า
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม