กุลวุฒิเองก็เริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติบางอย่างในหัวใจของเขา ยิ่งเมื่อเห็นสายตาใสซื่อและเต็มไปด้วยความชื่นชมที่เธอมองมา เขาก็ยิ่งรู้สึกว่าอยากอยู่ใกล้เธอไปแบบนี้ในทุกวัน
อยากให้เธอมองแค่เขาอย่างนี้ตลอดไป…
มือที่วางบนศีรษะเล็กเลื่อนลงมาทาบกับแก้มนุ่มและนั่นก็ทำให้เธอสะดุ้งเบาๆ เพราะความร้อนจากมือนั้นที่ส่งผ่านลงมา หญิงสาวจึงรีบคว้ามือเขาไว้แล้วใช้มืออีกข้างแตะไปที่แก้มเขา
“ตัวคุณร้อนมากเลยค่ะ เดี๋ยวหนูไปหาผ้าขนหนูมาเช็ดตัวให้นะคะ”
ปณิสราขยับตัวลุกขึ้นแล้วรีบก้าวออกไปจากห้องนั้น โดยมีสายตาของเขามองตามพร้อมกับความอบอุ่นในใจ เพราะอะไรบางอย่างในแววตาคู่นั้นมันบอกเขาว่าเธอทำทุกอย่างด้วยความห่วงใย ไม่ใช่เพียงเพราะหน้าที่ที่ต้องทำเท่านั้น
และสำหรับเขาแล้ว...เขาเองก็คงไม่ยอมให้สาวใช้คนอื่นมารับใช้ใกล้ชิดแบบนี้ ไม่ใช่แค่เพราะคนนี้สวยกว่าคนอื่น แต่มันมีบางอย่างในตัวของเธอที่ทำให้เขารู้สึกไว้ใจและปลอดภัยเมื่ออยู่ใกล้กัน
เวลาผ่านไปสิบนาที ปณิสราก็กลับมาพร้อมกับอ่างสเตนเลสและผ้าขนหนู เธอนำอ่างไปเติมน้ำอุ่นแล้วกลับมาหาเขาที่เตียง
“ขออนุญาตเช็ดตัวนะคะ” หญิงสาวยกมือไหว้เพราะคิดว่าอาจจะต้องล่วงเกินเขาไปบ้าง
“บอกแล้วไงว่าฉันไม่ใช่พระไม่ต้องไหว้บ่อยๆ” คนที่ปวดศีรษะจนแทบจะลืมตาไม่ขึ้นยังมีอารมณ์มาหยอกพยาบาลพิเศษ
“งั้นหนูเริ่มเลยนะคะ”
“ฉันต้องถอดเสื้อกับกางเกงมั้ย” คำถามนั้นเล่นเอามือน้อยชะงักไปครู่หนึ่ง
“ไม่ต้องดีกว่าเดี๋ยวคุณหนาว หนูจะเช็ดที่แขนกับคอแล้วก็ใบหน้าของคุณก็น่าจะพอค่ะ”
“ว้า...นึกว่าจะได้แก้ผ้าโชว์สาวแล้วนะเนี่ย” เขาแกล้งว่าขณะที่หลับตาอยู่
“ป่วยขนาดนี้ยังจะมาแกล้งหนูอีกนะคะ” เธอแอบมองค้อนเขา ก่อนจะเริ่มเช็ดที่ใบหน้าและลำคอของเขาอย่างช้าๆ พยายามทำทุกอย่างให้อ่อนโยนที่สุด เพราะไม่อยากให้เขาต้องป่วยหนักกว่าเดิม
หลังจากเช็ดตัวเขาไปสองรอบ เธอก็ปล่อยให้เขาได้นอนพักเพราะตอนนี้เขาหลับสนิทไปแล้ว หญิงสาวจึงได้กลับลงไปที่ห้องของตัวเองเพื่ออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าให้สบายตัวขึ้นและตั้งใจจะขึ้นมาดูเขาชั่วโมงละครั้งจนกว่าไข้ของเขาจะลดลง
ระหว่างทางที่จะเข้าห้องตัวเอง เธอก็เจอกับสายใจที่เดินผ่านมาพอดีท่านจึงได้เอ่ยทักขึ้น
“ไปไหนมาน่ะปีใหม่ เมื่อกี้ป้าไปหาที่ห้องแล้วไม่เจอ”
“อ๋อ หนูไปช่วยเช็ดตัวให้คุณกุลมาจ้ะป้า คุณเค้าตัวร้อนมากเลย”
“อ้าวเหรอ งั้นเดี๋ยวป้าขึ้นไปดูหน่อยดีกว่า”
“อย่าเพิ่งเลยจ้ะ คุณเค้าเพิ่งหลับไป ให้เค้าได้พักผ่อนก่อน นี่หนูก็จะมาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วก็จะกลับขึ้นไปเช็ดตัวให้เค้าอีกที”
“งั้นก็ดูแลคุณกุลให้ดีๆ นะปีใหม่ถ้าดูแล้วเราเอาไม่อยู่ก็รีบโทรตามหมอเลย แล้วก็โทรหาป้าด้วยป้าจะรีบมาช่วย”
“จ้ะป้า หนูจะดูแลคุณเค้าให้ดีที่สุดเลยจ้ะ ป้าไม่ต้องห่วงนะจ๊ะ”
“งั้นก็รีบไปอาบน้ำเถอะ แล้วก็ขนหมอนกับผ้าห่มไปนอนที่พื้นข้างเตียงคุณกุลเค้าเลย จะได้ไม่ต้องเดินขึ้นเดินลงบ่อยๆ”
“จะดีเหรอจ๊ะ เกิดใครมาเห็นแล้วเข้าใจหนูผิดล่ะ”
“แล้วจะมีใครขึ้นไปเห็นล่ะ ปกติพวกเด็กคนอื่นๆ ก็ไม่ได้มีหน้าที่ไปทำความสะอาดห้องคุณกุลอยู่แล้วนี่ อีกอย่างเราก็ทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ ถ้ามีใครเข้าใจผิดจริงเดี๋ยวป้าจะอธิบายให้เค้าฟังเอง ดีกว่าปล่อยให้คุณกุลเค้าป่วยหนักแล้วไม่มีใครดูแล นี่ถ้าป้ายังแข็งแรงดีก็คงจะขึ้นไปดูแลเองแล้วล่ะ ตอนนี้ก็เหลือแต่เราที่ป้าพอจะไว้ใจได้บ้าง”
“ขอบคุณป้ามากนะจ๊ะที่ไว้ใจให้หนูดูแลคุณเค้า”
“อืม ตั้งใจทำหน้าที่ของตัวเองให้ดี อย่าลืมว่าที่เรามีที่อยู่ที่กินทุกวันนี้ก็เพราะคุณกุลเค้าเมตตา เฮ้อ...นี่ถ้าคุณกุลยอมมีแฟนซะทีก็คงดีหรอก จะได้ให้แฟนเค้ามาคอยดูแลกัน ไม่รู้จะหวงความโสดไปถึงไหนสิน่า”
บ่นเจ้านายแล้วท่านก็เดินกลับไปทางเดินที่ทะลุไปเรือนเล็กด้านหลัง ปณิสราจึงได้กลับเข้าห้องของตัวเองเพื่อจะได้อาบน้ำเปลี่ยนชุดนอนอย่างที่ตั้งใจไว้
จากนั้นก็ขนหมอนกับผ้าห่มขึ้นไปนอนเฝ้าที่ข้างเตียงของกุลวุฒิตามที่ป้าสั่งไว้ซึ่งตอนนี้เจ้านายของพวกเธอยังคงหลับสนิทเหมือนก่อนหน้านี้ เธอจึงได้เอนตัวลงนอนแล้วตะแคงตัวมองไปที่เขาตลอดเวลา
และทุกครั้งที่เห็นเขาดูกระสับกระส่ายเธอก็จะรีบลุกไปเปลี่ยนน้ำอุ่นแล้วเช็ดตัวให้เขาทำซ้ำอยู่แบบนั้นตลอดทั้งคืน จนกระทั่งเห็นว่าไข้ของเขาลดลงในตอนย่ำรุ่ง ความเพลียจึงทำให้เธอนั่งหลับอยู่ข้างๆ เตียงเขาไปทั้งอย่างนั้น
และเมื่อเขาลืมตาตื่นขึ้นมาในตอนสาย สิ่งแรกที่เห็นก็คือเสี้ยวหน้าหวานที่กำลังหลับตาพริ้มนั่นก็ทำให้เขารู้ว่าเมื่อคืนนี้คนที่คอยดูแลเขาทั้งคืนเป็นใคร
มือใหญ่เอื้อมมือไปแตะที่แก้มเนียนแผ่วเบาก่อนที่รอยยิ้มอ่อนโยนจะปรากฏขึ้นตรงมุมปากหยักก่อนที่เขาจะค่อยๆ ขยับเข้าไปใกล้แล้วก้มหน้าลงจูบที่แก้มนุ่มนั้น
แต่ทว่า...จังหวะนั้นประตูห้องของเขาก็ถูกผลักเข้ามาโดยไม่มีเสียงเคาะเรียก และสิ่งที่เขาทำก็ถูกใครบางคนเห็นเข้าอย่างจัง